กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้มากล่าวหา หรือเอาเรื่อง เพราะถ้าเอาเรื่องมันคงจะไม่จบตั้งแต่ในร้านแล้วครับ
แต่อยากให้เจ้าของกิจการตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าและผู้บริโภคมากกว่าที่เป็นอยู่
เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันคุณก็คงได้แค่แสดงความเสียใจ หรือจ่ายเงินชดเชย
แต่ผมว่าอย่าให้มันเกิดขึ้นแต่แรกเลยจะดีกว่าครับ
ชีวิตคนไม่ใช่ของถูกๆ ที่จะมาโดนเศษแก้วบาดคอตายในร้านอาหารได้แบบนั้น
และถือเป็นการเตือนภัยให้กับทุกคน ที่จะได้ระวังตนเอง เพราะความประมาทหรือสะเพร่าของทางร้าน
อาจนำมาซึ่งการบาดเจ็บหรือสูญเสียคนที่คุณรักได้
ผมไปธุระที่ห้างนี้กับพี่ๆรวม 3 คนครับ และได้เข้าร้านนี้ไปสั่งอาหารทานในร้าน
รวมถึงสั่งน้ำเปล่า1ขวด น้ำแข็งเปล่า3แก้ว
น้ำแข็งเปล่ามาเสริฟ 3 แก้ว อาหารทยอยมาเสริฟ ทุกอย่างก็ยังเป็นปกติครับ
ผมเปิดขวดน้ำเปล่ารินใส่แก้ว 3 แก้ว ก็นั่งกินข้าวไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปอาหารอัพเฟสไปเรื่อย
ระหว่างนั้นผมก็ดูดน้ำในแก้วด้วยหลอดไปหลายครั้ง ยังไม่เจออะไรครับ เหมือนปกติทุกครั้งที่ไปกินข้าวตามร้าน
จนผมกินข้าวหมด และหิวน้ำเพราะมันเผ็ด ก็หยิบแก้วขึ้นมาดูด
ดูดจนใกล้หมดแก้ว รู้สึกว่ามีบางอย่าง ไหลออกมาจากหลอดกระทบลิ้นครับ
ผมอมมันไว้และเอาลิ้นดันให้มันชนกับเพดานปาก ระหว่างนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ยังคงกลืนน้ำไปด้วย
ความรู้สึกแรกคือ มันเป็นเศษอะไรสักอย่าง ผมนึกถึงไอสลักรัดจุกขวดน้ำโพลาลิสถูกๆ
ที่เวลาเราจะกินต้องดึงมันออกก่อน แต่มันเล็กๆไม่ยาวขนาดนั้นนะครับ
ผมยังคิดในใจว่าร้านแบบนี้ มีเศษอะไรสกปรกติดมาด้วยหว่ะ
เศษที่ผมเจอมันไม่มีความเย็น ผมเลยมั่นใจว่าไม่ใช่น้ำแข็ง
ผมทำเสียงหือๆ ให้พี่ทั้ง2คนได้ยิน จนเค้าหยุดคุยกันแล้วหันมาถามว่าเป็นอะไร
ตอนนั้นผมกินข้าวหมดจานแล้ว เลย

มันออกมาใส่จานครับ แล้วมันก็กระดอนไปลงถ้วยน้ำจิ้มทอดมันกุ้ง
สิ่งที่ทุกคนเห็นบนโต๊ะเห็นมันคือเศษแก้วครับ ทรงรีๆและแหลมยาวเกือบ1เซนติเมตร
ด้วยความตกใจ ผมบอกทุกคนในโต๊ะว่ามันอยู่ในแก้วน้ำที่เพิ่งดูดเข้าไป
แก้วไม่ได้แตกหรือมีรอยร้าวนะครับ และขวดน้ำดื่มก็ซีลพลาสติกมา
ผมเดาว่ามันปนมากับน้ำแข็งครับ
ทางพี่ๆผมจึงเรียกพนักงานเสริฟแถวนั้นมา แล้วบอกว่ามันมีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ
คายออกมาอยู่ในถ้วยน้ำจิ้มแล้วก็ชี้ไปที่ถ้วยน้ำจิ้มนั้น
