หวัดดีค่ะ เพื่อน ๆ บีพีที่รัก ... เชิญชมรีวิวด้วยคลิปยูทูปด้วยกันค่ะ
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน เปิดตำราจิ้มแผนที่ตลอดทริป 555++

คลิปนี้ เริ่มต้นด้วยการออกจากที่พักย่านจิซาจุ่ย นั่งรถไฟไปสถานีเซ็นทรัลมุ่งหน้าไป Central Mid Levels Escalators บันไดเลื่อนขึ้นเขาที่ยาวมากที่สุดระดับไหนจำไม่ได้ อิอิ เพื่อไปวัดหม่านโหมวที่มีธูปขดเป็นวง ๆ เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าหม่าน เทพเจ้าแห่งวรรณกรรม ขอพรให้เป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง และเทพเจ้าโหมว เทพเจ้าแห่งสงคราม ขอพรให้เราแข็งแรงกล้าหาญ
ฝนก็ตกบ้างหยุดบ้าง แค่คลิปแรกขาก็แทบจะหลุดแล้ว วัดนี้ถือว่าเดินโหดมาก เดินตามป้ายหาทางกลับมาที่สถานีเซ็นทรัลจนได้ ไปชมวิวบนยอดเขาวิคตอเรียกันต่อเลย ปกติคนอื่นเค้าขึ้นรถรางพีคแทรมไปนะ แต่เห็นคนมหาศาลต่อคิวแล้วต๊อแต๊ รถเมล์สาย 15 ประหยัดได้ทั้งเวลาและเงิน หวาดเสียวปานขึ้นดอยสุเทพนั่นแหล่ะ
จุดชมวิวมหาชนเดอะพีคตึกรูปร่างประหลาดทำเอาวัยรุ่นเซร็ง คนอื่นเค้าถ่ายรูปได้แสงสีศิวิไลซ์ความเจริญรุ่งเรืองของตึกสูงระฟ้าบนเกาะเล็ก ๆ ยามค่ำคืนอย่างสวย ไอ้เราเห็นแต่หมอกขาว ยอดตึกสวย ๆ โผล่มาแค่แว้บ ๆ ฮร่วย ยังดีที่บังเอิญได้เจอรุ่นพี่ แบบโลกมันกลมให้ได้เมาท์กันพอหายเหงามั่ง แถมยังไปจีบคนขายเครื่องสำอางโทนี่โมลี่บนตึกเดอะพีคอยู่นานสองนาน เพื่อขอเพิ่มโปสเตอร์รูปพรีเซนเตอร์ JYJ สุดหล่อไงล่ะ (เราเป็นแฟนคลับ ปยช. ปาร์คยูชอน อิอิ)
ลงเขาด้วยรถเมล์เหมือนเดิมดีแล้ว พีคแทรมคนแน่นเหลือเกิน คราวนี้รถไปสุดสายที่ท่าเรือสตาร์เฟอรี่ให้ได้ชมแสงสีริมอ่าววิคตอเรียยามค่ำคืน เดินเล่นจนเหนื่อยแล้วก็ขึ้นเรือข้ามฟากไปจิมซาจุ่ย ... หมดแรงแบบขาร้าวขาหร่อยโลว์แบตเตอรี่สุด ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการแบกเป้เที่ยวที่สำคัญสุด ๆ คือ เคาเตอร์เพลนบลาม !!!



