พึ่งไปมาวันนี้ครับ (17 พ.ค.) เป็นครั้งแรกของผม ได้เวลา 9.00 น. ไปสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยว...หลักฐานทุกอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องมีพร้อมทุกอย่าง...จดหมายเชิญจากน้า จดหมายรับรองจากบริษัท สเตทเม้นท์ แบงค์การรันตี ใบทะเบียนสมรสพ่อแม่(ที่มีนามสกุลเดิมของเเม่เพื่อยืนยันว่าน้าเป็นน้องชายแม่จริงๆ..) หรือแม้กระทั่งใบตรวจสุขภาพที่มีโรคประจำตัวของพ่อ...
เข้าไปก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ตรวจหลักฐานต่างๆ สัมภาษณ์เบื้องต้นจากทางเจ้าหน้าที่คนไทย ก่อนจะรับบัตรคิวรอสัมภาษณ์จริง ก็ดูจะไม่น่ามีปัญหาอะไร ถามเพียงว่า...ทริปนี้จะไปทำอะไร ไปกี่วัน...ก็ตอบไปว่า ไปเที่ยวแล้วก็ไปเยี่ยมน้า...9 วัน...
เสร็จแล้วก็มานั่งรอเรียกคิวประมาณชั่วโมงกว่าๆ...จึงถูกเรียกไปตั้งแถวรอ...
การสัมภาษณ์ในวันนี้ ถูกเรียกไปครั้งละ 10 คิว ผมได้คิวที่ 58 เรียกจาก 50-59 ช่องสัมภาษณ์มีสองช่อง ช่องแรกเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ฝรั่ง หน้าตาเหมือนคนเอเชีย แต่ไม่น่าจะใช่คนไทย อายุก็น่าจะประมาณ 40 ต้นๆ (ดูท่าทางเรื่องมากหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าใช่คุณป้ามหาภัยที่ได้ยินตามคำร่ำลือรึเปล่า เพราะเค้าก็ยังดูไม่เเก่ ) ...ช่องที่ 2 เป็นคนผิวสี ดูท่าทางใจดี สบายๆ ดูยังหนุ่มๆอยู่....
ผมจึงได้มีโอากาสดูคนอื่นสัมภาษณ์หลายคิว ก็ดูไม่น่ามีปัญหาอะไร ทุกคนก็ผ่านๆๆๆๆๆ..ไปได้ด้วยดี แล้วดูการสัมภาษณ์ก็ไม่เหมือนที่คิดไว้...เพราะที่คิดไว้ คือ จะต้องนั่งสัมภาษณ์ตัวต่อตัวตามลำพังอย่างกดดัน แต่นี่เค้าให้ต่อแถวยืนสัมภาษณ์ ลักษณะคล้ายกับช่องจองตั๋วรถทัวร์อย่างนั้นแหละ คนสัมภาษณ์ก็สัมภาษณ์ผ่านเคาน์เตอร์มีกระจกกั้นพูดผ่านไมค์ออกมา (ดูเหมือนไม่เป็นทางการเท่าไหร่ตามความคิดนะ...ถ้าคนเคยไปสัมภาษณ์มาจะนึกภาพออก...)
การสัมภาษณ์ดำเนินเรื่อยๆมาจนเกือบจะถึงคิวผมแล้ว เหลือผู้หญิงข้างหน้าผมอีก 2 คน แล้วที่กำลังสัมภาษณ์อยู่เคาน์เตอร์ 2 ครอบครัว...
-ครอบครัวแรก เป็นครอบครัวพ่อ แม่ แล้วก็ลูกอายุประมาณ 12-13 ปี ประมาณว่าจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก แล้วพ่อแม่จะตามไปส่งด้วย...ครอบครัวนี้สัมภาษณ์กับช่องผู้หญิงเอเชียที่น่าจะไม่ใช่คนไทยในช่องแรกที่กล่าวไปแล้วข้างต้น สัมภาษณ์นานมากกกกกกกกกก...ย้ำ นานมากกกกกกกก....นานจนอีกฝั่งผู้ชายผิวสี สัมภาษณ์ผ่านไปหลายคนแล้วก็ยังไม่เสร็จซะที...แต่ผลสุดท้ายก็น่าจะให้ผ่าน....
