[CR] ทริปกระบี่ กับภูพระนาง รีสอร์ท

กระทู้รีวิว
ไปเจอเคาน์เตอ์ตั้งขายแพคเก็จที่ แฟชั่น ไอส์แลนด์  เห้นว่าราคาโอเค รวมทัวร์+รับส่งสนามบิน ตามภาพก็เป็นที่ดึงดูดใจพอสมควร ก็เลยตัดสินใจซื้อพระอาทิตย์ ประสบการณ์ที่แย่ๆกับการโดนหลอกที่ภูพระนางรีสอร์ท เพิ่งกลับมาวันที่ 8 พ.ค. 56 นี่เอง จองเพ็คเกจ 3วัน2คืน ทั้งหมด 4ผู้ใหญ่ 3เด็ก ผู้ใหญ่คนละ 2590 เด็กคนละ 1000 รวมอาหารและทัวร์  7 เกาะ และอาหารเย็นหนึ่งมื้อ (แบบบ้านๆ) คนเล็กไม่คิด แล้วยังบอกอีกว่าวันแรกให้เป็นห้องติดกัน 1 คู่ กับ อีก1 ห้องเดี่ยว และจะเสริมเตียงให้ คืนที่สองจะย้ายไปเป็นห้องวิลล่า ซึ่งจะมีห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว เราก็รู้สึกดี (โทรไปถามทีนึงแล้วว่าไม่เขียนว่าเสริมเตียงฟรี จะมีปัญหามั้ย เซลชื่อเส บอกว่าไม่มีปัญหาหรอก เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเสริมฟรี อืมโอเคร)  
วันที่ 1 เมื่อเหยียบแผ่นดินกระบี่ เจอคนรถมารับโดยคณะเราให้รถตู้มารับ และอีกคันก็ผสมกันไป 2-3 คนต่อคณะ เพราะครอบครัวใหญ่จึงได้รถตู้ ถึงโรงแรมเข้าเช้คอินไม่คิดว่าเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท อะไร เพราะเหมือนหอพักนักศึกษา ด้านหน้าตึกสองชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ มีพนักงานอยู่ 3-4 คน (ชายหนึ่งคนชื่อ ใหญ่ พูดจาห้วนมาก) แล้วถามรเรื่องเตียงเสริม เค้าบอกว่าไม่มีเตียงเสริมเพราะไม่ได้จ่าย เอ้างานงอกละ โทรถามเซลชื่อเส พี่เค้าไม่เสริมเตียงให้ พนง บอกว่าไม่ได้จ่ายส่วนนี้มา คุณเสบอก อ๋อ ไม่เสริมอยู่แล้วครับ เพราะฟรี แต่ตอนซื้อแม่มบอกเสริมให้ฟรีเลยไม่ต้องห่วง แถมโทรไปย้ำตอนหลังก็ยังบอกว่าเสริม ไม่ต้องเขียนเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว หนึงละที่ทำให้อืมโดนละ  เสร้จก้เข้าห้องพัก กระเป๋ายกเอง ไม่มีคนช่วย ทั้งเด็ก ทั้งคนแก่ ต้องช่วยเหลือตัวเองกันไปสองละ ขึ้นชั้นสอง เบอห้อง 215 / 216 ห้องก็โอเครสำหรับเราละ คิดว่าอืมอยู่ได้ละไม่ต้องย้ายก็ได้ และก็สะดวกดี ใกล้ถนน เผื่อเข้าออกสบาย มองลงมาเห็นสระว่ายน้ำ ทีแรกนึกว่าสระเด็กเพราะเล็ก เด็กๆจะเล่นน้ำกันละ สักพักก้มาเล่นน้ำกัน วันแรกไม่มีโปรแกรมอะไร รอไปกินอาหารเย็นโน่นเลย ลงเล่นน้ำ น้ำเหม็นคอลลีนสุดๆ ใส่เยอะจนลืมตาในน้ำไม่ได้แสบตามาก ข้างๆสระมีแขกคนอื่นสั่งอาหารมาทาน ก้ไม่มีใครมาเก็บจาน ปล่อยให้มดแดงตัวใหญ่ขึ้นเต็มจานไปหมด โอยที่มันอะไรกันทริปนี้ สี่โมงเย็นลงมารอรถไปชายหาดตามตารางที่เค้ามีบอกไว้ รอไปรอมาเด็กๆเริ่มหิว สอบถามไปบอกว่ารถไม่พอ รอสักครู่ รอจน 16.45 รถเพิ่งมา หมดไปหนึ่งวันกับการเริ่มต้นที่.....
