สอบถามหน่อยค่ะ หน้าที่ของพยาบาลกับการดูแลผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว

ยาวหน่อยนะคะ ไม่ชอบอ่านยาว อ่านถึงตรงเส้นก็ได้ค่ะ
ข้างล่าง จขกท ขอเพ้อนิดนึง


คือคุณพ่อป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตกไม่รู้สึกตัวมาสี่เดือนแล้วค่ะ
ก่อนหน้านี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ(ราชสีมา)
เนื่องจากค่ารักษาสูงมาก เพื่อนคุณแม่ที่เป็น ผอ. โรงพยาบาลรัฐแห่งนึงในโคราช
จึงแนะนำให้ย้ายมาพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลที่ท่านเป็น ผอ.นี้
ย้ายมาได้สามวันแล้ว มีข้อสงสัยอยากรบกวนถามหน่อยค่ะ
คือตอนนี้คุณพ่อพักอยู่ห้องพักพิเศษ ปกติวันนึงๆจะเจอพี่พยาบาลสามชุด
ชุดแรก เรื่องอาบน้ำ ทำแผล ให้ยา เปลี่ยนท่ออ๊อกซิเจน feed อาหาร พี่เค้าจะทำเองหมดเลยค่ะ
ชุดที่สอง พี่พยาบาลจะขอให้เราช่วยเวลาอาบน้ำ คือช่วยกันทำกับพี่เค้า
ส่วนให้ยาทางสายยาง เปลี่ยนท่ออ๊อกซิเจน(สลับท่อพ่นยา กับอ๊อกซิเจน) feed อาหาร เราจะขอทำเอง เพราะพอจะทำได้
ชุดที่สาม อาบน้ำ ,ทำแผลที่คอ ,ให้ยา ,เปลี่ยนท่อ, feed อาหาร เค้าสั่งให้เราทำหมดเลยค่ะ

ที่สำคัญคือเค้าไม่จัดเวรพลิกตัวเลยค่ะ เราเป็นคนพลิกเอง ออกตัวเลยว่าโง่ค่ะ ทำไม่เป็น ไม่เคยทำเลย แต่พี่พยาบาลที่โรงพยาบาลกรุงเทพเคยให้ช่วยบ้าง เลยทำให้คุณพ่อแบบงูๆปลาๆไปก่อน ย้ายมาสามวันคุณพ่อเริ่มมีแผลกดทับแล้ว เครียดมากค่ะ เลยติดต่อไปทางโรงพยาบาลกรุงเทพ ขอยามาทาแผล เพราะทางนี้ไม่สนใจเลย ทำเหมือนมองไม่เห็น

เลยสงสัยน่ะค่ะ สรุปแล้วพยาบาลเค้ามีหน้าที่อะไรบ้างคะ มีขอบเขตแค่ไหนในหน้าที่ของเค้า ทำไมบางคนทำได้ แต่บางคนไม่ทำ แล้วตกลงคนไหนทำถูกคะ อยากรู้เพื่อจะได้เข้าใจและทำใจค่ะ
----------------------------------------------------------------------------

คือส่วนตัวแล้ว เราทำให้คุณพ่อได้นะ แต่อยากให้เป็นแบบเซตที่สอง คือช่วยกันทำ ไม่ใช่เปิดห้องมาตะโกนสั่ง แล้วเดินหนีไป
เข้าใจว่างานยุ่งนะคะ แต่บางเรื่องเราคิดว่ามันควรเป็น specialist ทำให้ เช่นทำแผลที่คอ  
(โรงพยาบาลนี้มีห้องพิเศษ 8 ห้อง เท่าที่เห็นมีคนพักห้าห้อง มีพยาบาลเวรละสี่คน ไม่รวม nurse aid)
ก่อนหน้านี้ที่อยู่โรงพยาบาลกรุงเทพ พี่พยาบาลที่นั่นไม่เคยให้ทำอะไรเลย เวลาอาบน้ำ ทำแผล ก็จะกั้นม่านไว้ ไม่ให้เราเข้าไป feed อาหารก็จะเป็นถุงหยด เรามีหน้าที่คอยดูให้พี่เค้าว่าอาหารไหลรึเปล่า หมดรึยัง กับเวลาพลิกตัวคุณพ่อ ที่เราจะไปช่วยยกเท่านั้น เข้าใจว่ารัฐกับเอกชนคงต่างกันแต่ไม่คิดว่าจะต่างกันขนาดนี้

ตอนนี้คุณพ่ออยู่ในระยะพักฟื้นแล้ว แต่ที่ไม่พากลับบ้านเพราะอยากให้ specialist เป็นคนดูแล และที่บ้านไม่มีอุปกรณ์ เช่น เตียงอัลฟ่า อ๊อกซิเจน
เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาสูงมาก สามล้านกว่าบาท เงินทองที่เก็บมาก็หมดไปแล้ว แถมยังมีหนี้สินมาเพิ่มอีกด้วย เลยไม่มีเงินมาซื้อตรงนี้
จองตัวผู้ช่วยพยาบาลที่จะจ้างมาดูแลคุณพ่อไว้แล้วแต่ต้องรอเป็นอาทิตย์กว่าจะมา แล้วถ้าผู้ช่วยมาแล้วพยาบาลไม่ดูแลก็ไม่ไหวนะคะ สงสารพี่ผู้ช่วยด้วย

เรื่องที่พี่เค้าพูดจาไม่ดี ยอมรับว่าโกรธ แต่ก็พยายามเข้าใจว่าเค้าคงเหนื่อย หรือไม่ก็อาจเป็นคนน้ำเสียงแข็งอยู่แล้ว เราก็เลยไม่เอามาใส่ใจให้เครียดกว่าเดิม
แต่เรื่องที่สั่งให้ทำแผล หรือความไม่เอาใจใส่ของเค้านี่รับไม่ไหวค่ะ
วันนี้เค้าลืมเปิดเครื่องอ๊อกซิเจน นานเป็นชั่วโมงกว่าเราจะมาเห็น ถ้าคุณพ่อเราเป็นอะไรไป ใครจะมารับผิดชอบกับความสะเพร่าตรงนี้

เรื่องพวกนี้เราไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้เพราะมันจะกระทบกับตัวพี่พยาบาลเค้า ถ้าการงานเค้ามีปัญหาก็จะกระทบครอบครัวเค้า มันจะยิ่งเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไปไม่จบสิ้น
แต่เราเครียดมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่