รถยนต์ดิฉันถูกชนท้ายโดยรถตู้ เมื่อลงมาดูความเสียหายที่เห็นก็มีสีกันชนที่ถลอกไป คู่กรณีที่เป็นคนขับรถตู้ลงมาดูแล้วบอกว่าไม่เป็นไร ถลอกนิดหน่อยเท่านั้น ดิฉันมองความเสียหายไม่ถนัดเพราะเวลานั้นค่ำแล้วกลัวว่าจะมีความเสียหายอื่นที่ไม่เห็น จึงสอบถามคู่กรณีไปว่ามีประกันภัยไหม
เมื่อเขาตอบว่ามีประกันชั้นหนึ่ง ดิฉันจึงบอกว่าหากต่างฝ่ายต่างมีประกันก็ให้แจ้งประกันมารับผิดชอบประเมินความเสียหาย
ดิฉันได้โทรแจ้งประกัน ถ่ายภาพจุดเกิดเหตุและลักาณะการเกิดเหตุ ถ่ายทะเบียนรถผู้ขับชน และใบขับขี่ไว้ สักพักคนที่โดยสารมาในรถตู้พยายามลงมาไกล่เกลี่ยบอกว่าเป็นรถที่เช่ามาและไม่สามารถติดต่อเจ้าของขณะนี้ได้ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเขาจะชดเชยค่าเสียหายให้โดยไม่ขอรอประกัน ดิฉันโทรไปถามประกันว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร จนท.ประกันบอกว่าการเปิดเคสได้เปิดไปแล้วก็ต้องรอตัวแทนประกันไปยังที่เกิดเหตุให้ดิฉันรอประกัน ดิฉันเลยแจ้งทางคู่กรณีไปตามนั้น
ทางผู้เช่ารถบอกให้เอารถเข้าข้างทางเพื่อลดการกีดขวางจราจร เราเลยเอารถมาจอดรอประกัน ผู้เช่ารถได้มาขอใบขับขี่ของคนขับคืน ดิฉันถามว่าได้ติดต่อประกันหรือยังเขาบอกว่ากำลังติดต่อประกันอยู่ ดิฉันถามเขาและคนขับว่าประกันภัยอะไร เขาตอบว่าไม่ทราบ ดิฉันเห็นว่าเวลาผ่านมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วเขายังติดต่อประกันไม่ได้เลยกังวลว่าจะมีอะไรผิดปกติ และหลักฐานที่เป็ชิ้นเป็นอันที่มีก็คือใบขับขี่ จึงบอกพวกเขาไปว่า จะมอบให้ตัวแทนประกันของดิฉันคืนให้เมื่อประกันมาถึง หรือไม่ก็ให้คืนต่อตำรวจที่เข้ามาดูกรณีให้เรียบร้อยแล้ว
ผู้โดยสารรถตู้มีท่าทีโกรธ พูดกับดิฉันว่าดิฉันไม่มีสิทธิยึดใบขับขี่ใคร ดิฉันชี้แจงว่าไม่ได้ยึดเพียงแต่ขอเก็บไว้เพื่อความสบายใจและจะคืนให้ต่อ จนท ประกัน หรือ ตำรวจที่มาถึงที่เกิดเหตุนี้ก่อน
ผ่านไปเกือบชั่วโมงประกันดิฉันมาถึงดิฉันจึงมอบใบขับขี่ให้ตัวแทนไป เขาไปเจรจากับฝ่ายนั้น ทราบมาว่าทางนั้นยัง ติดต่อบริษัทประกันไม่ได้เลย ดิฉันจึงถามว่าจะมีวิธีใดที่เรื่องจะจบแล้วให้ประกันทำหน้าที่รับช่วงการเจรจาไปได้ ทางประกันดิฉันจึงบอกว่ามีสองทางคือรอประกันเขามาซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร หรือไปแจ้งความลงบันทึกซึ่งเมื่อแจ้งความลงบันทึกระว่าคู่กรณีแล้วประกันก็จะดำเนินการได้ดิฉันก็กลับได้ ดิฉันจึงตกลงเลือกการเข้าแจ้งความ
พอประกันไปบอกทางฝ่ายนั้นเขาไม่ยอมไปโรงพักบอกว่าติดต่อประกันได้แล้วจะรอ แต่พอดีมีตำรวจทางหลวงผ่านมาเพราะตำรวจได้รับแจ้งเหตุดิฉันประกันของดิฉันจึงได้ให้ข้อมูลทางตำรวจไป และบอกตำรวจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่คู่กรณีเพิ่งแจ้งประกันทราบ
หากรอประกันคงต้องเสียเวลาอีกเป็นชั่วโมงทางดิฉันซึ่งเป็นฝ่ายเสียหายจึงขอเลือกการแจ้งความเพื่อเป้นหลักฐานการเคลมประกันแทนการรอประกันอีกฝ่ายมา
