ชัดเจน
อยู่ดีๆก็มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามเอาลูกเปตอง กับ ประทัดยักษ์ มาแจกโรงพิมพ์ไทยรัฐ กลางดึกคืนวานซืน
เล่นเอากระจกแตกไป 2 บาน
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังงานนี้เป็นผู้มีจิตบกพร่องต้องรีบบำบัดเยียวยา
นอกจากจิตบกพร่อง ข้อมูลยังผิด พลาดอย่างร้ายแรง!!
ดันทะลึ่งเอาลูกเปตองมาแจก “ไทยรัฐ” ทำไม เพราะคนแถวนี้เล่นเปตองไม่เป็น เล่นเป็นแต่หมากฮอสอย่างเดียว
เอาเถอะ เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว “แม่ลูกจันทร์” ไม่มีความโกรธแค้นติดค้างคาใจ
แต่ถ้าตำรวจจับตัวคนทำไม่ได้... ต้องมีเคืองกันบ้างละโยม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอากาศร้อนจัดตลอดปี คนที่อยู่ในประเทศนี้จึงต้องใจเย็นๆ
เรื่องอะไรที่ร้อนๆก็อย่าเร่งความร้อนกันนักเลย
วันนี้สงครามดับเครื่องชนระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับรัฐสภาเริ่มคลายความร้อนลงบ้าง หลังจากปะทะกันหนักๆมาเดือนเต็มๆ
สถานการณ์ล่าสุด...ยังอยู่ในขั้นรอดูท่าที
ยังไม่มีฝ่ายไหนเปิดฉากยิงขีปนาวุธพิสัยไกลถล่มใส่กันจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” มองแง่ดีว่าสงครามช้างชนช้างครั้งนี้จะไม่บานปลายกลายเป็นภัยพิบัติทางการเมือง
เพราะถ้าปะทะกันแตกหักก็บาดเจ็บสาหัสไปด้วยกัน
ข้อสำคัญ
ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เกี่ยวกับข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
มาถึงวันนี้...ทั้งสองฝ่ายก็ยอมถอยกัน 50 เปอร์เซ็นต์
เพียงแต่
แก้ไขให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง
ส่วนสาระสำคัญในมาตรานี้ยังคงไว้เหมือนเดิม!!
สรุปว่าการที่ใครจะกล่าวหาใครว่ามีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
จะ “ต้อง” ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ไม่ใช่ทะรูดทะราดไปยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญทันที
แต่ถ้าภายใน 30 วัน นับจากรับคำร้องแล้ว อัยการสูงสุดยังตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เสร็จ ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
เรื่องของเรื่องก็แค่นี้เอง...ไม่เห็นต้องขัดแย้งอะไรกันมากมาย
ข้อดีก็คือ...อัยการสูงสุดจะเป็นผู้กลั่นกรองคำร้องก่อนส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องไปล้วงลูกรับคำร้องโดยตรงให้วุ่นวายขายปลาช่อนอีกต่อไป
ใครที่จะกล่าวหาใครว่ามีความผิดข้อหาล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นความผิดอุกฤษฏ์โทษ ต้องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยุบพรรคการเมืองจะ
ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่กล่าวหาส่งเดชอย่างที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่า
การกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ
มีบันทึกการประชุม ส.ส.ร.ปี 40 เป็นหลักฐานยืนยัน
คนที่รู้เรื่องดี เช่น
อดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาฯสถาบันพระปกเกล้าฯ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีธรรมศาสตร์ คนปัจจุบัน
พยานปากเอกยังอยู่ครบ ยังไม่มีใครตายซักคนเดียว
ใครเคยพูดเอาไว้อย่างไร มีบันทึกเอาไว้ชัดเป๊ะทุกถ้อยคำ
สรุปชัดๆ อีกครั้งว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องโดยตรง
ถ้าพระคุณท่านยังข้องใจ ก็ไปเปิดบันทึกการประชุม ส.ส.ร.มาอ่านแก้เซ็ง.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/344318
??????????????????????????????????????
".....แก้ไขให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนสาระสำคัญในมาตรานี้ยังคงไว้เหมือนเดิม!!....."
".....
จะ“ต้อง”ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน....... ไม่ใช่กล่าวหาส่งเดชอย่างที่ผ่านมา......."
".......“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่า
การกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ......คนที่รู้เรื่องดี เช่น อดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาฯสถาบันพระปกเกล้าฯ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีธรรมศาสตร์ คนปัจจุบัน.......
ใครเคยพูดเอาไว้อย่างไร มีบันทึกเอาไว้ชัดเป๊ะทุกถ้อยคำ....."
"......สรุปชัดๆ อีกครั้งว่า
ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องโดยตรง......."
ชัดจนไม่รู้จะชัดอย่างไรอีกแล้ว
ด้านแค่ไหนก็ด้านไป....เพราะสื่อเขาลงข้อมูลหลักฐานประจานไว้แน่นหนาแล้ว
ออกลูก "มึน" อย่างไร
ก็ไม่มีทางทำให้หนังที่คลุมความเป็น "สุนัขจิ้งจอก"
ช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในกลายเป็น "ราชสี" ขึ้นมาได้เลย ไม่ว่าในวันนี้หรือชาติหน้า......
สังคมเขาเห็นและตัดสินไปแล้ว......
