[CR] รีวิว พักกับ Host ที่โตเกียว โดยใช้ AirBnB

สวัสดีครับ

วันนี้ผมจะมา Review + แนะนำการหาที่พักแบบสไตล์ใหม่ โดยใช้บริการของ AirBnB นะครับ

เผื่อใครจะยังไม่ทราบ จะเล่าให้ฟังก่อนว่า AirBnB คืออะไร


AirBnB ก็คือเว็บไซต์และแอพ ที่เปิดให้เราหาที่พักกับ Host ในทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยการไปพักกับโฮส เราจะมีข้อแตกต่างกับการไปพักโรงแรมคือ โฮสที่มาลงใน AirBnB ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่แหละครับ แต่พอดีเขามีห้องเหลือๆ ก็เลยอยากจะหารายได้พิเศษกัน ก็เลยเอามาโพส โดยเราก็ไปอาศัยห้องเขาอยู่ โฮสบางคนใจดีก็อาจจะมีอาหารเช้าให้ หรือซักเสื้อผ้าให้เราด้วย บางคนถ้าเขาว่างเขาก็จะพาเราไปทัวร์เที่ยวที่ต่างๆ ในเมืองด้วยก็ได้

ซึ่งจุดแข็งของ AirBnB ก็คือการที่เราจะได้สัมผัสคนที่อยู่ในเมืองนั้นๆ โดยตรงครับ ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับเขาจริงๆ ได้เห็นว่า ชีวิตจริงๆ ของคนในเมืองนั้นๆ เป็นอย่างไร ซึ่งโรงแรมทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์นี้แก่เราได้ครับ

ส่วน สำหรับคนที่มีห้อง หรือคอนโดว่างๆ อยากจะหารายได้เสริม หรือหาเพื่อนต่างชาติ ก็สามารถไปโพสใน AirBnB เพื่อเปิดให้บริการโฮสได้เหมือนกันครับ ซึ่ง AirBnB จะหักรายได้ไป 10% จากราคาที่เราโพส

ถ้าใครอยากลองเล่นดู ก็ลองค้นกูเกิ้ล หรือลองโหลดแอพมาลงก็ได้ครับ รับรองว่า สนุกครับ

ทีนี้ มาถึงส่วนที่ผมจะทำการรีวิว AirBnB ที่ผมได้ไปพักมา 1 อาทิตย์ ตอนไปเที่ยวโตเกียวเมื่อปีที่แล้วครับ โดยตอนแรกผมกับแฟน ก็พยายามหาโรงแรมในเน็ต โดยเซ็ตราคาไว้ไม่แพงมาก ประมาณ คืนละ ไม่เกิน 3000 บาท โดยเท่าที่หา ราคานี้ ก็จะได้ประมาณ Guesthouse รูหนูแถว Asakusa หรือ Ueno ครับ คือประมาณว่า เอาไว้ซุกหัวนอนเท่านั้น และเป็นห้องน้ำรวม

ซึ่งเท่าที่ลองไล่หาดูแล้วก็พบว่า มันไม่ค่อยจะเวิกเท่าไหร่ พอดีจำไม่ได้แล้วว่าไปเจอ AirBnB ได้ยังไง ก็เลยลองค้นดูว่าที่พักในโตเกียวจาก AirBnB มีที่ไหนบ้าง ก็มีหลายที่หลายราคาเลยครับ บางที่ก็ดูเก่าๆ แคบๆ แต่ก็อยู่กลางเมือง ค้นไปค้นมาก็เลยไปเจอ host ที่ชื่อ Yoshiko ตามลิงค์นี้เลยครับ [ Link host Yoshiko ]

โดยทาง Yoshiko จะคิดคืนละ 44$ ต่อคน ดังนั้นไปกันสองคนก็จะเป็น 88$ ครับ ถ้าพักยาวก็อาจจะต่อรองลดราคาได้ ซึ่งวิธีการก็คือต้องสมัคร AirBnB account ก่อน หลังจากนั้นก็ต้องติดต่อทางโฮสผ่าน AirBnB ครับ โดยหลังจากที่มีการชำระเงินเสร็จแล้ว เราก็จะได้เบอร์ติดต่อและอีเมล์ของโฮส เพื่อให้คุยกันในรายละเอียดต่อไปครับ

ตอนเตรียมตัว หากเราต้องการจะซื้อตั๋วต่างๆ ที่ต้องซื้อจาก Lawson เช่น โดเรมอนมิวเซียม หรือ จิบลิ ก็สามารถฝากโฮสซื้อให้ได้ครับ แล้วพอไปถึงเราค่อยไปจ่ายตังให้เขา อ้อ ถ้าเราต้องการซื้อซิม อินเตอร์เน็ต ก็ซื้อแล้วให้ส่งไปที่บ้านของโฮสเลยก็ได้ครับ