เด็กเสริฟก็รีบหยิบถ้วยนั้นไปครับ แต่แทนที่จะเอาไปแจ้งผู้จัดการหรืออะไร
ดันถือไปวางบนเคานเตอร์ ด้านหลังที่มีประตูเปิดเข้าไปครับ
ตอนนั้นผมบอกกับพี่ว่า อ้าว มันหยิบไปแล้วอ่ะ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลย
พี่อีกคนเห็นเด็กเสริฟรีบหยิบเศษแก้วออก แล้วโยนหายลงไปในลังที่วางแก้วใช้แล้ว
ลังนั่นอยู่ข้างๆเครื่องคีย์อาหารครับ
สักพักเด็กเสริฟอีกคนก็เดินหยิบถ้วยใส่น้ำจิ้มทอดมันอันใหม่มาให้ครับ
เราก็งงกันว่า พวกผมบอกคุณว่ามันเกิดเหตุอะไรขึ้น
ไม่ได้บอกให้คุณมาเปลี่ยนน้ำจิ้มอันใหม่ให้
ไม่รู้ว่าเค้าโม่ฉลาดหรือแกล้งไม่รู้เรื่องจริงๆครับ
เราจึงได้แจ้งกับพนักงานที่ใส่สูทที่ยืนแถวนั้นอีกคน คิดว่าคงเป็นหัวหน้า
แล้วก็บอกเหมือนตอนแรกครับ ว่ามีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ คายออกมาจนกระเด็นลงถ้วย และเด็กเสิฟก็หยิบไปเก็บแล้ว
เค้าตอบอะไรกับมารู้ไหมครับ ?
เค้าบอกว่าน้ำแข็งของเราผลิตเองนะค่ะ ไม่ได้จ้างที่อื่น
งงไหมครับ ว่ามันเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เราพยายามบอกเค้าไป
พี่อีกคนเลยบอกว่า มันมีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำที่กิน และเด็กเสริฟก็หยิบออกไปโยนไว้ในลังแก้วใช้แล้ว
เค้าก็พยายามดีครับ เดินไปชะเง้อดูให้ 2 ที
แล้วก็ไม่เห็นทำท่าตกใจอะไรกัน ไม่มีการขอโทษ ไม่มีการถามว่าใครเป็นอะไรไหม
ทำเหมือนวัฒนธรรมการกินเศษแก้วหลังอาหารในประเทศเราเป็นเรื่องปกติ
ผมเดาว่าทางร้านไม่ได้เทรนมาครับ ว่าถ้าเกิดเหตุอะไรอย่างนี้ๆ ควรให้พนักงานทำอะไรเป็นอย่างแรก
ผมว่า 1 เลยนะ คุณควรขอโทษลูกค้าก่อน ซึ่งเด็กเสริฟไม่ได้ทำ คนใส่สูทก็ไม่ได้ทำ
และ 2 ถ้าคุณแก้ปัญหาหรือตัดสินใจเองไม่ได้ คุณควรเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ๆมีความรับผิดชอบ
หรือมีวุฒิภาวะมากกว่าคุณให้เข้ามาดูแทน
ช่วงนั้นโต๊ะอื่นก็มองกันมาครับ แต่เค้าคงไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน
ระหว่างนั้นผมไม่กล้ากลืนน้ำลายเพราะไม่รู้ว่ามันจะมีเศษอันอื่นที่เล็กกว่านั้นยังหลงเหลืออยู่ในปากรึป่าว
ก็

น้ำลายใส่ทิชชู่ไปเรื่อยๆ ดูพนักงานไม่ได้สนใจอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
เราจึงลงความเห็นว่าเดินออกไปเช็คบิล และแจ้งผู้จัดการร้านที่เคานเตอร์
ตอนจ่ายเงินผมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะพี่บอกให้ไปบ้วนปากที่ห้องน้ำ เผื่อมันมีเศษอื่นติดอยู่
