ผมอายุ 21 ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเปลี่ยนสายงานหลายประเภท
- เป็นเด็กล้างจานMK ทำได้1อาทิตย์ก็เบื่อ เพราะถูกโขกสับ จากป้าๆที่อายุมากกว่าแต่พูดจาข่มตลอดเวลาว่า ล้างจานไม่เป็นเหรอ เรียน โยธินบูรณะได้ไง
ประเภทที่ผมถนัดที่สุดคือ ขายของที่เป็นสิ้นค้าตัวเอง
- ขายไอศกริมตักในโรงเรียนดังย่านเพรชเกษม (แต่ก็เลิกขายเพราะแม่ไม่พอใจที่ หลานแม่ไปเข้าเรียน ม.Abac ส่วนผมเรียนม.รามและทำงานไปด้วยแม่บอกมันไม่ โก้ และเงินน้อยไม่พอใจ กำไรวันละ300 สำหรับเด็กม.6) [แต่แม่ลืมไปว่าฐานะที่บ้านเราสู้เขาไม่ได้]
- ต่อมา เพาะสุนัขขาย (ผมขายได้ตัวละ 7,000 ทั้งหมด 5 ตัว) ผมประสบความสำเร็จมากที่ขายได้หมดคอก พ่อแม่ประทับใจมาก แต่ผมก็เลิกไปเพราะ การเพาะพันธุ์สุนัขเราต้องใช้ความรัก ความผูกพันเพื่อเลี้ยงพวกเขา เลยต้องคอยกรองลูกค้าว่าคุณสมบัติ จะเลี้ยงหมาเราได้ไหม
- ต่อมา ก็ได้ไปสอบราชการ แต่ไม่ติด เพราะผมโง่ พ่อแม่ผิดหวังมาก
ต่อมาประเด็น ผมได้ขอทุนแม่ไปเปิดกิจการน้ำดื่มในแบรนตัวเอง ซึ่งลูกค้าตอบรับง่ายกว่าที่คิด (กำไรวันละ100 ใช้น้อยมากเพราะผมใช้ Ecocar มิราจขนน้ำ มันจึงขนได้น้อยมากครับ) เกินคาดหวัง แต่ทว่าผมต้องการขยายกิจการ โดยการมีรถกระบะเพื่อส่งน้ำมากขึ้น แต่พ่อกับแม่ก็ดันบอกว่า ทำงานราชการเถอะลูก เพื่อนแม่ไม่เหนื่อยสบาย พ่อก้เป็นจ่า สบายฝึกหนักตอนหนุ่ม แก่มาก็เฉยๆเดินไปเดินมารับเงินสิ้นเดือน




***หมายเหตุ ที่ผมขายน้ำได้น้อยเพราะรถขนน้ำได้แค่ 20โหล หากใครสั่งมากกว่านี้ ต้องขับรถเทียวไปเทียวกลับ ทำให้เปลืองค่าน้ำมันจึงเฉลี่ยที่กำไรวันละ 100 ส่วนถ้ามีกระบะ ผมมีฐานลูกค้ารองรับพอที่ผ่อนและสามารถไปได้ไกลกว่านี้****
ผมนะ รู้ตัวดีว่าผม Ego สูง ผมอยากทำชีวิตให้ตัวเองมีค่า ทุกนาทีที่ผมหายใจ อยากให้มันเป็นเงินเป็นทอง ไม่ใช้มนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานเท่าไรก็หวังจากโบนัส พอสิ้นเดือนไม่พอใช้ก็ทำได้แต่ยืมญาติ
สิ่งที่ผมจะบอกทุกคนก็คือ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากดู สิ้นค้าน้ำดื่มของผม ขายหมดสต็อค แล้วก็ปิดกิจการลงไปเพราะขยายฐานลูกค้าเพิ่มไม่ได้ ทั้งๆที่พ่อแม่ก็มีทุน แต่ไม่ให้ เพราะอยากให้ลูก ทำงานสบายจากการเป็นลูกจ้างราชการ เงินจะกินต่อเดือนไม่พอใช้แต่หวังว่าป่วยจะรักษาฟรีทั้งครอบครัว