หลังจากที่ผมถึงกำหนดไป ก็บินไปญี่ปุ่น แล้วก็ไปลง นาริตะ ก็นั่งรถหวานเย็น 1000 เยนเข้าเมืองไปลงที่อุเอโนะ จากอุเอโนะก็นั่ง Metro ขึ้นไปทางเหนือ อีกประมาณ 3-4 สถานีก็ถึงบ้านโฮสแล้วครับ โดยบ้านโฮสจะอยู่ที่สถานี UMEJIMA station เดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงบ้าน ( โฮสแกเขียนบอกเดินหนึ่งนาที ...นั่นผมเรียกวิ่งแล้วครับ )

ไปถึงก็กดกริ่งเรียก แกก็จะกดเปิดประตูให้ เราก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดเลย ก็จะมีห้องแกอยู่ โฮสก็จะเปิดมารับเราครับ โดยโฮสเป็นคนญี่ปุ่นชื่อ โยชิโกะ กับ คาจิ โดยโยชิโกะเป็นคนญี่ปุ่นที่พูดอังกฤษคล่องมากครับ ดังนั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง คาจิ ก็พอพูดได้บ้าง แต่ก็ไม่เท่าโยชิโกะ

โดยผมเอาบรรยากาศของห้องมาให้ดูกันครับ
บรรยากาศในห้องนอน

บรรยากาศห้องครัว+ห้องรับแขก


ส่วนรูปอื่นๆ ไปดูในลิงค์ airbnb เอาเองกันนะครับ

หลังจากคุยแนะนำตัว อะไรกันเสร็จ โยชิโกะก็จะพาไปที่ห้อง ( ก็ห้องข้างๆ น่ะแหละ ) จริงๆ แล้วห้องนี้เป็นคอนโดเล็กๆ ไม่ใหญ่มากครับ ก็มีห้องนอน 1 ห้องรับแขก+ห้องครัว 1 และห้องน้ำอีก 1 แต่บ้านเขาไม่มีกลิ่นสาบเลยครับ หอมดี เครื่องนอนอะไรก็สะอาดเรียบร้อย จัดเป็นสีแดงๆ สวยดีครับ  จริงๆ แล้วเนื่องจากห้องเล็ก โยชิโกะกับคาจิ ก็เลยต้องย้ายมานอนที่ห้องรับแขกแทน ให้แขกนอนในห้องนอนไป แต่ก็มีกั้นเป็นสัดส่วนครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะเจออะไรกันตอนดึกๆ อิอิ

ส่วนห้องน้ำ เป็นอะไรที่ประทับใจมาก ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นก็จะเห็นว่า บางที ก็มีคนเปิดเข้ามาตอนเรากำลังอาบน้ำอยู่ คนไทยก็จะงงว่ามันเปิดเข้าไปได้ยังไง พอไปอยู่ก็เข้าใจครับว่าห้องน้ำเขาไม่มีล็อค.. เปิดเข้าไปได้เลย และโซนที่ต้องถอดเสื้อไว้หน้าห้องก็เป็นโซนเปิดเลย ไม่มีอะไรกั้น เพราะงั้น เราก็อาจจะเขินๆ หน่อยตอนแรกแต่อยู่ๆ ไปก็ชินครับ 55 ส่วนห้องส้วม ก็จะอยู่ต่างหาก เป็นห้องเล็กๆ พอไปนั่งอึได้พอดีคน มีฝารองนั่งอุ่นตูดด้วยครับ

ปกติถ้าเราไปวันธรรมดาไม่ใช่วันหยุด ทางสองคนนั้นเขาก็ต้องออกไปทำงานด้วยครับ โดยโยชิโกะจะทำอาหารทิ้งไว้ให้เรากิน ซึ่ง..บอกได้คำเดียวว่า โคตรเยอะ แต่ก็อร่อยดีครับ โดยเฉพาะกิมจิ ไม่รู้แกหาซื้อมาจากไหน ผมชอบมาก อร่อยแบบไม่เคยกินมาก่อนในไทยกันเลยทีเดียว แต่ก็นั่นแหละครับ กินบ่อยๆ 1 อาทิตย์บางทีก็เลี่ยนเหมือนกัน 55

โยชิโกะก็จะให้กุญแจเราไว้ครับ เราก็เข้าออกได้เลยตามสะดวก ไม่ต้องมาคอยเรียกกัน ส่วนเสื้อผ้า ถ้าจะต้องซักก็ทิ้งเอาไว้ให้ได้ครับ โยชิโกะก็จะซักและตากให้เสร็จสรรพ

