ไปชม J-league คู่ฉลอง20ปี urawa vs kashima พร้อมวิธีเที่ยวแบบ step-by-step 3วันใช้เงินไม่ถึง23000 บาท

กระทู้สนทนา

ผมเป็นคนชอบฟุตบอลและประเทศญี่ปุ่นเอามากๆและนัดฉลอง20ปี j-league นี่เป็นอะไรที่อลังการณ์มากสำหรับผม ผมจึงได้ตัดสินใจแบบไม่รีรอ
อันดับแรกเลยขอวีซ่าก่อน ขอยังไง ดูในนี้เอาครับ >>>  http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/

ตั้งแต่มี JVAC ก็เป็นอะไรที่สะดวกสำหรับผมมากครับ เมื่อก่อนต้องนั่งรถจากอุบลราชธานีไปกทม.กันเลยทีเดียว ทุกวันนี้ส่งหลักฐานทางไปรษณีย์ไม่ต้องต่อคิวยาวๆเหมือนที่กทม.ด้วย

พอวีซ่าผ่านก็หาตั๋วจาก cheaptickets เลยครับ  ได้ตั๋วราคา 11,500 มาครับ เป็นของAIR MACAU และขากลับเป็นของ AIR CHINA ทว่าขาไปนี่ต้องนอนสนามบิน 1 คืน ครับ สำหรับคนที่ไม่เคยอาจจะยากนิส แต่ผมนอนมาหมดทั้งป่าทั้งบขส. สนามบินที่มีแอร์ เก้าอี้เบาะ และฟรีไวไฟก็เป็นเหมือนสวงสวรรค์สำหรับผมแล้วหละครับ

****************************
การเตรียมตัว
****************************
1.เสื้อผ้า ให้เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วยเลยนะครับ เพราะฝนตกแทบจะทุกวันที่ญี่ปุ่น ไม่น้อยก็มาก
   ส่วนกางเกงผมใช้กางเกงที่เค้าใช้เล่นสกีกันนะครับ มันกันน้ำและทำความสะอาดง่ายด้วยเวลาเปื้อน
2. ยา ยาใครยามันผมก็เน้นพารา ยาแก้ท้องเสีย
3. เท้า การเดินนี่เป็นอะไรที่แทบจะ24ชม.ครับ นอกจากเตรียมร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ผมยังใช้รองเท้าวิ่งของไนกี้ครับ เดินได้ทั้งวันทั้งคืน
4. ใจ เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับการแบคแพคเกอร์ ทำใจให้นิ่งๆเวลาเจอเหตุการณ์
    4.1 วางแผนให้รอบคอบ วันนี้ไปไหน กลับเวลาเท่าไหร่
    4.2 ตัวใครตัวมัน 555

               เริ่มต้นวันแรกกันเลย วันศุกร์ที่ 10 พ.ค. ผมเลิกงานตอน16.30 และซิ่งกลับบ้านเอากระเป๋าโดยไว เพื่อให้ทันขึ้นเครื่องนกแอร์ รอบ 17.30 ออกจากอุบลราชธานีถึงกรุงเทพก็เกือบๆทุ่มนึง เดินออกมาขึ้นรถเวียน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เพื่อไปให้ทันเครื่องมาเก๊ารอบสามทุ่มกว่า

พอมาถึงเดินมาดูป้ายบอกเค้าเตอร์เช็คอิน เห็นแล้ว air macau เค้าเตอร์ N 21.50 แต่ยังไม่เปิดให้เช็คอิน ทำไมหว่าเลยเดินไปส่องดู

ปรากฏว่าเครื่องเกิดดีเลย์ จาก21.50 เป็น 23.55 โปรดสังเกตุหน้าลูกพี่คนด้านขวามือบ่งบารถึงอาการดีใจที่จะได้อยู่ประเทศไทยนานอีกนิด

ด้วยความเซ็งเลยเดินลงมาอะไรกินด้านล่าง ชั้นล่างเกือบสุดมีศูนย์อาหารครับ ราคาไม่แพงมากถ้าเทียบกับร้านอื่นๆที่เหลือ(แหงหละ)

