นี่มิใช่ปัญหาโดยตรงของเรา แต่มีรุ่นน้องมีปัญหาจะขอปรึกษาในห้องศาลาประชาคมค่ะ ขอเอาประโยคที่รุ่นน้องเรียบเรียงมาลงเลยนะค่ะ
***************************************************************
ใครเคยมีประสบการณ์ทวงดอกเงินกู้บ้างคะ?
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า นาง A ทำอาชีพขายข้าวแกง มาขอกู้เงินกับแม่เรา โดยเอารถมาจอดไว้ (ไม่มีเล่มทะเบียน) รวมทั้งหมด 3 คัน ยอดเงิน 250,000 ทำสัญญารัดกุมเสร็จเรียบร้อย มีนาง B เป็นผู้ค้ำประกันโดยใช้โฉนดที่ดินวางค้ำประกัน
เดือนแรกผ่านมา ครบรอบเก็บดอกเบี้ย ทางบ้านชักจะเอ๊ะใจ เพราะโทรไปหานาง A เท่าไหร่ๆก็ไม่เคยรับสาย ไปหาที่ร้านก็ผัดผ่อนล่วงเลยเข้ามาถึงตอนนี้ ทางบ้านจึงหันไปบีบคนค้ำประกัน คือ นาง B แทน
นาง B รีบไปเฝ้านาง A ที่ร้านให้ครึ่งวันค่อนวันทีเดียว ได้เงินดอกเบี้ยแค่ครึ่งเดียวและนัดผัดผ่อนไปอีกแบบไม่มีกำหนด ทางบ้านเลยยื่นคำขาดว่าถ้าจะไถ่รถ ให้เอารถกะบะออกต้อง เอารถตู้ออกไปพร้อมกันด้วย ขอเคลียร์จบเลยดีกว่า ไม่เอาแล้ว รอเงินมาล่ะกันนะจ๊ะ
ผ่านไปอีกวัน...และแล้วก็งานเข้า คนรู้จักของแม่อยู่ในวงการสีเทาๆ คุยสนทนากันไป แม่ก็เฉยๆ...แต่ขากลับแม่พูดขึ้นมาในรถว่า
"รีบกลับ เอารถไปคืนมัน(นาง B)" (ไปบ้านนาง B เดี๋ยวนี้เลย แม่ขับอีกคัน ส่วนเราขับรถของที่เราตามไปรับแม่ขากลับด้วย)
ที่ต้องรีบนำรถไปให้พ้นๆบ้านเพราะเป็นรถขโมยมาค่ะ! โดย A เป็นคนซื้อ(หรืออาจจะรับฝากมา)รถของ B มา แล้วเอาของโจรมาค้ำประกัน!
ทางตำรวจกำลังตามจับนาง B อยู่เลยทีเดียวค่ะ เพราะมีเจ้าทุกข์ชี้ว่ารถมาอยู่ที่นี่ แต่สับรางนำรถมาจำนองกับทางบ้านเราได้ก่อน นาง B หนีตำรวจไปวิปัสสนากับลัทธิจานบิน ตำรวจหาของกลางไม่เจอก็เลยจับไม่ได้
นาง B เห็นรถเจ้าปัญหาทั้งสามคันมาจอดหน้าบ้านตนปุ๊บก็หน้าซีดทันที แม่ก็อ้างว่าที่บ้านไม่มีที่จอด ต้องใช้ที่โกดังวางของ ฝากไว้ที่นี่หน่อยนะ สิ้นคำ นาง A ตัวแสบนั่งสามล้อตามมาถึงที่ทันที ท่าทางร้อนรนสุดๆ A ขอร้องให้แม่ช่วยขับรถไปส่ง (แอบตำรวจ) อีกที่หนึ่งให้ด้วย แล้วจะให้เราขับตามไปรับแม่ที่โน่น
...เรื่องอะไรล่ะจ๊ะ

ขับเองเถิด จัดการแอบกันเองเถิด เรื่องแหย่เข้าตะรางแบบนี้ไม่ขอยุ่ง เพราะพอทราบมาว่าถึงเราจะมีเอกสารการกู้ แต่เราก็หนีไม่พ้นร่างแหไปด้วย ข้อหารับซื้อของโจรด้วย ดังนั้นผลักของร้อนออกไปให้พ้นโดยเร็วเป็นการดีที่สุด
