ขอบ่นๆๆๆๆ คนไทยนิสัยเพี้ยนๆ ที่ยังมีมาให้เจอะเจอกันถึงต่างแดน
เรื่องของเรื่องคือเราไปท่องยุโรปตั้งแต่ช่วงกลางเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดสงกรานต์ของชาวไทย
เหตุเกิดขึ้นในวันที่. 18 เมษายน (อยากตั้งกระทู้เสียประเดี๋ยวนั้น แต่เผอิญอยู่ในช่วงท่องเที่ยว เลยไม่สามารถจริงๆ)
เรากับแฟนหอบหิ้วสัมภาระเพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม star inn ในเวียนนา(โรงแรมไม่ได้หรูหราอะไร จ่ายไปไม่เกิน 40 ยูโรต่อคืน)
พอมาถึงโรงแรม เราก็วิ่งดิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที เพราะอั้นมานาน ปล่อยแฟนเฝ้าของ พอขึ้นมาเราก็ไปนั่งเฝ้ากระเป๋า ส่วนแฟนลงไปเข้าห้องน้ำ
จังหวะนั้นเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันมาก เรียกว่ารีบร้อนอยู่..เรานั่งรอแฟนอยู่ก็เผอิญไปป้ะกับกลุ่มคนไทยชายหนึ่งหญิงสอง
นั่งอยู่โซฟาด้านหลัง เห็นพยายามจะอธิบายหรือคุยอะไรกับพนักงานโรงแรมสักอย่าง
จับใจความได้ว่าพาสปอร์ตหาย .. เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าต้องทำอย่างไรบ้าง(จนท พยายามพูดช้าๆ ให้พวกเขาเข้าใจ)
พอแฟนเรากลับมา ก็เหลือบไปเห็น แล้วก็ถามเราว่าคนไทยเหรอ เราก็ตอบว่าอืม.. หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกับแฟนเราปรกติ ถามว่ายังเช็คอินไม่ได้ใช่ไหม แล้วฝากกระเป๋าได้ใช่ป่ะ บลาๆๆ.. ด้วยที่คุยกันแบบน้ำเสียงปรกติ คนทั่วไปก็คงได้ยิน.. พอเราเตรียมตัวกำลังจะออกจากโรงแรม (ผูกเชือกรองเท้า หยิบตั๋วรถ บลาๆๆ) คนไทยกลุ่มนั้น (ว่างคุยกับจนท แล้ว) ก็เริ่มต้นบทสนทนา ที่ตั้งใจพูดให้เราได้ยิน (อันนี้รู้ได้จากตอนแรกที่พวกเขาคุยกับ จนท เสียงไม่ดังขนาดนี้)
"โชคดีนะที่ไม่ได้เอาอะไรใส่ไปในถุง Hermes ด้วย" นางนึงเริ่ม
"ใช่ โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้เอาต่างหูเพชรข้างละสองแสน ใส่ไว้ในนั้น" อีกนางเสริม
เรากับแฟนมองหน้ากันแบบสะดุดกึก แฟนเราคิ้วเขม็ง เป็นอันว่าเข้าใจกัน
เราเดินออกจากโรงแรมในฉับพลัน หันไปคุยกับแฟนที่คิดแบบเดียวกันว่า นี่พวกเขาคุยอวดเราเหรอ?!?
โอววววว ไม่อยากเชื่อเลยและไม่สงสัยเลยที่ทำไมของถึงหายได้!
เรื่องนี้มันทำให้เรานึกถึงอีกกลุ่มนึงที่เจอที่ลอนดอน กลุ่มนั้นพอรู้ว่าเราเป็นคนไทย
เปลี่ยนบทสนทนาจากเรื่องคนดีคนนึง เป็นเรื่องเพชรไปเลย.. เพื่อไรอ่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ เฮ้ออออ
เฮ้ออออ อยากจะไปให้พ้นๆ คนไทยนิสัยขี้อวดแบบนี้จัง..
เรื่องของเรื่องคือเราไปท่องยุโรปตั้งแต่ช่วงกลางเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดสงกรานต์ของชาวไทย
เหตุเกิดขึ้นในวันที่. 18 เมษายน (อยากตั้งกระทู้เสียประเดี๋ยวนั้น แต่เผอิญอยู่ในช่วงท่องเที่ยว เลยไม่สามารถจริงๆ)
เรากับแฟนหอบหิ้วสัมภาระเพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม star inn ในเวียนนา(โรงแรมไม่ได้หรูหราอะไร จ่ายไปไม่เกิน 40 ยูโรต่อคืน)
พอมาถึงโรงแรม เราก็วิ่งดิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที เพราะอั้นมานาน ปล่อยแฟนเฝ้าของ พอขึ้นมาเราก็ไปนั่งเฝ้ากระเป๋า ส่วนแฟนลงไปเข้าห้องน้ำ
จังหวะนั้นเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันมาก เรียกว่ารีบร้อนอยู่..เรานั่งรอแฟนอยู่ก็เผอิญไปป้ะกับกลุ่มคนไทยชายหนึ่งหญิงสอง
นั่งอยู่โซฟาด้านหลัง เห็นพยายามจะอธิบายหรือคุยอะไรกับพนักงานโรงแรมสักอย่าง
จับใจความได้ว่าพาสปอร์ตหาย .. เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าต้องทำอย่างไรบ้าง(จนท พยายามพูดช้าๆ ให้พวกเขาเข้าใจ)
พอแฟนเรากลับมา ก็เหลือบไปเห็น แล้วก็ถามเราว่าคนไทยเหรอ เราก็ตอบว่าอืม.. หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกับแฟนเราปรกติ ถามว่ายังเช็คอินไม่ได้ใช่ไหม แล้วฝากกระเป๋าได้ใช่ป่ะ บลาๆๆ.. ด้วยที่คุยกันแบบน้ำเสียงปรกติ คนทั่วไปก็คงได้ยิน.. พอเราเตรียมตัวกำลังจะออกจากโรงแรม (ผูกเชือกรองเท้า หยิบตั๋วรถ บลาๆๆ) คนไทยกลุ่มนั้น (ว่างคุยกับจนท แล้ว) ก็เริ่มต้นบทสนทนา ที่ตั้งใจพูดให้เราได้ยิน (อันนี้รู้ได้จากตอนแรกที่พวกเขาคุยกับ จนท เสียงไม่ดังขนาดนี้)
"โชคดีนะที่ไม่ได้เอาอะไรใส่ไปในถุง Hermes ด้วย" นางนึงเริ่ม
"ใช่ โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้เอาต่างหูเพชรข้างละสองแสน ใส่ไว้ในนั้น" อีกนางเสริม
เรากับแฟนมองหน้ากันแบบสะดุดกึก แฟนเราคิ้วเขม็ง เป็นอันว่าเข้าใจกัน
เราเดินออกจากโรงแรมในฉับพลัน หันไปคุยกับแฟนที่คิดแบบเดียวกันว่า นี่พวกเขาคุยอวดเราเหรอ?!?
โอววววว ไม่อยากเชื่อเลยและไม่สงสัยเลยที่ทำไมของถึงหายได้!
เรื่องนี้มันทำให้เรานึกถึงอีกกลุ่มนึงที่เจอที่ลอนดอน กลุ่มนั้นพอรู้ว่าเราเป็นคนไทย
เปลี่ยนบทสนทนาจากเรื่องคนดีคนนึง เป็นเรื่องเพชรไปเลย.. เพื่อไรอ่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ เฮ้ออออ