เปิดด้วยข้าวไก่ย่างครับ รสชาติไม่เลว +กับน้ำเก็กฮวยตราเสือดาวแบบเย็นเจี๊ยบบบบบ เป็นอะไรที่ฟินาเล่มาก

เครื่องติดแล้ว น้ำเก๊กฮวยเย็นๆนี่เป็นอะไรที่สุดเท้าจริงๆ เลยขออีก2 แต่บะหมี่นี่รสชาติไำม่ผ่านอย่างแรง กินได้แต่หมูกรอบ

ขนมขบเคี้ยวซื้อที่นี่ครับ ใกล้ๆศูนย์อาหาร ถูกกว่าพวกร้านข้างในบาทสองบาทถึงห้าบาท

ออกเดินเรื่อยเปื่อยจนหลุดมาด้านนอก...

อีกนานกว่าจะห้าทุ่ม...

โว้ว พวกเล่นเอาปาเจโร่มาทำแท็กซี่เลยเรอะ

มิว7 อีก ป๊าดโท่

ปรากฏว่าพอสี่ทุ่มครึ่งผมเดินไปที่เค้าเตอร์พบว่าจาก 23.30 เปลี่ยนเป็น 00.30 เวรกรรม.. ช่างมันขอแค่เที่ยวจากมาเก๊าไปนาริตะอย่าเลทเป็นพอ

โอเคคราวนี้ เลทจาก 21.50 เป็น 23.30 และ 00.30 ไม่มีเปลี่ยนอีก ตัวเครื่องมาตรฐาน ผมคนตัวอ้วนใหญ่นั่งได้สบาย เคยเคี้ยว air x จากมาเล มันสาหัสกว่านี้มากนัก

คนไม่ค่อยมีครับ ผมสไต๊ส์เลยทั้งแถว

อาหารมาแล้วเป็นเส้นใหญ่ผัดกุ้ง ปลา รสชาติถูกปากผมมาก อยากขออีกก็เกรงใจ -*-

ปกติแล้วตามเวลาเดิมต้องมาถึงมาเก๊า ตี1 แต่นี่ผมมาถึงตี4ตามเวลาท้องถิ่น เลยไม่ได้เลี้ยวขวาผ่านตม.เข้าประเทศครับ ผมเลี้ยวซ้ายเข้าช่องทรานซิสเลย

ความเจ๋งของที่นี่คือไวไฟฟรี ชราตฟรี เป็นอะไรที่สุโก้ยมาก

มีน้ำร้อนน้ำเย็นให้ ใครเอามาม่ามานี่ต้มเจี๊ยะกันได้เลย

ภาษาเกาหลีป่าว ในห้องน้ำ... ใครแปลออกบอกด้วยละกันครับ แหม่...

ถือโอกาศนอนไปซักพักครับ ตี5กว่าแล้ว ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกครับ เดี๋ยวซักหน่อยคุณก็จะตื่นด้วยเสียงประกาศเอง โอเค เห็นแล้ว รอบไปนาริตะ09.30 ไม่ดีเลค่อยยังชั่ว

คนโครตน้อยครับ จากมาเก๊าไปนาริตะ ผมสไต๊ส์ทั้งแถวอีกแล้ว มันจะไปรอดเหรอว๊าสายการบินนี้...

อากาศสดใสครับด้านนอก

อาหารมาอีกแล้ว คราวนี้เป้นข้าวสเต็กหมู หมูอร่อยดี แต่ข้าวงี้แข็งโป๊กเลยครับ แต่ด้วยความหิวก็เลยใช้เวลาไม่ถึง3นาทีบะหมี่ยังไม่สุกพับกล่องส่งคืนให้พี่แอร์เรียบร้อย

โดยรวมแล้วโครตคุ้มครับ ราคาหมื่นเศษ บริการแบบเต็มที่ เทียบกับต้องไปต่อหมอชิต LCCT ที่มาเลมันต่างกันราวฟ้าและเหว

