คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 48
คืออยากจะบอกว่า เด็กในช่วงวัยนี้มีความสารถที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เพราะ เด็กนั้นเปรียบเสมือนผ้าขาว เราอยากให้เขาเรียนรู้อะไร เราก็บอกและสอนและแนะนำและทำเป็นตัวอย่างให้เขาดู แต่ว่า การส่งเด็กวัย 3 ขวบครึ่ง นั้นไปเรียนหนังสือและภาษานั้นถือว่าเร็วเกินไป เพราะว่า การเรียนของเด็กในวัย 3-5 ปีนั้น การเรียนของเขาขึ้นอยู่กับการเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ทั้งใด้าน สังคม อารมณ์ ร่างกาย และสติปัญญา เด็กนั้นจะเรียนรู้ได้ก็ต่อเมื่อเด็กได้เล่น ได้สัมผัสหยิบจับและเด็กในวัยนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนโรงเรียนเอกชนที่แพงเพราะ การเรียนรู้ของเด็กไม่ได้เกิดเพราะ ชื่อเสียงของโรงเรียน แต่ในทางภาษานั้น พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถที่จะสอนเด็กได้ เอง โดยฝึกให้ร้องเพลง a-z หรือเพลงเด็กที่เป็นภาษาอังกฤษ และหนังการ์ตูนที่มีซับไทย และนิทานต่างๆ ที่มีเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยอยู่ในเล่มเดียวกันค่ะ เด็กในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่พัฒนาการทุกๆด้านนั้นได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็กนั้น ต้องการความรักและความเอาใจใส่จากพ่อแม่ พ่อแม่บางคนคิดว่าการส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมเเพงๆเป็นทางที่ดีที่สุด แต่กลับกันค่ะ เพราะอย่างที่บอกไว้ใตอนต้นนะค่ะว่า พัฒนาการที่จะพัฒนาได้นั้น ต้องอาศัย การเรียนรู้จากสิ่งต่างๆรอบตัวและสัมผัสทั้ง 5 และเด็กนั้น จะเลียนแบบผู้ใหญ่ที่อยู่ไกล้ชิดเขามากที่สุดนะค่ะ อยากแนะนำหนังสือเรื่อง กว่าจะอนุบาลก็สายเสียแล้วนะค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมากๆค่ะ เล่มละ 99 บาท 
เหมาะสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนในทุกคนค่ะ[youtube]http://www.youtube.com/show/muffinsongs[/youtube]
เหมาะสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนในทุกคนค่ะ[youtube]http://www.youtube.com/show/muffinsongs[/youtube] 
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 80
เราเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายมากเลยค่ะ เพราะเราเองก็ไม่สามารถจ่ายได้ขนาดนั้น เลยตัดสินใจให้ลูกเข้ารร.ใกล้บ้าน แต่เราให้ความสำคัญกับภาษา แต่ไม่ได้เครียดว่าต้องไปเรียนพิเศษอะไรขนาดนั้น เลยเสริมเค้าเรื่องนี้ด้วยการเรียนรู้จากแอพพลิเคชั่นชื่อ Galaxy Academy ลูกเราจะ4ขวบแล้วค่ะ ถามตอบคล่องใช้ได้เลย แถมสอนพ่อนางให้พูดด้วย555 เราจ่ายค่าแอพนี้แค่เดือนละ199 ไม่ต้องเสียเงินเป็นหมื่น ตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่ายเราด้วย แล้วเค้าก็ไม่เครียดเกินไป สนุกด้วยซ้ำเพราะมันเป็นการ์ตูน มีไมโครโฟนคุยตอบโต้เหมือนคุยกับเพื่อนงี้ได้เลย ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคนี้มาก ดีกว่าให้เค้าไปติดมือถือที่เราควบคุมการดูไม่ได้