แม่ลูกจันบอก"ชัดเจน" กรณีย์ ตลก.ไม่มีอำนาจรับคำร้องโดยตรง...มีบันทึกการประชุม ส.ส.ร.ปี 40 เป็นหลักฐานยืนยัน
อยู่ดีๆก็มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามเอาลูกเปตอง กับ ประทัดยักษ์ มาแจกโรงพิมพ์ไทยรัฐ กลางดึกคืนวานซืน
เล่นเอากระจกแตกไป 2 บาน
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังงานนี้เป็นผู้มีจิตบกพร่องต้องรีบบำบัดเยียวยา
นอกจากจิตบกพร่อง ข้อมูลยังผิด พลาดอย่างร้ายแรง!!
ดันทะลึ่งเอาลูกเปตองมาแจก “ไทยรัฐ” ทำไม เพราะคนแถวนี้เล่นเปตองไม่เป็น เล่นเป็นแต่หมากฮอสอย่างเดียว
เอาเถอะ เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว “แม่ลูกจันทร์” ไม่มีความโกรธแค้นติดค้างคาใจ
แต่ถ้าตำรวจจับตัวคนทำไม่ได้... ต้องมีเคืองกันบ้างละโยม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอากาศร้อนจัดตลอดปี คนที่อยู่ในประเทศนี้จึงต้องใจเย็นๆ
เรื่องอะไรที่ร้อนๆก็อย่าเร่งความร้อนกันนักเลย
วันนี้สงครามดับเครื่องชนระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับรัฐสภาเริ่มคลายความร้อนลงบ้าง หลังจากปะทะกันหนักๆมาเดือนเต็มๆ
สถานการณ์ล่าสุด...ยังอยู่ในขั้นรอดูท่าที
ยังไม่มีฝ่ายไหนเปิดฉากยิงขีปนาวุธพิสัยไกลถล่มใส่กันจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” มองแง่ดีว่าสงครามช้างชนช้างครั้งนี้จะไม่บานปลายกลายเป็นภัยพิบัติทางการเมือง
เพราะถ้าปะทะกันแตกหักก็บาดเจ็บสาหัสไปด้วยกัน
ข้อสำคัญ ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เกี่ยวกับข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
มาถึงวันนี้...ทั้งสองฝ่ายก็ยอมถอยกัน 50 เปอร์เซ็นต์
เพียงแต่แก้ไขให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง
ส่วนสาระสำคัญในมาตรานี้ยังคงไว้เหมือนเดิม!!
สรุปว่าการที่ใครจะกล่าวหาใครว่ามีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย จะ “ต้อง” ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ไม่ใช่ทะรูดทะราดไปยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญทันที
แต่ถ้าภายใน 30 วัน นับจากรับคำร้องแล้ว อัยการสูงสุดยังตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เสร็จ ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
เรื่องของเรื่องก็แค่นี้เอง...ไม่เห็นต้องขัดแย้งอะไรกันมากมาย
ข้อดีก็คือ...อัยการสูงสุดจะเป็นผู้กลั่นกรองคำร้องก่อนส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องไปล้วงลูกรับคำร้องโดยตรงให้วุ่นวายขายปลาช่อนอีกต่อไป
ใครที่จะกล่าวหาใครว่ามีความผิดข้อหาล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นความผิดอุกฤษฏ์โทษ ต้องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยุบพรรคการเมืองจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่กล่าวหาส่งเดชอย่างที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่าการกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ
มีบันทึกการประชุม ส.ส.ร.ปี 40 เป็นหลักฐานยืนยัน
คนที่รู้เรื่องดี เช่น อดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาฯสถาบันพระปกเกล้าฯ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีธรรมศาสตร์ คนปัจจุบัน
พยานปากเอกยังอยู่ครบ ยังไม่มีใครตายซักคนเดียว
ใครเคยพูดเอาไว้อย่างไร มีบันทึกเอาไว้ชัดเป๊ะทุกถ้อยคำ
สรุปชัดๆ อีกครั้งว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องโดยตรง
ถ้าพระคุณท่านยังข้องใจ ก็ไปเปิดบันทึกการประชุม ส.ส.ร.มาอ่านแก้เซ็ง.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/344318
??????????????????????????????????????
".....แก้ไขให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนสาระสำคัญในมาตรานี้ยังคงไว้เหมือนเดิม!!....."
".....จะ“ต้อง”ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน....... ไม่ใช่กล่าวหาส่งเดชอย่างที่ผ่านมา......."
".......“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่าการกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ......คนที่รู้เรื่องดี เช่น อดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาฯสถาบันพระปกเกล้าฯ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีธรรมศาสตร์ คนปัจจุบัน.......ใครเคยพูดเอาไว้อย่างไร มีบันทึกเอาไว้ชัดเป๊ะทุกถ้อยคำ....."
"......สรุปชัดๆ อีกครั้งว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องโดยตรง......."
ชัดจนไม่รู้จะชัดอย่างไรอีกแล้ว
ด้านแค่ไหนก็ด้านไป....เพราะสื่อเขาลงข้อมูลหลักฐานประจานไว้แน่นหนาแล้ว
ออกลูก "มึน" อย่างไร
ก็ไม่มีทางทำให้หนังที่คลุมความเป็น "สุนัขจิ้งจอก"
ช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในกลายเป็น "ราชสี" ขึ้นมาได้เลย ไม่ว่าในวันนี้หรือชาติหน้า......
สังคมเขาเห็นและตัดสินไปแล้ว......