ทีนี้ล่ะ แม่เนื้อหอมขึ้นมาทีเดียว ทั้งผัวทั้งเมียร้อนตัว กระหน่ำโทรมาอธิบายว่าไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าว A ไม่ได้ขโมยรถของใครมา อย่าไปฟังใครพูด ใครพูดแบบนั้นเพราะมันเกลียดพวกเขา(ครอบครัว A คิดว่าเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นคนแจ้งเบาะแสแก่ตำรวจ แต่ที่จริงเป็นเจ้าทของรถที่อยู่ต่างอำเภอกัน) (ตอนนำไปคืนแม่ไม่ได้พูดสักคำว่าของขโมย แต่คนมันร้อนตัว จิตใจไม่สงบ A กลัวว่าแม่เราจะให้การซัดทอดมาถึง A)
โชคดีตรงที่ทางบ้านมีโฉนดที่ดินของนาง B ค้ำประกันไว้ แต่ดูท่าทางว่าเงินต้นจะสูญแล้ว เพราะนาง A ก็ยังนิ่งเฉยเช่นเดิม(คาดว่าเพราะผลักภาระเรื่องรถออกไปแล้ว แถมยังสามารถอ้างได้ว่าของค้ำประกันหลุดไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้คืน)
ส่วนรถยนต์ที่ใช้ค้ำประกันไม่ได้อยู่ในความดูแลของเราค่ะ ให้นาง A กับ B ไปจัดการกันเอง เพราะเราก็ไม่อยากโดนร่างแหรับซื้อของโจร ถ้าตำรวจมาเห็นว่ารถขโมยทั้ง 3 คันมาอยู่ในบ้านเรา
กรณีแบบนี้จะสามารถจัดการอย่างไรได้บ้างคะ เพราะไม่อยากได้โฉนด แต่อยากได้เงินคืนมากกว่า ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรดีคะ
ใครเคยมีประสบการณ์ทวงดอกเงินกู้บ้างคะ? โดนลูกหนี้รถขโมยมาใช้เป็นค้ำประกัน และมีแววจะเบี้ยวหนี้
***************************************************************
ใครเคยมีประสบการณ์ทวงดอกเงินกู้บ้างคะ?
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า นาง A ทำอาชีพขายข้าวแกง มาขอกู้เงินกับแม่เรา โดยเอารถมาจอดไว้ (ไม่มีเล่มทะเบียน) รวมทั้งหมด 3 คัน ยอดเงิน 250,000 ทำสัญญารัดกุมเสร็จเรียบร้อย มีนาง B เป็นผู้ค้ำประกันโดยใช้โฉนดที่ดินวางค้ำประกัน
เดือนแรกผ่านมา ครบรอบเก็บดอกเบี้ย ทางบ้านชักจะเอ๊ะใจ เพราะโทรไปหานาง A เท่าไหร่ๆก็ไม่เคยรับสาย ไปหาที่ร้านก็ผัดผ่อนล่วงเลยเข้ามาถึงตอนนี้ ทางบ้านจึงหันไปบีบคนค้ำประกัน คือ นาง B แทน
นาง B รีบไปเฝ้านาง A ที่ร้านให้ครึ่งวันค่อนวันทีเดียว ได้เงินดอกเบี้ยแค่ครึ่งเดียวและนัดผัดผ่อนไปอีกแบบไม่มีกำหนด ทางบ้านเลยยื่นคำขาดว่าถ้าจะไถ่รถ ให้เอารถกะบะออกต้อง เอารถตู้ออกไปพร้อมกันด้วย ขอเคลียร์จบเลยดีกว่า ไม่เอาแล้ว รอเงินมาล่ะกันนะจ๊ะ
ผ่านไปอีกวัน...และแล้วก็งานเข้า คนรู้จักของแม่อยู่ในวงการสีเทาๆ คุยสนทนากันไป แม่ก็เฉยๆ...แต่ขากลับแม่พูดขึ้นมาในรถว่า
"รีบกลับ เอารถไปคืนมัน(นาง B)" (ไปบ้านนาง B เดี๋ยวนี้เลย แม่ขับอีกคัน ส่วนเราขับรถของที่เราตามไปรับแม่ขากลับด้วย)
ที่ต้องรีบนำรถไปให้พ้นๆบ้านเพราะเป็นรถขโมยมาค่ะ! โดย A เป็นคนซื้อ(หรืออาจจะรับฝากมา)รถของ B มา แล้วเอาของโจรมาค้ำประกัน!