ส่วนคำถาม จขกท.เราตอบเป็นข้อ ๆ ให้เลยนะคะ
1. เด็ก 3 ขวบครึ่ง จำเป็นต้องเรียนพิเศษ ภาษาอังกฤษ หรือไม่
-สำหรับเราจำเป็นค่ะ ยุคสมัยนี้ภาษาที่2-3เป็นสิ่งสำคัญจะทำให้เค้าได้เปรียบกว่าคนอื่นในระยะยาว โอกาสในการได้เรียนไปจนถึงทำงาน อาจจะฟังดูตึงเครียดไปนะคะ แต่ว่าอนาคตของเค้าแทบจะ100%เกิดจากการวางรากฐานของพ่อแม่
2. ในทัศนคติของเรามองว่า เด็กยังเล็กเกินไป เราคิดว่า เรื่องภาษาเราน่าจะสอนเขาแค่เบื้องต้นก่อนก้อได้ เช่น A,B,C หรือ A ant = มด ประมาณนี้
- จริง ๆ เราก็เคยคิดว่าเค้ายังเด็กเกินไปอาจจะสับสนเรื่องการแยกแยะภาษาเหมือนกัน แต่เปล่าเลยค่ะ เราเคยอ่านมาว่า ในช่วงอายุระหว่าง 2-5 ปี เป็นช่วงที่เด็กมีการพัฒนาด้านภาษา มากกว่าช่วงอายุอื่นๆ มีการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ จากสิ่งรอบตัว นั่นหมายความว่าถ้าจะป้อนก็คงช่วงนี้แหละค่ะ แต่ความมากน้อยก็เอาที่เด็กรับไหว จริง ๆ ถ้าพวกเขาสนุกไปกับการเรียนรู้มันก็จะจำได้เองตามธรรมชาติ มีเด็กคนนึงชื่อ Bella ชาวรัสเซียก็พูดได้ตั้งหลายภาษา (รู้สึกจะ 7 ภาษา) ทั้งที่แกยังแค่ 5 ขวบ
3. เด็กในวัย 3 ขวบครึ่ง เราน่าจะปล่อยให้เขาได้กิน ได้เล่น ได้เรียนรู้ ในห้องเรียน หรือทำความรู้จักเพื่อน ๆ ในห้องเรียนก่อนหรือไม่ ที่จะป้อนเรื่องภาษาอังกฤษกับเด็ก
- เราเห็นด้วยค่ะ เค้าควรได้เรียนรู้ตามธรรมชาติ แต่เราคิดอีกพาร์ทนึงว่า เราสามารถเอาเรื่องภาษาสอดแทรกเข้าไปได้ในช่วงเหล่านี้ได้ จะให้เค้าปีนต้นไม้ก็ได้ค่ะ แต่อย่างน้อยเค้าน่าจะได้รู้ไปด้วยว่าต้นไม้ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร แบบนี้ก็ไม่เสียหาย เพราะเอาเข้าจริง ๆ เด็กสมัยนี้แม้แต่ในห้องเรียนเค้าสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเยอะอยู่นะคะ
ส่วนคำถาม จขกท.เราตอบเป็นข้อ ๆ ให้เลยนะคะ
1. เด็ก 3 ขวบครึ่ง จำเป็นต้องเรียนพิเศษ ภาษาอังกฤษ หรือไม่
-สำหรับเราจำเป็นค่ะ ยุคสมัยนี้ภาษาที่2-3เป็นสิ่งสำคัญจะทำให้เค้าได้เปรียบกว่าคนอื่นในระยะยาว โอกาสในการได้เรียนไปจนถึงทำงาน อาจจะฟังดูตึงเครียดไปนะคะ แต่ว่าอนาคตของเค้าแทบจะ100%เกิดจากการวางรากฐานของพ่อแม่
2. ในทัศนคติของเรามองว่า เด็กยังเล็กเกินไป เราคิดว่า เรื่องภาษาเราน่าจะสอนเขาแค่เบื้องต้นก่อนก้อได้ เช่น A,B,C หรือ A ant = มด ประมาณนี้
- จริง ๆ เราก็เคยคิดว่าเค้ายังเด็กเกินไปอาจจะสับสนเรื่องการแยกแยะภาษาเหมือนกัน แต่เปล่าเลยค่ะ เราเคยอ่านมาว่า ในช่วงอายุระหว่าง 2-5 ปี เป็นช่วงที่เด็กมีการพัฒนาด้านภาษา มากกว่าช่วงอายุอื่นๆ มีการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ จากสิ่งรอบตัว นั่นหมายความว่าถ้าจะป้อนก็คงช่วงนี้แหละค่ะ แต่ความมากน้อยก็เอาที่เด็กรับไหว จริง ๆ ถ้าพวกเขาสนุกไปกับการเรียนรู้มันก็จะจำได้เองตามธรรมชาติ มีเด็กคนนึงชื่อ Bella ชาวรัสเซียก็พูดได้ตั้งหลายภาษา (รู้สึกจะ 7 ภาษา) ทั้งที่แกยังแค่ 5 ขวบ
