คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
วัตถุประสงค์ของสมาธิคืออะไร?
ที่จริงเราต้องถามว่า เราควรทำสมาธิไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร?
เพราะสมาธิ คือ ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีอยู่ เพราะมีอยู่เราจึงทำได้
เหมือน ไฟ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ เราจึงสามารถก่อไฟได้ ทำให้เกิดไฟได้
แล้วเราจะถามไหมว่า วัตถุประสงค์ของไฟคืออะไร?
ที่ต้องถามคือ ไฟมีลักษณะอย่างไร มีธรรมชาติอย่างไร แล้วเราสามารถใช้ไฟทำอะไรได้บ้าง
แล้วเราควรใช้ไฟอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์
เช่นกัน คือ สมาธิมีลักษณะอย่างไร มีธรรมชาติอย่างไร แล้วเราสามารถใช้สมาธิทำอะไรได้บ้าง
แล้วเราควรใช้สมาธิอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์
เพราะในความจริงแล้ว สมาธิจะนำไปทำอะไรก็ได้ เหมือนไฟที่ถูกนำไปใช้ได้หลากหลายสุดแต่จะใช้กัน
ผู้ที่นำไปใช้ผิด ๆ ตั้งสมาธิผิด ๆ เขาก็เรียกว่ามิจฉาสมาธิ ผู้ที่นำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร ตั้งสมาธิไว้ถูก ก็เรียกว่าสัมมาสมาธิ
ซึ่งสัมมาสมาธินั้น เป็นไปเพื่อความสุขอันเที่ยงแท้ เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง
เพราะฉะนั้น ต้นกำเนิดของสมาธิก็ต้องสาวไปถึงต้นกำเนิดของธรรมชาติทั้งหลายกันเลยทีเดียว
การทำสมาธิอยู่คู่กับโลกมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่มนุษย์ เทวดา พรหม หรือแม้พระอรหันต์ก็ทำสมาธิกัน
และแม้สัตว์ก็ยังทำสมาธิ แต่เป็นมิจฉาสมาธิ คือตั้งจิตแน่วแน่ไว้ภายนอก เช่น การล่าเหยื่อของสัตว์บางประเภท
ใจที่ตั้งมั่น แน่วแน่ มั่นคง ทำให้เกิดสมาธิ
ญาณ เป็นผลของสัมมาสมาธิอย่างหนึ่ง เหมือนควันที่เป็นผลมาจากไฟ
วัตถุประสงค์ของการทำสมาธิ มีอยู่มากมาย เช่น ล่าเหยื่อ สะกดจิต เล่นกีฬา แต่งเพลง ศึกษาค้นคว้า
เพื่อความเป็นผู้มีสติ เพื่อความเป็นผู้มีปัญญา เพื่อความสงบ เพื่อความสุข เพื่อความเป็นผู้มีฤทธิ์
เพื่อไปบังเกิดในพรหมโลก เพื่อสั่งสมบารมี เพื่อรู้แจ้งแทงตลอดในมรรคผล เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์โดยถาวร เป็นต้น
วิธีการทำสมาธิ จะว่าไปแล้วมีนับพันนับหมื่นวิธี แต่ทั้งนั้นล้วนเป็นมิจฉาสมาธิสุดโต่งไปแทบทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น การทำสมาธิที่ควรศึกษา และพอจะจัดให้เป็นสัมมาสมาธิได้ จึงมีเพียง 40 วิธีหลัก ๆ
ที่คณาจารย์ท่านได้รวบรวมไว้ คือ กสิณ 10 / อสุภะ 10 / อนุสติ 10 / อัปปมัญญา 4 / อาหาเรปฏิกูลสัญญา /
จตุธาตุววัฏฐาน และ อรูป 4 นั่นเอง
ที่จริงเราต้องถามว่า เราควรทำสมาธิไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร?
