คือดิฉันมีเรื่องข้องใจอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ เกี่ยวกับพฤติกรรมของตร.
คือว่า.......ดิฉันโดนผู้อื่นโกงเงินเป็นจำนวน 30,000 บาท ก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตร.ที่สน.หนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ทำการดำเนินเรื่องให้ ขณะนั้นดิฉันรู้สึกปลื้มใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่มาก เพราะดูทุ่มเทกับการทำงานให้เราหมดทุกอย่าง แต่ระหว่างที่ดิฉันรอคู่กรณีมาโรงพัก ระหว่างนั้น ดิฉันอยู่ตามลำพังกับตร.นายหนึ่ง(มีตำรวจ3คนที่ดำเนินเรื่องให้) อยู่ๆ ตร.หนึ่งในนั้นก็เอ่ยปากพูดกับดิฉันว่า เรามาคุยกันดีกว่า (เหมือนเจรจา) ว่าหลังจากตร.ทำเรื่องนี้เสร็จให้คุณเรียบร้อยแล้ว จะแบ่งให้ตร.เท่าไหร่ ตอนที่ดิฉันได้ยินก็นึกว่าพูดเล่น แต่ไม่เลย ดิฉันก็งงอึ่งซักพัก ตร.คนนั้นก็บอกกับดิฉันว่า ปกติถ้าเจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้ทุกอย่าง ทำเรื่องถึงขนาดนี้แล้ว ตร.ขอคิดส่วนแบ่งหลังจากดิฉันได้เงินจากคู่กรณีคือ 40 ส่วน 60 ตร.เอาไป 40 % จากเงิน 30000 ให้ดิฉัน 60% ตร.นายนั้นก็บอกกับดิฉันว่า จะยังไง ให้เวลาดิฉันคิด (แต่ก็ไม่ได้ข่มขู่หรือแต่อย่างไรนะค่ะ พูดดีๆนี่แหล่ะค่ะ ทิ้งคำถามให้ดิฉันคิดระหว่างรอคู่กรณีมา) แถมยังบอกอีกว่าถ้าไม่ได้ตำรวจทำเรื่องให้ คุณคงไม่ได้เงินคืนง่ายๆเพราะเจ้าหน้าที่ปกติก็มีงานเยอะอยู่แล้ว ต้องแบ่งเวลามาให้คุณ หน้าที่ของตร.ยังมีอีกเยอะ ต้องไปจับยาบ้า จับผู้ร้าย ... บอกตามตรงตอนนั้นดิฉันทำไรไม่ถูกเลยค่ะ แต่ดิฉันก็ยินดีจะให้นะค่ะ ... (อยากจะอัดคลิปวีดิโอ อัดคลิปเสียงไว้นะค่ะ แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำค่ะ เพราะว่าดิฉันก็นึกคิดว่าถ้าตร.ไม่ช่วยเรา เราก็จะไม่ได้เงินคืน ) .. เพียงแต่มันเป็นคำถามที่ค้างคาดิฉันในตอนนี้เหลือเกินว่าที่ดิฉันเจออยู่ตอนนี้จากผู้ที่เราเรียกว่าผู้พิทักษ์สันติราชของประชาชน เหตุใดจึงมีพฤติกรรมเช่นนี้ เหมือนทำกันเป็นธุรกิจเป็นกระบวนการ มันถูกต้องแล้วหรือไม่ หน้าที่ของตร.คือช่วยเหลือประชาชนผู้เดือนร้อน แต่ทำไมกลับมาหากินบนความเดือนร้อนของเราแบบนี้ ?????????
ปล. ดิฉันไม่ได้มีเจตนามุ่งหวังเพื่อให้ผู้ใดได้รับความเสียหาย เพียงแต่อยากจะแชร์ความคิดเห็นว่ามีใครเคยเจอเหมือนดิฉันบ้างไหมค่ะ
สิ่งที่ดิฉันโดนมันคืออะไร?????
คือว่า.......ดิฉันโดนผู้อื่นโกงเงินเป็นจำนวน 30,000 บาท ก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตร.ที่สน.หนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ทำการดำเนินเรื่องให้ ขณะนั้นดิฉันรู้สึกปลื้มใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่มาก เพราะดูทุ่มเทกับการทำงานให้เราหมดทุกอย่าง แต่ระหว่างที่ดิฉันรอคู่กรณีมาโรงพัก ระหว่างนั้น ดิฉันอยู่ตามลำพังกับตร.นายหนึ่ง(มีตำรวจ3คนที่ดำเนินเรื่องให้) อยู่ๆ ตร.หนึ่งในนั้นก็เอ่ยปากพูดกับดิฉันว่า เรามาคุยกันดีกว่า (เหมือนเจรจา) ว่าหลังจากตร.ทำเรื่องนี้เสร็จให้คุณเรียบร้อยแล้ว จะแบ่งให้ตร.เท่าไหร่ ตอนที่ดิฉันได้ยินก็นึกว่าพูดเล่น แต่ไม่เลย ดิฉันก็งงอึ่งซักพัก ตร.คนนั้นก็บอกกับดิฉันว่า ปกติถ้าเจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้ทุกอย่าง ทำเรื่องถึงขนาดนี้แล้ว ตร.ขอคิดส่วนแบ่งหลังจากดิฉันได้เงินจากคู่กรณีคือ 40 ส่วน 60 ตร.เอาไป 40 % จากเงิน 30000 ให้ดิฉัน 60% ตร.นายนั้นก็บอกกับดิฉันว่า จะยังไง ให้เวลาดิฉันคิด (แต่ก็ไม่ได้ข่มขู่หรือแต่อย่างไรนะค่ะ พูดดีๆนี่แหล่ะค่ะ ทิ้งคำถามให้ดิฉันคิดระหว่างรอคู่กรณีมา) แถมยังบอกอีกว่าถ้าไม่ได้ตำรวจทำเรื่องให้ คุณคงไม่ได้เงินคืนง่ายๆเพราะเจ้าหน้าที่ปกติก็มีงานเยอะอยู่แล้ว ต้องแบ่งเวลามาให้คุณ หน้าที่ของตร.ยังมีอีกเยอะ ต้องไปจับยาบ้า จับผู้ร้าย ... บอกตามตรงตอนนั้นดิฉันทำไรไม่ถูกเลยค่ะ แต่ดิฉันก็ยินดีจะให้นะค่ะ ... (อยากจะอัดคลิปวีดิโอ อัดคลิปเสียงไว้นะค่ะ แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำค่ะ เพราะว่าดิฉันก็นึกคิดว่าถ้าตร.ไม่ช่วยเรา เราก็จะไม่ได้เงินคืน ) .. เพียงแต่มันเป็นคำถามที่ค้างคาดิฉันในตอนนี้เหลือเกินว่าที่ดิฉันเจออยู่ตอนนี้จากผู้ที่เราเรียกว่าผู้พิทักษ์สันติราชของประชาชน เหตุใดจึงมีพฤติกรรมเช่นนี้ เหมือนทำกันเป็นธุรกิจเป็นกระบวนการ มันถูกต้องแล้วหรือไม่ หน้าที่ของตร.คือช่วยเหลือประชาชนผู้เดือนร้อน แต่ทำไมกลับมาหากินบนความเดือนร้อนของเราแบบนี้ ?????????
ปล. ดิฉันไม่ได้มีเจตนามุ่งหวังเพื่อให้ผู้ใดได้รับความเสียหาย เพียงแต่อยากจะแชร์ความคิดเห็นว่ามีใครเคยเจอเหมือนดิฉันบ้างไหมค่ะ