วันก่อนเดินซะขาลาก มาเช้านี้อากาศยังย่ำแย่อีก ฝนตกแต่เช้าเลย ทำเอาแผนเที่ยวรวนอีกแล้ว ... แต่ก็มิได้นำพา ... ขึ้นชื่อว่าฮ่องกง เที่ยวห้างก็ได้ฟระ เดินเล่นไปเรื่อย ๆ แเดินห้างถวริมอ่าววิคตอเรียอีกแล้ว เบื่อแล้วฝนก็ไม่ยอมหยุด ไปห้างย่านไฮโซคอสเวย์เบย์มั่ง ช็อปได้เครื่องสำอางซะเพียบ เสื้อผ้าน่ะอย่าเลย เมืองไทยถูกและดีกว่าเยอะ แต่ถ้าชอบแบรนด์เนมดัง ๆ ก็โอเคอยู่
พอฝนหยุดก็นั่งรถไฟกันยาวเลย เพื่อไปไหว้พระใหญ่วัดโป่หลิน ใครไม่ได้นั่งกระเช้าสุดเสียวข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามเขามาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงฮ่องกงนะจ๊ะ เสียวดีแฮะ เสียวทั้งความใสความสูงและความไกล คิดบวกว่าช่างเค้าซ่อมบำรุงกระเช้ามาเป็นอย่างดีแล้วล่ะ
ลงรถไฟมาจะเจอซิตี้เกทเอาท์เลท ละลายทรัพย์ไปเยอะเชียวแหละเธอเอ๋ย ... เราคิดถูกแล้วที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเมืองไทยมาแล้ว ไม่งั้นเสียเวลายืนขาแข็งต่อคิวอีกเป็นชั่วโมงแน่ ๆ ได้เพื่อนร่วมกระเช้าเป็น สามีภรรยา 2 คู่ จากจีน และสวีเดน กับอีก 1 ครอบครัวพ่อแม่ลูกจากไต้หวัน
พอถึงวัดก็เดินกันพอได้เหงื่อ ตอนขึ้นบันไดนี่สิ งานหนัก ทำเป็นแวะข้างทางถ่ายรูปนะ ... ที่จริงน่ะเหนื่อยจะบ้าแล้ว ขอพักก่อนเหอะ
ใครเกิดทันสวนสนุกแฮปปี้แลนด์กับแดนเนรมิตมั่ง ยกมือขึ้นนน ... แก่แล้วนะเนี่ย 555++



เช้านี้ฝนตกอีกแล้ว เดินห้างรอฝนซาตามเดิม แล้วก็นั่งรถไฟไปนอกเมืองเพื่อตามหาความทรงจำในวันเยาว์ ปราสาทแสนสวย เทพนิยาย เจ้าหญิงเจ้าชาย แม่มด คนแคระ อีกสารพัดที่เด็กหญิงคนนึงจะใฝ่ฝันถึง ดีสนี่แลนด์ฮ่องกงเป็นดีสนี่แลนด์ที่เล็กที่สุดในโลก เดินวันเดียวก็เที่ยวได้รอบหมด เราซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเมืองไทยแล้ว สบายหน่อย ถึงฝนจะตกปรอย ๆ นิด ๆ ก็มีคนมาเที่ยวเยอะเหมือนกันนะ
ชอบโซนแอดเวนเจอร์มากที่สุด จินตนาการซะเริ่ดเลอว่าได้ไปเดินตามก้นอินเดียนน่าโจนส์ไปผจญภัยหาสมบัติในเหมืองร้าง 555++ คิดโอเวอร์ดีมั้ย ชอบรถไฟเหาะตรงนี้มากเลย คุ้มค่ากับการต่อคิวนานนมากกกก ตอนดูก็ไม่น่าจะซักเท่าไหร่นะ เห็นเค้ากรี๊ดกันซะลั่นเกาะ พอนั่งเองล่ะกรี๊ดแตกแข่งอาหมวยเลยเชียว
เดินมั่งนั่งมั่งซะรอบสวนสนุก พอได้เวลาก็มาดูมิคกี้เมาส์โชว์ที่ตั้งใจไว้ ฟังภาษาจีนไม่ออกเลยซักคำ แต่ก็สวยงามประทับใจดี จำได้แค่ทาร์ซานเป็นฝรั่งที่กล้ามเนื้อสวยหน้าหล่อออออมาก อิอิ ขอบอกว่าใครมาที่นี่แล้ว อย่ารีบกลับนะจ๊ะ เพราะว่า พระอาทิตย์ตกหลังปราสาทเทพนิยายสวยงามโรแมนติกมากกกกก แต่แว่ อนิจจา แบตกล้องหมด แบตมือถือก็ร่อแร่พอกัน ฮร่วย