-ครอบครัวที่ 2 เป็นตากับยาย 2 คน มาจากขอนแก่น บอกว่าเป็นชาวนา อายุก็น่าจะราวๆ 60 กว่าๆแล้ว...แต่งตัวก็พอจะรู้ได้ว่ามาจากต่างจังหวัด...(ดูออกง่ายๆ เพราะผมก็เป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน...) แล้วมาขอวีซ่าเพื่อจะเดินทางไปหาลูก เพราะลูกได้สามีเป็นฝรั่ง...ถามอะไรแกก็ตอบไม่ได้ซักอย่าง จะไปอยู่รัฐไหน ก็บอกว่าไม่รู้ แล้วก็ย้อนกลับไปด้วยว่า ก็มีคำตอบอยู่ในเอกสารแล้วนั่นไงล่ะ....แน๊...แกแน่จิงๆ...ถามไปกี่วันก็ไม่เข้าใจ จนคนสัมภาษณ์ต้องยื่นคำตอบเชิงให้เลือกว่า จะไปกี่วัน 7 วัน 10 วัน หรือ 1 เดือน แกเลยตอบว่า 2 อาทิตย์...ผมเลยคิดในใจว่า ยังไงตายายสองคนนี้ไม่น่าจะผ่าน...ผู้สัมภาษณ์ก็ทำหน้าเซ็งๆ แต่ไม่รู้จะทำไง....ไปๆมาๆก็ให้ผ่าน...ยายงี้เดินหน้าบานออกมาจากเคาน์เตอร์เลย....อิจฉาจัง....
อ่ะ...ร่ายมาซะยืดยาว...มาถึงบทโศกของผมบ้าง....พอยายสัมภาษณ์เสร็จ ย้ายมาดูทางฝั่งผู้หญิงที่สัมภาษณ์พ่อแม่ลูกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จซะที ผู้หญิงอีกคนก็ไปสัมภาษณ์กับคนผิวสีท่าทางใจดีคนน้ันต่อ...เวลาผ่านไปสักพัก...ทางฝั่งผู้หญิงสัมภาษณ์กับครอบครัวพ่อแม่ลูกเรียบร้อย ประกอบกับทางฝั่งชายผิวสีก็สัมภาษณ์ผู้หญิงอีกคนเสร็จพอดี ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่เกิน 10 วินาที...จริงๆแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าผมจะต้องไปสัมภาษณ์กับผู้หญิงเอเชียคนนั้น...เพราะเค้าสัมภาษณ์พ่อแม่ลูกเสร็จก่อน ทางฝั่งผู้ชายผิวสีเสร็จทีหลัง แต่ก็อย่างที่บอก ทุกอย่างมันเร็วไล่เลี่ยกันมาก จนไม่รู้ว่าจะต้องไปไหนก่อนดี ผู้หญิงด้านหน้าผม จึงเลือกเดินหาผู้ชายผิวสี ผมก็เลยได้ไฟท์บังคับ ได้สัมภาษณ์กับผู้หญิงเอเชียคนนี้....
เอาล่ะครับ...ต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์ที่ผมได้รับการสัมภาษณ์มา....
หญิงเอเชีย : สวัสดีค่ะ...
ผม : สวัสดีครับ...
หญิงเอเชีย : (ดูเอกสารรับรองจากบริษัท) ก่อนหน้านี้ทำงานที่ไหนมาคะ....
ผม : ทำอยู่บริษัท XXX เอ็นจิเนียริ่งครับ
หญิงเอเชีย : เป็นวิศวะกรเหรอคะ...
ผม : อ๋อ เปล่าครับ...
*** คือ ถึงตอนนี้ผมก็เริ่มงงแล้วว่า ทำไมถึงได้ถามถึงบริษัทที่ทำก่อนหน้านี้ เพราะบริษัทปัจจุบัน ผมก็ทำมาตั้ง 4 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ได้ตอบไปตามที่ถามแล้วเหมือนกัน...ต่อมาก็ถามว่า
หญิงเอเชีย : ไปอเมริกาทำอะไรคะ...
ผม : ไปเที่ยวครับ แล้วก็ไปเยี่ยมน้าด้วย...
หญิงเอเชีย : น้าทำร้านอาหารที่โน่น เป็นเจ้าของเหรอคะ รึว่าเป็นลูกจ้าง
ผม : อ๋อ เปล่าครับ...เป็นลูกจ้างครับ...
