ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา 2 ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์รวบรายชื่อประชาชนถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คน ได้เกิดความสับสน วุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มกวป.ไม่ทราบขั้นตอนการยื่นถอดถอน จึงไม่ได้ทำหนังสือมายื่นต่อวุฒิสภาอย่างเป็นทางการ และเกือบจะล้มเลิกขั้นตอน โดยมองว่าไปใช้กระบวนการทางคดีอาญา และการเคลื่อนไหวกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนจะดีกว่า จึงทำให้ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ได้ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง โดยกล่าวว่า กระบวนการถอดถอนเพียงแต่จะต้องมีผู้ริเริ่มรวบรายชื่อตั้งแต่1-100 คน ก่อน เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา และจะต้องรวบรายชื่อให้ครบ 2 หมื่นรายชื่อ ภายใน 180 วัน นับจากวันที่แสดงความริเริ่ม ซึ่งถ้าสามารถรวบรวมรายชื่อผู้ริเริ่มได้ก่อนก็สามารถยื่นต่อวุฒิสภาได้เลย
ดังนั้น ในเวลา 14.00 น. กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) นำโดย นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน ประธานกวป. นายชาญ ไชยะ รองประธานกวป. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกวป. จึงได้เข้ายื่นหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะรักษาการแทนประธานวุฒิสภา โดยฉบับแรกเป็น จดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการกระทำของ ส.ส. และ ส.ว.จำนวน 312 คน ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจโดยชอบแล้ว จึงขอชื่นชม สนับสนุน และขอให้สมาชิกรัฐสภามีความมั่นคงในจุดยืน และขอวิงวอนสมาชิกรัฐสภาคนอื่นที่ยังไม่ได้ร่วมลงชื่อ ได้ลงชื่อสนับสนุนด้วย เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จไปได้
ส่วนหนังสือฉบับที่ 2 เป็นหนังสือแสดงเจตจำนงผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คน ได้แก่ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายจรูญ อินทจาร นายนุรักษ์ มาประณีต นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการขาดจริยธรรม ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมเข้าชื่อแล้วกว่า 50,000 คน ซึ่งภาย15 วัน จะคัดกรองและนำมายื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อเข้าขบวนการถอดถอนต่อไป ส่วนประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยการแทรกแซงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติของสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ของตุลาการทั้ง 5 คนนั้น ทางกลุ่มกวป. มีความเห็นว่า จะได้ยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุมเพื่อกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน เพื่อเป็นกดดันกันเองทางอ้อมให้มีการลาออกของ 5 ตุลาการ
เมื่อถามว่า เมื่อยื่นถอดถอนแล้วการชุมนุมจะยุติเลยหรือไม่ แกนนำกล่าวว่า ขอรอคุยกับบรรดาแกนนำจากจังหวัดต่างๆ ก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะแกนนำแต่ละจังหวัดจะต้องไปเปิดเวทีเคลื่อนไหวในแต่ละจังหวัดด้วย จึงขอหารือกับบรรดาแกนนำก่อน ขณะนี้ถือว่าทางกลุ่มได้ดำเนินการตามกระบวนการของวุฒิสภาแล้ว หลังจากนี้คงจะดำเนินการยื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
ต่อมาเวลา 14.30 น. แกนนำกวป. ได้มายื่นจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการกระทำของ ส.ส. และ ส.ว.จำนวน 312 คน ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของนายเจริญ ทั้งนี้ นายเจริญ ได้กล่าวกับแกนนำว่า ขณะนี้สังคมมีความกังวลในเรื่องสถานการณ์การชุมนุม ตนขอร้องให้ยุติการชุมนุมได้แล้ว ขณะนี้อากาศร้อน สภาฯก็ร้อน อย่าให้ร้อนไปมากกว่านี้เลย
อย่างไรก็ตาม แกนนำระบุว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือฉบับเดียวกัน ต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ทันที และในเวลา 17.00 น. จะเดินทางกลับไปรวมตัวกับผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือและกำหนดท่าที ซึ่งคาดว่าเมื่อบรรลุวัตถุประสงค์การชุมนุมและยื่นหนังสือถอดถอนแล้ว ภายในเวลา 24.00 น. ก็จะยุติการชุมนุมได้
จากนั้นเวลา 15.15 น. แกนนำกลุ่ม กวป. เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกฯ
นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง รองประธาน กลุ่มกวป. กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายบริหารปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ที่ได้แบ่งอำนาจตามระบอบประขาธิปไตยไว้ 3 ส่วน อย่างชัดเจน รัฐบาลต้องมีจุดยืนที่หนักแน่น อย่าสนใจการทำหน้าที่ีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความชอบธรรม แล้วยังเข้ามาก้าวก่ายอำนาจฝ่าบริหาร และขอให้รัฐบาลรักษาความมั่นคงเอาไว้ให้ได้ เพื่อไม่ให้ตุลากาศาลรัฐธรรมนูญสร้างเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นแกนนำกลุ่ม กวป. และมวลชน ได้เดินทางกลับไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือระหว่างแกนนำ และจะร่วมแถลงจุดยืน แนวทางการต่อสู้ ในเวลา 17.00 น. ต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9EQXhNalU1TVE9PQ==&subcatid=
======================================