เพราะสมาธิ คือ ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีอยู่ เพราะมีอยู่เราจึงทำได้
เหมือน ไฟ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ เราจึงสามารถก่อไฟได้ ทำให้เกิดไฟได้
แล้วเราจะถามไหมว่า วัตถุประสงค์ของไฟคืออะไร?
ที่ต้องถามคือ ไฟมีลักษณะอย่างไร มีธรรมชาติอย่างไร แล้วเราสามารถใช้ไฟทำอะไรได้บ้าง
แล้วเราควรใช้ไฟอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์
เช่นกัน คือ สมาธิมีลักษณะอย่างไร มีธรรมชาติอย่างไร แล้วเราสามารถใช้สมาธิทำอะไรได้บ้าง
แล้วเราควรใช้สมาธิอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์
เพราะในความจริงแล้ว สมาธิจะนำไปทำอะไรก็ได้ เหมือนไฟที่ถูกนำไปใช้ได้หลากหลายสุดแต่จะใช้กัน
ผู้ที่นำไปใช้ผิด ๆ ตั้งสมาธิผิด ๆ เขาก็เรียกว่ามิจฉาสมาธิ ผู้ที่นำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร ตั้งสมาธิไว้ถูก ก็เรียกว่าสัมมาสมาธิ
ซึ่งสัมมาสมาธินั้น เป็นไปเพื่อความสุขอันเที่ยงแท้ เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง
เพราะฉะนั้น ต้นกำเนิดของสมาธิก็ต้องสาวไปถึงต้นกำเนิดของธรรมชาติทั้งหลายกันเลยทีเดียว
การทำสมาธิอยู่คู่กับโลกมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่มนุษย์ เทวดา พรหม หรือแม้พระอรหันต์ก็ทำสมาธิกัน
และแม้สัตว์ก็ยังทำสมาธิ แต่เป็นมิจฉาสมาธิ คือตั้งจิตแน่วแน่ไว้ภายนอก เช่น การล่าเหยื่อของสัตว์บางประเภท
ใจที่ตั้งมั่น แน่วแน่ มั่นคง ทำให้เกิดสมาธิ
ญาณ เป็นผลของสัมมาสมาธิอย่างหนึ่ง เหมือนควันที่เป็นผลมาจากไฟ
วัตถุประสงค์ของการทำสมาธิ มีอยู่มากมาย เช่น ล่าเหยื่อ สะกดจิต เล่นกีฬา แต่งเพลง ศึกษาค้นคว้า
เพื่อความเป็นผู้มีสติ เพื่อความเป็นผู้มีปัญญา เพื่อความสงบ เพื่อความสุข เพื่อความเป็นผู้มีฤทธิ์
เพื่อไปบังเกิดในพรหมโลก เพื่อสั่งสมบารมี เพื่อรู้แจ้งแทงตลอดในมรรคผล เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์โดยถาวร เป็นต้น
วิธีการทำสมาธิ จะว่าไปแล้วมีนับพันนับหมื่นวิธี แต่ทั้งนั้นล้วนเป็นมิจฉาสมาธิสุดโต่งไปแทบทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น การทำสมาธิที่ควรศึกษา และพอจะจัดให้เป็นสัมมาสมาธิได้ จึงมีเพียง 40 วิธีหลัก ๆ
ที่คณาจารย์ท่านได้รวบรวมไว้ คือ กสิณ 10 / อสุภะ 10 / อนุสติ 10 / อัปปมัญญา 4 / อาหาเรปฏิกูลสัญญา /
จตุธาตุววัฏฐาน และ อรูป 4 นั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
ต้นกำเนิดของการทำสมาธิมีมาอย่างไรและแตกแขนงไปแนวทางใดบ้างครับ
และในแต่ละวัตถุประสงค์ ใช้วิธีการอย่างไรครับ เช่น วิปัสสนา จักรา เพ่งจ้อง คลื่นเสียง ฯ
เรียกว่าต้นกำเนิดของการทำสมาธิมีมาอย่างไร ปัจจุบันแตกแขนงไปแนวทางใดบ้างครับ