ถามเสร็จ ก็มองดูหน้าคอม แล้วก็เขียนยิก ๆๆๆ แล้วก็บอกว่า ขอโทษค่ะ ทางเราไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ พร้อมคืนวีซ่ามา....ผมงี้ยืนเอ๋อเลย...งงมาก คือถามเราแค่ 2 คำถาม 2 คำถามจริงๆ....แล้วก็บอกว่าไม่สามารถออกวีซ่าให้เราได้ ทั้งๆที่หลักฐานหลายอย่างที่เราเตรียมไปโชว์ไม่ถามถึงอะไรเลยด้วยซ้ำ...ทั้งๆที่น่าจะถามอะไรให้มากกว่านี้หน่อย...ผมก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะครั้งแรกด้วย ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ว่าจะถามว่าทำไมก็ไม่ได้ถาม ได้แต่กระดาษที่เค้าให้ออกมาพร้อมวีซ่า ว่า คุณไม่สามารถแสดงถึงความสัมพันธ์ทางครอบครัว สังคม และ......ภายนอกสหรัฐฯ (ประมาณว่าไม่ได้แสดงว่าคุณจะไปแล้วจะกลับมาแน่นอนนั่นแหละ...) แต่ปัญหาคาใจก็คือ...คุณไม่ถามอะไรผมสักคำ ถามแค่ 2 คำนั้นจริงๆ แล้วก็บอกไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้...
ผมก็เลยลองมานั่งวิเคราะห์ดูว่า... DS-160 ที่ผมกรอกไปนั้น ผมกรอกไม่ละเอียดพอรึเปล่า เพราะเห็นว่าเค้าก็เอาข้อมูลจากที่เรากรอกนั่นแหละ มาพิจารณา อีกอย่าง 2 คำถามที่ถามผมมา...ก็ไม่น่าจะตัดสินได้นะ...ว่าจะออกวีซ่าให้รึเปล่า....
แล้วเพื่อไขข้อข้องใจ ผมว่าจะไปขอวีซ่าใหม่อีกรอบ ภายในต้นเดือนหน้านี้เลย คิดว่าพอจะเป็นไปได้มั้ย...หมายถึงจะผ่านรึเปล่า แต่ครั้งนี้ จะพยายามกรอกข้อมูลให้รัดกุม และละเอียดที่สุด เพราะหลักฐานอย่างอื่น ก็คงจะใช้ชุดเดิมนั่นแหละ...เพราะทุกอย่างผมว่ามันก็น่าจะเพียงพอแล้วมั้ง รึเปล่า....
ใครมีประสบการณ์ลองช่วยวิเคราะห์ และแนะนำผมหน่อยนะครับ....
***แล้วผู้หญิงที่อยู่ในแถวข้างหน้าผม ที่จริงๆแล้ว เค้าน่าจะได้สัมภาษณ์กับหญิงเอเชียที่ผมสัมภาษณ์นั้น เค้าไปสัมภาษณ์กับชายผิวสี เค้าก็ผ่านออกมาเหมือนอย่างคนอื่นเหมือนกัน...ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมไปสัมภาษณ์กับชายผิวสี ผมก็น่าจะผ่านนะ.... ><"
ไปสัมภาษณ์วีซ่าเมกามา...ไม่ผ่าน...ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ... !!!!
เข้าไปก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ตรวจหลักฐานต่างๆ สัมภาษณ์เบื้องต้นจากทางเจ้าหน้าที่คนไทย ก่อนจะรับบัตรคิวรอสัมภาษณ์จริง ก็ดูจะไม่น่ามีปัญหาอะไร ถามเพียงว่า...ทริปนี้จะไปทำอะไร ไปกี่วัน...ก็ตอบไปว่า ไปเที่ยวแล้วก็ไปเยี่ยมน้า...9 วัน...
เสร็จแล้วก็มานั่งรอเรียกคิวประมาณชั่วโมงกว่าๆ...จึงถูกเรียกไปตั้งแถวรอ...
การสัมภาษณ์ในวันนี้ ถูกเรียกไปครั้งละ 10 คิว ผมได้คิวที่ 58 เรียกจาก 50-59 ช่องสัมภาษณ์มีสองช่อง ช่องแรกเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ฝรั่ง หน้าตาเหมือนคนเอเชีย แต่ไม่น่าจะใช่คนไทย อายุก็น่าจะประมาณ 40 ต้นๆ (ดูท่าทางเรื่องมากหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าใช่คุณป้ามหาภัยที่ได้ยินตามคำร่ำลือรึเปล่า เพราะเค้าก็ยังดูไม่เเก่ ) ...ช่องที่ 2 เป็นคนผิวสี ดูท่าทางใจดี สบายๆ ดูยังหนุ่มๆอยู่....
