เราชอบท่องเที่ยวมากค่ะ จึงติดตามและหาข้อมูลท่องเที่ยวจากพันทิปมาตลอด แต่ไม่เคยโพลเลย เห็นหลายคนโดนเอาเปรียบจากการโรงแรม ก็คิดว่าคงไม่เจอกับตัวเองหรอก คิดเอาเองว่าที่พัก 4-5 ดาว คงไม่กระทำกับลูกค้าหรอก ขอเข้าเรื่องเลยนะค่ะ
เราเคยพักที่ la Toscana มาแล้วครั้งนึง ประทับใจมาก จึงอยากกกลับไปพักอีกครั้งในโซนใหม่ ซึ่งราคาก็แพงขึ้นตามไปด้วย แต่ด้วยความอยากพักและประกอบกับไปเจอราคาของ agent ชื่อ 7th.… ในราคาที่ถูกกว่า 500 บาท (เห็นแก่ 500 บาท จึงได้เรื่องจริงๆ ) จึงได้ทำการจองที่พักกับรีสอร์มผ่านทาง agent พร้อมได้โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ซึ่งเราระบุวันที่เข้าพักในวันที่ 11 พ.ค. และระบุห้องพัก เป็น Capulet (ในเว็บรีสอร์ทคิดราคา 5,700 บาท แต่เราจองผ่าน agent ได้ราคา 5,200 บาท) หลังจากนั้นเราก็ได้ดูในเว็ปของรีสอร์ท “ตรวจสอบห้องว่าง” ตลอดระยะเวลาก่อนที่จะเข้าพัก ซึ่งเราก็เห็นวันที่เราจะเข้าพักในห้อง Capulet เป็นชื่อ agent นี้จองค่ะ แต่ status เป็นสีน้ำตาลเข้ม คือจองแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน ซึ่งเราคิดว่าเค้าคงมี credit term ซึ่งกันและกัน ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร
พอวันที่ 11 พ.ค. เวลาบ่าย 4 โมง เราเช้าไปเช็คอิน พร้อมยื่น voucher ของ agent ที่ออกให้ เจ้าหน้าที่มาแจ้งเราว่าห้อง Capulet ได้ให้คนอื่นเข้าพักไปแล้ว ตอนนั้นอึ้งพร้อมงงมากเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เลยโทรหา sale ที่กรุงเทพฯ ให้เราคุยด้วย sale แจ้งเราว่า “เมื่อวาน (วันที่ 10 พ.ค.) มีลูกค้าท่านอื่นสนใจห้อง Capulet ทางรีสอร์ทจึงได้ติดต่อทาง agent เพื่อที่จะขอ confirm ว่าเราจะเข้าพักหรือเปล่า และ agent ตอบว่าไม่สามารถติดต่อเราได้ ดังนั้นทางรีสอร์มจึงได้ให้ห้อง Capulet กับลูกค้าท่านอื่น อีกทั้งทาง agent ก็ยังไม่ได้ชำระเงินให้กับทางรีสอร์ท“ โอ้แม่เจ้า ทำกับเราอย่างนี้ได้ยังไง โกรธมากเลยอ่ะ แต่พยายามข่มใจ (พอดีเพิ่งอ่านหนังสือธรรมะ) เลยตอบไปว่า ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่าทางคุณจะมีข้อตกลงอะไร หรือเครดิตเทอมยังไงกับทาง agent รายนี้ ซึ่งคุณก็ทราบอยู่แล้วว่าชั้นชำระเงินเต็มจำนวนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ทั้งนี้จะมาบอกว่าติดต่อชั้นไม่ได้และยกให้คนอื่น มันก็ไม่ถูกต้อง ในเมื่อชั้นจองห้องนี้ไปเรียบร้อยแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะยกห้องนี้ไปให้คนอื่น
sale คนนั้นจึงพยายามรับผิดชอบโดยการเสนอมาว่าเหลือห้องพักเพียงห้องเดียว ซึ่งเป็นห้อง type ต่ำกว่า + บาบิคิว 500 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท (แต่เราจ่ายไป 5,200 บาท) เราก็ยิ่งโมโหสิ คุณทำผิดแล้วยังเสนอมาให้เราแค่นี้นะ ถ้าเราต้องการนอนห้อง type นี้เราจะเสียเงินตั้ง 5,200 บาทเพื่ออะไร เราไม่ได้อยากกินบาบิคิวอะไรทั้งนั้น ช่วยแสดงความรับผิดชอบหรือเหตุผลที่ดีกว่านี้ได้มั๊ย มันเสียความรู้สึกมากกกกก แต่ sale ก็ยืนยันว่าห้องมันไม่เหลือแล้ว เหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น .....