พอเริ่มมืดก็ไปเจอสิ่งที่เจ็บใจที่สุดเพราะไม่คิดว่ามันจะโหดไง แต่มันดันโหดสุด ๆ คือ รถไฟเหาะของโซนอวกาศ มันทั้งมืด ทั้งหนาว ทั้งเร็ว ทั้งชัน ทั้งสูง ทั้งเสียว ทั้งเกือบจะตีลังกา โอ๊ย มันโหดสุด ๆ เพราะความมืดท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในอวกาศจริง ๆ นั่นเอง ยังมีเวลาพอเล่นได้อีกซักอย่างนะ เลือกขับรถจ้า ก็คนมันเพิ่งเคยอะนะ ขับรถพวงมาลัยซ้ายขาซ้ายเหยียบคันเร่ง แรก ๆ ก็ไม่ถนัดเลย หลัง ๆ มาสนุกดีแฮะ เกือบเหมือนจริงเลยล่ะ สนุกดี
พอได้เวลาก็มีเสียงตามสายประกาศว่าให้มาจับจองที่ดินดูพลุได้แล้ว พลุสวยมากเพราะมีฉากปราสาทเทพนิยายเป็นฉากหน้า แต่ก็ได้มาแค่นี้แหล่ะ ก่อนกลับก็เดินดูร้านรวงกับข้าวของเครื่องใช้ของสาวกดิสนี่ แพงอะ งกอะ ไม่ซื้ออะ กลับที่พักแล้วจ้ะ อิอิ
วันสุดท้ายของฮ่องกงทริปแล้ว ... ยังไม่อยากกลับบ้านเลยอะ

จัดกระเป๋าแล้วก็ไปเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าไว้ที่เกสเฮาส์แล้วนั่งรถไฟไปสถานีเซ็นทรัลขึ้นรถเมล์สาย 6 ไป Repulse Bay Beach และ Tin Hua Temple ก็ที่เดียวกันแหละ พอออกนอกเมืองรถก็พาวิ่งเลียบทะเลไปเรื่อย ๆ ผ่านหาดเล็ก ๆ ที่น่ารักแต่ไม่มีข้อมูลในไกด์บุ๊คอีก 2-3 หาด เห็นมีคนไปนอนอาบแดดด้วยแฮะ น่าสนใจมาก
รู้ว่ารถสายนี้ไป Repulse Bay Beach แน่ ๆ แต่จะลงป้ายไหนล่ะ ในตำราบอกถึงตึกมีรูให้รีบลง บอกคนขับเลยแล้วกัน ชี้รูปในหนังสือให้คนขับดู แล้วถามเค้าว่าป้ายนั้นชื่อว่าอะไร เค้าบอกชื่อป้าย Repulse Bay แหร่มเลย เพราะรถเมล์ทุกคันในฮ่องกงเป็นรถบัสขนาดใหญ่ 2 ชั้น มีป้ายไฟตัวหนังสือวิ่งที่หน้ารถทั้ง 2 ชั้น เป็นภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ มองป้ายบ่อย ๆ ลงรถไม่ผิดแน่นอน
ลงจากรถเมล์ก็ข้ามถนนลงบันไดไปที่ทะเลยังกับไม่เคยเห็นทะเล 555++ มีทัวร์มาลงที่นี่พอสมควร มีกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นคนงานต่างชาติที่มาทำงานในฮ่องกงปูเสื่อปิกนิคกันด้วย มองขวาบนยอดเขาเป็นสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ มองซ้ายเป็นวัด Tin Hua Temple นั่นแหละเป้าหมาย
