ขอคำแนะนำ ปรึกษา พี่ชายติดยาเสพติด มีอาการก้าวร้าว รุนแรงกับแม่ ความทรมานที่สุดในชีวิต

เนื่องจากพี่ชายอายุ 31 ปี เริ่มติดยาตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี  ไม่รู้ว่าเคยเลิกได้บ้างหรือเปล่า  


ขอท้าวความในอดีต  พี่ชายเป็นคนนิสัยค่อนข้างเกเร คบเพื่อนแนวนักเลงตั้งแต่ยังอยู่ประถม  ต่อมาพอเข้ามัธยมแล้วถูกรุ่นพี่บังคับให้เล่นยา แต่ไม่ยอมเล่าให้ที่บ้านฟังเพราะถูกรุ่นพี่ข่มขู่ห้ามบอกใคร   แต่พ่อก็คั้นถามจนบอกว่าถูกบังคับให้เสพยา พ่อจึงให้ย้ายโรงเรียน  แต่หลังจากนั้นพี่ชายก็ยังเกเรเหมือนเดิม พ่อมักจะใช้ความรุนแรง โดยการตี  (เนื่องจากเวลาบอกสอนแล้ว ไม่เคยจำ พูดดีๆไม่ได้ผล)  


จนอายุประมาณ 17 ปี ติดยาหนัก มีอาการก้าวร้าว ไม่อยู่บ้าน ออกไปอยู่ข้างนอกที่ไหนไม่รู้  พ่อจึงซื้อโซ่มามัดขา แล้วผูกไว้กับเสาบ้าน ให้เดินได้เฉพาะบริเวณในบ้าน เป็นโซ่ยาวๆ หลายเมตร   ทำได้ 2-3 วัน  ก็ปล่อย

แต่หลังจากนั้นติดยาหนักขึ้น พ่อไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปแจ้งตำรวจให้มาจับ ติดคุกหลายปี   พอออกมา 1-2 ปี  ก็โดนจับอีก  คราวนี้ตำรวจจับเอง ก็ติดคุกอีก  แล้วก็ออกมา     แต่ก็ยังเลิกยาไม่ได้  แต่กลับมีพฤติกรรมเป็นนักเลง ไม่กลัววใคร  เหมือนกับไม่กลัวคุกแล้ว  ติดเดี๋ยวก็ออก

ปัจจุบันผมคิดว่ายังไม่สามารถเลิกยาได้  เพราะแม่บอกว่ายังติดยาอยู่  ไม่ทำงานทำการ  กินเหล้าเมายาไปวันๆ  ซึ่งปัจจุบัน อาการรุนแรงมากกว่าเมื่อก่อนมากๆๆ  เนื่องจากมีการด่าแม่ (ปัจจุบันพ่อเสียไปแล้ว เมื่อปีที่แล้ว)  แม่อยู่คนเดียวที่บ้าน  ส่วนตัวผมทำงานอยู่ กทม.  แม่โทรมาร้องไห้หลายครั้ง เรื่องพฤติกรรมพี่ชาย  โทษตัวเองเสมอว่าเลี้ยงลูกไม่ได้ดี ผมก็ได้แต่บอกว่าอย่าไปคิดมาก มันมีหลายปัจจจัย ตั้งแต่การเลือกคบเพื่อนและสิ่งแวดล้อมหลายๆอย่าง  พี่ชายมีพฤติกรรมทำลายข้าวของในบ้าน ทุบกระจกบ้าน ทุบรถ  ซึ่งผมเคยเห็นกับตาครั้งเดียวตอนกลับไปงานบวชลูกพี่ลูกน้อง  วันนั้นพี่ชายเมาแล้วมาอาละวาด ทุบรถ กระจกแตกกระจาย โดยใช้ก้อนหินก้อนใหญ่ทุบ ต่อหน้าบรรดาญาติ มากมาย  แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม  เหมือนกับมีอะไรในใจ ขณะทุบก็ดะโกนด่า กูจะให้ดู อยากให้กูกูจะให้ดู ประชดประชัน บอกว่าไม่มีใครรัก ญาติพี่น้องไม่เอา  ทั้งๆที่ทุกคนเป็นห่วง พยายามพูดบอกสอนดีๆ ให้ทำงานทำการ    ส่วนแม่ก็เข้าไปในบ้าน ร้องไห้กับพ่อสองคน  ผมเข้าไปจะบอกลาพ่อกับแม่ว่าจะกลับ กทม แล้ว  สิ่งที่ผมเห็นตอนเปิดกระตูห้องเข้าไป คือพ่อน้ำตาคลอ แม่ร้องไห้ แล้วบอกผมว่าดูมันทำกับแม่สิ ดูมันทุบรถผมสิ  ผน้ำตาไหล ร้องโหออกมาทันที สงสารพ่อกับแม่มาก ตอนนั้นพ่อก็ป่วยเป็นอัมพฤติ ครึ่งซ้าย ด้วยภาพที่ผมเห็นวันนั้น
ผมกลับมา กทม ด้วยน้ำตา เป็นห่วงพ่อกับแม่  แต่ญาติๆก็จะช่วยดู  

แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยมากขึ้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา  โดยรับฟังจากแม่เล่าให้ฟัง  ด่าแม่สารพัด ด้วยคำหยาบคาย  จนญาติๆ ต้องช่วยกับสอนช่วยกันพูด  เพราะรู้ว่าขณะนั้นเมาเหล้า เมายา  เพราะกินเหล้าด้วย กินยาด้วย สอนได้สักพัก เหมือนได้สติ  ก็คิดได้ขึ้นมา เป็นห่วงแม่ ขึ้นมา  เหมือนกับสติขาดไปชั่วขณะ ญาติๆต้องคอยพูดดีๆด้วย  ถ้าไม่อย่างนั้น จะเกิดอาการอาละวาดรุนแรงกว่าเดิม  ต้องไม่ด่าไม่ว่า เลย

ล่าสุดวันนี้ แม่โทรมาขณะผมนอนหลับ บอกว่า พี่ชายอาละวาดอีกแล้ว ทุบบ้าน ทุกกระจกห้องนอนแม่  เอาน้ำมันลาดเต็มบ้าน (จะเผาบ้าน) ทุบรถยนต์ ดึงสายไฟรถรถพังหมด  แม่จึงโทรให้พี่สาว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง  ช่วยมากล่อม มาพูดคุยดีๆ แล้วให้นอนหลับไป  แม่โทรมาแต่ละครั้งผมจะเครียดทุกครั้ง นอนไม่หลับ เป็นห่วง ไม่รู้ทำกรรมอะไรมา พ่อก็เพิ่งจะเสียไปเมื่อปีที่แล้ว ยังจะมาเจอลูกชายแลหกเหลวแบบนี้อีก  แม่ก็ได้แต่บอกว่า แม่อโหสิกรรมให้ทุกอย่าง แต่ก็บอกว่า เมื่อไรจะตายๆไปจากแม่เสียที (แล้วบอกว่าไม่ได้แช่งลูกหรอก  แต่ตอนมันเมาๆมาอาละวาดแล้วขับรถออกไปข้างนอก แม่ก็บอกอยากให้มันไปแล้วไปเลย เสียใจครั้งเดียว)  แม่ก็มาระบายกับผม  แต่พี่ชายยังไม่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายแม่ นะครับ  มีแต่ด่าหยาบคายและทำลายข้าวของ  แต่มันก็เสี่ยงมาก เวลาคนขาดสติ

ซึ่งผมเป็นห่วงแม่มาก  ตอนพี่ชายไม่กินเหล้า ตอนกลางวันก็ดีๆ คุยดีๆ พูดจารู้เรื่อง  พอกินเหล้าปุ๊บ จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง  ซึ่งแม่บอกว่า พี่ชายกินยาด้วยคงไม่ใช่เหล้าอย่างเดียว   ผมบอกตรงๆเลยว่าผมกลัวมาก ตอนพี่ชายอาละวาด ไม่มีใครเอาอยู่เลย  และจะเป็นตอนกินเหล้าทุกครั้ง ซึ่งก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้กินไม่ได้ด้วย


กรณีพี่ชาย อายุ 31 ปี มีลูกแล้ว แต่ก็เลิกกับเมีย  มีเมียใหม่ มีลูกก็เลิกอีก ตอนนี้ก็มีเมียใหม่อีก  หลานแม่ก็เลี้ยงให้บ้าง ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเมีย สลับไปๆมาๆ     พี่ชายยังไม่มีความคิดหรือพฤิตกรรมไปในทางที่ดีเลย   จะช่วยอย่างไรดี


1. ควรจะต้องปรึกษาจิตแพทย์ก่อนหรือไม่  (ไม่รู้จะยอมไปหาหมอด้วยหรือเปล่า)
2. จากพฤติกรรมล่าสุด ผมอยากให้แม่ออกมาจากบ้าน แล้วมาอยู่ ที่ กทม กับผม  โดยไม่บอกให้พี่ชายรู้ว่าอยู่ที่ไหน จะดีกว่าไหมครับ  แต่ก็กลัวว่าพี่ชายจะตามรังควาญ  หาว่าทอดทิ้ง  ไม่รัก  หาว่ารักลูกไม่เท่ากัน  รักแต่ผมอีก  (ทั้งๆที่ ตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ ตามใจทุกอย่าง เป็นลูกคนโต อยากได้อะไรก็ได้ )  
3. ผมอยากให้พี่ชายได้รับการรักษา  แต่เหมือนกับว่า พี่ชายไม่ยอมรับว่าติดยา  บอกว่าเลิกแล้ว  ซึ่งปัจจุบันก็อ้วนท่วมกว่าเมื่อก่อนมาก จากคนผอมแห้งมากรู้เลยว่าติดยา  แต่ปัจจุบัน เป็นคนอ้วนลงพุงเลย ไม่รู้ว่าเลิกจริงไหม
4. ผมอยากได้คำแนะนำอื่นๆ จากในนี้  ว่าควรจะเริ่มยังไง  ควรพูดกับพี่ชายอย่างไร ถ้าจะให้รักษา รือมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร  หรือใครเคยเจอ เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้  ช่วยแนะนำผมด้วยครับ


ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำจากทุกท่านครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่