มีหรือไม่มีผมก็ไม่รู้นะครับ แต่เป็นใครเจอแบบนี้ก็ต้องกลัวไว้ก่อน
ตอนจ่ายตังค์ พี่ก็ได้แจ้งผู้จัดการร้านไปครับ ตามที่บอกไปตอนต้น
และบอกว่าไม่มีพนักงานคนไหนสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และยังมีการนำเศษแก้วไปทิ้ง
ผู้จัดการก็ทำหน้าตกใจ ตามที่พี่เค้าเล่าให้ฟังภายหลังนะครับ
เพราะตอนนั้นคนยืนรอจ่ายตังค์กันเยอะ และเสียงก็เริ่มดัง
และผู้จัดการก็ได้ขอโทษและถามทางเราว่า พนักงานคนไหนบ้าง พี่เค้าก็ชี้ไป พนักงานที่ยืนอยู่ก็ทำหน้าเสียครับ
พี่อีกคนก็บอกว่า นี่ถ้าเหตุเกิดในร้านอาหารโรงแรมคงโดนกันทั้งแผนกแล้ว
เค้าก็บอกจะเรียกพนักงานมากล่าวตักเตือนให้ต่อหน้ามั้งครับ
แต่พี่ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร แค่นี้ถือว่าทำทาน
ผมมาคิดเอาตอนหลังนะว่าเหตุเกิดขนาดนี้ คุณแสดงความรับผิดชอบแค่เรียกพนักงานมาตักเตือนเหรอครับ
พูดสิครับ ว่าขอเบอร์ติดต่อ หรือจะแจ้งทางสำนักงานใหญ่ให้แล้วติดต่อกลับไป
หรือคุณถือว่า ไม่ได้กินเข้าไป ไม่ตายก็ดีแล้ว เดี๋ยวเตือนเด็กให้ละกันว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้อีก ?
ที่มาโพสนี่ผมไม่ได้มาทำให้ทางร้านคุณเสียหน้า หรือเสียชื่อเสียงนะ
แต่ผมอยากให้คุณปรับปรุง หรือดูแลอุปกรณ์ของคุณให้มันดีกว่านี้
1 ตั้งแต่เด็กเสริฟครับ ผมคิดว่าเค้ารู้ว่าพวกเราบอกว่ามีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ
แต่เค้าคงกลัวโดนหัวหน้า หรือทางร้านด่า จึงได้รีบหยิบถ้วยน้ำจิ้มไปโดยที่เรายังไม่ทันถ่ายรูป
และก็รีบทำหลายหลักฐานทันที เรามีพยานเป็นตัวบุคคลครับ
ทุกคนบนโต๊ะเห็นว่าผม

มันออกมา และผมคงไม่บ้าอมเศษแก้วไว้เพื่อหาเรื่องแลกกับราคาอาหารแค่ 600กว่าหรอก
2 หัวหน้าเด็กเสริฟครับ ผมเห็นคุณใส่สูท จริงๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นระดับหัวหน้ารึป่าวนะ
วุฒิภาวะคุณน่าจะมีมากกว่าพนักงานเสริฟครับ เมื่อคุณทราบเรื่องที่เราแจ้งไปแล้ว
แทนที่คุณจะไปถามลูกน้องคุณว่าเอาเศษแก้วไปทิ้งจริงไหม พบเศษแก้วตามที่เราแจ้งจริงไหม
หรือใส่ใจถามลูกค้าหน่อยว่ามีใครบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไหม
คุณกลับทำปัญญาอ่อน ผมขอใช้คำนี้ละกัน มายืนอธิบายเรื่องร้านผลิตน้ำแข็งเอง
และทำท่าเหมือนไม่เชื่อ เหมือนเราเรื่องมากอะไรสักอย่าง
พอทนรำคานไม่ไหวก็เดินไปชะเง้อดูให้ที่ลังพลาสติกวางแก้วใช้แล้ว2ที