ถอดรองเท้าเดินลุยน้ำเย็น ๆ ไปเรื่อย ๆ มีเด็กชายเล่นน้ำทะเลอยู่ 2-3 คน แดดอ่อน ๆ ยามสาย ลมพัดเย็นสบาย 21 องศา ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันเถอะ มีบทสวดภาษาไทยด้วยนะ ได้เดินข้ามสะพานแห่งโชคลาภสีแดง เดินออกทะเลนะข้ามไปแล้วห้ามข้ามกลับต้องเดินอ้อมเอา ได้ออกกำลังแขนด้วยการโยนเหรียญเข้าปากท่านปลา แหะๆ ก็โยนไม่แม่นนี่นา ซักพักนึงฝนตกจ้า คนขายร่มก็ปรากฏกายทันใด พูดภาษาไทยได้ด้วย แกพูดคำว่า “สิบเหรียญ ๆ” ได้ทุกภาษาเลยล่ะ
คลิปรีวิวสุดท้ายแล้ว ... บอกลาแผ่นดินฮ่องกง

Wong Tai Sin Temple วัดสวยงามอยู่ในแหล่งที่พักอาศัยตึกสูง ๆ ทั้งนั้นเลย แบบนีแหละคือย่านที่อาหารถูก เริ่มจากไหว้เทพเจ้าประจำปีเกิด ไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ เสี่ยงเซียมซีจ้ะ อธิษฐานกันคนละนานสองนานเขย่าแล้วเขย่าอีก พอได้ไม้เซียมซีแล้วก็ถือไปฟังซินแสทำนายสด ๆ จากความจำ ไม่มีกระดาษให้หยิบอ่านหรอกนะ แต่คุณตาพูดได้แต่ภาษาจีนอย่างเดียว
อุตส่าห์ขอพรตั้งนานพอปักธูปปุ๊บจะมีเจ้าหน้าที่รีบเก็บธูปที่คนมาไหว้ไปเผาปั๊บ ธูปยังหมดเลยนะ ด้านหลังวัดมีสวนน้ำตก สระน้ำ สวยงามสงบเงียบอยู่กลางเมืองด้วย
จุ๊ ๆ จะบอกฟามลับให้ เราไปขอคู่ครองกับเค้าด้วยล่ะ มีเทพเจ้าองค์นึงอยู่ตรงกลาง ข้างซ้ายเป็นหญิงสาว ข้างขวาเป็นชายหนุ่ม ทุกคนโยงเชือกสีแดงเข้าด้วยกัน คุณยายคนเฝ้าพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย บอกว่าใครจะขอคู่ครองก็ทำมือตามรูปแล้วอธิฐานขอ เทพจะเลือกคนที่เหมาะสมมาให้ เป็นผู้หญิงให้ไปผูกด้ายแดงฝั่งผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ต้องผูกด้ายแดงฝั่งผู้หญิง ดูดิ ด้ายแดงฝั่งผู้ชายอ้วนปี๋เลย แสดงว่า มีสาว ๆ ไปขอแฟนหนุ่มมากกว่าหนุ่ม ๆ ไปขอสาวสินะ
คอยดูซิ ท่านเทพจะลืมคำขอของสาวไทยใจเหว่ว้าคนนี้มั้ย !!! แล้วถ้าบังเอิญท่านเหวี่ยงมาให้ซักคนนึง จะต้องพาเค้าไปขอบคุณท่านเทพมั้ยเนี่ย ??? 555++
แวะช็อปปิ้งเดินเล่นแถวหม่งกกแป๊บนึง แม่ค้าที่นี่ร้ายกาจมาก เค้าจะตื๊อให้เราซื้อของสุด ๆ แค่เรายืนไปมองกำไลเค้าก็บอกอันละ 50 เหรียญ จ๊าก แถวจิมซาจุ่ยอันละ 20 นะนั่น เราก็ส่ายหัวเดินออกจากร้าน โดนเลย ดึงเสื้อดึงกระเป๋าบอก 20$ OK? For you 10$ อ้าวแล้วกัน งอน ไม่ซื้อ ข้อหาขายของไม่จริงใจ
กะจะไปเดินสวย ๆ ในดิวตี้ฟรีก่อนขึ้นเครื่องนะ ไปเอากระเป๋าคืนจากจิมซาจุ่ยแล้วก็ขึ้นรถเมล์ไปสนามบิน รถติดมากกกกก แล้วกว่าจะไปเจอคุณหางแดงนะ อยู่เทอร์มินอล 2 ไกลมากกกกก นั่งรถไฟตั้ง 2 รอบถึงจะไปถึงทางเข้าเกท เกทก็อยู่ซะสุดท้ายของอาคารเลย เย้ย ผจญภัยในสนามบินก่อนกลับบ้านแท้ ๆ เลยนะเนี่ย ...
คิดถึงจัง ... ฮ่องกง
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่มาชมรีวิว ... นะคะ



[CR] Walking with me in the summer @ Hong Kong
หวัดดีค่ะ เพื่อน ๆ บีพีที่รัก ... เชิญชมรีวิวด้วยคลิปยูทูปด้วยกันค่ะ
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน เปิดตำราจิ้มแผนที่ตลอดทริป 555++
คลิปนี้ เริ่มต้นด้วยการออกจากที่พักย่านจิซาจุ่ย นั่งรถไฟไปสถานีเซ็นทรัลมุ่งหน้าไป Central Mid Levels Escalators บันไดเลื่อนขึ้นเขาที่ยาวมากที่สุดระดับไหนจำไม่ได้ อิอิ เพื่อไปวัดหม่านโหมวที่มีธูปขดเป็นวง ๆ เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าหม่าน เทพเจ้าแห่งวรรณกรรม ขอพรให้เป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง และเทพเจ้าโหมว เทพเจ้าแห่งสงคราม ขอพรให้เราแข็งแรงกล้าหาญ
ฝนก็ตกบ้างหยุดบ้าง แค่คลิปแรกขาก็แทบจะหลุดแล้ว วัดนี้ถือว่าเดินโหดมาก เดินตามป้ายหาทางกลับมาที่สถานีเซ็นทรัลจนได้ ไปชมวิวบนยอดเขาวิคตอเรียกันต่อเลย ปกติคนอื่นเค้าขึ้นรถรางพีคแทรมไปนะ แต่เห็นคนมหาศาลต่อคิวแล้วต๊อแต๊ รถเมล์สาย 15 ประหยัดได้ทั้งเวลาและเงิน หวาดเสียวปานขึ้นดอยสุเทพนั่นแหล่ะ
จุดชมวิวมหาชนเดอะพีคตึกรูปร่างประหลาดทำเอาวัยรุ่นเซร็ง คนอื่นเค้าถ่ายรูปได้แสงสีศิวิไลซ์ความเจริญรุ่งเรืองของตึกสูงระฟ้าบนเกาะเล็ก ๆ ยามค่ำคืนอย่างสวย ไอ้เราเห็นแต่หมอกขาว ยอดตึกสวย ๆ โผล่มาแค่แว้บ ๆ ฮร่วย ยังดีที่บังเอิญได้เจอรุ่นพี่ แบบโลกมันกลมให้ได้เมาท์กันพอหายเหงามั่ง แถมยังไปจีบคนขายเครื่องสำอางโทนี่โมลี่บนตึกเดอะพีคอยู่นานสองนาน เพื่อขอเพิ่มโปสเตอร์รูปพรีเซนเตอร์ JYJ สุดหล่อไงล่ะ (เราเป็นแฟนคลับ ปยช. ปาร์คยูชอน อิอิ)
ลงเขาด้วยรถเมล์เหมือนเดิมดีแล้ว พีคแทรมคนแน่นเหลือเกิน คราวนี้รถไปสุดสายที่ท่าเรือสตาร์เฟอรี่ให้ได้ชมแสงสีริมอ่าววิคตอเรียยามค่ำคืน เดินเล่นจนเหนื่อยแล้วก็ขึ้นเรือข้ามฟากไปจิมซาจุ่ย ... หมดแรงแบบขาร้าวขาหร่อยโลว์แบตเตอรี่สุด ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการแบกเป้เที่ยวที่สำคัญสุด ๆ คือ เคาเตอร์เพลนบลาม !!!
