สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าปูกระเบื้องเซรามิคทั่วไปของตราเวเบอร์(ชาวบ้านเรียก"ตุ๊กแก")
นิยมใช้ตัว เวเบอร์.ไทล์ ฟิกซ์ ราคาขายประมาณ 160-180 บาท
ถ้าเป็นตราจระเข้ นิยมใช้ตัว "จระเข้เขียว" ราคาขายประมาณ 130-150 บาท
ทั้งคู่เหมาะกับงานพื้นและผนังภายในอาคาร
ส่วนราคาที่คุณว่าเค้าขายถุงละ 600 บาทนั้น น่าจะเป็นตัว"จระเข้ทอง หรือ จระเข้แพลทินัม" มากกว่า
เพราะมันมีคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมาคือ
1.มันสามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้เลย โดยที่เราไม่ต้องให้ช่างสกัดกระเบื้องเดิมออกให้เสียเวลา
2.ใช้ได้ดีกับงานภายนอกอาคาร ทนทานทุกสภาพอากาศ ปูบนพื้นผิวคอนกรีต แผ่นยิปซั่ม พื้นไม้ปาเก้ได้
ถ้าเป็นตราเวเบอร์ ก็เป็นตัว"เวเบอร์.ไทล์ เฟล็กซ์"
เพราะฉะนั้นเวลาซื้อก็ดูจุดประสงค์ของเราว่าจะซื้อปูกระเบื้องเซรามิคธรรมดา หรือ เอาไปปูทับกระเบื้องเดิม
ด้านคุณภาพไม่ต่างกันมากหรอกเพราะได้มาตรฐานเหมือนกัน (แต่ราคาต่างกันนะ)
จากประสบการณ์ที่ขายมาทั้งสองตรานั้น จะขายเวเบอร์ได้มากกว่า(ทั้งที่ราคาแพงกว่า) เพราะ
1.เวเบอร์มีการโฆษณาทางทีวีวิทยุมากกว่าจระเข้ โอกาสการรับรู้แบรนด์มีมากกว่า
สังเกตุจากถ้าเป็นลูกค้าชาวบ้านมาถึงก็สั่งตุ๊กแกเลย ถามว่าทำไมถึงซื้อแต่ตุ๊กแก ลูกค้าจะตอบว่า
"ก็ไม่รู้ช่างให้มาซื้อยี่ห้อนี้ ช่างใช้มานานแล้ว และมันออกทีวีด้วย"
"ก็เห็นโฆษณาว่าเหนียวเหมือนตุ๊กแกไม่รั่ว ไม่หลุด ไม่ดำ เลยอยากลองใช้"
"แล้วมีตราอื่นด้วยเหรอ? ไม่เห็นในโฆษณาเลย มันดีเหมือนกันไหม? ทำไมราคาต่างกันเยอะจัง เอาตัวแพงนี่แหล่ะถึงจะดี ของถูกไม่ดีหรอก"
แน๊!! ว่างั้นไปอีก เราเลยลองคิดดูเล่นๆว่า ถ้าเกิดเราขายจระเข้แพงกว่าตุ๊กแก 10 บาท แล้วบอกว่ามันดีกว่าอย่างงั้นอย่างงี้ ลูกค้าที่ไม่รู้เรื่องในตัวสินค้าเลยก็คงจะซื้อตามเพราะคิดเอาเองว่ามันแพงกว่า คงจะดีกว่ามั๊ง
2.บรรจุภัณฑ์ หรือก็คือ "ถุง" นั่นเองค่ะ
ถุงของเวเบอร์มีสีสด เหลือง แดง ดำ เข้ากันดี และการจัดวางรูปภาพตัวหนังสือดูทันสมัยน่าซื้อ
ในขณะที่ถุงของจระเข้ สีพื้นมากๆ ไม่ค่อยหวือหวาดึงดูดใจ
มีจริงๆนะคะลูกค้าที่มาซื้อกาวซีเมนต์แล้วมองถุงและก็ชี้เอาอันนี้แหล่ะ "ถุงสวยดี" หืมมม เราก็ถามลูกค้าว่ารู้จักแบรนด์นี้ไหม เธอตอบว่าไม่รู้ค่ะ ไม่เคยใช้ ก็คุณบอกว่าดีทั้งสองยี่ห้อ งั้นก็เอาอันถุงสวยๆนี้แหล่ะ ดูมืออาชีพดี (ไอ้เราก็เออวุ้ย ถุงมันสวยกว่าจริงๆ)
