เล่า บ่น ความคิดเห็นส่วนตัว พวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้
เนื่องด้วยอายุครบ 25 เบญจเพศ คนไทยมีความเชื่อว่าจะปีที่จะมีเคราะห์ใหญ่ต้องบวชสะเดาะเคราะห์ หรือบ้างภาคอย่าเช่นภาคอีสาน ฝ่ายชายก่อนจะมาสู่ขอฝ่ายหญิง ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องถามว่าบวช (บวชก่อนเบียด) เพื่อ(ทดแทนบุญคุณพ่อแม่) ไม่งั้นจะไม่ยอมให้แต่ง ให้สังเกตุว่าพิธีบวชทางอิสานจะจัดการอลังการมากๆ 7 วัน 7 คืน ส่วนผมคือออกงาน เป็นโอกาสดีที่จะบวชให้แม่ เพราะถ้าไม่บวชมนรู้สึกค้างคาใจ และบังเอิญว่ามีเพื่อนผมลางาน 15 วันมาบวชเช่นกันผมจึงแอบอาศัยฤกษ์ตามเพื่อน โดยเพื่อนเลือกวัดสายปฎิบัติผมก็เอ่ออ่อห้อหมกไปด้วย ซึ่งการบวชจะต้องไปเป็นเด็กวันประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อไปหัดท่องบวชสวดและช่วยเก็บของออกบาตรพระเวลาบิณฑบาต เข้าเรื่องประเด็นครับการบวช
พระมีอยู่ 2 อย่างตามความเข้าใจผม คือ
1.การบวชเป็นสามเณร ไม่ต่ำกว่า 7 ปี- 19 ปี
2.การบวชเป็นพระสงฆ์ 20+
การบวชมีหลายอย่าง ดังคำโบราณว่า บวชเล่น บวชลอง บวชครองประเพณี บวชหนีทหาร บวชผลาญข้าวสุก บวชสนุกตามเพื่อน บวชเปื้อนศาสนา บวชฆ่ากิเลส บวชเพื่อเป็นเปรตในอบายภูมิ บวชรอไปขุมนรก
พระเณรก็คือลูกชาวบ้าน ผัวชาวบ้าน และอาจเป็นเมียของผัวชาวบ้าน
ลูกขี้เกียจสันหลังยาว เอาไปบวช
ลูกติดยา เอาไปบวช
ลูกตายเสีย เมียตายจาก ไปบวช
อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน ไปบวช
ไม่มีงานทำ ไปบวช
อยากรวยบ้าง ไปบวช
อยากดัง ไปบวช
เมียทิ้ง ไปบวช
ไม่มีคนเลี้ยงดู ไปบวช
พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเสียให้เรียน ไปบวช
สังคมรังเกียจ ไปบวช
รังเกียจสังคม ไปบวช
ลูกกำพร้าพ่อแม่ ไปบวช
ทะเลาะกัน ไปบวช
หนีหนี้ ไปบวช
หนีตำรวจ ไปบวช
อยากบวช ไปบวช
เห็นทุกข์ ไปบวช
เบื่อหน่าย ไปบวช
จะเห็นว่า เกือบครอบคลุมเหตุผลของการบวชเป็นพระเป็นเณร แทบทุกประเด็นแล้ว
ประเด็นคือผม ไม่มีงานทำ ไปบวช,บวชครองประเพณี
