จาก "สี่หัวใจแห่งขุนเขา" สู่ "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" มาเป็นแพค ดังเป็นพลุ


แล้วทุกสิ่งก็เป็นไปดังที่ช่อง 3 คาด

นั่นคือหลังจากชื่นชอบ "คุณชายธราธร" กรี๊ดกับ "คุณชายปวรรุจ" ล่าสุด ตอนนี้แฟน "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ก็หันมาฟินกับ "คุณชายพุฒิภัทร"

และเชื่อเถิดว่าหลังจากนี้อีกไม่นาน "คุณชายรัชชานนท์" กับ "คุณชายรณพีร์" ก็จะตามมายึดครองพื้นที่หัวใจ

ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลให้พระเอกทั้ง 5 ที่ช่องตั้งใจปลุกปั้น โด่งดังโดยถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็น เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์, โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, บอม-ธนิน มนูญศิลป์ และ เจมส์ มาร์

เช่นเดียวกับที่ซีรีส์ "4 หัวใจแห่งขุนเขา" ที่ส่งผลให้ ณเดชน์ คูกิมิยะ, หมาก-ปริญ สุภารัตน์, บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ โด่งดัง

จุดเริ่มต้นของละครซีรีส์นั้น สมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ผู้รับผิดชอบเรื่องการผลิตละครให้ช่องบอกว่า มาจากความชอบในนิยายซีรีส์ชุด "บ้านไร่ปลายฝัน" ซึ่งบังเอิญขณะที่กำลังอ่านอยู่นั้นก็ทราบว่าผู้กำกับอย่าง ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ กับผู้จัดละคร จ๋า-ยศสินี ณ นคร ก็ชอบเหมือนกัน เลยชวนว่าลองทำกันไหม

"ทำคนละเรื่อง"

โปรเจ็กต์ "4 หัวใจแห่งขุนเขา" จึงเกิดการทำละครซีรีส์นั้น สมรักษ์บอกว่า ขั้นตอนออกจะยุ่งยากกว่าการทำละครเดี่ยว เรื่องเดียวเยอะ ด้วยซีรีส์ที่ประกอบด้วยเรื่อง 4-5 เรื่องจบนั้น แต่ละเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกัน ตัวละครตัวเดียวกัน หากทีมคนทำแตกต่าง "เพราะถ้าทำคนเดียวมันจะนาน ปีหนึ่งก็ไม่เสร็จ" ก่อนจะเริ่มต้นกำกับแต่ละทีมที่ทำจึงต้องมีการประชุมแล้วประชุมอีก เพื่อกำหนดลักษณะร่วมของตัวละคร

ซึ่งไม่ง่าย

"ต้องยอมรับว่าต่างคนก็ต่างไอเดีย คิดกันไปคนละแบบ ธัญญา โสภณ ผู้จัดที่มีส่วนร่วมทั้งซีรีส์ "4 หัวใจฯ" และ "สุภาพบุรุษฯ" บอก

หาก "ถึงแม้ขัดใจ เพราะมีเหมือนกันที่บางครั้งไม่ชอบเหมือนกัน แต่เราก็ต้องฝึกมองในมุมของคนอื่นดูบ้าง"

เธอยังบอกตามตรงว่า การร่วมทำงานในโปรเจ็กต์เดียวกันนั้น "มันเหมือนเป็นการแข่งกันไปในตัว คือเราทำงานเป็นทีมก็จริง แต่เราก็ต้องแข่งทั้งกับตัวเอง ทั้งกับเรื่องอื่นๆ เพื่อไม่ให้น้อยหน้า ก็ยิ่งสร้างความกดดัน แต่มันก็ทำให้เราพัฒนาตัวเอง"

แถม "ได้ความสามัคคีกันมากขึ้น"

แน่ละ, เพราะนอกจากจะต้องหารือกันบ่อย เพื่อให้เนื้อหาไปทางเดียวกันแล้ว ยังต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยเรื่องคิวของนักแสดงที่จะต้องแบ่งปันกันให้ได้

และเพราะเรื่องคิวนักแสดงที่ต้องถ่ายกันทีละหลายๆ เรื่องตามโปรเจ็กต์นี่ละ สมรักษ์จึงว่า ช่องจึงต้องพยายามหานักแสดงที่คิวงานน้อยที่สุด โดยถ้าเป็นไปได้ก็ต้องไม่มีการรับละครเรื่องอื่นเลย

