สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คือค่าเฉลี่ยของ การเบี่ยงเบน จาก ค่าเฉลี่ยอีกทีครับ เอาง่ายๆคือ สมมิตว่า คุณมี Data อยู่ 3 ค่าละกัน
x1 = 10
x2 = 12
x3= 14
ดังนั้น ค่าเฉลี่ย ของ 3 ค่า คือ (10+12+14)/3= 12 แและจะมีค่า เบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยของแต่ละค่าคือ
S1 = 10-12 =-2
S2= 12-12 =0
S3 = 14-12 = 2
ค่า เบี่งเบนมาตรฐานคือ (2+0+2)/3 = 1.3333 หมายความว่า ค่าทุกค่าห่างจากค่าเฉลี่ยโดยเฉลี่ย 1.3333 ครับ
ความหมายคร่าวๆ ประมาณนี้ แต่ วิธีการคิดไม่ได้อย่างนี้นะครับ มันต้องขึ้นกับ จำนวนตัวแปร , ลักษณะของข้อมูล ฯลฯ
x1 = 10
x2 = 12
x3= 14
ดังนั้น ค่าเฉลี่ย ของ 3 ค่า คือ (10+12+14)/3= 12 แและจะมีค่า เบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยของแต่ละค่าคือ
S1 = 10-12 =-2
S2= 12-12 =0
S3 = 14-12 = 2
ค่า เบี่งเบนมาตรฐานคือ (2+0+2)/3 = 1.3333 หมายความว่า ค่าทุกค่าห่างจากค่าเฉลี่ยโดยเฉลี่ย 1.3333 ครับ
ความหมายคร่าวๆ ประมาณนี้ แต่ วิธีการคิดไม่ได้อย่างนี้นะครับ มันต้องขึ้นกับ จำนวนตัวแปร , ลักษณะของข้อมูล ฯลฯ
สมาชิกหมายเลข 1099265 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 718734 ถูกใจ, ต้น เชลซี ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8540846 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, salamis ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7829206 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6834692 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 5021567 ถูกใจ, HAMBURGER ถูกใจรวมถึงอีก 18 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือ ตัวเลข ตัวหนึ่ง
ตัวเลขนี้ บอกเราว่า ข้อมูลที่มีอยู่ทุกตัวนั้น "โดยเฉลี่ยแล้ว"
มันต่างกับค่า mean เท่าใด
ดังที่คุณ ArtyTU เขียนมาให้ข้างบนครับ
พอเขียนมาแบบนี้ ก็จะมีคนแย้งอีกว่า ไม่ใช่ดอก
เอาเป็นว่า แบบ บ้านๆ นั้น คือแบบนี้ครับ
---------------------------------------------------------
ในทางอุตสาหกรรม เช่นการผลิตหลอดไฟฟ้า
ทางโรงงาน ต้องการให้ได้หลอดไฟฟ้า ที่มีมาตรฐาน ดี
เช่นหลอดหนึ่ง ใช้งานได้ 10,000 ชั่วโมง เหมือนกันทุกหลอด
แต่ความจริง ย่อมมีบางหลอดใช้ได้ 9,500 ชั่วโมง บางหลอดใช้ได้ 11,500 ชั่วโมง
ถ้าจะเอาเข้าจริงๆ ต้องตั้งมาตรฐานไว้ ให้ค่าที่ ต่างจาก 10,000 ชั่วโมงนั้น มีค่าน้อยๆ
เช่น 10,000 ชั่วโมง เบี่ยงไปทางน้อยได้ไม่เกิน 100 ชั่วโมงนะ เบี่ยงไปทางมาก ก้อเช่นกัน
ถ้าเบี่ยงไปมาก เช่นเบี่ยงไป เป็น 1,000 ชั่วโมงนั้น มันไม่เหมาะ
ดังนั้นค่า SD. ในอุตสาหกรรมการผลิต แบบนี้ ต้องมีน้อยๆ ไม่ควรเกิน 1 %
---------------------------------------------------------------------------------
ในทางกลับกัน เช่นการออกข้อสอบ เพื่อคัดคน แยกคนเก่งออกจากคนอ่อน
แยกคนกลางออกจากคนอ่อน
เราต้องทำข้อสอบให้มีค่า SD. เยอะๆ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า คนที่เก่ง อยู่ห่างจากคนอ่อน
เช่น ค่ากลางอยู่ที่ 50 คะแนน ค่า SD ควรจะมีถึง 15 หรือ 20 คะแนนขึ้นไป