วันก่อนเดินซะขาลาก มาเช้านี้อากาศยังย่ำแย่อีก ฝนตกแต่เช้าเลย ทำเอาแผนเที่ยวรวนอีกแล้ว ... แต่ก็มิได้นำพา ... ขึ้นชื่อว่าฮ่องกง เที่ยวห้างก็ได้ฟระ เดินเล่นไปเรื่อย ๆ แเดินห้างถวริมอ่าววิคตอเรียอีกแล้ว เบื่อแล้วฝนก็ไม่ยอมหยุด ไปห้างย่านไฮโซคอสเวย์เบย์มั่ง ช็อปได้เครื่องสำอางซะเพียบ เสื้อผ้าน่ะอย่าเลย เมืองไทยถูกและดีกว่าเยอะ แต่ถ้าชอบแบรนด์เนมดัง ๆ ก็โอเคอยู่
พอฝนหยุดก็นั่งรถไฟกันยาวเลย เพื่อไปไหว้พระใหญ่วัดโป่หลิน ใครไม่ได้นั่งกระเช้าสุดเสียวข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามเขามาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงฮ่องกงนะจ๊ะ เสียวดีแฮะ เสียวทั้งความใสความสูงและความไกล คิดบวกว่าช่างเค้าซ่อมบำรุงกระเช้ามาเป็นอย่างดีแล้วล่ะ
ลงรถไฟมาจะเจอซิตี้เกทเอาท์เลท ละลายทรัพย์ไปเยอะเชียวแหละเธอเอ๋ย ... เราคิดถูกแล้วที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเมืองไทยมาแล้ว ไม่งั้นเสียเวลายืนขาแข็งต่อคิวอีกเป็นชั่วโมงแน่ ๆ ได้เพื่อนร่วมกระเช้าเป็น สามีภรรยา 2 คู่ จากจีน และสวีเดน กับอีก 1 ครอบครัวพ่อแม่ลูกจากไต้หวัน
พอถึงวัดก็เดินกันพอได้เหงื่อ ตอนขึ้นบันไดนี่สิ งานหนัก ทำเป็นแวะข้างทางถ่ายรูปนะ ... ที่จริงน่ะเหนื่อยจะบ้าแล้ว ขอพักก่อนเหอะ
ใครเกิดทันสวนสนุกแฮปปี้แลนด์กับแดนเนรมิตมั่ง ยกมือขึ้นนน ... แก่แล้วนะเนี่ย 555++
เช้านี้ฝนตกอีกแล้ว เดินห้างรอฝนซาตามเดิม แล้วก็นั่งรถไฟไปนอกเมืองเพื่อตามหาความทรงจำในวันเยาว์ ปราสาทแสนสวย เทพนิยาย เจ้าหญิงเจ้าชาย แม่มด คนแคระ อีกสารพัดที่เด็กหญิงคนนึงจะใฝ่ฝันถึง ดีสนี่แลนด์ฮ่องกงเป็นดีสนี่แลนด์ที่เล็กที่สุดในโลก เดินวันเดียวก็เที่ยวได้รอบหมด เราซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเมืองไทยแล้ว สบายหน่อย ถึงฝนจะตกปรอย ๆ นิด ๆ ก็มีคนมาเที่ยวเยอะเหมือนกันนะ
ชอบโซนแอดเวนเจอร์มากที่สุด จินตนาการซะเริ่ดเลอว่าได้ไปเดินตามก้นอินเดียนน่าโจนส์ไปผจญภัยหาสมบัติในเหมืองร้าง 555++ คิดโอเวอร์ดีมั้ย ชอบรถไฟเหาะตรงนี้มากเลย คุ้มค่ากับการต่อคิวนานนมากกกก ตอนดูก็ไม่น่าจะซักเท่าไหร่นะ เห็นเค้ากรี๊ดกันซะลั่นเกาะ พอนั่งเองล่ะกรี๊ดแตกแข่งอาหมวยเลยเชียว
เดินมั่งนั่งมั่งซะรอบสวนสนุก พอได้เวลาก็มาดูมิคกี้เมาส์โชว์ที่ตั้งใจไว้ ฟังภาษาจีนไม่ออกเลยซักคำ แต่ก็สวยงามประทับใจดี จำได้แค่ทาร์ซานเป็นฝรั่งที่กล้ามเนื้อสวยหน้าหล่อออออมาก อิอิ ขอบอกว่าใครมาที่นี่แล้ว อย่ารีบกลับนะจ๊ะ เพราะว่า พระอาทิตย์ตกหลังปราสาทเทพนิยายสวยงามโรแมนติกมากกกกก แต่แว่ อนิจจา แบตกล้องหมด แบตมือถือก็ร่อแร่พอกัน ฮร่วย