วันที่ 2 ทัวร์ 7 เกาะ แจ้งเราว่ารถรับประมาณ 8.30 น. เช้าลงมาทาอาหารเช้า 7.45 จ่ายคูปองให้คนละใบ สำหรับคูปอง 1 ใบจะได้รับ ไข่ดาว 1ฟอง ไส้กรอก 2แท่งเล็ก เศษผักกองน้อยข้างจาน ขอเพิ่มไม่ได้ แต่มีข้าวต้มเศษไก่ตักได้ตลอด (ย้ำว่าเศษไก่ เหมือนเอาไก่สับมาบดอีกที หาชิ้นไม่เจอ) รถมารับ 9 โมง พอกำลังจะก้าวขึ้นได้ยินเสียงผู้ชายพี่พี่ เสียงพนักงานชายเรียก พี่พี่ต้องเช้คเอ้าเอาของลงมาเก็บที่ข้างล่างนี้เลย เพราะต้องย้ายห้อง เพราะกว่าพี่จะกลับมาก้เย็น ผมต้องเอาห้องไปขายก่อน แล้วกลับมาค่อยมาเอากุญแจห้อง เอ้ยข้าวของกระจัดกระจาย ต้องรีบขึ้นไปเก็บของให้เร็ว สามละ .... เก็บเสร็จลงมาฝากกระเป๋า ไปทัวร์วันนั้นก็เหมือนจะราบรื่นดี มีบางเกาะไกด์บอก เข้าไม่ได้ เกาะนี้เป็นของนายทุนฟังๆกันไป ดำน้ำ ทีละประมาณ 30 นาที จอดเรือให้ตกหมึกอีก 30 นาที จอดที่ละประมาณ 30-40 นาที หมดวัน .... กลับมาถึงโรงแรมประมาณ 4-5 โมงเย็น ไปรับกุญแจห้องใหม่ ที่เรียกว่าวิลล่าแดง บนเขาโน่น เอ้าแล้วห้องแม่หละอยู่ที่นี่ได้ แต่ห้องพี่อยู่ทางโน้น ก็ดีเหมือนกันแม่ขึ้นไม่ไหวหรอกเพราะมันชัน โอ้ยแม่เจ้า ต้องเดินขึ้นเขาไปทั้งๆที่มีสัมภาระ ไม่มีใครไปส่ง เปิดประตูห้องเข้าไปพอจะโอเครบ้าง สองห้องนอน สามห้องน้ำ มีห้องครัว มีโซฟาตรงห้องกลาง พอเปิดห้องน้ำห้องที่ 1 น้ำร้อนไม่มี สายชำระใกล้หลุด กลิ่นอับห้องเหม็น เปิดห้องนอนห้องที่สองก้มีกลิ่นอับ เปิดห้องน้ำ มีน้ำอุ่น อุ่นมั่งเย็นมั่งและเบา ซากแมลงปลวกหรือแมลงอะไรสักอย่างเต็มไปหมดบนพื้นห้องน้ำเม่าในกองไฟเม่าในกองไฟ พอเริ่มมืดเริ่มบินกันให้ว่อนทั้งสองห้อง จะนอนยังงัยคืนนี้ถ้าบินกันอย่างนี้ เกิดภูมิปัญญาชาวบ้านปิดไฟให้หมดทุกห้อง แล้วไปเปิดที่ห้องน้ำในครัว แทนล่อให้แมลงบินไปที่แสงไฟ แต่พอเปิดห้องน้ำในครัวเท่านั้น โอ้ยแม่เจ้า...งู.พบซากงูลอกคราบในห้องน้ำ พร้อมซากแมลงพวกเนี้ยเกลื่อนพื้นเต็มไปหมด ห้องน้ำเหมือนปิดไว้ไม่ได้ใช้งานแล้วมีเศษเหล็ก เศษไม้กองเต็มห้องร้องไม่ออกเพราะเป็นคนที่กลัวงูมาก....