หลังจากนั้นคุณก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเลย จนพวกผมคิดว่าไร้ประโยชน์ที่จะพูดกับคุณ
ถึงได้เดินไปจ่ายตังค์และโวยกับผู้จัดการร้าน
3 แก้วน้ำที่คุณล้างแล้วผมคิดว่าคุณต้องคว่ำมันไว้ ซึ่งไม่น่าจะมีเศษอะไรหล่นลงไปได้
ผมจึงเชื่อว่ามันปนอยู่ในถังน้ำแข็งครับ ผมไม่ได้ขอดูว่าเค้าเก็บกันยังไง
เป็นถังพลาติกมีฝาปิด หรือเป็นตู้เหล็กและมีที่เลื่อนปิดจากด้านบน
มันจะปิดหรือไม่ปิดผมไม่รู้ แต่คงมีคนทำอะไรแตกแล้วเศษมันคงหล่นใส่ถัง
หรือปนมาตั้งแต่กระบวนการผลิตของคุณ
น้ำแข็งคุณเป็นเกล็ดขุ่นๆเหมือนตามร้านสะดวกซื้อ
ถ้าไม่สังเกตุจะไม่มีทางเห็นหรอกครับ ว่ามีสิ่งแปลกปลอมตกอยู่ก้นแก้ว
และมันก็ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า หรือผู้บริโภคเพราะใครจะคิดว่ามีเศษแก้วอยู่ในสิ่งที่คุณเดินเอามาเสริฟครับ
หลายคนบอกผมโชคดีแล้วที่ผมไม่กินเศษแก้วนั่นเข้าไป
หลายคนบอกให้ผมกลับไปเอาเรื่อง ไปแจ้งผู้จัดการ ผมก็บอกว่าพี่แจ้งไปแล้ว
แต่ดูเค้าไม่ค่อยตอบสนองอะไร
อย่างที่บอก ผมอยากให้มีการดูแลความปลอดภัยมากกว่านี้
เพราะเหตุการณ์นี้สามารถเกิดได้กับทุกคนครับ ทุกวันนี้ยังคงมีคนเข้าไปกินอาหารร้านคุณอยู่
ตอนเกิดเรื่องคนอื่นในร้านก็ยังคงนั่งกินอยู่ โดยที่เค้าไม่รู้เลยว่าต้องเสี่ยงกับอะไร
ถ้าผมกลืนลงไป รับรองว่ามันเสียบคอแน่ครับ เพราะลักษณะของเศษแก้วนั้นยาวและแหลม
ผมยังโชคดีที่ยังสังเกตุทัน แต่ถ้าเป็นคนแก่ละ เป็นเด็ก7-8ขวบ ที่พ่อแม่พาไปกิน
แล้วเค้าไม่ทันระวังละ ผมว่าเสียบคอเป็นคำตอบสุดท้ายครับ
ผมเลยไม่ขอเอ่ยชื่อร้านเลยละกัน เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันอาจเป็นอุบัติเหตุ
แต่ถ้ามันเกิดขึ้นในร้านหรือจากการให้บริการของคุณแล้ว คุณต้องดูแลและรับผิดชอบให้มากกว่านี้ครับ
และตั้งแต่นี้ไป ผมไปทานข้าวร้านไหน คงต้องสำรวจตลอดละครับ ว่ามีสิ่งแปลกปลอมจมอยู่ด้านล่างแก้วน้ำรึป่าว
ผมออกจากห้างแล้วไปทำธุระต่อ หลังจากนั้น3ชั่วโมง ไม่รู้ผมอุปทานหรืออะไรนะ
เหมือนกลืนน้ำลายแล้วรู้สึกมีอะไรติดคอ ซื้อขนมปังมากิน และน้ำมาดื่ม
แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างยังคงอยู่ในลำคอครับ
ก็เลยไปหาหมอตรวจเองเพื่อความสบายใจ
ผมมีประกันอุบัติเหตุเลยไม่กังวลกับค่ารักษาครับ
และคิดว่าถ้ากลับไปบอกทางร้าน ก็ไม่รู้ว่าพนักงานท่านไหนจะยอมควักค่ารักษาให้ลูกค้าก่อนรึป่าว
ตอนไปแจ้งเวชระเบียนที่โรงพบาบาล เค้าถามว่าเป็นอะไรมา
พอบอกไปเค้าทำท่าตกใจครับ มีเศษแก้วอยู่ในอาหารเนี่ยนะค่ะ