ผมจึงได้มีโอากาสดูคนอื่นสัมภาษณ์หลายคิว ก็ดูไม่น่ามีปัญหาอะไร ทุกคนก็ผ่านๆๆๆๆๆ..ไปได้ด้วยดี แล้วดูการสัมภาษณ์ก็ไม่เหมือนที่คิดไว้...เพราะที่คิดไว้ คือ จะต้องนั่งสัมภาษณ์ตัวต่อตัวตามลำพังอย่างกดดัน แต่นี่เค้าให้ต่อแถวยืนสัมภาษณ์ ลักษณะคล้ายกับช่องจองตั๋วรถทัวร์อย่างนั้นแหละ คนสัมภาษณ์ก็สัมภาษณ์ผ่านเคาน์เตอร์มีกระจกกั้นพูดผ่านไมค์ออกมา (ดูเหมือนไม่เป็นทางการเท่าไหร่ตามความคิดนะ...ถ้าคนเคยไปสัมภาษณ์มาจะนึกภาพออก...)
การสัมภาษณ์ดำเนินเรื่อยๆมาจนเกือบจะถึงคิวผมแล้ว เหลือผู้หญิงข้างหน้าผมอีก 2 คน แล้วที่กำลังสัมภาษณ์อยู่เคาน์เตอร์ 2 ครอบครัว...
-ครอบครัวแรก เป็นครอบครัวพ่อ แม่ แล้วก็ลูกอายุประมาณ 12-13 ปี ประมาณว่าจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก แล้วพ่อแม่จะตามไปส่งด้วย...ครอบครัวนี้สัมภาษณ์กับช่องผู้หญิงเอเชียที่น่าจะไม่ใช่คนไทยในช่องแรกที่กล่าวไปแล้วข้างต้น สัมภาษณ์นานมากกกกกกกกกก...ย้ำ นานมากกกกกกกก....นานจนอีกฝั่งผู้ชายผิวสี สัมภาษณ์ผ่านไปหลายคนแล้วก็ยังไม่เสร็จซะที...แต่ผลสุดท้ายก็น่าจะให้ผ่าน....
-ครอบครัวที่ 2 เป็นตากับยาย 2 คน มาจากขอนแก่น บอกว่าเป็นชาวนา อายุก็น่าจะราวๆ 60 กว่าๆแล้ว...แต่งตัวก็พอจะรู้ได้ว่ามาจากต่างจังหวัด...(ดูออกง่ายๆ เพราะผมก็เป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน...) แล้วมาขอวีซ่าเพื่อจะเดินทางไปหาลูก เพราะลูกได้สามีเป็นฝรั่ง...ถามอะไรแกก็ตอบไม่ได้ซักอย่าง จะไปอยู่รัฐไหน ก็บอกว่าไม่รู้ แล้วก็ย้อนกลับไปด้วยว่า ก็มีคำตอบอยู่ในเอกสารแล้วนั่นไงล่ะ....แน๊...แกแน่จิงๆ...ถามไปกี่วันก็ไม่เข้าใจ จนคนสัมภาษณ์ต้องยื่นคำตอบเชิงให้เลือกว่า จะไปกี่วัน 7 วัน 10 วัน หรือ 1 เดือน แกเลยตอบว่า 2 อาทิตย์...ผมเลยคิดในใจว่า ยังไงตายายสองคนนี้ไม่น่าจะผ่าน...ผู้สัมภาษณ์ก็ทำหน้าเซ็งๆ แต่ไม่รู้จะทำไง....ไปๆมาๆก็ให้ผ่าน...ยายงี้เดินหน้าบานออกมาจากเคาน์เตอร์เลย....อิจฉาจัง....
อ่ะ...ร่ายมาซะยืดยาว...มาถึงบทโศกของผมบ้าง....พอยายสัมภาษณ์เสร็จ ย้ายมาดูทางฝั่งผู้หญิงที่สัมภาษณ์พ่อแม่ลูกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จซะที ผู้หญิงอีกคนก็ไปสัมภาษณ์กับคนผิวสีท่าทางใจดีคนน้ันต่อ...เวลาผ่านไปสักพัก...ทางฝั่งผู้หญิงสัมภาษณ์กับครอบครัวพ่อแม่ลูกเรียบร้อย ประกอบกับทางฝั่งชายผิวสีก็สัมภาษณ์ผู้หญิงอีกคนเสร็จพอดี ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่เกิน 10 วินาที...จริงๆแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าผมจะต้องไปสัมภาษณ์กับผู้หญิงเอเชียคนนั้น...เพราะเค้าสัมภาษณ์พ่อแม่ลูกเสร็จก่อน ทางฝั่งผู้ชายผิวสีเสร็จทีหลัง แต่ก็อย่างที่บอก ทุกอย่างมันเร็วไล่เลี่ยกันมาก จนไม่รู้ว่าจะต้องไปไหนก่อนดี ผู้หญิงด้านหน้าผม จึงเลือกเดินหาผู้ชายผิวสี ผมก็เลยได้ไฟท์บังคับ ได้สัมภาษณ์กับผู้หญิงเอเชียคนนี้....