พอเริ่มมืดก็ไปเจอสิ่งที่เจ็บใจที่สุดเพราะไม่คิดว่ามันจะโหดไง แต่มันดันโหดสุด ๆ คือ รถไฟเหาะของโซนอวกาศ มันทั้งมืด ทั้งหนาว ทั้งเร็ว ทั้งชัน ทั้งสูง ทั้งเสียว ทั้งเกือบจะตีลังกา โอ๊ย มันโหดสุด ๆ เพราะความมืดท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในอวกาศจริง ๆ นั่นเอง ยังมีเวลาพอเล่นได้อีกซักอย่างนะ เลือกขับรถจ้า ก็คนมันเพิ่งเคยอะนะ ขับรถพวงมาลัยซ้ายขาซ้ายเหยียบคันเร่ง แรก ๆ ก็ไม่ถนัดเลย หลัง ๆ มาสนุกดีแฮะ เกือบเหมือนจริงเลยล่ะ สนุกดี
พอได้เวลาก็มีเสียงตามสายประกาศว่าให้มาจับจองที่ดินดูพลุได้แล้ว พลุสวยมากเพราะมีฉากปราสาทเทพนิยายเป็นฉากหน้า แต่ก็ได้มาแค่นี้แหล่ะ ก่อนกลับก็เดินดูร้านรวงกับข้าวของเครื่องใช้ของสาวกดิสนี่ แพงอะ งกอะ ไม่ซื้ออะ กลับที่พักแล้วจ้ะ อิอิ
วันสุดท้ายของฮ่องกงทริปแล้ว ... ยังไม่อยากกลับบ้านเลยอะ
จัดกระเป๋าแล้วก็ไปเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าไว้ที่เกสเฮาส์แล้วนั่งรถไฟไปสถานีเซ็นทรัลขึ้นรถเมล์สาย 6 ไป Repulse Bay Beach และ Tin Hua Temple ก็ที่เดียวกันแหละ พอออกนอกเมืองรถก็พาวิ่งเลียบทะเลไปเรื่อย ๆ ผ่านหาดเล็ก ๆ ที่น่ารักแต่ไม่มีข้อมูลในไกด์บุ๊คอีก 2-3 หาด เห็นมีคนไปนอนอาบแดดด้วยแฮะ น่าสนใจมาก
รู้ว่ารถสายนี้ไป Repulse Bay Beach แน่ ๆ แต่จะลงป้ายไหนล่ะ ในตำราบอกถึงตึกมีรูให้รีบลง บอกคนขับเลยแล้วกัน ชี้รูปในหนังสือให้คนขับดู แล้วถามเค้าว่าป้ายนั้นชื่อว่าอะไร เค้าบอกชื่อป้าย Repulse Bay แหร่มเลย เพราะรถเมล์ทุกคันในฮ่องกงเป็นรถบัสขนาดใหญ่ 2 ชั้น มีป้ายไฟตัวหนังสือวิ่งที่หน้ารถทั้ง 2 ชั้น เป็นภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ มองป้ายบ่อย ๆ ลงรถไม่ผิดแน่นอน
ลงจากรถเมล์ก็ข้ามถนนลงบันไดไปที่ทะเลยังกับไม่เคยเห็นทะเล 555++ มีทัวร์มาลงที่นี่พอสมควร มีกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นคนงานต่างชาติที่มาทำงานในฮ่องกงปูเสื่อปิกนิคกันด้วย มองขวาบนยอดเขาเป็นสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ มองซ้ายเป็นวัด Tin Hua Temple นั่นแหละเป้าหมาย