ดูปฎิกริยาของพนักงานในร้าน กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
เธอเขียนระบุอาการแบบมึนๆ แล้วก็บอกว่า เอาซะหนูเขียนไม่ถูกเลย
ขนาดคนที่ไม่เจอเองกับตัวยังมึนครับ
เตือนภัย..ดื่มน้ำตามร้านอาหาร ระวังเศษแก้วกันด้วยนะครับ
แต่อยากให้เจ้าของกิจการตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าและผู้บริโภคมากกว่าที่เป็นอยู่
เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันคุณก็คงได้แค่แสดงความเสียใจ หรือจ่ายเงินชดเชย
แต่ผมว่าอย่าให้มันเกิดขึ้นแต่แรกเลยจะดีกว่าครับ
ชีวิตคนไม่ใช่ของถูกๆ ที่จะมาโดนเศษแก้วบาดคอตายในร้านอาหารได้แบบนั้น
และถือเป็นการเตือนภัยให้กับทุกคน ที่จะได้ระวังตนเอง เพราะความประมาทหรือสะเพร่าของทางร้าน
อาจนำมาซึ่งการบาดเจ็บหรือสูญเสียคนที่คุณรักได้
ผมไปธุระที่ห้างนี้กับพี่ๆรวม 3 คนครับ และได้เข้าร้านนี้ไปสั่งอาหารทานในร้าน
รวมถึงสั่งน้ำเปล่า1ขวด น้ำแข็งเปล่า3แก้ว
น้ำแข็งเปล่ามาเสริฟ 3 แก้ว อาหารทยอยมาเสริฟ ทุกอย่างก็ยังเป็นปกติครับ
ผมเปิดขวดน้ำเปล่ารินใส่แก้ว 3 แก้ว ก็นั่งกินข้าวไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปอาหารอัพเฟสไปเรื่อย
ระหว่างนั้นผมก็ดูดน้ำในแก้วด้วยหลอดไปหลายครั้ง ยังไม่เจออะไรครับ เหมือนปกติทุกครั้งที่ไปกินข้าวตามร้าน
จนผมกินข้าวหมด และหิวน้ำเพราะมันเผ็ด ก็หยิบแก้วขึ้นมาดูด
ดูดจนใกล้หมดแก้ว รู้สึกว่ามีบางอย่าง ไหลออกมาจากหลอดกระทบลิ้นครับ
ผมอมมันไว้และเอาลิ้นดันให้มันชนกับเพดานปาก ระหว่างนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ยังคงกลืนน้ำไปด้วย
ความรู้สึกแรกคือ มันเป็นเศษอะไรสักอย่าง ผมนึกถึงไอสลักรัดจุกขวดน้ำโพลาลิสถูกๆ
ที่เวลาเราจะกินต้องดึงมันออกก่อน แต่มันเล็กๆไม่ยาวขนาดนั้นนะครับ
ผมยังคิดในใจว่าร้านแบบนี้ มีเศษอะไรสกปรกติดมาด้วยหว่ะ
เศษที่ผมเจอมันไม่มีความเย็น ผมเลยมั่นใจว่าไม่ใช่น้ำแข็ง
ผมทำเสียงหือๆ ให้พี่ทั้ง2คนได้ยิน จนเค้าหยุดคุยกันแล้วหันมาถามว่าเป็นอะไร
ตอนนั้นผมกินข้าวหมดจานแล้ว เลย
สิ่งที่ทุกคนเห็นบนโต๊ะเห็นมันคือเศษแก้วครับ ทรงรีๆและแหลมยาวเกือบ1เซนติเมตร
ด้วยความตกใจ ผมบอกทุกคนในโต๊ะว่ามันอยู่ในแก้วน้ำที่เพิ่งดูดเข้าไป
แก้วไม่ได้แตกหรือมีรอยร้าวนะครับ และขวดน้ำดื่มก็ซีลพลาสติกมา
ผมเดาว่ามันปนมากับน้ำแข็งครับ
ทางพี่ๆผมจึงเรียกพนักงานเสริฟแถวนั้นมา แล้วบอกว่ามันมีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ
คายออกมาอยู่ในถ้วยน้ำจิ้มแล้วก็ชี้ไปที่ถ้วยน้ำจิ้มนั้น
เด็กเสริฟก็รีบหยิบถ้วยนั้นไปครับ แต่แทนที่จะเอาไปแจ้งผู้จัดการหรืออะไร
ดันถือไปวางบนเคานเตอร์ ด้านหลังที่มีประตูเปิดเข้าไปครับ
ตอนนั้นผมบอกกับพี่ว่า อ้าว มันหยิบไปแล้วอ่ะ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลย
พี่อีกคนเห็นเด็กเสริฟรีบหยิบเศษแก้วออก แล้วโยนหายลงไปในลังที่วางแก้วใช้แล้ว
ลังนั่นอยู่ข้างๆเครื่องคีย์อาหารครับ
สักพักเด็กเสริฟอีกคนก็เดินหยิบถ้วยใส่น้ำจิ้มทอดมันอันใหม่มาให้ครับ
เราก็งงกันว่า พวกผมบอกคุณว่ามันเกิดเหตุอะไรขึ้น
ไม่ได้บอกให้คุณมาเปลี่ยนน้ำจิ้มอันใหม่ให้
ไม่รู้ว่าเค้าโม่ฉลาดหรือแกล้งไม่รู้เรื่องจริงๆครับ
เราจึงได้แจ้งกับพนักงานที่ใส่สูทที่ยืนแถวนั้นอีกคน คิดว่าคงเป็นหัวหน้า
แล้วก็บอกเหมือนตอนแรกครับ ว่ามีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ คายออกมาจนกระเด็นลงถ้วย และเด็กเสิฟก็หยิบไปเก็บแล้ว
เค้าตอบอะไรกับมารู้ไหมครับ ?
เค้าบอกว่าน้ำแข็งของเราผลิตเองนะค่ะ ไม่ได้จ้างที่อื่น
งงไหมครับ ว่ามันเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เราพยายามบอกเค้าไป
พี่อีกคนเลยบอกว่า มันมีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำที่กิน และเด็กเสริฟก็หยิบออกไปโยนไว้ในลังแก้วใช้แล้ว
เค้าก็พยายามดีครับ เดินไปชะเง้อดูให้ 2 ที
แล้วก็ไม่เห็นทำท่าตกใจอะไรกัน ไม่มีการขอโทษ ไม่มีการถามว่าใครเป็นอะไรไหม
ทำเหมือนวัฒนธรรมการกินเศษแก้วหลังอาหารในประเทศเราเป็นเรื่องปกติ
ผมเดาว่าทางร้านไม่ได้เทรนมาครับ ว่าถ้าเกิดเหตุอะไรอย่างนี้ๆ ควรให้พนักงานทำอะไรเป็นอย่างแรก
ผมว่า 1 เลยนะ คุณควรขอโทษลูกค้าก่อน ซึ่งเด็กเสริฟไม่ได้ทำ คนใส่สูทก็ไม่ได้ทำ
และ 2 ถ้าคุณแก้ปัญหาหรือตัดสินใจเองไม่ได้ คุณควรเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ๆมีความรับผิดชอบ
หรือมีวุฒิภาวะมากกว่าคุณให้เข้ามาดูแทน
ช่วงนั้นโต๊ะอื่นก็มองกันมาครับ แต่เค้าคงไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน
ระหว่างนั้นผมไม่กล้ากลืนน้ำลายเพราะไม่รู้ว่ามันจะมีเศษอันอื่นที่เล็กกว่านั้นยังหลงเหลืออยู่ในปากรึป่าว
ก็
เราจึงลงความเห็นว่าเดินออกไปเช็คบิล และแจ้งผู้จัดการร้านที่เคานเตอร์
ตอนจ่ายเงินผมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะพี่บอกให้ไปบ้วนปากที่ห้องน้ำ เผื่อมันมีเศษอื่นติดอยู่
มีหรือไม่มีผมก็ไม่รู้นะครับ แต่เป็นใครเจอแบบนี้ก็ต้องกลัวไว้ก่อน