เมื่อมาถึงนาริตะแล้วให้ท่านมองหาป้ายนี้ไว้ครับ ป้ายตม.หนะแหละ

นั่งรถไฟเวียนเพื่อไปterminal2ครับ ไฮ๊ ไฮ เทคฯ

ผ่านด่านอรหันตม.ออกมาได้แบบชิลๆ แต่ที่ฮาคือด่านศุลกากรครับ ท่านคงจะนึกภาพคนพูดภาษาเดียวกันแต่เปนคนละภาษา ภาษาEแบบไทยVSภาษาEแบบญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นอะไรที่ฮามาก คุยไปคุยมาชักไม่รู้เรื่อง ลูกพี่เค้าขอดูนั่นขอดูนี่ถามมากความผมเลยบอกไปว่า i'm URAWA RED DIAMOND THAI FANCLUB!!! เท่านั้นพี่แกขำก๊ากเลยครับและปล่อยผมไปอย่างไว 555

พอหลุดออกมาจากด่านอรหันได้ทั้งหมดแล้วสิ่งที่ต้องทำคือขึ้นรถไฟครับ

มี 2 เจ้าให้บริการคือ เคเซ และ JR (void)

วิธีขึ้นรถไฟให้เปิดดูเว็บ grace.hyperdia.com ครับ ซึ่งคุณติวเตอร์ตู่ไอ้อธิบายวิธีใช้อย่างละเอียดไว้ที่กระทู้นี้แล้ว
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11236146/E11236146.html

อย่างที่ผมต้องการไปที่สนามไซตามะผมก็พิมต้นทางว่า narita airport ปลายทาง urawa misono ผลที่ได้ก็ออกมาแบบนี้

แค่เราขึ้นให้ถูกสายตามที่ได้วางแผนเอาไว้ แค่นี้ก็ไม่ถึงแล้วไม่มีหลง ตามที่เว็บแสดงมาผมก็ต้องไปขึ้นของ keisei ส่วนวิธีซื้อตั๋วสำหรับคนขี้เกียดแบบผมมีทริกเล็กๆแนะนำคือเดินไปตู้ขายตั๋วแล้วเลือกราคาถูกที่สุดมา 1 ใบ (140 เยน)

จะได้ตั๋วไว้เสียบเข้าเครื่อง พอเสียบแล้วมันจะไปเด้งที่ท้ายตู้ให้เดินไปหยิบเพื่อเอาไว้เสียบขาออกนะครับ **สังเกตุว่ามือผมถือกระดาษแผนวางไว้ ในแต่ละวันผมวางแผนเลยว่าเวลาเท่าไหร่ไปไหนยังไง จะได้ไม่เสียเวลาครับ

เดินลงมาที่ชานชาลา เห็นมั้ยครับ ไอ้เที่ยวต่อไป เวลา15.26 เขียนว่า acccess exp ตรงกับตามที่หามาจากเว็บเป๊ะ ไอ้skylinerด้านบนนั่นไม่ใช่นะครับ ขึ้นให้ถูกขบวนก็พอแล้ว ง่ายมั้ยหละเอ้อออ......

รถมาแล้ว

เข้ามาด้านในตรงทางเข้ารถจะมีป้ายบอกสถานีที่เราจะไปตลอดครับ ถ้ากลัวว่าขึ้นผิดสายก็ให้ดูนี่ไปเรื่อยๆครับเหมือนbtsบ้านเราแหละ ที่เห็นเป็นภาษาญี่ปุ่นนั่นไม่ต้องกังวลนะครับ ซักพักเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ

พอมาถึงสถานี HIGASHI-MUTSUDO ก็เปลี่ยนรถเป็น JR musashino line ตรงตามแผนอีกแล้ว เป๊ะเว่อร์์์!!

ก่อนที่จะออกจากสถานีได้ให้ท่านนำตั๋วที่ซื้อมาแบบขี้เกียด 140 เยนมาก่อน เพราะเดินทางตั้งใกลมันเกิน140เยน เอาตั๋วเก่าใส่ไอ้เครื่องนี้ซึ่งจะมีทุกทางออกทุกสถานี ใส่เข้าไปปั๊บมันจะบอกว่าจะต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ จากนั้นก็ใช้หนี้เค้าไปแล้วจะได้ตั๋วใหม่มาแล้วก็เอาตั๋วใหม่นั้นเดินลั๊ลลาออกไปได้เลย