ถอดรองเท้าเดินลุยน้ำเย็น ๆ ไปเรื่อย ๆ มีเด็กชายเล่นน้ำทะเลอยู่ 2-3 คน แดดอ่อน ๆ ยามสาย ลมพัดเย็นสบาย 21 องศา ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันเถอะ มีบทสวดภาษาไทยด้วยนะ ได้เดินข้ามสะพานแห่งโชคลาภสีแดง เดินออกทะเลนะข้ามไปแล้วห้ามข้ามกลับต้องเดินอ้อมเอา ได้ออกกำลังแขนด้วยการโยนเหรียญเข้าปากท่านปลา แหะๆ ก็โยนไม่แม่นนี่นา ซักพักนึงฝนตกจ้า คนขายร่มก็ปรากฏกายทันใด พูดภาษาไทยได้ด้วย แกพูดคำว่า “สิบเหรียญ ๆ” ได้ทุกภาษาเลยล่ะ
คลิปรีวิวสุดท้ายแล้ว ... บอกลาแผ่นดินฮ่องกง
Wong Tai Sin Temple วัดสวยงามอยู่ในแหล่งที่พักอาศัยตึกสูง ๆ ทั้งนั้นเลย แบบนีแหละคือย่านที่อาหารถูก เริ่มจากไหว้เทพเจ้าประจำปีเกิด ไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ เสี่ยงเซียมซีจ้ะ อธิษฐานกันคนละนานสองนานเขย่าแล้วเขย่าอีก พอได้ไม้เซียมซีแล้วก็ถือไปฟังซินแสทำนายสด ๆ จากความจำ ไม่มีกระดาษให้หยิบอ่านหรอกนะ แต่คุณตาพูดได้แต่ภาษาจีนอย่างเดียว
อุตส่าห์ขอพรตั้งนานพอปักธูปปุ๊บจะมีเจ้าหน้าที่รีบเก็บธูปที่คนมาไหว้ไปเผาปั๊บ ธูปยังหมดเลยนะ ด้านหลังวัดมีสวนน้ำตก สระน้ำ สวยงามสงบเงียบอยู่กลางเมืองด้วย
จุ๊ ๆ จะบอกฟามลับให้ เราไปขอคู่ครองกับเค้าด้วยล่ะ มีเทพเจ้าองค์นึงอยู่ตรงกลาง ข้างซ้ายเป็นหญิงสาว ข้างขวาเป็นชายหนุ่ม ทุกคนโยงเชือกสีแดงเข้าด้วยกัน คุณยายคนเฝ้าพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย บอกว่าใครจะขอคู่ครองก็ทำมือตามรูปแล้วอธิฐานขอ เทพจะเลือกคนที่เหมาะสมมาให้ เป็นผู้หญิงให้ไปผูกด้ายแดงฝั่งผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ต้องผูกด้ายแดงฝั่งผู้หญิง ดูดิ ด้ายแดงฝั่งผู้ชายอ้วนปี๋เลย แสดงว่า มีสาว ๆ ไปขอแฟนหนุ่มมากกว่าหนุ่ม ๆ ไปขอสาวสินะ
คอยดูซิ ท่านเทพจะลืมคำขอของสาวไทยใจเหว่ว้าคนนี้มั้ย !!! แล้วถ้าบังเอิญท่านเหวี่ยงมาให้ซักคนนึง จะต้องพาเค้าไปขอบคุณท่านเทพมั้ยเนี่ย ??? 555++
แวะช็อปปิ้งเดินเล่นแถวหม่งกกแป๊บนึง แม่ค้าที่นี่ร้ายกาจมาก เค้าจะตื๊อให้เราซื้อของสุด ๆ แค่เรายืนไปมองกำไลเค้าก็บอกอันละ 50 เหรียญ จ๊าก แถวจิมซาจุ่ยอันละ 20 นะนั่น เราก็ส่ายหัวเดินออกจากร้าน โดนเลย ดึงเสื้อดึงกระเป๋าบอก 20$ OK? For you 10$ อ้าวแล้วกัน งอน ไม่ซื้อ ข้อหาขายของไม่จริงใจ
กะจะไปเดินสวย ๆ ในดิวตี้ฟรีก่อนขึ้นเครื่องนะ ไปเอากระเป๋าคืนจากจิมซาจุ่ยแล้วก็ขึ้นรถเมล์ไปสนามบิน รถติดมากกกกก แล้วกว่าจะไปเจอคุณหางแดงนะ อยู่เทอร์มินอล 2 ไกลมากกกกก นั่งรถไฟตั้ง 2 รอบถึงจะไปถึงทางเข้าเกท เกทก็อยู่ซะสุดท้ายของอาคารเลย เย้ย ผจญภัยในสนามบินก่อนกลับบ้านแท้ ๆ เลยนะเนี่ย ...
คิดถึงจัง ... ฮ่องกง
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่มาชมรีวิว ... นะคะ