ก่อนอื่นขอออกตัวนะครับ.....ว่าไม่ได้มีเจตนาจะพาดพิงถึงใคร หรือต้องการจะอคติ  หรือมองเพศหญิงในแง่ร้าย   แค่เจอกับตัวเองมา ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง.......ผมว่าโลกเราสมัยนี้มันกลับตาลปัตรกันหมดแล้วนะครับ....งงๆกับชีวิตจริงๆ

วันก่อนอยู่ห้องฉุกเฉิน  คนไข้เป็นเวรเปลที่ รพ.  รู้จักกัน  นิสัยดีช่วยเหลือคนไข้ดีตลอด   มาที่ห้องฉุกเฉินด้วยแผลฉีกขาดที่ใบหน้า และถลอกตามตัว   สอบถามได้ความว่า....ทะเลาะกับแฟน....
ไอ้เราก็ถามว่าเรื่องอะไร   เพราะรู้จักกันพอสมควรกับเวรเปลคนนี้   เขาตอบว่า   เมียมีชู้    ผมจับได้  ทะเลาะกัน  มันเลยเอามีดมาฟัน......ผมถามกลับ  แล้วฟันคืนไหม   เขาตอบว่า ทำได้ไง รักนะทำไม่ลงหรอก.....อืมมมมม....ชีวิต

อาทิตย์ถัดมาพี่ที่รู้จักเล่าให้ฟัง.....มีคนไข้ เป็นเนื้องอกที่ขา  สุดท้ายรักษาแล้วต้องตัดขาไป.....กลับมาตรวจที่ รพ.ตลอด   ชีวิตแย่ ตกงาน  รายได้หาย....
อยู่มาวันนึง ภรรยามาพร้อมกับผู้ชายอีกคน  มาขอใบรับรองความพิการไปเบิกเงินอะไรซักอย่าง    แพทย์ก็ออกให้
ตอนหลังมาถึงบางอ้อว่า....เอาใบแพทย์ไปเบิกเงิน ชดเชย จากบริษัท และความพิการ  ไปอยู่กับแฟใหม่......อืมมมมม...ชีวิต 2

เดือนต่อมา   เจอกับตัวเอง   คนไข้โดนฟันที่ข้อมือซ้าย  เป็นแผลฉีกขาด เอ็นขาด4เส้น กระดูกร้าว.....ให้ประวัติโดนเมียฟันมา.....อีกแล้ว
คนนี้ ระแคะระคายว่าเมียมีชู้ เลยให้คนไปสืบ  พอได้ข้อมูลเลยคุยกับเมีย  เมียท้าบอก  หาให้เจอนะหาให้เจอ ไม่กลัวหรอก  เจอแล้วจะเลิก.....อืม....เอากะเขาสิ       แต่มีปากมีเสียงกันอารมณ์ขึ้น ก็โดนเมียจ้วงเข้าให้  และให้การว่าป้องกันตัว....อืม  พอดีไม่เห็นบาดแผลเมีย ก็เลยไม่กล้าตัดสินว่าใครหนักกว่ากัน

ไม่ได้มีเจตนาจะคิดอคติกับ เพศแม่ของตัวเองนะครับ....แต่แค่แปลกใจว่า ปกติ เราจะเคยเห็นผู้ชายตบตีหรือทำร้ายแฟน  แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว   มองได้หลายแง่คือ

1.มันก็มีทั้ง2ฝ่ายและ แต่พอดีผมเจอแบบนี้บ่อย
2.ผู้หญิงก็มีสิทธิ์คิด  สิทธิ์จะป้องกันตัว
3.สังคมมันเสื่อมลง  คนเรา เห็นแก่ตัวมากขึ้น

ทางที่ดี  คุยกันดีๆ  ถ้อยที่ถ้อยอาศัยดีกว่านะครับ   ให้กำลังใจกัน  มีอะไรก็บอกกันตรงๆ  ผมว่า เราคบกันมาจนแต่งงานกันได้  หรือเคยรักกัน  ยังไง  ถ้ามีปัญหาก็ต้องแก้ไขด้วยความเข้าใจจะดีกว่านะครับ   สู้ๆครับ