สำหรับบรรยากาศนอกห้อง จัดว่าเยี่ยมเลยครับ เห็นว่าวันไหนอากาศดีๆ มองเห็นภูเขาฟูจิกันเลยทีเดียว แต่เสียดาย ตอนผมไปอากาศมันห่วย ในส่วนของความเงียบ แอเรียนี้ก็จัดว่าค่อนข้างเงียบครับ เพราะอยู่นอกเมืองแล้ว แต่ก็มีร้านของกินของใช้อยู่เยอะ สะดวกดีครับ มีร้านเหมือนโลตัสบ้านเราใหญ่ๆ อยู่ใกล้ๆ ด้วย เดินกันแวะไปดูได้

ทริปของผมทริปนี้ เน้นมาเก็บตกโตเกียวกัน และไม่อยากใช้เงินมาก ก็เลยไม่ได้แพลนไปไหนไกลๆ แค่เดินๆ ไปตามที่ต่างๆ ในโตเกียว แต่แค่นั้นก็เวลาไม่ค่อยจะพอแล้วครับ 55

จริงๆ แล้วตอนผมไป ดันจัดแผนเที่ยวซะแน่น แถมดันตื่นกันซะสาย กว่าจะได้ออกไปจากบ้านก็สิบโมง โยชิโกะก็ไม่อยู่กันแล้ว กลับมาก็สี่ทุ่มกว่า ซึ่งเขาก็นอนกันหมดแล้ว จริงๆ แล้ว ถ้าเขาว่าง ในวีคเอ็น เขาก็จะพาเราไปเดินเล่นทัวร์โตเกียวด้วยกันครับ ซึ่งผมเสียดายมาก เพราะผมดันต้องกลับก่อน ส่วนแฟนผมเนื่องจากจองตัวของอีกสายการบิน ก็เลยกลับทีหลัง เห็นว่าวันนั้นมีงานปาตี้กันด้วย เพราะว่ามีงานดอกไม้ไฟ ซึ่งมองออกไปจากหน้าต่างห้องจะเห็นดอกไม้ไฟสวยมากครับ ถ้าเดินไปที่สถานีก็จะเจอสาวๆ เดินในชุดยูคาตะเต็มเลย เสียดายอ่าไม่ได้ดู

หลังจากกลับมาไทย โยชิโกะก็ยัง keep connect โดยการส่งการ์ดปีใหม่บ้าง ขนมนิดๆ หน่อยๆ มาให้บ้าง ซึ่งก็เป็นความน่ารักของโฮสคนนี้จริงๆ ครับ ผมเองก็เลยอยากจะมาแนะนำกันให้ลองไปใช้บริการดู สำหรับคนอยากไปญี่ปุ่นแบบแนวใหม่ จะได้ไม่ซ้ำซากจำเจครับ

ขอเสียของที่พักโยชิโกะคือ มันค่อนข้างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่างชิบูย่าหรือฮาราจูกุ แต่ว่า ใกล้กับ อะกิบะ, อุเอโนะ และ อาซากูสะ ( โตเกียวสกายทรี ) ซึ่งก็ได้อย่างเสียอย่างครับ แต่เอาเขาจริงๆ ก็เดินทางไปแป๊บเดียวก็ถึงครับ นั่งรถไฟไปเพลินๆ

สรุปว่า ก็เป็นทางเลือกนะครับ ใครอยากลองก็ลองติดต่อไปดูได้ รับประกันว่า ไม่ผิดหวังครับ

ลงรูปเพิ่มเติมให้ดู อันนี้ผมไปเดินเที่ยวริมแม่น้ำแถวสถานี KITA SENJYU










แมวที่อยู่ระหว่างทางเดินไปริมแม่น้ำ




ส่วนนี่สำหรับทาสแมวครับ แฟนผมถ่ายทั้งนั้น ส่วนผม นั่งดูพนักงานสาวแว่น อิอิ ถ่ายจาก Cat Cafe ที่ผมลืมชื่อแล้ว แต่อยู่แถวๆ สถานีอุเอโนะ ครับ แมวที่นี่มันแก่แล้ว หยิ่งมาก เรียกก็ไม่ค่อยจะมา เล่นด้วยก็ทำเมิน







อันนี้เป็น cat cafe ที่ โอไดบะครับ เดินๆ เจอโดยบังเอิญ เป็นลูกแมวอยู่ ยังเด็ก เล่นด้วยก็มาเล่นตอบครับ น่ารักดี





ชื่อสินค้า:   ที่พักญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่