ตอนจ่ายตังค์ พี่ก็ได้แจ้งผู้จัดการร้านไปครับ ตามที่บอกไปตอนต้น
และบอกว่าไม่มีพนักงานคนไหนสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และยังมีการนำเศษแก้วไปทิ้ง
ผู้จัดการก็ทำหน้าตกใจ ตามที่พี่เค้าเล่าให้ฟังภายหลังนะครับ
เพราะตอนนั้นคนยืนรอจ่ายตังค์กันเยอะ และเสียงก็เริ่มดัง
และผู้จัดการก็ได้ขอโทษและถามทางเราว่า พนักงานคนไหนบ้าง พี่เค้าก็ชี้ไป พนักงานที่ยืนอยู่ก็ทำหน้าเสียครับ
พี่อีกคนก็บอกว่า นี่ถ้าเหตุเกิดในร้านอาหารโรงแรมคงโดนกันทั้งแผนกแล้ว
เค้าก็บอกจะเรียกพนักงานมากล่าวตักเตือนให้ต่อหน้ามั้งครับ
แต่พี่ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร แค่นี้ถือว่าทำทาน
ผมมาคิดเอาตอนหลังนะว่าเหตุเกิดขนาดนี้ คุณแสดงความรับผิดชอบแค่เรียกพนักงานมาตักเตือนเหรอครับ
พูดสิครับ ว่าขอเบอร์ติดต่อ หรือจะแจ้งทางสำนักงานใหญ่ให้แล้วติดต่อกลับไป
หรือคุณถือว่า ไม่ได้กินเข้าไป ไม่ตายก็ดีแล้ว เดี๋ยวเตือนเด็กให้ละกันว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้อีก ?
ที่มาโพสนี่ผมไม่ได้มาทำให้ทางร้านคุณเสียหน้า หรือเสียชื่อเสียงนะ
แต่ผมอยากให้คุณปรับปรุง หรือดูแลอุปกรณ์ของคุณให้มันดีกว่านี้
1 ตั้งแต่เด็กเสริฟครับ ผมคิดว่าเค้ารู้ว่าพวกเราบอกว่ามีเศษแก้วอยู่ในแก้วน้ำ
แต่เค้าคงกลัวโดนหัวหน้า หรือทางร้านด่า จึงได้รีบหยิบถ้วยน้ำจิ้มไปโดยที่เรายังไม่ทันถ่ายรูป
และก็รีบทำหลายหลักฐานทันที เรามีพยานเป็นตัวบุคคลครับ
ทุกคนบนโต๊ะเห็นว่าผม
2 หัวหน้าเด็กเสริฟครับ ผมเห็นคุณใส่สูท จริงๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นระดับหัวหน้ารึป่าวนะ
วุฒิภาวะคุณน่าจะมีมากกว่าพนักงานเสริฟครับ เมื่อคุณทราบเรื่องที่เราแจ้งไปแล้ว
แทนที่คุณจะไปถามลูกน้องคุณว่าเอาเศษแก้วไปทิ้งจริงไหม พบเศษแก้วตามที่เราแจ้งจริงไหม
หรือใส่ใจถามลูกค้าหน่อยว่ามีใครบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไหม
คุณกลับทำปัญญาอ่อน ผมขอใช้คำนี้ละกัน มายืนอธิบายเรื่องร้านผลิตน้ำแข็งเอง
และทำท่าเหมือนไม่เชื่อ เหมือนเราเรื่องมากอะไรสักอย่าง
พอทนรำคานไม่ไหวก็เดินไปชะเง้อดูให้ที่ลังพลาสติกวางแก้วใช้แล้ว2ที
หลังจากนั้นคุณก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเลย จนพวกผมคิดว่าไร้ประโยชน์ที่จะพูดกับคุณ
ถึงได้เดินไปจ่ายตังค์และโวยกับผู้จัดการร้าน
3 แก้วน้ำที่คุณล้างแล้วผมคิดว่าคุณต้องคว่ำมันไว้ ซึ่งไม่น่าจะมีเศษอะไรหล่นลงไปได้
