สรุปว่า ชื่อเจ้าชาย 'สิทธัตถะ' เป้นคำแต่งใหม่หรือคะ

โดยพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสติผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพงศ์ ลำลูกกาคลองสิบ

กล่าวว่า สิทธัตถะเป็นคำแต่งใหม่ หาในโปรแกรมพระไตรปิฎกแล้วไม่เจอ



ทำไมเป็นอย่างนั้นคะ แล้วสรุป พระพุทธเจ้าตอนเป็นเจ้าชายชื่ออะไรกันแน่คะ  ในคลิปเห็นมีแต่ชื่อตอนเป็นพระพุทธเจ้าแล้วนี่คะ

แล้วนักประวัติศาสตร์เขาค้นพบว่า ชื่ออะไร ใครพอทราบไหมคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ท่านหาไม่เจอ ท่านก็บอกว่าแต่งใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแต่ง

แต่ผมว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญหรอกครับ เพราะเราไม่ได้เรียกพระพุทธเจ้าว่าสิทธัตถะซักหน่อย (คือถ้าใครไปเรียกพระพุทธเจ้าว่า "สิทธัตถะ" เฉย ๆ เนี่ย อย่างน้อยก็คงไม่ใช่ผู้นับถือพระพุทธศาสนา)  เพราะเราเรียกพระองค์ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระพุทธเจ้าศากยมุนี, พระพุทธเจ้า, พระตถาคตเจ้า ฯลฯ

ดังนั้นหลวงพี่คึกฤทธิ์ท่านจะบอกว่าคำว่าสิทธัตถะ (ซึ่งหมายถึงพระนามขณะเป็นเจ้าชาย ก่อนเสด็จออกผนวชของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน) นั้น ท่านหาไม่เจอในพระไตรปิฎก มันก็เรื่องของท่าน ไม่เห็นมีอะไรที่เราจะต้องไปสนใจ

สมมติว่าพระนามก่อนเสด็จออกผนวชของพระองค์ไม่ได้ชื่อสิทธัตถะ  เราก็เรียกท่านว่า พระโพธิสัตว์, พระมหาสัตว์ โดยไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องพระนามก่อนออกผนวช เราไม่ได้นับถือพระกุมารหรือเจ้าชายของราชวงศ์ศากยะ (ซึ่งจะชื่ออะไรก็ไม่รู้ อย่างที่หลวงพี่คึกฤทธิ์พยายามจะนำเสนอว่าชื่อนั้นแตงใหม่ ชื่อโน้นแต่งใหม่) เรานับถือและปฏิบัติตามคำสอนอัน "สมเด็จพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น" ได้ตรัสแสดงไว้ดีแล้ว ต่างหาก

ผมว่าหลวงพี่คึกฤทธิ์เนี่ยท่านพยายามจะทำตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกหรือพุทธวจนะ ที่ท่านเอามาตั้งเป็นสโลแกนหลักประจำตัวท่าน แต่ผมดู ๆ แล้ว ท่านก็ไม่ต่างอะไรจาก"นักใช้โปรแกรมพระไตรปิฎก" ที่พยายามจะค้นข้อความตรงนั้น ตรงนี้ จากโปรแกรมพระไตรปิฎก แล้วก็ copy paste copy paste  ไปวัน ๆ   แถมท่านยังอ่านหนังสือไม่ออกอีก  โดยเฉพาะกรณีปาฏิโมกข์ ๑๕๐ ข้อ ที่ท่านไปเจอมาจากในอังคุตตรนิกาย ติกนิบาต วัชชีปุตตสูตร แล้วก็ปักใจลงไปเลยว่า ต้องสวดปาฏิโมกข์แค่ ๑๕๐ ข้อเท่านั้น สวดเกินกว่านี้ไม่ได้  

แต่ถ้ามีคนไปถามท่านว่า ในพระสูตรนั้นบอกรึเปล่าว่า พระปาฏิโมกข์ ๑๕๐ ข้อน่ะ มีข้อไหนบ้าง  ท่านก็คงตอบไม่ได้ ทำได้เพียงแต่เอาคำสาวกภาษิต (ซึ่งท่านเองก็พูดเองว่าอย่าไปเชื่อ) ที่ท่านวินิจฉัยว่า สิกขาบท ๑๕๐ ข้อ น่าจะได้แก่ข้อนั้นข้อนี้ แล้วก็เอามาสวด ให้มันเกิดสังฆเภทแก่สังฆมณฑลทั่วโลก เป็นการบอกไปในตัว่า ท่านได้แยกทำสังฆกรรมจากคณะสงฆ์เถรวาททั่วโลกแล้ว โดยการสวดปาฏิโมกข์เพียง ๑๕๐ ข้อ ทั้งที่พระสงฆ์เถรวาททั่วโลกเขาสวดปาฏิโมกข์ ๒๒๗ ข้อ ครบตามที่แสดงไว้ในวินัยปิฎก วิภังค์

ขนาดเสขิยวัตร ๗๕ ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้"ทุกข้อ" ในเสขิยวัตร ว่า "เอวญฺ จ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ - ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล พวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ว่า...."  เหมือนกับในสิกขาบทอื่นเช่นในอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส ปาจิตตีย์ เป็นต้น

หลวงพี่คึกฤทธิ์ก็แสดงความอวดรู้ ละเมิดพุทธวจนะด้วยการ "ไม่ยกสิกขาบทขึ้นแสดง" ซะงั้นน่ะ

เป็นอย่างพระคึกฤทธิ์นี่ไม่ยากหรอกครับ ผมว่าเด็กป. ๔ ที่เพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์ ยังเป็นได้เลย เพียงแต่มีโปรแกรมพระไตรปิฎกในคอม ก็เป็นอย่างพระคึกฤทธิ์ได้แล้ว แต่จะวิเคราะห์แบบนอกลู่นอกทางได้อย่างพระคึกฤทธิ์นี่คงต้องฝึกกันนาน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
มีอยู่ในชั้นพระไตรปิฎกครับ

กาฬุทายีเถราปทานที่ ๖
ว่าด้วยบุพจริยาของพระกาฬุทายีเถระ

...ก็ในภพสุดท้าย ในบัดนี้ เราเกิดในสกุลมหาอำมาตย์ ของพระเจ้า
แผ่นดินพระนามว่าสุทโธทนะ ในพระนครกบิลพัสดุ์ อันรื่นรมย์ ครั้ง
นั้น พระสิทธัตถราชกุมารผู้ประเสริฐกว่านรชน ได้ประสูติแล้ว
ที่สวนลุมพินีอันรื่นรมย์ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่โลกทั้งมวล
เราก็เกิดในวันเดียวกัน เติบโตมาพร้อมกันกับพระสิทธัตถราชกุมาร
นั้นแหละ เป็นสหายรักใคร่ชอบใจของกัน คุ้นเคยกัน ฉลาดใน
ทางนิติบัญญัติ พระสิทธัตถราชกุมารนั้น มีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา
ได้เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=3763&Z=3824&pagebreak=0
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่