นักแสดงหน้าใหม่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

"มันเลยดูเป็นเวทีที่เฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ไปในตัว เราสามารถเคี่ยวได้เต็มที่ เพราะเด็กใหม่พร้อมเข้าคอร์สเรียนการแสดง"

อย่างใน "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" นั้น เขาก็ส่งพวกใหม่ๆ ไปเรียนเพื่อเตรียมตัวนาน 2-3 เดือน

เวลาแสดงจะ "เข้าถึง"

"มันเลยเป็นส่วนผสม ว่าเราได้งานที่ดี แล้วก็ได้นักแสดงที่ได้คุณภาพด้วย"

นักแสดงที่มั่นใจว่าเกิดแล้ว เกิดเลย ไม่ใช่ดังเปรี้ยงเดียว แล้วหายไปนาน จะกลับมาอีกครั้งก็ต้องค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงใหม่

"คือในซีรีส์ ตอนไหนที่เขาไม่ได้เป็นตัวเด่น มันจะเป็นเหมือนการปูให้คนรู้จัก แล้วจะมาจี๊ดตอนเขาแสดงฝีมือจริงๆ ในตอนเดี่ยวๆ จะเห็นพัฒนาการ"

"หลังจากนั้นจะเอาอยู่ทุกงาน" สมรักษ์บอก

ขณะธัญญาก็ว่า "ละครซีรีส์มันเหมือนการให้เราได้ตามตัวละคร รู้จักกัน เรียนรู้ไปดวยกัน เรื่องอื่นๆ พอละครจบก็จบแล้ว ตามไม่ได้ ชอบใคร รักใครก็ต้องรอต่อไปว่าจะได้แสดงเรื่องอะไรอีก รอนานๆ ไปคนอาจไม่ชอบแล้วก็ได้ แต่ซีรีส์จบเรื่องนี้ ก็มีเรื่องใหม่รองรับ ยังมีคนที่คุณชอบอยู่ในเรื่องต่อๆ ไป มันเป็นข้อได้เปรียบ แล้วเด็กๆ พวกนี้ก็จะไปเกิดในละครเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมา"

ไม่ต่างจากความเห็นของ สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ที่ว่า "มันเป็นการสร้างความผูกพันของคนดูกับตัวละคร"

โดยเฉพาะในหมู่คนดูที่เป็นหญิง ที่พอได้เห็นตัวละครที่ชื่นชอบยาวนานติดกัน 3-4 เดือน ก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดความปลื้มเปรมต่อในระยะยาว

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าจับละครซีรีส์แล้วจะพบแต่ความสำเร็จ เพราะ "แม้จะดีกว่า แต่ก็เสี่ยงมากกว่า คือถ้าเราขึ้นต้นด้วยเรื่องไม่น่าตื่นเต้น ไม่น่าติดตาม เรื่องที่ตามมาก็จะแผ่วไปด้วย"

"แต่ถ้าเรื่องแรกดี เรื่องต่อมาก็จะยิ่งได้"

ได้ทั้งในส่วนสถานีที่มีละครออกเยอะ มีการแจ้งเกิดดาราใหม่ซึ่งเป็นที่ต้องการ ขณะที่ในส่วนดาราเองก็ได้โอกาสที่ดีขึ้นกว่าการเล่นเรื่องเดียวเดี่ยวๆ เพราะละครซีรีส์นั้นฐานคนดูจะเยอะ เนื่องจากดูแล้ว ดูต่อเนื่อง ส่งผลให้จำได้มากกว่า

"จริง" สมรักษ์เองก็เห็นด้วย

"ตัวใหม่ๆ ขายเดี่ยวๆ คนจะไม่ค่อยยอมรับ แต่ถ้าเป็นแพคเกจมันจะน่าสนใจ"

จึงไม่ต้องแปลกใจที่จบจากยังมีซีรีส์ชุด "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน รอยฝันตะวันเดือด, มาเฟียเลือดมังกร, ลูกไม้ของพ่อ" ฯลฯ รออยู่!!

หน้า 24 ,มติชนรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2556
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่