3.ช่างปูกระเบื้อง
แถวต่างจังหวัด ช่างชาวบ้านจะติดตุ๊กแกมาก โดยเฉพาะช่างรุ่นเก่าๆ มีความเชื่อเดิมๆว่า ตราตุ๊กแกมันเหนียวมาก เหนียวกว่าตราอื่น แต่ถ้าเป็นช่างรุ่นใหม่ๆ หรือ ช่างที่มาจากกรุงเทพ เค้าจะเลือกใช้ตราจระเข้กันเพราะว่า ราคาถูกกว่า คุณภาพและคุณสมบัติก็ไม่ต่างกันมากและเป็นที่ยอมรับเหมือนๆกัน
พิมพ์มาซะยาว สรุปง่ายๆ คือ อยากให้หาข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้าและคุณสมบัติของสินค้ากันก่อน บวกกับจุดประสงค์ในการใช้งานของเรา แล้วค่อยไปซื้อจะได้ไม่โดนหลอกขายค่ะ เพราะบางคนไปซื้อแบบไม่รู้จริงๆ หวังพึ่งคนขาย ประกอบกับคนขายตอนนั้นอยากรีบระบายของออกเพราะมันอยู่มานานแล้วไม่มีคนซื้อซะที ก็เชียร์ขายให้ซื้อถุงละ 600 บาทมา แล้วบอกว่ามันดีกว่า เหนียวกว่า ทนกว่าถุงละร้อยกว่าบาท ก็จริงของเค้านะคะ แต่! คุณจะซื้อมาแค่ปูกระเบื้องเซรามิคแผ่น 30x30 ธรรมดาภายในบ้าน ถุงละร้อยกว่าบาทก็เอาอยู่แล้วค่ะ สำหรับการใช้งานแบบนี้ จะจ่ายแพงกว่าทำไมกันคะ?
นิยมใช้ตัว เวเบอร์.ไทล์ ฟิกซ์ ราคาขายประมาณ 160-180 บาท
ถ้าเป็นตราจระเข้ นิยมใช้ตัว "จระเข้เขียว" ราคาขายประมาณ 130-150 บาท
ทั้งคู่เหมาะกับงานพื้นและผนังภายในอาคาร
ส่วนราคาที่คุณว่าเค้าขายถุงละ 600 บาทนั้น น่าจะเป็นตัว"จระเข้ทอง หรือ จระเข้แพลทินัม" มากกว่า
เพราะมันมีคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมาคือ
1.มันสามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้เลย โดยที่เราไม่ต้องให้ช่างสกัดกระเบื้องเดิมออกให้เสียเวลา
2.ใช้ได้ดีกับงานภายนอกอาคาร ทนทานทุกสภาพอากาศ ปูบนพื้นผิวคอนกรีต แผ่นยิปซั่ม พื้นไม้ปาเก้ได้
ถ้าเป็นตราเวเบอร์ ก็เป็นตัว"เวเบอร์.ไทล์ เฟล็กซ์"
เพราะฉะนั้นเวลาซื้อก็ดูจุดประสงค์ของเราว่าจะซื้อปูกระเบื้องเซรามิคธรรมดา หรือ เอาไปปูทับกระเบื้องเดิม
ด้านคุณภาพไม่ต่างกันมากหรอกเพราะได้มาตรฐานเหมือนกัน (แต่ราคาต่างกันนะ)
จากประสบการณ์ที่ขายมาทั้งสองตรานั้น จะขายเวเบอร์ได้มากกว่า(ทั้งที่ราคาแพงกว่า) เพราะ
1.เวเบอร์มีการโฆษณาทางทีวีวิทยุมากกว่าจระเข้ โอกาสการรับรู้แบรนด์มีมากกว่า
สังเกตุจากถ้าเป็นลูกค้าชาวบ้านมาถึงก็สั่งตุ๊กแกเลย ถามว่าทำไมถึงซื้อแต่ตุ๊กแก ลูกค้าจะตอบว่า