ตำรวจจึงเข้าไปแจ้งกับคู่กรณีให้มาที่โรงพัก เมื่อมาถึงก็มีการลงบันทึก และเซ็นรับทราบการลงบันทึกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ทางผู้จ้างรถตู้ได้บอกกับตำรวจให้ลงบันทึกว่าดิฉันได้ยึดใบขับขี่ไว้ และได้คืนใบขับขี่ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ ด้วยเขาถึงจะยอมให้คนขับรถของเขาเซ็น ดิฉันถามคุณตำรวจว่าลงบันทึกแบบนี้จะมีผลอะไรไหม ทางตำรวจบอกว่าไม่มีหรอกเพราะเจตนาเราไม่ได้ยึด แต่เป็นการขอเก็บเอกสารไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่นั้นและได้คืนให้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่แล้ว
พอเซ็นเอกสารจบ ดิฉันได้รับคำขู่จากผู้ที่เช่าโดยารมาในรถตู้ ว่าเรื่องมันน่าจะจบง่ายๆทำให้เป็นเรื่องยาก เขาจะทำให้เรื่องนี้เป้นเรื่องยากให้สะใจโดยการจะแจ้งความดำเนินคดีดิฉันที่ไปยึดใบขับขี่ของคนขับรถโดยมิชอบ เขามีญาติเป็นนายตำรวจซึ่งปรึกษากันแล้วว่าจะแจ้งดำเนินคดีกับดิฉันจนถึงที่สุด
ดิฉันไม่ทราบว่ามันแค่เป็นการขู่ให้ใจเสีย หรือเขาสามารถดำเนินคดีกับดิฉันได้จริง และหากดำเนินคดีได้ดิฉันสามารถชีแจงเจตนาที่เกิดจากสถานการณ์ที่มันไม่ปกติจนทำให้ดิฉันต้องขอเถือใบขับขี่ไว้เพื่อรอประกันหรือตำรวจเข้ามาช่วยเหลือก่อนได้ไหม
ขอความกรุณาผู้รู้กฎหมายช่วยตอบด้วยค่ะ....ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายถูกขู่ด้วยข้อกฎหมาย เป็นกังวลใจจริงๆค่ะ
คู่กรณีที่ขับรถชนท้ายบอกจะฟ้องดิฉันเรื่องที่ดิฉันขอถือใบขับขี่ของคู่กรณีเพื่อรอประกันภัยหรือรอตำรวจมาเคลียร์
เมื่อเขาตอบว่ามีประกันชั้นหนึ่ง ดิฉันจึงบอกว่าหากต่างฝ่ายต่างมีประกันก็ให้แจ้งประกันมารับผิดชอบประเมินความเสียหาย
ดิฉันได้โทรแจ้งประกัน ถ่ายภาพจุดเกิดเหตุและลักาณะการเกิดเหตุ ถ่ายทะเบียนรถผู้ขับชน และใบขับขี่ไว้ สักพักคนที่โดยสารมาในรถตู้พยายามลงมาไกล่เกลี่ยบอกว่าเป็นรถที่เช่ามาและไม่สามารถติดต่อเจ้าของขณะนี้ได้ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเขาจะชดเชยค่าเสียหายให้โดยไม่ขอรอประกัน ดิฉันโทรไปถามประกันว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร จนท.ประกันบอกว่าการเปิดเคสได้เปิดไปแล้วก็ต้องรอตัวแทนประกันไปยังที่เกิดเหตุให้ดิฉันรอประกัน ดิฉันเลยแจ้งทางคู่กรณีไปตามนั้น
ทางผู้เช่ารถบอกให้เอารถเข้าข้างทางเพื่อลดการกีดขวางจราจร เราเลยเอารถมาจอดรอประกัน ผู้เช่ารถได้มาขอใบขับขี่ของคนขับคืน ดิฉันถามว่าได้ติดต่อประกันหรือยังเขาบอกว่ากำลังติดต่อประกันอยู่ ดิฉันถามเขาและคนขับว่าประกันภัยอะไร เขาตอบว่าไม่ทราบ ดิฉันเห็นว่าเวลาผ่านมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วเขายังติดต่อประกันไม่ได้เลยกังวลว่าจะมีอะไรผิดปกติ และหลักฐานที่เป็ชิ้นเป็นอันที่มีก็คือใบขับขี่ จึงบอกพวกเขาไปว่า จะมอบให้ตัวแทนประกันของดิฉันคืนให้เมื่อประกันมาถึง หรือไม่ก็ให้คืนต่อตำรวจที่เข้ามาดูกรณีให้เรียบร้อยแล้ว
