การสร้างดุลยภาพที่ยั่งยืน เพื่อสอดคล้องกับความเป็นไปของโลกาภิวัตน์

กฎของการเมือง คือ การแบ่งผลประโยชน์

เมื่อการเมือง อยู่ในรูปแบบของพรรคการเมืองแบบหลายพรรค พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะสับเปลี่ยนกันขึ้นเป็นรัฐบาล เพื่อเฉลี่ยผลประโยชน์หรืองบประมาณต่างๆ โดยเฉพาะงบประมาณประจำปี

และยังมีสถานการณ์ทางการเมืองบางอย่าง ที่จะมี " พรรคการเมืองเฉพาะกาล " เช่น พรรคพลังประชาชน จัดตั้งรัฐบาลหลังรัฐบาลทหาร , พรรคชาติไทยโดย พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ จัดตั้งรัฐบาลหลังรัฐบาลกึ่งประชาธิปไตยโดยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่จะอยู่ในวาระแค่ระยะเวลาสั้นๆ แล้วจะลงจากอำนาจไป ทั้งด้วยการถูกรัฐประหาร รวมถึงการยุบสภาด้วย

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลหลังการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้เบิกงบประมาณโครงการต่างๆไปปริมาณมาก พรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคขนาดใหญ่จึงได้เบิกงบประมาณในปริมาณที่สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ คือ การเบิกงบประมาณปริมาณมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะเห็นว่ายังมีเครื่องมือหลายๆอย่าง ให้พรรคเพื่อไทยลงจากอำนาจได้ แม้เสียงสนับสนุนจากประชาชนจะมีมากอย่างท้วมท้ันก็ตาม ชี้บ่งถึงความไม่มีเสถียรภาพในการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด แต่จะทรงตัวอยู่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้อย่างยั่งยืน และรูปแบบการปกครองลักษณะนี้ คือ การสร้างดุลภาพ นั่นเอง