ทางตำรวจกำลังตามจับนาง B อยู่เลยทีเดียวค่ะ เพราะมีเจ้าทุกข์ชี้ว่ารถมาอยู่ที่นี่ แต่สับรางนำรถมาจำนองกับทางบ้านเราได้ก่อน นาง B หนีตำรวจไปวิปัสสนากับลัทธิจานบิน ตำรวจหาของกลางไม่เจอก็เลยจับไม่ได้
นาง B เห็นรถเจ้าปัญหาทั้งสามคันมาจอดหน้าบ้านตนปุ๊บก็หน้าซีดทันที แม่ก็อ้างว่าที่บ้านไม่มีที่จอด ต้องใช้ที่โกดังวางของ ฝากไว้ที่นี่หน่อยนะ สิ้นคำ นาง A ตัวแสบนั่งสามล้อตามมาถึงที่ทันที ท่าทางร้อนรนสุดๆ A ขอร้องให้แม่ช่วยขับรถไปส่ง (แอบตำรวจ) อีกที่หนึ่งให้ด้วย แล้วจะให้เราขับตามไปรับแม่ที่โน่น
...เรื่องอะไรล่ะจ๊ะ
ทีนี้ล่ะ แม่เนื้อหอมขึ้นมาทีเดียว ทั้งผัวทั้งเมียร้อนตัว กระหน่ำโทรมาอธิบายว่าไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าว A ไม่ได้ขโมยรถของใครมา อย่าไปฟังใครพูด ใครพูดแบบนั้นเพราะมันเกลียดพวกเขา(ครอบครัว A คิดว่าเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นคนแจ้งเบาะแสแก่ตำรวจ แต่ที่จริงเป็นเจ้าทของรถที่อยู่ต่างอำเภอกัน) (ตอนนำไปคืนแม่ไม่ได้พูดสักคำว่าของขโมย แต่คนมันร้อนตัว จิตใจไม่สงบ A กลัวว่าแม่เราจะให้การซัดทอดมาถึง A)
โชคดีตรงที่ทางบ้านมีโฉนดที่ดินของนาง B ค้ำประกันไว้ แต่ดูท่าทางว่าเงินต้นจะสูญแล้ว เพราะนาง A ก็ยังนิ่งเฉยเช่นเดิม(คาดว่าเพราะผลักภาระเรื่องรถออกไปแล้ว แถมยังสามารถอ้างได้ว่าของค้ำประกันหลุดไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้คืน)
ส่วนรถยนต์ที่ใช้ค้ำประกันไม่ได้อยู่ในความดูแลของเราค่ะ ให้นาง A กับ B ไปจัดการกันเอง เพราะเราก็ไม่อยากโดนร่างแหรับซื้อของโจร ถ้าตำรวจมาเห็นว่ารถขโมยทั้ง 3 คันมาอยู่ในบ้านเรา
กรณีแบบนี้จะสามารถจัดการอย่างไรได้บ้างคะ เพราะไม่อยากได้โฉนด แต่อยากได้เงินคืนมากกว่า ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรดีคะ