KK ปอปชวนเม่าทุบ

กระทู้สนทนา
หลังจากทุบต่อเนื่องมาหลายวัน เช้าวันนี้ปอปชวนเม่าร่วมทุบ ตกบ่ายรูดหนัก ผบห เห็นท่าไม่ดี รีบตาลีตาเหลือกออกมายิงข่าวยิบเลย
ผลจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามต่อพรุ่งนี้



บล.ฟินันเซียไซรัส : แนะนำหุ้นทางเทคนิค KK ให้ยืมหุ้น short    
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   9:14:13

KK : ยืมหุ้น short    
ราคาปิด : 66.50    
แนวรับ : 65 , 64-63    
แนวต้าน : 67-68

    หลังจากถูกแรงขายกดดันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วราคายังไม่สามารถดีดกลับขึ้นไปยืน
เหนือแนวต้านได้ ทำให้ยังมีความเสี่ยงต่อการที่จะไหลลงหาแนวรับต่างๆ ได้ใหม่ ดังนั้นแนะนำ
ยืมหุ้น short เพื่อรอรับต่ำ นอกจากขยับผ่านขึ้นไปสูงกว่าแนวต้านได้ถึงจะต้องซื้อคืนเพื่อตัดขาด
ทุน



- - กลุ่มเกียรตินาคินภัทร เตรียมรีแบรนด์ใหม่ในไตรมาส 3 หลังปรับโครงสร้างยุทธศาสตร์
ตลาดเงิน-ตลาดทุนขับเคลื่อนธุรกิจ

โปรดติดตาม...                
                

รายงาน   โดย ดลนภา บัญชรหัตถกิจ
เรียบเรียง โดย ชัชชญา  อังคุลี
อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   15:05:59


- - ธนาคารเกียรตินาคิน ตั้งเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้โต 30% ชูกลยุทธดึงลูกค้าในตลาดทุน
ส่วนสินเชื่อรวมคงเป้าโต 19%



โปรดติดตาม...                
                


รายงาน   โดย ดลนภา บัญชรหัตถกิจ
เรียบเรียง โดย ชัชชญา  อังคุลี
อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   15:21:48



ธนาคารเกียรตินาคิน ตั้งเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้โต 30% ชูกลยุทธดึงลูกค้าในตลาดทุน ส่วน
สินเชื่อรวมคงเป้าโต 19%

    นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิด
เผยว่า ในปีนี้ธนาคารจะเน้นการดำเนินงานธุรกิจสินเชื่อบรรษัท หรือสินเชื่อขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้า
เติบโต 30% ซึ่งในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาสินเชื่อดังกล่าวขยายตัวแล้ว 9-10% อย่างไรก็ดีธนาคาร
ได้ใช้เครือข่ายของกลุ่มลูกค้าธุรกิจตลาดทุนที่มักเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อนำมาต่อยอดด้าน
บริการสินเชื่อขนาดใหญ่ของธนาคาร โดยแบ่งเป็นการดูแลและให้คำแนะนำผ่านเครือข่ายวาณิช
ธนกิจของธุรกิจตลาดทุน ส่งต่อมายังพนักงานธนาคารในการเป็นผู้ให้สินเชื่อ
    'ธุรกิจสินเชื่อบรรษัทเราจะเน้นมากขึ้น โดยใช้เครือข่ายธุรกิจตลาดทุนมาต่อยอดเป็น
สินเชื่อขนาดใหญ่ของแบงก์ ซึ่งเราเซ็ทให้แผนกสินเชื่อบรรษัทมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ใช้เครือ
ข่ายวาณิชธนกิจที่เป็นผู้ให้คำแนะนำส่งต่อมา' นายอภินันท์ กล่าว
    ขณะที่เป้าหมายสินเชื่อของปีนี้ยังคงเป้าไว้ที่การเติบโต 19% ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่โต
30% โดยเป็นผลมาจากการชะลอตัวของสินเชื่อเช่าซื้อที่พบว่า ในปีก่อนได้รับแรงกระตุ้นจาก
โครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลทำให้สินเชื่อเติบโตสูงกว่าปกติ                
                


รายงาน   โดย ดลนภา บัญชรหัตถกิจ
เรียบเรียง โดย ชัชชญา  อังคุลี
อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   15:39:43


กลุ่มเกียรตินาคินภัทร เตรียมรีแบรนด์ใหม่ในไตรมาส 3 หลังปรับโครงสร้างยุทธศาสตร์
ตลาดเงิน-ตลาดทุนขับเคลื่อนธุรกิจ

    นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน
ภัทร เปิดเผยว่า บริษัทฯจะมีการรีแบรนดิ้งกลุ่มธุรกิจเกียรตินาคินภัทรใหม่ภายในไตรมาส
3/2556 เพื่อรวมธุรกิจทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุนให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ภายหลัง
จากที่ได้ปรับโครงสร้างยุทธศาสตร์ทางธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าจะยังคงแยกการดำเนิน
งานของธุรกิจตลาดเงินและตลาดทุนออกจากกันอย่างชัดเจน แต่อยู่ภายใต้การดูแลของกรรมการ
ผู้จัดการใหญ่ที่จะควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับจากคณะกรรมการ อย่างไรก็ดีในส่วนขอ
งบล.ภัทร และบล.เกียรตินาคิน จะไม่ยุบรวมกัน แต่อยู่ระหว่างการศึกษาการใช้แบรนด์ที่เชื่อมโยง
ทั้ง 2 บล.ให้เกี่ยวเนื่องกัน
    'เราจะมีการรีแบรนด์ในเร็วๆนี้ ทั้งธุรกิจตลาดทุนและธนาคารให้เป็นแบรนด์เดียว ซึ่ง
จะทำให้กลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทรมีศักยภาพการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมี
โอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วย' นายอภินันท์ กล่าว                
                


รายงาน   โดย ดลนภา บัญชรหัตถกิจ
เรียบเรียง โดย ชัชชญา  อังคุลี
อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   15:39:29


กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับโครงสร้างผนึกยุทธศาสตร์ 'ตลาดเงิน-ตลาดทุน'
หวังขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต  