โดนครอบครัว บังคับให้ ทำงานที่ผู้ใหญ่ชอบครับ
- เป็นเด็กล้างจานMK ทำได้1อาทิตย์ก็เบื่อ เพราะถูกโขกสับ จากป้าๆที่อายุมากกว่าแต่พูดจาข่มตลอดเวลาว่า ล้างจานไม่เป็นเหรอ เรียน โยธินบูรณะได้ไง
ประเภทที่ผมถนัดที่สุดคือ ขายของที่เป็นสิ้นค้าตัวเอง
- ขายไอศกริมตักในโรงเรียนดังย่านเพรชเกษม (แต่ก็เลิกขายเพราะแม่ไม่พอใจที่ หลานแม่ไปเข้าเรียน ม.Abac ส่วนผมเรียนม.รามและทำงานไปด้วยแม่บอกมันไม่ โก้ และเงินน้อยไม่พอใจ กำไรวันละ300 สำหรับเด็กม.6) [แต่แม่ลืมไปว่าฐานะที่บ้านเราสู้เขาไม่ได้]
- ต่อมา เพาะสุนัขขาย (ผมขายได้ตัวละ 7,000 ทั้งหมด 5 ตัว) ผมประสบความสำเร็จมากที่ขายได้หมดคอก พ่อแม่ประทับใจมาก แต่ผมก็เลิกไปเพราะ การเพาะพันธุ์สุนัขเราต้องใช้ความรัก ความผูกพันเพื่อเลี้ยงพวกเขา เลยต้องคอยกรองลูกค้าว่าคุณสมบัติ จะเลี้ยงหมาเราได้ไหม
- ต่อมา ก็ได้ไปสอบราชการ แต่ไม่ติด เพราะผมโง่ พ่อแม่ผิดหวังมาก
ต่อมาประเด็น ผมได้ขอทุนแม่ไปเปิดกิจการน้ำดื่มในแบรนตัวเอง ซึ่งลูกค้าตอบรับง่ายกว่าที่คิด (กำไรวันละ100 ใช้น้อยมากเพราะผมใช้ Ecocar มิราจขนน้ำ มันจึงขนได้น้อยมากครับ) เกินคาดหวัง แต่ทว่าผมต้องการขยายกิจการ โดยการมีรถกระบะเพื่อส่งน้ำมากขึ้น แต่พ่อกับแม่ก็ดันบอกว่า ทำงานราชการเถอะลูก เพื่อนแม่ไม่เหนื่อยสบาย พ่อก้เป็นจ่า สบายฝึกหนักตอนหนุ่ม แก่มาก็เฉยๆเดินไปเดินมารับเงินสิ้นเดือน
***หมายเหตุ ที่ผมขายน้ำได้น้อยเพราะรถขนน้ำได้แค่ 20โหล หากใครสั่งมากกว่านี้ ต้องขับรถเทียวไปเทียวกลับ ทำให้เปลืองค่าน้ำมันจึงเฉลี่ยที่กำไรวันละ 100 ส่วนถ้ามีกระบะ ผมมีฐานลูกค้ารองรับพอที่ผ่อนและสามารถไปได้ไกลกว่านี้****
ผมนะ รู้ตัวดีว่าผม Ego สูง ผมอยากทำชีวิตให้ตัวเองมีค่า ทุกนาทีที่ผมหายใจ อยากให้มันเป็นเงินเป็นทอง ไม่ใช้มนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานเท่าไรก็หวังจากโบนัส พอสิ้นเดือนไม่พอใช้ก็ทำได้แต่ยืมญาติ
สิ่งที่ผมจะบอกทุกคนก็คือ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากดู สิ้นค้าน้ำดื่มของผม ขายหมดสต็อค แล้วก็ปิดกิจการลงไปเพราะขยายฐานลูกค้าเพิ่มไม่ได้ ทั้งๆที่พ่อแม่ก็มีทุน แต่ไม่ให้ เพราะอยากให้ลูก ทำงานสบายจากการเป็นลูกจ้างราชการ เงินจะกินต่อเดือนไม่พอใช้แต่หวังว่าป่วยจะรักษาฟรีทั้งครอบครัว