เมื่อวันก่อนครับ ผมไปทานติมชำในร้านๆหนึ่ง กะจะไปจัดแบบเน้นๆ เปาหมูไข่เค็ม จีบกุ้งปู ฮะเก๋า ขอบอกไว้เลยครับ หิวสุดๆ ใครเปิดร้านบุฟเฟ่ต์เตรียมตัวเจ๊งได้เลย สมัยก่อนสถิติของผมในร้านโชคดีติมซำ 20+เข่ง เป็นอย่างน้อย แถมบะกุ๊ดเต๋อีก วันนี้ผมเลยตั้งไว้แบบ Normal ที่ 25 เข่ง ไปกับแฟนครับ ช่วงนี้กินไม่แพ้กัน ระดับของเธอถ้าลิปยังไม่หมดถือว่ายังไม่อิ่มครับ ผมภูมิใจ
เดินเข้าไป ร้านนี้เป็นร้านธรรมดาครับ อาเจ็กโยนเมนูมาเลย ผมให้เธอสั่งเพราะเธอมักจะรู้ใจผมว่า แหลกล้ายทุกอย่าง ระหว่างนั้นผมก็เห็นโต๊ะตรงข้ามครับ พี่น้องชายหญิงกำลังหม่ำๆ ความรักของพี่น้องช่างเบ่งบาน ดูทรงแล้วนะจะผ่านมาไม่ใช่น้อย ผมหมายถึงเข่งติมซำนะครับ ผมก็นั่งดูพวกนางมีความสุขกัน ทันใดนั้นเอง ผู้ชายก็ล้วงหมาออกมา หมาน้อยของพวกนางกำลังอึครับ พันธุ์ซิสุ ตัวเล็กๆน่ารักมากครับ ผมเห็นแล้วก็เฉยๆนะ แฟนสั่งเสร็จแล้วผมก็เรียกเธอดู เธออุทานทันทีครับ "แม่ร่วงงงงง" ถ้ามีคำนี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอแน่ๆครับ
ระหว่างเจ้าหมาน้อยอึอยู่นั้น ปาก SHE ก็เลียจานติ่มซำไปด้วย ไม่หน่ำใจยังเลียเก๊กฮวยเย็นของแม่มันอีก สงสัยจะกระหาย ผมคิดในใจ แฟนผมเรื่องเยอะครับ ผมเห็นว่ามันธรรมดามากๆเลย คนเค้ารักอ่ะเนอะ ระดับการเลี้ยงหมา Skill เมพๆแบบนั้นผมว่าจุ๊บปากกันยังชิลๆเลย เชื่อผมเหอะ
คุณแฟนผมก็บ่นๆๆๆ จับใจความย่อหน้าที่ 3 ได้ว่า เนี่ยนะ ไม่รู้จักกาลเทศะเลย มารยาททางสังคมมีบ้างไหม พ่อแม่ไปไหนไม่มาดู เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา โตจนอีซิสุเลียหูจะไม่ถึงอยู่แล้วยังคิดไม่ได้ คือมุมที่พี่น้องรักน้องหมานั่งกันนี่ เป็นมุมอับครับ คงจะแอบเอาเข้ามาแล้วเจ็กคงจะไม่เห็น พอเห็นแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะเมิงสั่งมาเต็มโต๊ะแล้ว ออกไปใครจะดูแลเจ็ก ใครจะรับผิดชอบเจ็กละ
แฟนผมเดินไปบอกเลยครับ แฟนผมเยอะ ถ้าเธอไม่เป็นวิศว เธอคงไปลงสมัครผู้ว่ารัฐนิวเจอรซีไปแล้ว
"น้องค่ะ การเอาหมาเข้าไปที่ร้านอาหาร มันไม่สมควรนะค่ะ แล้วยิ่งให้หมาเลีย ผ่านจาน ผ่านแก้ว ด้วยถึงร้านเค้าจะล้างสะอาด แต่มันไม่สมควรเอามาใช้ร่วมกัน"ระหว่างนั้นผมแอบเห็นเจ็กมองไปหลังครัวแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย
เด็กสองคนนั้น ตอบกลับมาว่า
"อ๋อ คะ คะ ขอบคุณพี่มากเลยนะ หนูไม่รู้เลย นี่หนูเพิ่งเอามันมาครั้งแรก ขอโทษด้วยนะค่ะ หนูสัญญาว่าจะไม่เอามันมาร้านอาหารอีกตลอดไป"
ผมคิดในใจ แฟนผมทำให้ชีวิตน้องเค้าเปลี่ยนไป
แฟนผมก็พูด่อว่า
"ดีแล้วละ ที่เตือนเนี่ยเพราะเห็นว่าน้องๆน่ารัก น่าจะเชื่อในสิ่งที่เรียกว่ามารยาทนะค่ะ บางคนโตแล้ว พี่ไปเตือนยังเจอว่ากลับมาเลย ไม่ดีนะจ๊ะ"
เด็กสองคนนั้นก็ยิ้มให้ ผมมองสายตาของเด็กคู่นั้นแล้วรู้เลยครับว่า เป็นสายตาที่กำลังรับสิ่งที่เป็นความรู้เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
ทันใดนั้น แม่กับพ่อของเด็กทั้งคู่ก็มา ท่าทางฐานะดีแต่งตัวดี ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็รีบเดินเข้าไป บอกคุณพ่อของทั้งคู่ว่าเกิดอะไร
คุณพ่อก็รีบเรียกเด็กทั้งสองคนมาตักเตือน