ทำให้แยกคนได้ง่ายและไม่ต้องระวังว่า จะมีคนอ่อนหรือคนกลางๆ หลุดเข้ามาหรือไม่
ใช้ประโยชน์ ได้เยอะทีเดียวคับ
แต่นี่เป็นเรื่อง ของตัวเลข เชิงปริมาณนะครับ
ไม่ใช่ตัวเลขที่วัดแล้ว ไม่ชัวร์ เช่น ความสวย ความชอบ ความเป็นธรรม
ความนิยมในสินค้า ความอร่อย อย่างนี้ ท่านว่า แม้นนำมาใช้ ก็ไม่น่าเชื่อถือครับ
ตัวเลขเชิงปริมาณเช่น อุณหภูมิ
ความสูงของต้นไม้ น้ำหนักของผู้ป่วย ปริมาณที่ให้ยาเป็น ml
ความดันโลหิต จำนวนครั้งของการเต้นของหัวใจในหนึ่งนาที
อะไรทำนองนี้ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด
ตัวเลขนี้ บอกเราว่า ข้อมูลที่มีอยู่ทุกตัวนั้น "โดยเฉลี่ยแล้ว"
มันต่างกับค่า mean เท่าใด
ดังที่คุณ ArtyTU เขียนมาให้ข้างบนครับ
พอเขียนมาแบบนี้ ก็จะมีคนแย้งอีกว่า ไม่ใช่ดอก
เอาเป็นว่า แบบ บ้านๆ นั้น คือแบบนี้ครับ
---------------------------------------------------------
ในทางอุตสาหกรรม เช่นการผลิตหลอดไฟฟ้า
ทางโรงงาน ต้องการให้ได้หลอดไฟฟ้า ที่มีมาตรฐาน ดี
เช่นหลอดหนึ่ง ใช้งานได้ 10,000 ชั่วโมง เหมือนกันทุกหลอด
แต่ความจริง ย่อมมีบางหลอดใช้ได้ 9,500 ชั่วโมง บางหลอดใช้ได้ 11,500 ชั่วโมง
ถ้าจะเอาเข้าจริงๆ ต้องตั้งมาตรฐานไว้ ให้ค่าที่ ต่างจาก 10,000 ชั่วโมงนั้น มีค่าน้อยๆ
เช่น 10,000 ชั่วโมง เบี่ยงไปทางน้อยได้ไม่เกิน 100 ชั่วโมงนะ เบี่ยงไปทางมาก ก้อเช่นกัน
ถ้าเบี่ยงไปมาก เช่นเบี่ยงไป เป็น 1,000 ชั่วโมงนั้น มันไม่เหมาะ
ดังนั้นค่า SD. ในอุตสาหกรรมการผลิต แบบนี้ ต้องมีน้อยๆ ไม่ควรเกิน 1 %
---------------------------------------------------------------------------------
ในทางกลับกัน เช่นการออกข้อสอบ เพื่อคัดคน แยกคนเก่งออกจากคนอ่อน
แยกคนกลางออกจากคนอ่อน
เราต้องทำข้อสอบให้มีค่า SD. เยอะๆ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า คนที่เก่ง อยู่ห่างจากคนอ่อน
เช่น ค่ากลางอยู่ที่ 50 คะแนน ค่า SD ควรจะมีถึง 15 หรือ 20 คะแนนขึ้นไป
ทำให้แยกคนได้ง่ายและไม่ต้องระวังว่า จะมีคนอ่อนหรือคนกลางๆ หลุดเข้ามาหรือไม่
ใช้ประโยชน์ ได้เยอะทีเดียวคับ
แต่นี่เป็นเรื่อง ของตัวเลข เชิงปริมาณนะครับ
ไม่ใช่ตัวเลขที่วัดแล้ว ไม่ชัวร์ เช่น ความสวย ความชอบ ความเป็นธรรม
ความนิยมในสินค้า ความอร่อย อย่างนี้ ท่านว่า แม้นนำมาใช้ ก็ไม่น่าเชื่อถือครับ
ตัวเลขเชิงปริมาณเช่น อุณหภูมิ
ความสูงของต้นไม้ น้ำหนักของผู้ป่วย ปริมาณที่ให้ยาเป็น ml
ความดันโลหิต จำนวนครั้งของการเต้นของหัวใจในหนึ่งนาที
อะไรทำนองนี้ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด
ChadChad ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, salamis ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5021567 ถูกใจ, HAMBURGER ถูกใจ, AMIYAMA ถูกใจ, CupJok ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2803004 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 800438 ถูกใจ, True Alpha ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคืออะไรครับ?
ใครสามารถช่วยอธิบายเป็นภาษาชาวบ้านๆ ให้ผมเข้าใจทีครับ
ขอบคุณล่วงหน้ามากมายครับ