               นายสุพล วัธนเวคิน  ประธานกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KK
เปิดเผยว่ากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เกิดจากการร่วมกิจการระหว่างธนาคารเกียรตินา
คินและบริษัททุนภัทร โดยเล็งเห็นถึงกระแสโลกาภิวัตน์ การเชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศ
ต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระแสเงินทุน มีการเคลื่อนย้ายอย่างเสรี การที่ประเทศไทยเป็นระบบ
เศรษฐกิจแบบเปิด สถาบันการเงินจึงจะต้องสามารถทำธุรกิจ และให้บริการที่ครอบคลุมทั้งตลาด
เงินและตลาดทุน การร่วมกิจการครั้งนี้ จึงทำให้กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มีศักยภาพ
การทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
             ทั้งนี้ตั้งแต่การร่วมกิจการที่สำเร็จลง เราได้มีการทบทวนอย่างจริงจังเกี่ยวกับ ทิศทาง
นโยบาย กลยุทธ์ทางธุรกิจ ตลอดจนมีการปรับปรุงรูปแบบการทำธุรกิจ โครงสร้างการจัดการ และ
ได้มีการวางตัวผู้บริหารหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้การนำโดยนายบรรยง พงษ์พานิช ประธาน
เจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจการเงินฯ จากนี้ไป มีการพัฒนาเติบโต
อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายที่จะเป็นสถาบันการเงินที่ชำนาญการเฉพาะด้าน
(Specialized Commercial and Investment Bank) ที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินและให้
บริการที่มีคุณภาพสูง โดยพนักงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าประสบความสำเร็จที่
ยั่งยืนในการทำธุรกิจและการลงทุนต่อไป
              ด้านนายบรรยง พงษ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การปรับโครงสร้างการ
บริหารจัดการนี้เป็นการจัดโครงสร้างในลักษณะการรวมศูนย์ เพื่อให้ใช้ศักยภาพของกลุ่ม ทั้ง
บุคคลากร ฐานเงินทุน และใบอนุญาตการประกอบธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยในเรื่อง
ทิศทางการดำเนินงานในภาพรวมและการจัดสรรทรัพยากรของทั้ง 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจ
ธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจตลาดทุน จะอยู่ภายใต้การดูแลของกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร
ที่จะควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับจากคณะกรรมการของธนาคาร แต่ในส่วนของการ
จัดการที่เป็นปกติธุรกิจ จะดำเนินการแยก
             โดยฝ่ายจัดการของทั้ง 2 ธุรกิจ และสืบเนื่องจากที่นายอภินันท์ เกลียวปฎินนท์ ย้ายมา
ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพานิชย์ และรักษาการกรรมการผู้
จัดการ บลจ. เกียรตินาคิน มาระยะหนึ่งแล้วนั้น เพื่อให้การร่วมมือกันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น
และมีประสิทธิภาพ จึงมีการแต่งตั้งนายกฤติยา วีรบุรุษ ดำรงตำแหน่งประธานธุรกิจตลาดทุน และ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนภัทร และ บล.ภัทร และแต่งตั้งนายยุทธพล ลาภละมูล ดำรง
ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บลจ. เกียรตินาคิน ซึ่งทั้งนายกฤติยา และนายยุทธพล เป็นผู้มีความรู้
ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในตลาดทุนเป็นเวลายาวนาน และยังได้มีผลงานการบริหารที่
โดดเด่นในขณะที่เป็นฝ่ายจัดการของธุรกิจตลาดทุนของกลุ่มธุรกิจการเงินฯ
           นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์  กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์
เปิดเผยว่า “การร่วมกิจการที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก ธุรกิจที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธุรกิจ
การเงินฯ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อธุรกิจ และธุรกิจบริหารหนี้ มีการเติบโตและมีผลงาน
เป็นไปตามเป้าหมาย จากนี้ไปจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบรรษัทหรือสิน
เชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจซื้อขายลงทุนตราสารหนี้และอนุพันธ์ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ใหม่ให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมต่อผู้ถือหุ้น
           ในขณะที่ธุรกิจตลาดทุนมีผลประกอบการที่โดดเด่นมากตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งส่งผลมาจาก
สภาวะตลาดหุ้นที่เอื้ออำนวย  ความสามารถของทีมงาน และการขยายขนาดของการลงทุนจาก
การสนับสนุนด้านเงินทุนของธนาคารภายหลังการควบรวม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้การกระจายตัว
ของรายได้และกำไรของกลุ่มธุรกิจการเงินฯ มีความสมดุลมากขึ้น โดยไม่พึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจ
หนึ่งจนเกินไป และยังเสริมศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี
            นายกฤติยา วีรบุรุษ ประธานธุรกิจตลาดทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่าต่อจากนี้ผมจะรับผิดชอบในการสานต่อเพื่อนำความเชี่ยวชาญของทุกฝ่ายใน
กลุ่มธุรกิจการเงินฯ ให้เกิดการพัฒนาร่วมกันทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และช่องทางการ
ขาย เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยยังคงมุ่งเน้นไปใน 3 ธุรกิจหลัก
ส่วนแรกได้แก่ การให้บริการกับลูกค้าบุคคล อาทิ บริการวางแผนการเงินที่ปรึกษาการลงทุน
บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปัจจุบันในกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ดูแลสินทรัพย์การลงทุนของ
ลูกค้าอยู่เกือบ 300,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดของการซื้อขายหลักทรัพย์ของกลุ่มอยู่ที่
กว่า 5% ส่วนที่สองคือ การบริหารจัดการการลงทุน หรือ Asset Management ที่ได้มีการจัดตั้ง
หน่วยงานด้านกองทุนส่วนบุคคล หรือ Private Fund ขึ้นเมื่อปีที่แล้ว  ปัจจุบันผ่านมา 8 เดือน
บริษัท ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลทรัพย์สินที่เป็นตราสารทุนเกือบทั้งหมดกว่า 5,000 ล้านบาท
และผลตอบแทนของกองทุนที่ผ่านมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก รวมถึงการที่มี บลจ.เกียรตินาคิน ที่มี
มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ ธุรกิจด้าน Asset
Management สามารถให้บริการได้ครอบคลุมและแข็งแกร่งมากขึ้น และส่วนสุดท้ายคือธุรกิจ
Investment Banking ที่ให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สถาบัน และธุรกิจวานิชธนกิจและ
การลงทุน ซึ่งจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับสายสินเชื่อบรรษัทของธนาคารเกียรตินาคินและ
สามารถใช้ประโยชน์จากฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการสนับสนุนของธนาคารที่เป็น
บริษัทแม่
               ด้านนายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. เกียรตินาคิน   กล่าวว่า  “บลจ.เกีย
รตินาคิน ตั้งเป้าที่จะนำเสนอกองทุนที่มีคุณภาพ ที่การตัดสินใจลงทุนอิงข้อมูลปัจจัยพื้นฐานทั้ง
ด้านมหภาคและจุลภาค มีการทำการวิเคราะห์ภาคสนามอย่างใกล้ชิดโดยทีมฝ่ายวิเคราะห์การลง
ทุนของเราเอง ภายใต้การควบคุมทั้งด้านการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยเป้าหมายที่
สำคัญที่สุด ไม่ใช่ส่วนแบ่งการตลาด  หรือการได้เป็นบริษัทจัดการที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร
ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ  แต่จะทุ่มเทความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการลงทุนให้บรรลุวัตถุ
ประสงค์ความต้องการของลูกค้า และสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้อย่างเหมาะสม และเร็วๆ นี้
บลจ. เกียรตินาคิน จะเปลี่ยนชื่อเป็น บลจ.ภัทร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการจัดโครงสร้าง
ธุรกิจที่จะใช้ภัทรเป็นแกนนำในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนต่อไปในในอนาคต”
                
                


เรียบเรียง โดย อาภรณ์ สุภาพ
อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

  
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   16/05/13   เวลา   15:49:30
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่