3. เด็กในวัย 3 ขวบครึ่ง เราน่าจะปล่อยให้เขาได้กิน ได้เล่น ได้เรียนรู้ ในห้องเรียน หรือทำความรู้จักเพื่อน ๆ ในห้องเรียนก่อนหรือไม่ ที่จะป้อนเรื่องภาษาอังกฤษกับเด็ก
- เราเห็นด้วยค่ะ เค้าควรได้เรียนรู้ตามธรรมชาติ แต่เราคิดอีกพาร์ทนึงว่า เราสามารถเอาเรื่องภาษาสอดแทรกเข้าไปได้ในช่วงเหล่านี้ได้ จะให้เค้าปีนต้นไม้ก็ได้ค่ะ แต่อย่างน้อยเค้าน่าจะได้รู้ไปด้วยว่าต้นไม้ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร แบบนี้ก็ไม่เสียหาย เพราะเอาเข้าจริง ๆ เด็กสมัยนี้แม้แต่ในห้องเรียนเค้าสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเยอะอยู่นะคะ
ความคิดเห็นที่ 81
จริงๆมีคอร์สนี้น่าสนใจมากเราเอามาใช้งานได้ผลดีนะ คอร์สเปลี่ยนคุณแม่เป็นคุณครู ของโรงเรียนยีราฟ มีหลักสูตรสอนยาวเป็นปีเลย ลองไปติดต่อที่เพจดูได้เลยจ้า https://www.facebook.com/giraffemum
แสดงความคิดเห็น
เด็ก 3 ขวบ จำเป็นต้องให้เรียนภาษาหรือไม่
เนื่องจากว่า เมื่อวานเราได้มีพูดคุยกับน้องสะใภ้เรื่องการให้ลูกเข้า รร.อนุบาล
ลูกของน้องสะใภ้เป็นเด็กผู้ชาย อายุ 3 ขวบ ครึ่ง ส่วนลูกสาวเราเด็กผู้หญิง อายุ 2 ขวบ ครึ่ง
เรื่องราวมีดังนี้ค่ะ
น้องสะใภ้ : ได้ส่งลูกเข้าเรียนที่ รร.เอกชน ค่าเทอม หมื่นกว่าบาท
เรา : (ตกใจ) ทำไมเด็กอนุบาล อายุแค่ 3 ขวบ ครึ่ง ทำไมค่าเทอมแพงจัง (ด้วยเราไม่เคยศึกษาเรื่องค่าเล่าเรียนนะค่ะ)
น้องสะใภ้ : เป็น รร.เอกชน ค่าเทอม 6 พันกว่าบาท , ค่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษอีก 4 พัน
เรา : เด็กยังเล็กอยู่นะ ป้อนภาษาอังกฤษ ให้เลยเหรอ
น้องสะใภ้ : อยากให้น้องเก่งเรื่องภาษา
เรา : ค่าเทอมเอกชนนี่มันแพงมากนะ และมองว่าเราจำเป็นแล้วเหรอที่จะให้ลูกแค่ 3 ขวบครึ่ง เรียนภาษาอังกฤษแล้ว
ฯลฯ
เรามีคำถามจะรบกวน เพื่อน ๆ หรือผู้รู้ เรื่องระดับการเรียนของเด็ก ดังนี้ค่ะ
1. เด็ก 3 ขวบครึ่ง จำเป็นต้องเรียนพิเศษ ภาษาอังกฤษ หรือไม่
2. ในทัศนคติของเรามองว่า เด็กยังเล็กเกินไป เราคิดว่า เรื่องภาษาเราน่าจะสอนเขาแค่เบื้องต้นก่อนก้อได้ เช่น A,B,C หรือ A ant = มด ประมาณนี้
3. เด็กในวัย 3 ขวบครึ่ง เราน่าจะปล่อยให้เขาได้กิน ได้เล่น ได้เรียนรู้ ในห้องเรียน หรือทำความรู้จักเพื่อน ๆ ในห้องเรียนก่อนหรือไม่ ที่จะป้อนเรื่องภาษาอังกฤษกับเด็ก
ปล.หากมีสิ่งใดที่เพื่อน ๆ หรือผู้รู้ใน Pantip จะแนะนะเราก้อแนะนำได้นะค่ะ เนื่องจาก ลูกเรา ก้อ 2 ขวบครึ่ง และกำลังให้เข้าเรียนเตรียมอนูบาล รร.แถวบ้าน (ตจว.) ปีหน้า ก้อเข้าอนุบาลแล้ว เลยอยากทราบว่า เราต้องป้อนอะไรให้กับเด็กบ้าง
เราเป็นเพียงคุณแม่ มือใหม่ ที่อยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี แต่ก้อไม่อยากป้อนอะไรให้เขาจนเกินวัยเขาเท่านั้นเองค่ะ