รำลึกครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์กระชับพื้นที่ผู้ชุมนุม ที่นายบุญทิ้ง ปานศิลา อาสาพยาแพทย์กู้ชีพวชิระ ถูกยิงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในซอยรางน้ำ แม้เวลาจะผ่านไป 3 ปี แต่ความรู้สึกของคนในครอบครัว ยังเหมือนฝันร้ายนี้เกิดขึ้นเมื่อวาน
ภาพวินาทีที่นายบุญทิ้ง ปานศิลา อาสากู้ชีพวชิระพยาบาล ถูกยิงขณะเข้าไปช่วยชีวิตนายกิตติพันธ์ ขันทอง ที่ถูกยิงในซอยรางน้ำ ช่วงค่ำวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 พร่างพรูออกจากความรู้สึกในใจของแม่ยาย
แม้เป็นแค่ลูกเขย แต่เป็นความผูกพันธ์และรู้สึกดีต่อกัน เพราะเธอเห็น บุญทิ้ง ตั้งแต่เป็นเด็กชาย เนื่องจาก กำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่ยังเล็ก และต่อมากลายเป็นสมาชิกครอบครัว ทำหน้าที่พ่อของหลานชายได้แค่ 9 เดือน ก่อนถูกกระสุนจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมพรากชีวิตเขาไปจากครอบครัว
บุญทิ้ง หรือ โน๊ต ถูกยิงด้วยกระสุนปืนจากด้านหลังตรงช่วงคอทะลุตัดหลอดลม ทั้งที่อยู่ในชุดขาวเครื่องแบบ อาสากู้ชีพวชิระพยาบาล ในมือถือธง และวิทยุ ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
จากแม่ยาย ต้องกลายมาเป็นทั้งพ่อและแม่ของ น้องฟีโน่ ลูกชายวัย 9 เดือนของบุญทิ้งขณะนั้น เธอต้องต้องลาออกจากงาน เพื่อมาเลี้ยงหลาน
แม้เงินเยียวยาจากการเสียชีวิต ของโน๊ต ทำให้ภรรยาและลูกของเขาเปลี่ยนที่อยู่ จากห้องเช่า ย่านเทเวศน์ มาอยู่บ้านย่านศาลายา แต่หากเลือกได้ เธออยากคืนเงินแล้วเลือกเอาชีวิตพ่อของหลานชายกลับมา
จากวันที่บุญทิ้งถูกยิงเสียชีวิตวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 จนถึงวันนี้ (14 พ.ค. 2556) ครบ 3 ปีแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า จนพวกเขาเลิกหวังความยุติธรรม จากกระบวนการยุติธรรม รวมทั้ง คำขอโทษ จากผู้ที่สั่งการ และผู้ที่ลงมือลั่นไกปลิดชีพบุญทิ้ง ทำให้คำว่า อภัย จากครอบครัวผู้สูญเสียยังคงเป็นเส้นขนาน
ที่มา
http://news.voicetv.co.th/thailand/69904.html 
ชีวิต 3 ปี หลัง 'บุญทิ้ง' อาสาพยาบาลถูกยิง
ภาพวินาทีที่นายบุญทิ้ง ปานศิลา อาสากู้ชีพวชิระพยาบาล ถูกยิงขณะเข้าไปช่วยชีวิตนายกิตติพันธ์ ขันทอง ที่ถูกยิงในซอยรางน้ำ ช่วงค่ำวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 พร่างพรูออกจากความรู้สึกในใจของแม่ยาย
แม้เป็นแค่ลูกเขย แต่เป็นความผูกพันธ์และรู้สึกดีต่อกัน เพราะเธอเห็น บุญทิ้ง ตั้งแต่เป็นเด็กชาย เนื่องจาก กำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่ยังเล็ก และต่อมากลายเป็นสมาชิกครอบครัว ทำหน้าที่พ่อของหลานชายได้แค่ 9 เดือน ก่อนถูกกระสุนจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมพรากชีวิตเขาไปจากครอบครัว
บุญทิ้ง หรือ โน๊ต ถูกยิงด้วยกระสุนปืนจากด้านหลังตรงช่วงคอทะลุตัดหลอดลม ทั้งที่อยู่ในชุดขาวเครื่องแบบ อาสากู้ชีพวชิระพยาบาล ในมือถือธง และวิทยุ ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
จากแม่ยาย ต้องกลายมาเป็นทั้งพ่อและแม่ของ น้องฟีโน่ ลูกชายวัย 9 เดือนของบุญทิ้งขณะนั้น เธอต้องต้องลาออกจากงาน เพื่อมาเลี้ยงหลาน
แม้เงินเยียวยาจากการเสียชีวิต ของโน๊ต ทำให้ภรรยาและลูกของเขาเปลี่ยนที่อยู่ จากห้องเช่า ย่านเทเวศน์ มาอยู่บ้านย่านศาลายา แต่หากเลือกได้ เธออยากคืนเงินแล้วเลือกเอาชีวิตพ่อของหลานชายกลับมา
จากวันที่บุญทิ้งถูกยิงเสียชีวิตวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 จนถึงวันนี้ (14 พ.ค. 2556) ครบ 3 ปีแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า จนพวกเขาเลิกหวังความยุติธรรม จากกระบวนการยุติธรรม รวมทั้ง คำขอโทษ จากผู้ที่สั่งการ และผู้ที่ลงมือลั่นไกปลิดชีพบุญทิ้ง ทำให้คำว่า อภัย จากครอบครัวผู้สูญเสียยังคงเป็นเส้นขนาน
ที่มา
http://news.voicetv.co.th/thailand/69904.html