จากไหนผมก็ได้บวชโดยตั้งใจบวช 2 เดือนเพราะว่าเดือนที่ 3 ผมต้องไปรับปริญา ตอนผมเป็นเด็กวัดผมมั่นใจแน่นแท้ว่าอยู่วัดต้องน่าเบื่อแน่ผมจึงขนหนังสือที่สือมาแล้วไม่ได้อ่าน ทั้งวาไรตี้ พัฒนาตัวเอง การตูน แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้จริงๆ ไม่เกิน 3 วันผมอ่านหนังสือที่ขนจากบ้านมาอ่านหมดอย่างรวดเร็ว มือถือเราใช้โนเกียเล่นเนตไม่ได้ ไม่มีใครโทรมาเป็นปกติอยู่แล้ว แทบไม่มีความหมายแต่พกไว้ตั้งปลุกนาฬิกา และแม่อาจจะโทรมาถามเรื่องพิธีบวช เพราะตอนนั้นยังไม่ได้บวช หลังจากบวชเสร็จ ผมบวชที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน เป็นวัดใหญ่และมีชื่อเสียง กิจวัตรผมไม่ข้อพูดถึงครับ ก็เช้านั่งสมาธิและมาทำวัตร เดินบิณฑบาต ฉัตร กวาดวัด บ่ายปฎิบัติด้วยตัวเอง ช่วงเย็นทำวัตร 18.00-21.00 กรรมฐาน 9 วัน วันหลังๆผมสมาธิดีมาก ผมแทบไม่คิดถึงโลกภายนอกเลย เฟสบุ๊คที่เคยติด กลับไม่คิดถึงมันเลย
แต่สิ่งที่ผมแปลกใจ
ผมดูสถิติพระ บวชเณรจาก พ.ศ. 2530 - 2555 เณรบวชน้อยลงมาก ขนาดวัดใหญ่ ส่วนพระสงฆ์กลับเท่าเดิมคงที่
หลังจกาบวชได้สัก อาทิตย์ก็ได้คลุกคลีกับพระฆงฆ์ โดนผมเข้าใจว่า ทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนไป วัดคือ แหล่งคนจอนจัดหาขอข้าวกิน,แหล่งคนมีรวยมาบริจาคปัจจัย,แหล่งเด็กเกเรที่โรงเรียนเอาไม่อยู่ให้มาบวช,คนมีอดีต ติดงาน ต้องคดี ติดเหล้า โดยญาติให้มาเป็นเด็กวัด,สถานชราพระที่ไม่มีคนเลี้ยงดู,และผม ขาจรที่แวะเวียนมาบวชตามความเชื่อประเพณีแล้วก็จากไป 9วันบาง 15,1 2 3เดือนว่ากันไป พอครบ 9 วันผมของานไปจำวัดที่บ้าน เพราะแม่อยากใส่บาตรทุกวัน ผมก็ย้ายไปจำวัด ซึ่งเป็นวัดที่ผมเคยบวชภาคฤดูร้อนตอน ป.5 พอกลับไปเจ้าอาวาสคนเดิมมรณะภาพไปแล้ว วัดเจริญขึ้น แต่! เจ้าอาวาสทางหมู่บ้านไปขอจากที่อื่นมาเพราะขาดแคลนกลัววัดร้าง และเณร 3 คนก็ไปรับจากประเทศลาวมาเพื่อมาจำอยู่วัด เพื่อแบ่งเบาดูแลวัด ผมก็พระสงฆ์ป้ายแดง วัดที่บ้านมีครบหมด wi-fi พร้อมแต่วัด 2 วัดนี้แตกต่งกันอย่างสิ้นเชิงวัดบ้านผมไม่มีทำวัตร เช้าเย็น เณรกินข้าวหลังเที่ยงได้ และไม่มีพระสายปฎิบัติเลย มีแต่พระสายพัฒนา หาเงินเข้าวัดทำโน้นทำนี้ กลับไม่มีพระที่สั่งสอนชาวบ้าน ซึ่งเอาประเด็นที่ว่า พระที่จะน้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้า พระอาจารย์ที่สามารถตอบคำถามคาใจให้กระจ่าย กลับหายากอีกแล้ว และวัดอีกไม่นานก็จะร้างไปหลายวัด เช่นเดียวกับโรงเรียนในชนบท สาเหตุอาจเป็นเพราะความเจริญทางด้านวัตถุ และสังคมในปัจจุบันทำให้คนหลงไปกับกิเลศ ซึ่งผมก็เช่นกัน ผมไม่แปลกใจเลยที่จะมีข่าวแย่ๆกับพระที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม
ผมไปบวชมา ครับ
เนื่องด้วยอายุครบ 25 เบญจเพศ คนไทยมีความเชื่อว่าจะปีที่จะมีเคราะห์ใหญ่ต้องบวชสะเดาะเคราะห์ หรือบ้างภาคอย่าเช่นภาคอีสาน ฝ่ายชายก่อนจะมาสู่ขอฝ่ายหญิง ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องถามว่าบวช (บวชก่อนเบียด) เพื่อ(ทดแทนบุญคุณพ่อแม่) ไม่งั้นจะไม่ยอมให้แต่ง ให้สังเกตุว่าพิธีบวชทางอิสานจะจัดการอลังการมากๆ 7 วัน 7 คืน ส่วนผมคือออกงาน เป็นโอกาสดีที่จะบวชให้แม่ เพราะถ้าไม่บวชมนรู้สึกค้างคาใจ และบังเอิญว่ามีเพื่อนผมลางาน 15 วันมาบวชเช่นกันผมจึงแอบอาศัยฤกษ์ตามเพื่อน โดยเพื่อนเลือกวัดสายปฎิบัติผมก็เอ่ออ่อห้อหมกไปด้วย ซึ่งการบวชจะต้องไปเป็นเด็กวันประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อไปหัดท่องบวชสวดและช่วยเก็บของออกบาตรพระเวลาบิณฑบาต เข้าเรื่องประเด็นครับการบวช
พระมีอยู่ 2 อย่างตามความเข้าใจผม คือ
1.การบวชเป็นสามเณร ไม่ต่ำกว่า 7 ปี- 19 ปี
2.การบวชเป็นพระสงฆ์ 20+
การบวชมีหลายอย่าง ดังคำโบราณว่า บวชเล่น บวชลอง บวชครองประเพณี บวชหนีทหาร บวชผลาญข้าวสุก บวชสนุกตามเพื่อน บวชเปื้อนศาสนา บวชฆ่ากิเลส บวชเพื่อเป็นเปรตในอบายภูมิ บวชรอไปขุมนรก
พระเณรก็คือลูกชาวบ้าน ผัวชาวบ้าน และอาจเป็นเมียของผัวชาวบ้าน
ลูกขี้เกียจสันหลังยาว เอาไปบวช
ลูกติดยา เอาไปบวช
ลูกตายเสีย เมียตายจาก ไปบวช
อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน ไปบวช
ไม่มีงานทำ ไปบวช
อยากรวยบ้าง ไปบวช
อยากดัง ไปบวช
เมียทิ้ง ไปบวช
ไม่มีคนเลี้ยงดู ไปบวช
พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเสียให้เรียน ไปบวช
สังคมรังเกียจ ไปบวช
รังเกียจสังคม ไปบวช
ลูกกำพร้าพ่อแม่ ไปบวช
ทะเลาะกัน ไปบวช
หนีหนี้ ไปบวช
หนีตำรวจ ไปบวช
อยากบวช ไปบวช
เห็นทุกข์ ไปบวช
เบื่อหน่าย ไปบวช
จะเห็นว่า เกือบครอบคลุมเหตุผลของการบวชเป็นพระเป็นเณร แทบทุกประเด็นแล้ว
ประเด็นคือผม ไม่มีงานทำ ไปบวช,บวชครองประเพณี
จากไหนผมก็ได้บวชโดยตั้งใจบวช 2 เดือนเพราะว่าเดือนที่ 3 ผมต้องไปรับปริญา ตอนผมเป็นเด็กวัดผมมั่นใจแน่นแท้ว่าอยู่วัดต้องน่าเบื่อแน่ผมจึงขนหนังสือที่สือมาแล้วไม่ได้อ่าน ทั้งวาไรตี้ พัฒนาตัวเอง การตูน แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้จริงๆ ไม่เกิน 3 วันผมอ่านหนังสือที่ขนจากบ้านมาอ่านหมดอย่างรวดเร็ว