ใจจริงอยากย้ายโรงแรม ณ บัดนั้นแต่ด้วยว่าเป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มละ ไม่สะดวกสำหรับเด็กและคนสูงวัยแน่ และอีกอย่างก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อเพราะยังไม่ได้สำรวจย่านนั้นเลย พยายามทำใจมาก ทั้งที่ระแวงตลอดเวลา ทุ่มครึ่งลงไปกินข้าว ปรากฎว่าอาหารเก็บหมดแล้ว เหลือที่วางไว้ให้ 1 ชุดคือ น้ำพริกกะปิ น่องเล็ก 5 อัน ผักต้ม 1จาน ต้มจืดหัวไชท้าว 1 ถ้วย แกงส้มอีก 1 ถ้วย ผลไม้ 1 จาน มีแตงโม 3ชิ้นและสัปปะรด 3ชิ้น ที่ได้นี่เพราะแฟนกับย่าตักไว้ให้ เพราะเค้าบอกว่าจะเก็บแล้วถ้าไม่ตักไว้ จะไม่มีให้แล้ว แม้กระทั่งผลไม้ก็ไม่มีเพิ่ม....โอ้ย กะแค่อาหารเย็นแบบนี้คงไม่ต้องมากินถึงกระบี่หรอกมั้งคะ .... กินเสร็จก็เดินไปร้านข้างๆรีสอร์ท ชื่อร้าน The Rich house เป็นร้านสเต็ก ร้านกาแฟและเบเกอรี่เล็กๆ มีโปรโมชั่น สเต๊กไก่+สมูทตี้ 159 บาท จัดไปซะ 3 ชุด โกโก้เย็น ชาเขียวเฟรบเป้อีก โน่นนี่นั่น เพราะลูกชายคนโตยังทานข้าวไม่อิ่มเยจัดคนเดียว 2 ชุดไปเลย นั่งเล่นเน็ตฟังเพลงไปดอกไม้ดอกไม้ สี่ทุ่มกว่าตะเกียกตะกายขึ้นห้องระหว่างทางเจอตะขาบตัวเขื่องอี้ก ก่อนเข้าห้องถ้าถูกกัดเกมส์เปลี่ยนแน่ๆ มีเด็ก 3 คน 11 ขวบ 9 ขวบ และ6 ขวบ เจอตัวใหญ่ซะขนาดเนี้ย โอ้ยหมดกันวันนี้ ...... นี่มันอะไรเนี่ย Facepalm
ปล. ที่ไม่ม่รูปเพราะคิดว่าไม่ควรถ่ายเก็บมาดูให้ปวดใจอีก และไม่คู่ควรที่จะถ่ายเก็บไว้ เพราะทั้งหมดทั้งมวลไม่มีอะไรให้น่าิพิศมัยเลยสำหรับที่ ภูพระนาง รีสอร์ทแห่งนี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ อาจจะดูว่าไม่มีอะไรอ้างอิง

วันที่ 3 ไปทัวร์พีพี...ดีนะว่าวันนี้เตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืนละ ถามไว้ก่อนเลยเรื่องกระเป๋าเช้คเอ้าท์ คำตอบเหมือนเดิมพี่ต้องเอากระเป๋าลงมาฝากเพราะพี่กลับเย็น ห้องผมขายห้อง ไม่ว่าจะเข้าออกกี่โมง เช้า สาย บ่ายเย็นเป็นต้องเจอ พนง.คุณใหญ่ คนนี้ทุกเวลา ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าทำงาน 24 ชม.เลยหรอ ลากกระเป๋าลงมาจากยอดดอย ฝากกองไว้ที่หน้าเค้าเตอ ไปทัวร์กลับมาด้วยความเหนื่อยอ่อน พนง.ชายคนนั้นอีกละ พี่ไฟลทพี่กี่โมงรถจะไปส่ง อ๋อยังไม่กลับค่ะจะไปอยู่ต่อที่ในอ่าวนางช่วยไปส่งหน่อยนะคะ ยินดีครับ ก็ให้ไปส่งต่อที่ ฮอลิเดย์อินน์ อ่าวนางยิ้มหัวใจเยี่ยม เมื่อถึงโรงแรมความรู้สึกผิดกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตัวโรงแรมและพนักงาน จองไว้ 3 ห้องอีก 2 คืน โชคดีที่ทั้ง 3 ห้องเราได้อัพเกรดเป็นห้องพูลแอ๊กเซ้ซทั้งหมด คืออยู่ริมสระว่ายน้ำ เปิดห้องออกมาก็สามารถลงสระได้เลย เช้คอินเสร้จเราทุกคนต่างพร้อมใจกันลงเล่นน้ำจนกระทั่งเวลาล่วงไปถึงหนึ่งทุ่ม เราทุกคนมีเริ่มสัมผัสกับคำว่าการพักผ่อนได้อย่างแท้จริงที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ อ่าวนางแห่งนี้