เราจึงได้โทรไปหา agent ทางนั้นตอบว่าขอโทษ จะ refund เงินคืนให้ทั้งหมด งงค่ะ โกรธค่ะ และคิดว่าหากเอาเงินคืน คงอาจจะไม่ได้ เพราะเรื่องมันทะ

ๆ แล้ว จึงบอกว่าจะเอาห้อง type เล็กที่เหลือก็ได้ และให้ refund ส่วนต่างมาให้ด้วย ซึ่ง agent รับปากจะโอนให้ภายในวันจันทร์ (เพิ่งได้รับเมื่อคืนโดยใช้วิทยายุทธนิดหน่อย)
ยังมีเรื่องต่อค่ะ เช้าวันรุ่งขึ้นหน้าห้องพักคนเต็มไปหมดเลยค่ะ เสียงดังพร้อมความวุ่นวาย สรุปเป็นกองถ่าย 2 กอง (ถ่ายมิวสิค กับถ่ายหนัง) ซึ่งไม่มีการบอกกล่าวคนเข้าพักเลยค่ะ ตอนจะเช็คเอ้าท์ ก็รีบเรียกรถให้มารับด้านหน้าห้อง เพราะกองถ่ายก็เปลี่ยนจะมาถ่ายด้านหน้าห้องก็จะทำให้เราออกจากห้องไม่ได้ นานค่ะกว่ารถจะมา เกือบจะต้องเดินไปล่ะ พอนั่งรถไปก็ไม่สามารถไปถึงหน้า lobby ได้อีก เพราะมีกองถ่ายหนังอีกกองขวางอยู่ สุดยอดดดดเลยค่ะ
จริง ๆ แล้วคนที่มาพักรีสอร์ทแห่งนี้ยอมจ่ายเงินในจำนวนนี้ที่ค่อนข้างสูง เพื่อต้องการพักผ่อน เพื่อความเงียบ สงบ ส่วนตัว แต่ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ รู้สึกว่าเงินที่เสียให้ไปเสียดายมาก ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย
ลาขาดกันทีกับ La Toscana สวนผึ้ง
[CR] คงเป็นครั้งสุดท้ายกับ La Toscana สวนผึ้ง
เราเคยพักที่ la Toscana มาแล้วครั้งนึง ประทับใจมาก จึงอยากกกลับไปพักอีกครั้งในโซนใหม่ ซึ่งราคาก็แพงขึ้นตามไปด้วย แต่ด้วยความอยากพักและประกอบกับไปเจอราคาของ agent ชื่อ 7th.… ในราคาที่ถูกกว่า 500 บาท (เห็นแก่ 500 บาท จึงได้เรื่องจริงๆ ) จึงได้ทำการจองที่พักกับรีสอร์มผ่านทาง agent พร้อมได้โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ซึ่งเราระบุวันที่เข้าพักในวันที่ 11 พ.ค. และระบุห้องพัก เป็น Capulet (ในเว็บรีสอร์ทคิดราคา 5,700 บาท แต่เราจองผ่าน agent ได้ราคา 5,200 บาท) หลังจากนั้นเราก็ได้ดูในเว็ปของรีสอร์ท “ตรวจสอบห้องว่าง” ตลอดระยะเวลาก่อนที่จะเข้าพัก ซึ่งเราก็เห็นวันที่เราจะเข้าพักในห้อง Capulet เป็นชื่อ agent นี้จองค่ะ แต่ status เป็นสีน้ำตาลเข้ม คือจองแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน ซึ่งเราคิดว่าเค้าคงมี credit term ซึ่งกันและกัน ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร
พอวันที่ 11 พ.ค. เวลาบ่าย 4 โมง เราเช้าไปเช็คอิน พร้อมยื่น voucher ของ agent ที่ออกให้ เจ้าหน้าที่มาแจ้งเราว่าห้อง Capulet ได้ให้คนอื่นเข้าพักไปแล้ว ตอนนั้นอึ้งพร้อมงงมากเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เลยโทรหา sale ที่กรุงเทพฯ ให้เราคุยด้วย sale แจ้งเราว่า “เมื่อวาน (วันที่ 10 พ.ค.) มีลูกค้าท่านอื่นสนใจห้อง Capulet ทางรีสอร์ทจึงได้ติดต่อทาง agent เพื่อที่จะขอ confirm ว่าเราจะเข้าพักหรือเปล่า และ agent ตอบว่าไม่สามารถติดต่อเราได้ ดังนั้นทางรีสอร์มจึงได้ให้ห้อง Capulet กับลูกค้าท่านอื่น อีกทั้งทาง agent ก็ยังไม่ได้ชำระเงินให้กับทางรีสอร์ท“ โอ้แม่เจ้า ทำกับเราอย่างนี้ได้ยังไง โกรธมากเลยอ่ะ แต่พยายามข่มใจ (พอดีเพิ่งอ่านหนังสือธรรมะ) เลยตอบไปว่า ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่าทางคุณจะมีข้อตกลงอะไร หรือเครดิตเทอมยังไงกับทาง agent รายนี้ ซึ่งคุณก็ทราบอยู่แล้วว่าชั้นชำระเงินเต็มจำนวนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ทั้งนี้จะมาบอกว่าติดต่อชั้นไม่ได้และยกให้คนอื่น มันก็ไม่ถูกต้อง ในเมื่อชั้นจองห้องนี้ไปเรียบร้อยแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะยกห้องนี้ไปให้คนอื่น
sale คนนั้นจึงพยายามรับผิดชอบโดยการเสนอมาว่าเหลือห้องพักเพียงห้องเดียว ซึ่งเป็นห้อง type ต่ำกว่า + บาบิคิว 500 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท (แต่เราจ่ายไป 5,200 บาท) เราก็ยิ่งโมโหสิ คุณทำผิดแล้วยังเสนอมาให้เราแค่นี้นะ ถ้าเราต้องการนอนห้อง type นี้เราจะเสียเงินตั้ง 5,200 บาทเพื่ออะไร เราไม่ได้อยากกินบาบิคิวอะไรทั้งนั้น ช่วยแสดงความรับผิดชอบหรือเหตุผลที่ดีกว่านี้ได้มั๊ย มันเสียความรู้สึกมากกกกก แต่ sale ก็ยืนยันว่าห้องมันไม่เหลือแล้ว เหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น .....
เราจึงได้โทรไปหา agent ทางนั้นตอบว่าขอโทษ จะ refund เงินคืนให้ทั้งหมด งงค่ะ โกรธค่ะ และคิดว่าหากเอาเงินคืน คงอาจจะไม่ได้ เพราะเรื่องมันทะ
ยังมีเรื่องต่อค่ะ เช้าวันรุ่งขึ้นหน้าห้องพักคนเต็มไปหมดเลยค่ะ เสียงดังพร้อมความวุ่นวาย สรุปเป็นกองถ่าย 2 กอง (ถ่ายมิวสิค กับถ่ายหนัง) ซึ่งไม่มีการบอกกล่าวคนเข้าพักเลยค่ะ ตอนจะเช็คเอ้าท์ ก็รีบเรียกรถให้มารับด้านหน้าห้อง เพราะกองถ่ายก็เปลี่ยนจะมาถ่ายด้านหน้าห้องก็จะทำให้เราออกจากห้องไม่ได้ นานค่ะกว่ารถจะมา เกือบจะต้องเดินไปล่ะ พอนั่งรถไปก็ไม่สามารถไปถึงหน้า lobby ได้อีก เพราะมีกองถ่ายหนังอีกกองขวางอยู่ สุดยอดดดดเลยค่ะ
จริง ๆ แล้วคนที่มาพักรีสอร์ทแห่งนี้ยอมจ่ายเงินในจำนวนนี้ที่ค่อนข้างสูง เพื่อต้องการพักผ่อน เพื่อความเงียบ สงบ ส่วนตัว แต่ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ รู้สึกว่าเงินที่เสียให้ไปเสียดายมาก ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย ลาขาดกันทีกับ La Toscana สวนผึ้ง