มือถือเราใช้โนเกียเล่นเนตไม่ได้ ไม่มีใครโทรมาเป็นปกติอยู่แล้ว แทบไม่มีความหมายแต่พกไว้ตั้งปลุกนาฬิกา และแม่อาจจะโทรมาถามเรื่องพิธีบวช เพราะตอนนั้นยังไม่ได้บวช หลังจากบวชเสร็จ ผมบวชที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน เป็นวัดใหญ่และมีชื่อเสียง กิจวัตรผมไม่ข้อพูดถึงครับ ก็เช้านั่งสมาธิและมาทำวัตร เดินบิณฑบาต ฉัตร กวาดวัด บ่ายปฎิบัติด้วยตัวเอง ช่วงเย็นทำวัตร 18.00-21.00 กรรมฐาน 9 วัน วันหลังๆผมสมาธิดีมาก ผมแทบไม่คิดถึงโลกภายนอกเลย เฟสบุ๊คที่เคยติด กลับไม่คิดถึงมันเลย
แต่สิ่งที่ผมแปลกใจ
ผมดูสถิติพระ บวชเณรจาก พ.ศ. 2530 - 2555 เณรบวชน้อยลงมาก ขนาดวัดใหญ่ ส่วนพระสงฆ์กลับเท่าเดิมคงที่
หลังจกาบวชได้สัก อาทิตย์ก็ได้คลุกคลีกับพระฆงฆ์ โดนผมเข้าใจว่า ทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนไป วัดคือ แหล่งคนจอนจัดหาขอข้าวกิน,แหล่งคนมีรวยมาบริจาคปัจจัย,แหล่งเด็กเกเรที่โรงเรียนเอาไม่อยู่ให้มาบวช,คนมีอดีต ติดงาน ต้องคดี ติดเหล้า โดยญาติให้มาเป็นเด็กวัด,สถานชราพระที่ไม่มีคนเลี้ยงดู,และผม ขาจรที่แวะเวียนมาบวชตามความเชื่อประเพณีแล้วก็จากไป 9วันบาง 15,1 2 3เดือนว่ากันไป พอครบ 9 วันผมของานไปจำวัดที่บ้าน เพราะแม่อยากใส่บาตรทุกวัน ผมก็ย้ายไปจำวัด ซึ่งเป็นวัดที่ผมเคยบวชภาคฤดูร้อนตอน ป.5 พอกลับไปเจ้าอาวาสคนเดิมมรณะภาพไปแล้ว วัดเจริญขึ้น แต่! เจ้าอาวาสทางหมู่บ้านไปขอจากที่อื่นมาเพราะขาดแคลนกลัววัดร้าง และเณร 3 คนก็ไปรับจากประเทศลาวมาเพื่อมาจำอยู่วัด เพื่อแบ่งเบาดูแลวัด ผมก็พระสงฆ์ป้ายแดง วัดที่บ้านมีครบหมด wi-fi พร้อมแต่วัด 2 วัดนี้แตกต่งกันอย่างสิ้นเชิงวัดบ้านผมไม่มีทำวัตร เช้าเย็น เณรกินข้าวหลังเที่ยงได้ และไม่มีพระสายปฎิบัติเลย มีแต่พระสายพัฒนา หาเงินเข้าวัดทำโน้นทำนี้ กลับไม่มีพระที่สั่งสอนชาวบ้าน ซึ่งเอาประเด็นที่ว่า พระที่จะน้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้า พระอาจารย์ที่สามารถตอบคำถามคาใจให้กระจ่าย กลับหายากอีกแล้ว และวัดอีกไม่นานก็จะร้างไปหลายวัด เช่นเดียวกับโรงเรียนในชนบท สาเหตุอาจเป็นเพราะความเจริญทางด้านวัตถุ และสังคมในปัจจุบันทำให้คนหลงไปกับกิเลศ ซึ่งผมก็เช่นกัน ผมไม่แปลกใจเลยที่จะมีข่าวแย่ๆกับพระที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม