- หลายคนบอกว่าพ่อแม่รังแกฉัน พ่อน้องกรีนหวงลูกสาวมากเกินไป ทั้งที่น้องกรีนบรรจุนิติภสวะแล้ว โตแล้ว
- หลายคนบอกว่าเคลลี่ทำเกินไป ทำแบบนี้จะยิ่งทำให้น้องกรีนลำบากใจและกลายเป็นจำเลยของสังคม
................สำหรับเรา..... เราคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดจากการกระทำของน้องกรีนตั้งแต่ต้น.........
เราลองลำดับเหตุการณ์จากข่าวที่ได้ทราบมานะคะ
1.น้องกรีนตกลงใจคบกับพี่เคลลี่ ทำให้เกิดคู่รักต่างวัยอีก 1 คู่ในวงการ
2. พ่อแม่น้องกรีนออกแนวไม่ค่อยปลื้มที่ทั้งคู่คบกัน เราว่ามันก้อแค่เป็นความรู้สึกแรกของพ่อแม่ทุกคนเวลาที่รู้ว่าลูกสาวกำลังจะมีคนรู้ใจ พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการหวงและห่วงลูกสาวขึ้นมาทันที ก้อเลยมักจะสร้างกำแพงเล็กๆขึ้นมาเพื่อทดสอบว่าที่ลูกเขยว่าจะสามารถข้ามกำแพงนี้ไปได้มั้ย อย่างกรณีของน้องกรีน ในตอนแรกพ่อแม่ก้อสร้างกำแพงเรื่องอายุของทั้งคู่ ( บางคนก้อเจอกำแพงฐานะ บางคนก้อเจอกำแพงเรื่องหน้าที่การงาน..ต่างๆกันไป ) มันเหมือนเป็นบททดสอบของพ่อกับแม่มากกว่า ไม่ได้เกิดมาจากความรู้สึกรังเกียจ จงเกลียดจงชังตั้งแต่แรกเห็น ขึ้นอยู่ว่าลูกสาวและคนรักจะช่วยกันแก้โจทย์ยังไง ซึ่งจริงๆแล้วเราควรเดินหน้าเข้าหามัน และใช้ความพยายามเพื่อให้สามารถผ่านกำแพงนั้นไปให้ได้
3. แต่แทนที่น้องกรีนจะเลือกที่จะพาพี่เคลลี่เข้าหาครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าความรักที่ต่างวัยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด นางกลับเลือกเดินหนีปัญหา โดยการแยกตัวออกห่างครอบครัว ทำให้พ่อแม่เกิดความไม่พอใจมากขึ้น จากกำแพงเล็กๆก้อกลายเป็นกำแพงที่สูงขึ้นอีก 1 ระดับ ความห่างเหินก้อยิ่งทำให้ไม่เข้าใจกันมากขึ้นระหว่างน้องกรีนกับครอบครัว
4. สำหรับพ่อแม่ทุกคนแล้ว..ไม่ว่าจะยังไงไม่มีวันโทษว่าลูกสาวตัวเองเป็นคนผิดอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ต้องหาในกรณีนี้ก้อตกเป็นของพี่เคลลี่ แต่ทางตัวพี่เคลลี่เองก้อยังยืนยันหัวแข็งว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร และยังบอกว่าการที่น้องกรีนที่ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวก้อไม่ผิดอะไรเพราะน้องโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว ตัดสินใจอะไรเองได้แล้ว ทำให้พ่อแม่น้องกรีนเริ่มไม่พอใจมากขึ้น เพราะสำหรับพ่อแม่แล้วไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ลูกก้อยังเป็นเด็กอยู่เสมอสำหรับท่าน ท่านยังคงห่วง อยากอยู่ใกล้อยากดูแลเราอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่น้องกรีนทำ ( ไม่มาเจอครอบครัวเกือบ 10 เดือน T^T ) มันเหมือนตอกย้ำให้พ่อแม่คิดว่าการคบกันของทั้งคู่ทำให้น้องกรีนเปลี่ยนไปไม่น่ารักเหมือนเดิม ไม่เหมือนน้องกรีนคนเดิมที่เคยอยู่กับครอบครัว ทำให้พ่อแม่เริ่มรู้สึกไม่พอใจในตัวของเคลลี่มากขึ้น เพราะในตอนนี้เคลลี่กลายเป็นประเด็นเดียวที่ทำให้น้องกรีนและครอบครัวห่างเหินกัน ( แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะตัวน้องกรีนเองตะหากที่เลือกแบบนี้ ) จากกำแพงที่พ่อแม่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแบบทดสอบให้ทั้งคู่กระโดดข้ามมันมา ก้อกลายเป็นกำแพงสูงๆ ไว้สกัดไม่ให้เคลลี่เข้ามาได้ และกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างที่เห็นกันในวันนี้
........สำหรับเรา เราคิดว่า ถ้าในตอนแรกน้องกรีนไม่เลือกที่จะหนีปัญหา แล้วจูงมือพี่เคลลี่เข้าไปหาพ่อแม่ พยายามทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าทั้งคู่รักกันจริง อุปสรรคเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหาในรักครั้งนี้ ต่อให้แรกๆพ่อน้องกรีนอาจจะไม่ปลื้ม อาจจะไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าเรามีความพยายาม ทำความดีให้ท่านเห็น เชื่อว่าซักวันท่านจะใจอ่อนอย่างแน่นอน ทุกคนย่อมแพ้ในผลของความดี แต่ทั้งน้องกรีนและพี่เคลลี่เลือกที่จะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ มีทิฐิ หยิ่งผยองว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ผิด ซึ่งจริงๆมันก้อไม่มีใครผิดหรอก เพียงแต่เมื่อคุณทั้งสองทำแบบนี้ ...ในสายตาของผู้ใหญ่ คุณคือเด็กหัวดื้อ เด็กรั้น เด็กไม่มีสัมมาคาราวะ ไม่รู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ แล้วปัญหาที่เกิดมันจะจบด้วยดีได้ยังไง จริงๆแล้วสิ่งที่คุณควรทำคือ การวิ่งเข้าหาผู้ใหญ่ กล่าวคำขอโทษ ไว้ก่อนไม่ว่าในหลักความจริงแล้วใครจะผิดก้อตาม เชื่อมั้ยว่าแค่เรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน แค่เรากล่าวคำขอโทษ แค่นี้กำแพงที่ท่านสร้างไว้มันก้อจะค่อยๆสลายไปเอง การคบกันเป็นเรื่องของคนสองคนก้อจริง แต่เราก้อควรทำให้คนที่เฝ้าเป็นห่วงเรามากที่สุดในชีวิตอย่างพ่อกับแม่ได้รับรู้ด้วย ที่ท่านสนใจเรื่องระหว่างเราสองคนเพราะท่านเป็นห่วง ยิ่งคนที่เป็นพ่อแม่ของฝ่ายหญิงยิ่งห่วงและหวงมากเป็นพิเศษ เราก้อควรคบกันแบบที่ให้อยู่ในสายตาท่าน ไม่ใช่หนีหายไปแบบนี้ จะทำอะไรก้อควรคิดถึงความรู้สึกของท่านบ้าง การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดีของปัญหา เพราะปัญหามันยังไม่จบมันยังไม่หายไปไหน... สุดท้ายมันก้อกลับมาหาเราอยู่ดี
***** นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ อาจจะผิดจะถูก อาจจะทำให้ใครหลายๆคนไม่พอใจ ก้อขอโทษด้วยนะคะ ตั้งขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเนอะ ไม่ได้มีเจตนาเพื่อโจมตีใครนะคะ ****
คิดยังไงกับกรณีของน้องกรีน – เคลลี่ – คุณพ่อ
- หลายคนบอกว่าเคลลี่ทำเกินไป ทำแบบนี้จะยิ่งทำให้น้องกรีนลำบากใจและกลายเป็นจำเลยของสังคม
................สำหรับเรา..... เราคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดจากการกระทำของน้องกรีนตั้งแต่ต้น.........
เราลองลำดับเหตุการณ์จากข่าวที่ได้ทราบมานะคะ
1.น้องกรีนตกลงใจคบกับพี่เคลลี่ ทำให้เกิดคู่รักต่างวัยอีก 1 คู่ในวงการ
2. พ่อแม่น้องกรีนออกแนวไม่ค่อยปลื้มที่ทั้งคู่คบกัน เราว่ามันก้อแค่เป็นความรู้สึกแรกของพ่อแม่ทุกคนเวลาที่รู้ว่าลูกสาวกำลังจะมีคนรู้ใจ พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการหวงและห่วงลูกสาวขึ้นมาทันที ก้อเลยมักจะสร้างกำแพงเล็กๆขึ้นมาเพื่อทดสอบว่าที่ลูกเขยว่าจะสามารถข้ามกำแพงนี้ไปได้มั้ย อย่างกรณีของน้องกรีน ในตอนแรกพ่อแม่ก้อสร้างกำแพงเรื่องอายุของทั้งคู่ ( บางคนก้อเจอกำแพงฐานะ บางคนก้อเจอกำแพงเรื่องหน้าที่การงาน..ต่างๆกันไป ) มันเหมือนเป็นบททดสอบของพ่อกับแม่มากกว่า ไม่ได้เกิดมาจากความรู้สึกรังเกียจ จงเกลียดจงชังตั้งแต่แรกเห็น ขึ้นอยู่ว่าลูกสาวและคนรักจะช่วยกันแก้โจทย์ยังไง ซึ่งจริงๆแล้วเราควรเดินหน้าเข้าหามัน และใช้ความพยายามเพื่อให้สามารถผ่านกำแพงนั้นไปให้ได้
3. แต่แทนที่น้องกรีนจะเลือกที่จะพาพี่เคลลี่เข้าหาครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าความรักที่ต่างวัยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด นางกลับเลือกเดินหนีปัญหา โดยการแยกตัวออกห่างครอบครัว ทำให้พ่อแม่เกิดความไม่พอใจมากขึ้น จากกำแพงเล็กๆก้อกลายเป็นกำแพงที่สูงขึ้นอีก 1 ระดับ ความห่างเหินก้อยิ่งทำให้ไม่เข้าใจกันมากขึ้นระหว่างน้องกรีนกับครอบครัว