ผู้โดยสารรถตู้มีท่าทีโกรธ พูดกับดิฉันว่าดิฉันไม่มีสิทธิยึดใบขับขี่ใคร ดิฉันชี้แจงว่าไม่ได้ยึดเพียงแต่ขอเก็บไว้เพื่อความสบายใจและจะคืนให้ต่อ จนท ประกัน หรือ ตำรวจที่มาถึงที่เกิดเหตุนี้ก่อน
ผ่านไปเกือบชั่วโมงประกันดิฉันมาถึงดิฉันจึงมอบใบขับขี่ให้ตัวแทนไป เขาไปเจรจากับฝ่ายนั้น ทราบมาว่าทางนั้นยัง ติดต่อบริษัทประกันไม่ได้เลย ดิฉันจึงถามว่าจะมีวิธีใดที่เรื่องจะจบแล้วให้ประกันทำหน้าที่รับช่วงการเจรจาไปได้ ทางประกันดิฉันจึงบอกว่ามีสองทางคือรอประกันเขามาซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร หรือไปแจ้งความลงบันทึกซึ่งเมื่อแจ้งความลงบันทึกระว่าคู่กรณีแล้วประกันก็จะดำเนินการได้ดิฉันก็กลับได้ ดิฉันจึงตกลงเลือกการเข้าแจ้งความ
พอประกันไปบอกทางฝ่ายนั้นเขาไม่ยอมไปโรงพักบอกว่าติดต่อประกันได้แล้วจะรอ แต่พอดีมีตำรวจทางหลวงผ่านมาเพราะตำรวจได้รับแจ้งเหตุดิฉันประกันของดิฉันจึงได้ให้ข้อมูลทางตำรวจไป และบอกตำรวจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่คู่กรณีเพิ่งแจ้งประกันทราบ
หากรอประกันคงต้องเสียเวลาอีกเป็นชั่วโมงทางดิฉันซึ่งเป็นฝ่ายเสียหายจึงขอเลือกการแจ้งความเพื่อเป้นหลักฐานการเคลมประกันแทนการรอประกันอีกฝ่ายมา
ตำรวจจึงเข้าไปแจ้งกับคู่กรณีให้มาที่โรงพัก เมื่อมาถึงก็มีการลงบันทึก และเซ็นรับทราบการลงบันทึกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ทางผู้จ้างรถตู้ได้บอกกับตำรวจให้ลงบันทึกว่าดิฉันได้ยึดใบขับขี่ไว้ และได้คืนใบขับขี่ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ ด้วยเขาถึงจะยอมให้คนขับรถของเขาเซ็น ดิฉันถามคุณตำรวจว่าลงบันทึกแบบนี้จะมีผลอะไรไหม ทางตำรวจบอกว่าไม่มีหรอกเพราะเจตนาเราไม่ได้ยึด แต่เป็นการขอเก็บเอกสารไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่นั้นและได้คืนให้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่แล้ว
พอเซ็นเอกสารจบ ดิฉันได้รับคำขู่จากผู้ที่เช่าโดยารมาในรถตู้ ว่าเรื่องมันน่าจะจบง่ายๆทำให้เป็นเรื่องยาก เขาจะทำให้เรื่องนี้เป้นเรื่องยากให้สะใจโดยการจะแจ้งความดำเนินคดีดิฉันที่ไปยึดใบขับขี่ของคนขับรถโดยมิชอบ เขามีญาติเป็นนายตำรวจซึ่งปรึกษากันแล้วว่าจะแจ้งดำเนินคดีกับดิฉันจนถึงที่สุด
ดิฉันไม่ทราบว่ามันแค่เป็นการขู่ให้ใจเสีย หรือเขาสามารถดำเนินคดีกับดิฉันได้จริง และหากดำเนินคดีได้ดิฉันสามารถชีแจงเจตนาที่เกิดจากสถานการณ์ที่มันไม่ปกติจนทำให้ดิฉันต้องขอเถือใบขับขี่ไว้เพื่อรอประกันหรือตำรวจเข้ามาช่วยเหลือก่อนได้ไหม
ขอความกรุณาผู้รู้กฎหมายช่วยตอบด้วยค่ะ....ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายถูกขู่ด้วยข้อกฎหมาย เป็นกังวลใจจริงๆค่ะ