เอาล่ะครับ...ต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์ที่ผมได้รับการสัมภาษณ์มา....
หญิงเอเชีย : สวัสดีค่ะ...
ผม : สวัสดีครับ...
หญิงเอเชีย : (ดูเอกสารรับรองจากบริษัท) ก่อนหน้านี้ทำงานที่ไหนมาคะ....
ผม : ทำอยู่บริษัท XXX เอ็นจิเนียริ่งครับ
หญิงเอเชีย : เป็นวิศวะกรเหรอคะ...
ผม : อ๋อ เปล่าครับ...
*** คือ ถึงตอนนี้ผมก็เริ่มงงแล้วว่า ทำไมถึงได้ถามถึงบริษัทที่ทำก่อนหน้านี้ เพราะบริษัทปัจจุบัน ผมก็ทำมาตั้ง 4 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ได้ตอบไปตามที่ถามแล้วเหมือนกัน...ต่อมาก็ถามว่า
หญิงเอเชีย : ไปอเมริกาทำอะไรคะ...
ผม : ไปเที่ยวครับ แล้วก็ไปเยี่ยมน้าด้วย...
หญิงเอเชีย : น้าทำร้านอาหารที่โน่น เป็นเจ้าของเหรอคะ รึว่าเป็นลูกจ้าง
ผม : อ๋อ เปล่าครับ...เป็นลูกจ้างครับ...
ถามเสร็จ ก็มองดูหน้าคอม แล้วก็เขียนยิก ๆๆๆ แล้วก็บอกว่า ขอโทษค่ะ ทางเราไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ พร้อมคืนวีซ่ามา....ผมงี้ยืนเอ๋อเลย...งงมาก คือถามเราแค่ 2 คำถาม 2 คำถามจริงๆ....แล้วก็บอกว่าไม่สามารถออกวีซ่าให้เราได้ ทั้งๆที่หลักฐานหลายอย่างที่เราเตรียมไปโชว์ไม่ถามถึงอะไรเลยด้วยซ้ำ...ทั้งๆที่น่าจะถามอะไรให้มากกว่านี้หน่อย...ผมก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะครั้งแรกด้วย ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ว่าจะถามว่าทำไมก็ไม่ได้ถาม ได้แต่กระดาษที่เค้าให้ออกมาพร้อมวีซ่า ว่า คุณไม่สามารถแสดงถึงความสัมพันธ์ทางครอบครัว สังคม และ......ภายนอกสหรัฐฯ (ประมาณว่าไม่ได้แสดงว่าคุณจะไปแล้วจะกลับมาแน่นอนนั่นแหละ...) แต่ปัญหาคาใจก็คือ...คุณไม่ถามอะไรผมสักคำ ถามแค่ 2 คำนั้นจริงๆ แล้วก็บอกไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้...
ผมก็เลยลองมานั่งวิเคราะห์ดูว่า... DS-160 ที่ผมกรอกไปนั้น ผมกรอกไม่ละเอียดพอรึเปล่า เพราะเห็นว่าเค้าก็เอาข้อมูลจากที่เรากรอกนั่นแหละ มาพิจารณา อีกอย่าง 2 คำถามที่ถามผมมา...ก็ไม่น่าจะตัดสินได้นะ...ว่าจะออกวีซ่าให้รึเปล่า....
แล้วเพื่อไขข้อข้องใจ ผมว่าจะไปขอวีซ่าใหม่อีกรอบ ภายในต้นเดือนหน้านี้เลย คิดว่าพอจะเป็นไปได้มั้ย...หมายถึงจะผ่านรึเปล่า แต่ครั้งนี้ จะพยายามกรอกข้อมูลให้รัดกุม และละเอียดที่สุด เพราะหลักฐานอย่างอื่น ก็คงจะใช้ชุดเดิมนั่นแหละ...เพราะทุกอย่างผมว่ามันก็น่าจะเพียงพอแล้วมั้ง รึเปล่า....
ใครมีประสบการณ์ลองช่วยวิเคราะห์ และแนะนำผมหน่อยนะครับ....
***แล้วผู้หญิงที่อยู่ในแถวข้างหน้าผม ที่จริงๆแล้ว เค้าน่าจะได้สัมภาษณ์กับหญิงเอเชียที่ผมสัมภาษณ์นั้น เค้าไปสัมภาษณ์กับชายผิวสี เค้าก็ผ่านออกมาเหมือนอย่างคนอื่นเหมือนกัน...ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมไปสัมภาษณ์กับชายผิวสี ผมก็น่าจะผ่านนะ.... ><"