วันที่ 4 เราก็ไปเที่ยวพังงากันต่อ ออกจากโรงแรมประมาณ 9 โมงกว่า มุ่งหน้าสู่พังงา ไปท่าเรือซึ่งจะไป เกาะปันหยี เขาเจมส์บอนด์ เขาพิงกัน ไปพายเรือแคนู ไปกินอาหารทะเลสดๆที่เกาะปันหยี ไปเยี่ยมชมชุมชนมุสลิมที่อยู่บนเกาะ ไปดูสนามฟุตบอลลอยน้ำที่มีชื่อเสียงของทีมฟุตบอลจังหวัดพังงา ใช้เวลาทั้งวัน กลับถึงโรงแรมประมาณ 5 โมงเย็นเหมือนเดิม กิจกรรมที่ดีที่สุดคือ ลงสระว่ายน้ำกันหมด แล้วก็พากันออกเดินไปที่ร้านอาหารวังทรายซีฟู้ด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เดินประมาณ 5 นาที ก็ถึง ร้านโปร่ง โล่งนั่งจิบบรรยากาศเย็น สบาย อาหารมากมายหลายชนิด พร้อมกับรีเจนซี่ และ ไวน์ขาวอีกหนึ่งขวด เดินกลับที่พักสบาย ถือโอกาสย่อยไปในตัว  แยกย้ายเข้าห้องพักผ่อนกายา เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ กทม ในวันรุ่งขึ้นปอกส้ม
นับว่าประสบการณ์ทริปเที่ยวกระบี่นี้สนุกมากทุกที่ที่ไป โดยเฉพาะ เกาะพีพี เกาะห้อง เกาะปอดะ ทุกที่ น้ำใสสีเขียวสบายตา อยากเอาผ้าหรือพลาสติกไปคลุมไว้ไม่อยากให้ใครมาเตะต้อง มาทำให้ธรรมชาติเสียไป ... เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า เมืองไทยเรานี้มีที่ให้เที่ยวอีกเยอะ โดยเฉพาะทะเลอันดามัน สุดยอด เราจะกลับไปเยือนอีกอย่างแน่นอน แต่ต้องไม่ใช่ ภูพระนางรีสอร์ท แน่แน่ ฝากถึงใครก้ตามที่กำลังจะซื้อแพคเกจของที่นี่ ซึ่งเรารู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องซื้อแพคเกจเลย จองห้องพักอย่างเดียว และไปซื้อทัวร์ที่ในอ่าวนางก็ได้เยอะมาก และราคาก็เหมือนกัน แถมบริการดีกว่าเยอะ บริษัททัวร์ชื่อดังของกระบี่ก็จะมี BARACUDAS ที่ทำทัวร์เป้นระบบระเบียบให้ความรู้ ความกระจ่างแก่ลูกทัวร์ เป็นขั้นเป็นตอนตรงเวลา สุภาพทั้งกัปตันเรือและไกด์ที่พาเที่ยว ขอชื่นชมด้วยค่ะ ที่ไหนดีเราก้ว่าดี ที่ไม่ดีเราก็อยากให้เค้าปรับปรุง และอย่าหลอกลวงผู้บริโภคอย่างนี้อีกเศร้า

ขอบคุณ และ สวัสดี
ชื่อสินค้า:   ภูพระนางรีสอร์ท กระบี่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่