ผมจึงเชื่อว่ามันปนอยู่ในถังน้ำแข็งครับ ผมไม่ได้ขอดูว่าเค้าเก็บกันยังไง
เป็นถังพลาติกมีฝาปิด หรือเป็นตู้เหล็กและมีที่เลื่อนปิดจากด้านบน
มันจะปิดหรือไม่ปิดผมไม่รู้ แต่คงมีคนทำอะไรแตกแล้วเศษมันคงหล่นใส่ถัง
หรือปนมาตั้งแต่กระบวนการผลิตของคุณ
น้ำแข็งคุณเป็นเกล็ดขุ่นๆเหมือนตามร้านสะดวกซื้อ
ถ้าไม่สังเกตุจะไม่มีทางเห็นหรอกครับ ว่ามีสิ่งแปลกปลอมตกอยู่ก้นแก้ว
และมันก็ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า หรือผู้บริโภคเพราะใครจะคิดว่ามีเศษแก้วอยู่ในสิ่งที่คุณเดินเอามาเสริฟครับ
หลายคนบอกผมโชคดีแล้วที่ผมไม่กินเศษแก้วนั่นเข้าไป
หลายคนบอกให้ผมกลับไปเอาเรื่อง ไปแจ้งผู้จัดการ ผมก็บอกว่าพี่แจ้งไปแล้ว
แต่ดูเค้าไม่ค่อยตอบสนองอะไร
อย่างที่บอก ผมอยากให้มีการดูแลความปลอดภัยมากกว่านี้
เพราะเหตุการณ์นี้สามารถเกิดได้กับทุกคนครับ ทุกวันนี้ยังคงมีคนเข้าไปกินอาหารร้านคุณอยู่
ตอนเกิดเรื่องคนอื่นในร้านก็ยังคงนั่งกินอยู่ โดยที่เค้าไม่รู้เลยว่าต้องเสี่ยงกับอะไร
ถ้าผมกลืนลงไป รับรองว่ามันเสียบคอแน่ครับ เพราะลักษณะของเศษแก้วนั้นยาวและแหลม
ผมยังโชคดีที่ยังสังเกตุทัน แต่ถ้าเป็นคนแก่ละ เป็นเด็ก7-8ขวบ ที่พ่อแม่พาไปกิน
แล้วเค้าไม่ทันระวังละ ผมว่าเสียบคอเป็นคำตอบสุดท้ายครับ
ผมเลยไม่ขอเอ่ยชื่อร้านเลยละกัน เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันอาจเป็นอุบัติเหตุ
แต่ถ้ามันเกิดขึ้นในร้านหรือจากการให้บริการของคุณแล้ว คุณต้องดูแลและรับผิดชอบให้มากกว่านี้ครับ
และตั้งแต่นี้ไป ผมไปทานข้าวร้านไหน คงต้องสำรวจตลอดละครับ ว่ามีสิ่งแปลกปลอมจมอยู่ด้านล่างแก้วน้ำรึป่าว
ผมออกจากห้างแล้วไปทำธุระต่อ หลังจากนั้น3ชั่วโมง ไม่รู้ผมอุปทานหรืออะไรนะ
เหมือนกลืนน้ำลายแล้วรู้สึกมีอะไรติดคอ ซื้อขนมปังมากิน และน้ำมาดื่ม
แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างยังคงอยู่ในลำคอครับ
ก็เลยไปหาหมอตรวจเองเพื่อความสบายใจ
ผมมีประกันอุบัติเหตุเลยไม่กังวลกับค่ารักษาครับ
และคิดว่าถ้ากลับไปบอกทางร้าน ก็ไม่รู้ว่าพนักงานท่านไหนจะยอมควักค่ารักษาให้ลูกค้าก่อนรึป่าว
ตอนไปแจ้งเวชระเบียนที่โรงพบาบาล เค้าถามว่าเป็นอะไรมา
พอบอกไปเค้าทำท่าตกใจครับ มีเศษแก้วอยู่ในอาหารเนี่ยนะค่ะ
ดูปฎิกริยาของพนักงานในร้าน กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
เธอเขียนระบุอาการแบบมึนๆ แล้วก็บอกว่า เอาซะหนูเขียนไม่ถูกเลย
ขนาดคนที่ไม่เจอเองกับตัวยังมึนครับ