Movie Review === The Great Gatsby === รักเธอสุดที่รัก (เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน)

เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน...

The Great Gatsby เป็นผลงานสีสันสดใสเล่าเรื่องราวความรัก จากฝีมือของผู้กำกับบาซ เลอร์มานน์ ที่ต้องเรียกได้ว่าเป็นแนวถนัดของเจ้าตัวเลยทีเดียว เพราะผลงานที่ผ่านมาของเลอร์มานน์ มีทั้ง Strictly Ballroom, Romeo + Juliet, Moulin Rouge! และ Australia ซึ่งผลงานทั้ง 4 เล่าเรื่องราวความรักเป็นส่วนประกอบหลักด้วยกันหมด แต่รายละเอียดปลีกย่อยก็จะแตกต่างกัน

โดยเนื้อเรื่องของ The Great Gatsby อ้างอิงจากนวนิยายคลาสสิคอันโด่งดังของ เอฟ. สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่เล่าถึงเรื่องราวการศรัทธาในความรักของหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่นามว่า แกตส์บี้ ที่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกวิถีทาง เพื่อให้ขึ้นมายืนเทียบชั้นกับคนที่ตนรัก ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ยอม!  ดังนั้นเรื่องราวหลักก็จะอบอวลไปด้วยความรักของตัวละครหลัก ควบคู่ไปกับการเสียดสีสังคมผ่านเครื่องแต่งกาย งานปาร์ตี้ และการใช้ชีวิตประจำวัน

ตัวละครในเรื่องนี้มีอยู่หลายตัวด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ นิค คาร์ราเวย์ ที่เปรียบเสมือนตัวละครดำเนินเรื่อง เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดที่กล่าวในหนัง มาจากการนึกถึงและบรรยายให้คนดูเห็นจากคำบอกเล่าของคาร์ราเวย์ นักแสดงที่รับบทนี้คือ โทบี้ แม็คไกวร์ อดีตไอ้แมงมุมไตรภาคก่อน นำเสนอตัวละครที่เป็นเพื่อนแท้เพียงคนเดียวของแกตส์บี้ ส่งผ่านความรู้สึกอึดอัดเล็กๆ กับการที่ต้องช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ก็เต็มใจที่จะช่วย เพราะรู้ดีว่าในชีวิตนี้ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่รับรู้ความจริงของแกตส์บี้ ในส่วนที่คนอื่นไม่เคยรู้

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ให้ความเยี่ยมยอดอีกครั้งในการแสดง โดยดิคาปริโอ นำเสนอตัวละคร เจย์ แกตส์บี้ บุรุษลึกลับที่มักจัดงานเลี้ยงหรูหราใหญ่โตที่คฤหาสถ์ริมน้ำเป็นประจำ โดยบุคคลที่มาร่วมงานทั้งหลาย ต่างก็ไม่รู้ปาร์ตี้อลังการแบบนี้จัดขึ้นด้วยจุดประสงค์อะไร ความลับในการจัดงานรู้แต่เพียงคนสนิทของเขาอย่าง นิค คาร์ราเวย์ และจอร์แดน เบเคอร์ ด้วยเหตุผลของแกตส์บี้ ที่ต้องการได้พบหน้า และพูดคุยกับคนรักของตัวเองอีกสักครั้ง

ทางด้านสาวคนรักของแกตส์บี้ รับบทโดย แคร์รีย์ มุลลิแกน สาวที่เคยเป็นคนรักของแกตส์บี้ แต่สุดท้ายก็ลงเอยกับ ทอม บูแคนัน ทำให้เดซี่ ได้นามสกุลว่า “บูแคนัน” ไม่ใช่ “แกตส์บี้” อย่างที่ต้องการ เนื่องมาจากการหายหน้าไปนานถึง 5 ปีของแกตส์บี้ที่ทำให้ความรักของเดซี่ ต้องเริ่มใหม่กับทอม ชายหนุ่มที่มีคฤหาสถ์ริมน้ำ อยู่คนละฝากฝั่งกับคฤหาสถ์ของแกตส์บี้พอดิบพอดี

ทอม บูแคนัน หนุ่มเจ้าชู้ที่แต่งงานกับเดซี่ รับบทโดย โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน ที่นอกจากจะชอบพอกับเดซี่แล้ว เขายังมีคนรักลับๆอยู่หลายคน อย่างเช่น เมอร์เทิล วิลสัน ซึ่งรับบทโดย อายล่า ฟิชเชอร์ สาวสวยที่แต่งงานอยู่กินกับ จอร์จ วิลสัน ที่รับบทโดย เจสัน คลาร์ค แต่เมอร์เทิลก็ลักลอบมีชู้กับทอม โดยที่คนอื่นไม่เคยรู้ ยกเว้น นิค คาร์ราเวย์ ที่ทอมแสดงให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร

ในขณะที่ตัวละคร จอร์แดน เบเคอร์ ที่รับบทโดย เอลิซาเบธ เดบิคคี ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเบเคอร์ และคาร์ราเวย์ เป็นสองตัวละครที่อยู่ท่ามกลางความรักอันยุ่งเหยิงของ ทอม – เดซี่ บูแคนัน และเจย์ แกตส์บี้ ในฉากหนึ่งของหนัง เราจะได้เห็นความอึดอัดของทั้งเบเคอร์และคาร์ราเวย์ ที่คงจะมีคำถามว่า  “แล้วกรูไปเกี่ยวอะไรด้วย”  ปรากฏเด่นชัดอยู่ในใจเป็นแน่

พูดถึงตัวละครพอหอมปากหอมคอ มาพูดถึงจุดเด่นของหนังเรื่องนี้กันต่อ ซึ่งจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เครื่องแต่งกายสีสันสดใสที่แต่ละตัวละครใส่เดินเฉิดฉายกันอยู่ในหนัง โดยนอกจากเครื่องแต่งกายที่มีหลายสีละลานตาแล้ว ฉากต่างๆยังครีเอทออกมาได้อลังการบานตะไท สวยสง่างามวิไล ในโลกหล้าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ฉากกองทัพดอกไม้ ที่ขนกันมาทั้งเมืองเอามาไว้ในบ้านหลังเดียว, คฤหาสถ์ริมน้ำหลังงามของแกตส์บี้ ที่สวยทั้งภายนอกและภายใน ด้วยสระว่ายน้ำ, โคมไฟ, เตียงตั่ง, บันไดวน ไปจนถึงบริวารนับร้อยที่คอยบริการเก็บกวาดเช็ดถูให้กับคฤหาสถ์แกตส์บี้หลังปาร์ตี้เลิกรา

นอกจากนี้ หนังยังออกแบบ 3 มิติได้อย่างมีระดับ จากที่เคยดูหนังเรื่องอื่นๆที่จะนำเสนอจำพวกฉากแอ๊กชั่นอลังการ แต่ในหนังเรื่องนี้ นำมาใช้เพื่อโชว์ความวิลิศมาหราของเครื่องแต่งกาย, อาคาร, ตึกระฟ้า, รถคันงาม ไปจนถึงป้ายริมถนน! เรียกได้ว่า แม้จะไม่ได้มีฉากแอ๊กชั่นมันส์พะยะค่ะ เหมือนกับหนังอื่นๆทั่วไป แต่ก็ทำออกมาได้ตรงจุด สวยงามมีระดับจริงๆ


สิ่งที่หนังนำเสนอ ไม่ใช่แค่ให้เห็นความงดงามของเครื่องแต่งกาย หรือความโอ่อ่าของคฤหาสถ์เพียงอย่างเดียว หนังยังเล่าเรื่องราวเสียดสีสังคม ระหว่างคนรวยและคนจนได้ดีทีเดียว ทำให้คนดูว่า คนบางกลุ่มในสังคมอยู่ด้วยกันแค่ปลือกนอกฉาบ เมื่อเปลือกถูกปอก ความเน่าเฟะก็จะกระฉอกออกมา ซึ่งนำไปสู่บทสรุปที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนเหล่านี้ตัดสินคนแค่ภายนอก คบกันแค่หวังผลประโยชน์ เมื่อได้ตักตวงจนพอใจ ก็หลีกลี้หนีไป ไม่แม้แต่จะหันกลับมา แม้จนวาระสุดท้ายของชีวิต


หนังเรื่องนี้สอนให้เราเห็นแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ปุถุชน คนเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพื่ออะไร เพื่อรักคนอื่น หรือเพื่อรักตัวเอง ไปดูเพื่อซึมซับเรื่องราวความเป็นมนุษย์ ซึมซับความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย รวมทั้งสีสันของเครื่องแต่งกายที่แสดงถึงความเป็นตัวตน ไปดูความสวยงามของภาพอลังการ ภาพสามมิติมีระดับ รับรองว่าไม่ผิดหวังสำหรับ The Great Gatsby…


ระดับคะแนน B-



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่