4. สำหรับพ่อแม่ทุกคนแล้ว..ไม่ว่าจะยังไงไม่มีวันโทษว่าลูกสาวตัวเองเป็นคนผิดอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ต้องหาในกรณีนี้ก้อตกเป็นของพี่เคลลี่ แต่ทางตัวพี่เคลลี่เองก้อยังยืนยันหัวแข็งว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร และยังบอกว่าการที่น้องกรีนที่ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวก้อไม่ผิดอะไรเพราะน้องโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว ตัดสินใจอะไรเองได้แล้ว ทำให้พ่อแม่น้องกรีนเริ่มไม่พอใจมากขึ้น เพราะสำหรับพ่อแม่แล้วไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ลูกก้อยังเป็นเด็กอยู่เสมอสำหรับท่าน ท่านยังคงห่วง อยากอยู่ใกล้อยากดูแลเราอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่น้องกรีนทำ ( ไม่มาเจอครอบครัวเกือบ 10 เดือน T^T ) มันเหมือนตอกย้ำให้พ่อแม่คิดว่าการคบกันของทั้งคู่ทำให้น้องกรีนเปลี่ยนไปไม่น่ารักเหมือนเดิม ไม่เหมือนน้องกรีนคนเดิมที่เคยอยู่กับครอบครัว ทำให้พ่อแม่เริ่มรู้สึกไม่พอใจในตัวของเคลลี่มากขึ้น เพราะในตอนนี้เคลลี่กลายเป็นประเด็นเดียวที่ทำให้น้องกรีนและครอบครัวห่างเหินกัน ( แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะตัวน้องกรีนเองตะหากที่เลือกแบบนี้ ) จากกำแพงที่พ่อแม่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแบบทดสอบให้ทั้งคู่กระโดดข้ามมันมา ก้อกลายเป็นกำแพงสูงๆ ไว้สกัดไม่ให้เคลลี่เข้ามาได้ และกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างที่เห็นกันในวันนี้
........สำหรับเรา เราคิดว่า ถ้าในตอนแรกน้องกรีนไม่เลือกที่จะหนีปัญหา แล้วจูงมือพี่เคลลี่เข้าไปหาพ่อแม่ พยายามทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าทั้งคู่รักกันจริง อุปสรรคเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหาในรักครั้งนี้ ต่อให้แรกๆพ่อน้องกรีนอาจจะไม่ปลื้ม อาจจะไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าเรามีความพยายาม ทำความดีให้ท่านเห็น เชื่อว่าซักวันท่านจะใจอ่อนอย่างแน่นอน ทุกคนย่อมแพ้ในผลของความดี แต่ทั้งน้องกรีนและพี่เคลลี่เลือกที่จะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ มีทิฐิ หยิ่งผยองว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ผิด ซึ่งจริงๆมันก้อไม่มีใครผิดหรอก เพียงแต่เมื่อคุณทั้งสองทำแบบนี้ ...ในสายตาของผู้ใหญ่ คุณคือเด็กหัวดื้อ เด็กรั้น เด็กไม่มีสัมมาคาราวะ ไม่รู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ แล้วปัญหาที่เกิดมันจะจบด้วยดีได้ยังไง จริงๆแล้วสิ่งที่คุณควรทำคือ การวิ่งเข้าหาผู้ใหญ่ กล่าวคำขอโทษ ไว้ก่อนไม่ว่าในหลักความจริงแล้วใครจะผิดก้อตาม เชื่อมั้ยว่าแค่เรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน แค่เรากล่าวคำขอโทษ แค่นี้กำแพงที่ท่านสร้างไว้มันก้อจะค่อยๆสลายไปเอง การคบกันเป็นเรื่องของคนสองคนก้อจริง แต่เราก้อควรทำให้คนที่เฝ้าเป็นห่วงเรามากที่สุดในชีวิตอย่างพ่อกับแม่ได้รับรู้ด้วย ที่ท่านสนใจเรื่องระหว่างเราสองคนเพราะท่านเป็นห่วง ยิ่งคนที่เป็นพ่อแม่ของฝ่ายหญิงยิ่งห่วงและหวงมากเป็นพิเศษ เราก้อควรคบกันแบบที่ให้อยู่ในสายตาท่าน ไม่ใช่หนีหายไปแบบนี้ จะทำอะไรก้อควรคิดถึงความรู้สึกของท่านบ้าง การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดีของปัญหา เพราะปัญหามันยังไม่จบมันยังไม่หายไปไหน... สุดท้ายมันก้อกลับมาหาเราอยู่ดี
***** นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ อาจจะผิดจะถูก อาจจะทำให้ใครหลายๆคนไม่พอใจ ก้อขอโทษด้วยนะคะ ตั้งขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเนอะ ไม่ได้มีเจตนาเพื่อโจมตีใครนะคะ ****