[กระทู้สโมสรอิตาลี 2013-05-07] เซซาเร โปเลงกี : มองบุนเดสลีกา แล้วย้อนมามองกัลโช่

บรรณาธิการบริหารภาคพื้นเอเชียชาวอิตาเลียนของโกล ชี้ชัด ๆ ว่าทำไมสโมสรอิตาเลียนจึงต้องเอาความเป็นอริไปเก็บไว้ก่อน แล้วรีบปลุกฟุตบอลอิตาลีให้ตื่นขึ้นมาเสียที



ยูเวนตุสและลาซิโอ ถูกเขี่ยออกจากสมรภูมิยุโรปทั้งสองถ้วยเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์แล้ว - เจ็ดทีมจากอิตาลีในศึกชิงเจ้ายุโรป ไม่มีแม้สักทีมที่ผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศ

ส่วนชาติอื่น ๆ ที่ไปได้ไกลกว่า ถ้าไม่นับเยอรมันและสเปน ก็มีตุรกี, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ และโปรตุเกส ซึ่งรายหลังนี้ นับวันยิ่งใต่อันดับ UEFA Ranking เข้ามาใกล้อิตาลีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแม้จะไม่ทำให้โควต้าแชมเบียนส์ลีกเปลี่ยนไป แต่บรรรดาผู้บริหารและเจ้าของทีมในอิตาลีนั้นควรจับตามองสถานการณ์นี้ร่วมกันเสียที

หลังยูเวนตุสโดนบาเยิร์นข่มมิดเป็นนัดที่สองในรอบ 9 วัน ในห้องแถลงข่าว อันโตนิโอ คอนเต้ และเป็ปเป้ มาร็อตต้า ผู้จัดการทั่วไป พูดถึงฟุตบอลแค่นิดหน่อย แล้วไปให้น้ำหนักกับเรื่องการเงินแทน พวกเขาเน้นเรื่องที่บาเยิร์นเป็นสโมสรที่รวยกว่ามาก และมีฐานะทางการเงินสูงขึ้นไปอีกระดับ

อย่างน้อยการที่ยูเวนตุสเริ่มเข้าใจความสำคัญของเศรษฐกิจในฟุตบอลสมัยใหม่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี และหวังว่าสาส์นนี้จะถูกส่งผ่านไปสู่สโมสรในอิตาลีทั้งหมดด้วย เพราะนี่น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมเสียที

ในสมัยก่อน กองเชียร์อิตาเลียนจะเพลิดเพลินกับการ "ถ่ม" ยามทีมอริของตนถูกทีมต่างชาติถีบตกรอบ แต่การโดนบาเยิร์น มิวนิค ขยี้แบบคนละชั้น ของยูเวนตุสคราวนี้ กลับไม่ค่อยมีอะไรแบบนั้น

เพราะการได้เห็นเต้ยแห่งฟุตบอลอิตาเลียนในสองฤดูกาลล่าสุด ถูกขย่มคาบ้านตัวเองขนาดนั้น น่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่างถึงบรดาแฟน ๆ



ตัดประเด็นประวัติศาสตร์ออกไป ชาวอิตาเลียนและชาวเยอรมันนั้นเต็มไปด้วยเรื่องทั้งรักทั้งชังมากมาย ในขณะที่ชาวเยอรมันยังคงหลงไหลในศิลปะและอาหารสไตล์อิตาเลียน ตอนนี้คงถึงเวลาที่อิตาเลียนชน ต้องริษยาในความสำเร็จทางฟุตบอลของชาวเยอรมันบ้าง
        
แม้จะไม่ค่อยมีผู้เล่นระดับสตาร์ เกมบุนเดสลีกานั้นมีผู้ชมเต็มสนาม ราคาตั๋วสมเหตุสมผล และการไปชมฟุตบอลนั้น เป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินได้ทั้งครอบครัว



ในอิตาลี มีไม่กี่ครั้งที่สนามจะไม่โหรงเหรง นาน ๆ เข้าสโมสรก็จำต้องขึ้นค่าตั๋ว ยังไม่พูดถึงว่า ฟุตบอลอิตาลียังคงเต็มไปด้วยปัญหาฮูลิแกนและการเหยียดเชื้อชาติ



คำถามก็คือ สโมสรและสมาคม ทำอะไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้บ้าง? คำตอบคือแทบจะไม่ทำอะไรเลย

ตัวอย่างง่าย ๆ คือเมื่อราวต้นเดือนเมษาฯ ทั้ผู้บริหารของมิลานและอินเตอร์ ต่างก็ออกมาโวยวายว่ามีการ "สมคบคิด" กัน เนื่องจากการตัดสินไม่กี่จังหวะของผู้ตัดสิน

การโยนคำวิจารณ์แบบไม่รู้จักโตใส่ผู้ตัดสิน, ใส่สมาคม และใส่กันเอง แทนที่จะรวมกันให้เป็นหนึ่ง - ในความเห็นของผม นี่คือหัวใจของปัญหาในฟุตบอลอิตาเลียน ถ้าเป็นการเมือง ปัญหาแบบนี้ต้องเริ่มแก้โดยคนที่เป็น "น้ำดี" จำนวนหนึ่ง แต่ถ้าดูสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เราแทบไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เลย

พรีเมียร์ลีกอังกฤษแสดงให้เห็นมาเป็นทศวรรษแล้วว่า การบริหารจัดการฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องทำอย่างไร แต่ทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ส กลับไม่ค่อยมีคนเห็นมัน



ในอิตาลี ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากแฟนบอลหรือสื่อมวลชน สมาคมเองต้องร่วมกับสโมสร นั่งโต๊ะเจรจากัน เก็บผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ก่อน แล้วทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนภาพฟุตบอลอิตาเลียนเสียใหม่

ยูเวนตุสเองควรเข้ามามีส่วนในการพูดคุยด้วย ชัดเจนว่าการครองความเป็นใหญ่ในอิตาลีนั้น ยังไม่พอ สำหรับทีมที่มีเป้าหมายอยู่ที่ยุโรปอย่าเจ้าม้าลาย และถ้าเซเรีย อา ยังอ่อนแอ พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะไปสู้กับทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แน่ ๆ



หรือไม่ ก็จงเล่นสงครามกลางเมืองหน่อมแน้มกันต่อไป แล้วกลางสัปดาห์ ก็มานั่งดูทีมจากเยอรมัน ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์ เขาเล่นรอบรองฯ กันในสนามที่คนดูเต็มเอี๊ยดด้วยกัน

link : http://www.goal.com/th/news/4265/คอลัมน์/2013/04/15/3904221/เซซาเร-โปเลงกี-มองบุนเดสลีกา-แล้วย้อนมามองกัลโช

โดย เซซาเร โปเลงกี บรรณาธิการบริหารภาคพื้นเอเชียชาวอิตาเลียนของ goal.com cesare.polenghi@goal.com  @CesarePolenghi