กวป.แสดงเจตนารมณ์ถอดถอน 5 ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ-ยื่นจม.ให้กำลังใจรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา 2 ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์รวบรายชื่อประชาชนถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คน ได้เกิดความสับสน วุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มกวป.ไม่ทราบขั้นตอนการยื่นถอดถอน จึงไม่ได้ทำหนังสือมายื่นต่อวุฒิสภาอย่างเป็นทางการ และเกือบจะล้มเลิกขั้นตอน โดยมองว่าไปใช้กระบวนการทางคดีอาญา และการเคลื่อนไหวกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนจะดีกว่า จึงทำให้ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ได้ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง โดยกล่าวว่า กระบวนการถอดถอนเพียงแต่จะต้องมีผู้ริเริ่มรวบรายชื่อตั้งแต่1-100 คน ก่อน เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา และจะต้องรวบรายชื่อให้ครบ 2 หมื่นรายชื่อ ภายใน 180 วัน นับจากวันที่แสดงความริเริ่ม ซึ่งถ้าสามารถรวบรวมรายชื่อผู้ริเริ่มได้ก่อนก็สามารถยื่นต่อวุฒิสภาได้เลย
ดังนั้น ในเวลา 14.00 น. กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) นำโดย นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน ประธานกวป. นายชาญ ไชยะ รองประธานกวป. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกวป. จึงได้เข้ายื่นหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะรักษาการแทนประธานวุฒิสภา โดยฉบับแรกเป็น จดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการกระทำของ ส.ส. และ ส.ว.จำนวน 312 คน ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจโดยชอบแล้ว จึงขอชื่นชม สนับสนุน และขอให้สมาชิกรัฐสภามีความมั่นคงในจุดยืน และขอวิงวอนสมาชิกรัฐสภาคนอื่นที่ยังไม่ได้ร่วมลงชื่อ ได้ลงชื่อสนับสนุนด้วย เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จไปได้
ส่วนหนังสือฉบับที่ 2 เป็นหนังสือแสดงเจตจำนงผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คน ได้แก่ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายจรูญ อินทจาร นายนุรักษ์ มาประณีต นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการขาดจริยธรรม ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมเข้าชื่อแล้วกว่า 50,000 คน ซึ่งภาย15 วัน จะคัดกรองและนำมายื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อเข้าขบวนการถอดถอนต่อไป ส่วนประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยการแทรกแซงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติของสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ของตุลาการทั้ง 5 คนนั้น ทางกลุ่มกวป. มีความเห็นว่า จะได้ยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุมเพื่อกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน เพื่อเป็นกดดันกันเองทางอ้อมให้มีการลาออกของ 5 ตุลาการ
เมื่อถามว่า เมื่อยื่นถอดถอนแล้วการชุมนุมจะยุติเลยหรือไม่ แกนนำกล่าวว่า ขอรอคุยกับบรรดาแกนนำจากจังหวัดต่างๆ ก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะแกนนำแต่ละจังหวัดจะต้องไปเปิดเวทีเคลื่อนไหวในแต่ละจังหวัดด้วย จึงขอหารือกับบรรดาแกนนำก่อน ขณะนี้ถือว่าทางกลุ่มได้ดำเนินการตามกระบวนการของวุฒิสภาแล้ว หลังจากนี้คงจะดำเนินการยื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
ต่อมาเวลา 14.30 น. แกนนำกวป. ได้มายื่นจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการกระทำของ ส.ส. และ ส.ว.จำนวน 312 คน ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของนายเจริญ ทั้งนี้ นายเจริญ ได้กล่าวกับแกนนำว่า ขณะนี้สังคมมีความกังวลในเรื่องสถานการณ์การชุมนุม ตนขอร้องให้ยุติการชุมนุมได้แล้ว ขณะนี้อากาศร้อน สภาฯก็ร้อน อย่าให้ร้อนไปมากกว่านี้เลย
อย่างไรก็ตาม แกนนำระบุว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือฉบับเดียวกัน ต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ทันที และในเวลา 17.00 น. จะเดินทางกลับไปรวมตัวกับผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือและกำหนดท่าที ซึ่งคาดว่าเมื่อบรรลุวัตถุประสงค์การชุมนุมและยื่นหนังสือถอดถอนแล้ว ภายในเวลา 24.00 น. ก็จะยุติการชุมนุมได้
จากนั้นเวลา 15.15 น. แกนนำกลุ่ม กวป. เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกฯ
นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง รองประธาน กลุ่มกวป. กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายบริหารปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ที่ได้แบ่งอำนาจตามระบอบประขาธิปไตยไว้ 3 ส่วน อย่างชัดเจน รัฐบาลต้องมีจุดยืนที่หนักแน่น อย่าสนใจการทำหน้าที่ีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความชอบธรรม แล้วยังเข้ามาก้าวก่ายอำนาจฝ่าบริหาร และขอให้รัฐบาลรักษาความมั่นคงเอาไว้ให้ได้ เพื่อไม่ให้ตุลากาศาลรัฐธรรมนูญสร้างเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นแกนนำกลุ่ม กวป. และมวลชน ได้เดินทางกลับไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือระหว่างแกนนำ และจะร่วมแถลงจุดยืน แนวทางการต่อสู้ ในเวลา 17.00 น. ต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9EQXhNalU1TVE9PQ==&subcatid=
======================================