"พ่อบอกแล้วใช่ไหม พี่น้องคู่นี้ไม่เชื่อพ่อเลย นี่ไงละพี่พี่เค้ามาเตือนแล้ว เชื่อรึยัง จะขึ้นป1 อยู่แล้วยังไม่โตซะที "พ่อพูดด้วยรอยยิ้ม และเด็กก็เชื่อฟัง
ผมคิดในใจ
บางทีเด็กๆนี่แหละที่เข้าใจในเรื่องง่ายๆได้รวดเร็ว ผิดกับผู้ใหญ่บางคน
น้องหมาในร้านติ่มซำ
เดินเข้าไป ร้านนี้เป็นร้านธรรมดาครับ อาเจ็กโยนเมนูมาเลย ผมให้เธอสั่งเพราะเธอมักจะรู้ใจผมว่า แหลกล้ายทุกอย่าง ระหว่างนั้นผมก็เห็นโต๊ะตรงข้ามครับ พี่น้องชายหญิงกำลังหม่ำๆ ความรักของพี่น้องช่างเบ่งบาน ดูทรงแล้วนะจะผ่านมาไม่ใช่น้อย ผมหมายถึงเข่งติมซำนะครับ ผมก็นั่งดูพวกนางมีความสุขกัน ทันใดนั้นเอง ผู้ชายก็ล้วงหมาออกมา หมาน้อยของพวกนางกำลังอึครับ พันธุ์ซิสุ ตัวเล็กๆน่ารักมากครับ ผมเห็นแล้วก็เฉยๆนะ แฟนสั่งเสร็จแล้วผมก็เรียกเธอดู เธออุทานทันทีครับ "แม่ร่วงงงงง" ถ้ามีคำนี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอแน่ๆครับ
ระหว่างเจ้าหมาน้อยอึอยู่นั้น ปาก SHE ก็เลียจานติ่มซำไปด้วย ไม่หน่ำใจยังเลียเก๊กฮวยเย็นของแม่มันอีก สงสัยจะกระหาย ผมคิดในใจ แฟนผมเรื่องเยอะครับ ผมเห็นว่ามันธรรมดามากๆเลย คนเค้ารักอ่ะเนอะ ระดับการเลี้ยงหมา Skill เมพๆแบบนั้นผมว่าจุ๊บปากกันยังชิลๆเลย เชื่อผมเหอะ
คุณแฟนผมก็บ่นๆๆๆ จับใจความย่อหน้าที่ 3 ได้ว่า เนี่ยนะ ไม่รู้จักกาลเทศะเลย มารยาททางสังคมมีบ้างไหม พ่อแม่ไปไหนไม่มาดู เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา โตจนอีซิสุเลียหูจะไม่ถึงอยู่แล้วยังคิดไม่ได้ คือมุมที่พี่น้องรักน้องหมานั่งกันนี่ เป็นมุมอับครับ คงจะแอบเอาเข้ามาแล้วเจ็กคงจะไม่เห็น พอเห็นแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะเมิงสั่งมาเต็มโต๊ะแล้ว ออกไปใครจะดูแลเจ็ก ใครจะรับผิดชอบเจ็กละ
แฟนผมเดินไปบอกเลยครับ แฟนผมเยอะ ถ้าเธอไม่เป็นวิศว เธอคงไปลงสมัครผู้ว่ารัฐนิวเจอรซีไปแล้ว
"น้องค่ะ การเอาหมาเข้าไปที่ร้านอาหาร มันไม่สมควรนะค่ะ แล้วยิ่งให้หมาเลีย ผ่านจาน ผ่านแก้ว ด้วยถึงร้านเค้าจะล้างสะอาด แต่มันไม่สมควรเอามาใช้ร่วมกัน"ระหว่างนั้นผมแอบเห็นเจ็กมองไปหลังครัวแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย
เด็กสองคนนั้น ตอบกลับมาว่า
"อ๋อ คะ คะ ขอบคุณพี่มากเลยนะ หนูไม่รู้เลย นี่หนูเพิ่งเอามันมาครั้งแรก ขอโทษด้วยนะค่ะ หนูสัญญาว่าจะไม่เอามันมาร้านอาหารอีกตลอดไป"
ผมคิดในใจ แฟนผมทำให้ชีวิตน้องเค้าเปลี่ยนไป
แฟนผมก็พูด่อว่า
"ดีแล้วละ ที่เตือนเนี่ยเพราะเห็นว่าน้องๆน่ารัก น่าจะเชื่อในสิ่งที่เรียกว่ามารยาทนะค่ะ บางคนโตแล้ว พี่ไปเตือนยังเจอว่ากลับมาเลย ไม่ดีนะจ๊ะ"
เด็กสองคนนั้นก็ยิ้มให้ ผมมองสายตาของเด็กคู่นั้นแล้วรู้เลยครับว่า เป็นสายตาที่กำลังรับสิ่งที่เป็นความรู้เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
ทันใดนั้น แม่กับพ่อของเด็กทั้งคู่ก็มา ท่าทางฐานะดีแต่งตัวดี ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็รีบเดินเข้าไป บอกคุณพ่อของทั้งคู่ว่าเกิดอะไร
คุณพ่อก็รีบเรียกเด็กทั้งสองคนมาตักเตือน
"พ่อบอกแล้วใช่ไหม พี่น้องคู่นี้ไม่เชื่อพ่อเลย นี่ไงละพี่พี่เค้ามาเตือนแล้ว เชื่อรึยัง จะขึ้นป1 อยู่แล้วยังไม่โตซะที "พ่อพูดด้วยรอยยิ้ม และเด็กก็เชื่อฟัง
ผมคิดในใจ
บางทีเด็กๆนี่แหละที่เข้าใจในเรื่องง่ายๆได้รวดเร็ว ผิดกับผู้ใหญ่บางคน