"ก็ไม่รู้ช่างให้มาซื้อยี่ห้อนี้ ช่างใช้มานานแล้ว และมันออกทีวีด้วย"
"ก็เห็นโฆษณาว่าเหนียวเหมือนตุ๊กแกไม่รั่ว ไม่หลุด ไม่ดำ เลยอยากลองใช้"
"แล้วมีตราอื่นด้วยเหรอ? ไม่เห็นในโฆษณาเลย มันดีเหมือนกันไหม? ทำไมราคาต่างกันเยอะจัง เอาตัวแพงนี่แหล่ะถึงจะดี ของถูกไม่ดีหรอก"
แน๊!! ว่างั้นไปอีก เราเลยลองคิดดูเล่นๆว่า ถ้าเกิดเราขายจระเข้แพงกว่าตุ๊กแก 10 บาท แล้วบอกว่ามันดีกว่าอย่างงั้นอย่างงี้ ลูกค้าที่ไม่รู้เรื่องในตัวสินค้าเลยก็คงจะซื้อตามเพราะคิดเอาเองว่ามันแพงกว่า คงจะดีกว่ามั๊ง
2.บรรจุภัณฑ์ หรือก็คือ "ถุง" นั่นเองค่ะ
ถุงของเวเบอร์มีสีสด เหลือง แดง ดำ เข้ากันดี และการจัดวางรูปภาพตัวหนังสือดูทันสมัยน่าซื้อ
ในขณะที่ถุงของจระเข้ สีพื้นมากๆ ไม่ค่อยหวือหวาดึงดูดใจ
มีจริงๆนะคะลูกค้าที่มาซื้อกาวซีเมนต์แล้วมองถุงและก็ชี้เอาอันนี้แหล่ะ "ถุงสวยดี" หืมมม เราก็ถามลูกค้าว่ารู้จักแบรนด์นี้ไหม เธอตอบว่าไม่รู้ค่ะ ไม่เคยใช้ ก็คุณบอกว่าดีทั้งสองยี่ห้อ งั้นก็เอาอันถุงสวยๆนี้แหล่ะ ดูมืออาชีพดี (ไอ้เราก็เออวุ้ย ถุงมันสวยกว่าจริงๆ)
3.ช่างปูกระเบื้อง
แถวต่างจังหวัด ช่างชาวบ้านจะติดตุ๊กแกมาก โดยเฉพาะช่างรุ่นเก่าๆ มีความเชื่อเดิมๆว่า ตราตุ๊กแกมันเหนียวมาก เหนียวกว่าตราอื่น แต่ถ้าเป็นช่างรุ่นใหม่ๆ หรือ ช่างที่มาจากกรุงเทพ เค้าจะเลือกใช้ตราจระเข้กันเพราะว่า ราคาถูกกว่า คุณภาพและคุณสมบัติก็ไม่ต่างกันมากและเป็นที่ยอมรับเหมือนๆกัน
พิมพ์มาซะยาว สรุปง่ายๆ คือ อยากให้หาข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้าและคุณสมบัติของสินค้ากันก่อน บวกกับจุดประสงค์ในการใช้งานของเรา แล้วค่อยไปซื้อจะได้ไม่โดนหลอกขายค่ะ เพราะบางคนไปซื้อแบบไม่รู้จริงๆ หวังพึ่งคนขาย ประกอบกับคนขายตอนนั้นอยากรีบระบายของออกเพราะมันอยู่มานานแล้วไม่มีคนซื้อซะที ก็เชียร์ขายให้ซื้อถุงละ 600 บาทมา แล้วบอกว่ามันดีกว่า เหนียวกว่า ทนกว่าถุงละร้อยกว่าบาท ก็จริงของเค้านะคะ แต่! คุณจะซื้อมาแค่ปูกระเบื้องเซรามิคแผ่น 30x30 ธรรมดาภายในบ้าน ถุงละร้อยกว่าบาทก็เอาอยู่แล้วค่ะ สำหรับการใช้งานแบบนี้ จะจ่ายแพงกว่าทำไมกันคะ?
แสดงความคิดเห็น
ปูนกาวตราจระเข้ต่างกับยี่ห้ออื่นเช่น เวเบอร์ หรือตราเสือยังไง ทำไมถุงนึงตั้งหกร้อยบาท
ปล.ขนาด 20 kg เท่ากันหมด