มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าเราไม่เข้ารับน้องจะเกิดอะไรขึ้นกับเราครับ

รุ่นพี่เค้าพูดถึงพวกที่ไม่เข้ารับน้องว่าอย่างไรบ้างครับ

ถ้าเราไม่เข้า คือเราไม่รักเพื่อนใช่ปะ
ถ้าเราไม่เข้า เราทำได้แต่เรียนใช่ปะ
ถ้าเราไม่เข้า เราจะไม่สามารถเข้ากับเพื่อนๆได้เลยใช่ปะ
ถ้าเราไม่เข้า จะโดนพี่ทุกคนเหยียด ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นเลยใช่ปะ

นักศึกษาใหม่ๆเค้าถูกรุ่นพี่สอนให้คิดยังไงกับคนไม่เอารุ่นครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
บ่องตรง ที่ ม.แม่โจ้เขาให้สาบานต่อหน้าศาลเจ้าแม่ วันสุดท้ายของการรับน้อง ว่าถ้าใครนำความลับในวันรับน้อง หรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการรับน้องไปบอกผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกแม่โจ้  จะมีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน ฯลฯ อะไรประมาณนี้ แม้แต่พ่อแม่ พี่น้อง ญาติก็ห้ามบอกครับ หุหุ


ปล. ผมก็จบแม่โจ้เหมือนกัน จบมา 2 ปีละ เคยเล่าให้คนรู้จักจนเบื่อละ ทุกวันนี้ยังสุขสบายดีครับ ยังไม่ตาย หุหุ
ความคิดเห็นที่ 32
พวกแม่โจ้ในความเห็นส่วนตัวของผมก็คือพวกไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ส่วนใหญ่เป็นเด็กชอบเที่ยวชอบเล่นหนีเรียน เพราะว่าระดับคะแนนแอดของมหาลัยเป็นตัวบ่งบอกได้ "จะมีเพียงส่วนนึงเท่านั้นที่เป็นคนดีตั้งใจเรียน หรือถึงไม่ตั้งในเรียนมากมายก็ไม่ถึงขั้นเหลวเเหลก" มันเลยกลายเป็นเหมือนมหาลัยที่มีสังคมเหมือนเด็กหลังห้องนั่นเเหละ ผมไม่ได้ดูถูกมหาลัยเเม่โจ้นะแต่ผมพูดเกี่ยวกับสังคมในสายตาของคนภายนอก ไอ้เรื่องเพื่อนจะคบมั๊ยขึ้นอยู่กับความงี่เง่าของเพื่อนอ่ะผมเคยเจอมานะแต่ไม่ใช่กับตัวเองรุ่นพี่บอกว่าดูมันทิ้งพวกคุณสิเพื่อนคุณหรอ คุณไม่ต้องไปคบมันเป็นเพื่อนเลย นี่หรือ? ที่รุ่นพี่พยายามให้รุ่นน้องสามัคคีกันสนิทกัน? เพราะว่าถ้ารุ่นน้องเลือกจะตัดเพื่อนเกลียดเพื่อน มันก็ะจเกลียดกันอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นก็เลือกดึงเพื่อนมาแต่ก็จะยังมีคนในเอกบางกลุ่มเกลียดเพื่อนคนนั้นอยู่ดี
ความคิดเห็นที่ 10
ไอ้เด็กรุ่นพี่มันก็แค่โตกว่าคุณ1-2-3ปี วุฒิภาวะแทบไม่ต่างกันหรอก ทำกันเพราะสะใจเพราะเคยโดนมาก่อน

ไอ้รุ่นพี่ที่ว๊ากๆ มันก็ยังเป็นนักศึกษาเหมือนคุณนั้นหล่ะ มันจะไปรู้อะไรกับการทำงานในชีวิตจริง

โซตัสมันเป็น ระบบโรคจิตครับ ครอบงำอุปภัมป์แต่พวกพ้อง เต่าล้านปี เผด็จการ กบในกะลา

มิตรภาพ ที่ยั่งยืน เพื่อนฝูงต้องเกิดจากอิสระที่จะเลือก ไม่ใช้การบังคับ หรือสร้างสถานการณ์

จะละลายพตฤิกรรมน้องๆ ผมแนะนำว่าจัดกิจกรรมสันทนาการ หรือกินเลี้ยงดีกว่าเยอะ
ความคิดเห็นที่ 8
เราเคยเรียนม.ที่รับน้องโหดเหมือนกัน ถามถึงความรู้สึกตอนนั้ ตอนแรกๆ เราก็ไม่ค่อยอยากรับน้อง เพราะอยู่ห่างบ้านก็เครียดแล้ว ยังมาเจอรับน้องเครียดอีก ตอนนั้นก็รู้สึกว่าเพื่อนจะแอนตี้เล็กๆเหมือนกัน เราถึงขั้นจะลาออกแน่ะ แต่พวกรุ่นพี่ในเอกก็มาคุยไว้ แต่จริงๆไม่คิดจะลาออกหรอก แกล้งขู่รุ่นพี่มันไปงั้น แต่พอตอนหลังเพื่อนที่สนิทเข้า ก็เลยต้องจำใจไปรับ ตอนที่เราเข้ารับ บอกตรงๆว่าเราก็มองคนที่ไม่ยอมรับน้องอีกแบบนึงเหมือนกัน พอหลังจากจบรับน้อง ก็สนิทกับเพือนๆและรุ่นพี่นะ ส่วนคนที่ไม่รับก็สนิทเหมือนกัน เราว่าถ้าไม่อยากรับก็ไม่ต้องรับนะ ตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่ต้องสนใจรุ่นพี่มากหรอก รุ่นพี่บางคนขยันมารับน้อง แต่การเรียนห่วยแตก อย่าไปเล่นเกมส์ตามเค้ามาก รุ่นพี่ไม่ได้เป็นคนให้เกรด ส่วนเรื่องที่บอกว่า แค่รับน้องยังทำไม่ได้ แล้วจะไปอยู่ในสังคมทำงานที่เจอแรงกดดันมากกว่านี้ได้ยังไง ไม่ต้องไปฟังค่ะ บอกรุ่นพี่ว่าเอาตัวเองให้รอดก่อน จริงๆมันไร้สาระนะ จะรับน้องไม่รับน้อวสุดท้ายแล้วก็มีเพื่อนค่ะ นอกเสียจากเพื่อนคุณจะใจแคบมากๆ
ความคิดเห็นที่ 41
ไม่ใช่ลูกโจ้ครับ แต่พอรู้อะไรบ้างนิดหน่อย


มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ้าเราไม่เข้ารับน้องจะเกิดอะไรขึ้นกับเราครับ

ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยครับ เป็นสิทธิของเราครับ
  

ถ้าเราไม่เข้า คือเราไม่รักเพื่อนใช่ปะ

รักเพื่อนหรือไม่รักเพื่อน มันก็เรื่องของเราครับ


ถ้าเราไม่เข้า เราทำได้แต่เรียนใช่ปะ

เรามาเรียนครับ รับน้องหรือไม่รับ เราก็ต้องเรียนเหมือนคนอื่นเค้า


ถ้าเราไม่เข้า เราจะไม่สามารถเข้ากับเพื่อนๆได้เลยใช่ปะ

เข้าได้ครับ แต่คงไม่สนิทเท่าไหร่


ถ้าเราไม่เข้า จะโดนพี่ทุกคนเหยียด ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นเลยใช่ปะ

ไม่โดนเหยียดครับ เรื่องความช่วยเหลือ เราคงไม่ต้องการความช่วยเหลือมาก เพราะเราต้องรู้ว่าเค้าคงไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่นัก



ช่วงรับน้อง 7 วัน เช้ามืด รุ่นพี่มาปลุก ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เริ่มจากวิ่งออกกำลัง คุณไม่สนใจ นอนต่อก็ได้ครับ พี่เค้าจะไม่ว่า เพื่อนก็จะไม่ว่าอะไร

เช้าคุณตื่นขึ้นมาก็ไปนั่งทานข้าวคนเดียว เพราะเพื่อนไปเข้ากิจกรรมกันหมด กว่าจะกลับก็สองถึงสามทุ่มทุกวัน

แนะนำ ช่วงรับน้อง 7 วัน ไม่มีการเรียนการสอน ช่วงนี้คุณกลับบ้านดีกว่าครับ


ห้ามน้องปี 1 ขี่มอเตอร์ไซค์ ในมหาวิทยาลัย

เช้าน้องทุกคน จับกลุ่มทานข้าวกันที่โรงอาหาร จากนั้นก็แบกเป้ เดินไปตึกเรียน คุณขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ครับ เพื่อนๆไม่ว่าครับ

แม่โจ้เนื้อที่เป็นพันไร่ ถ้าเรียนคณะประมง จากหอพักเดินไปประมาณกิโลกว่าๆ ก็จะถึง คุณขี่มอเตอร์ไซค์ไปคอยที่ห้องเรียนได้เลยครับ

เลิกเรียน เค้าก็จะไปเล่นกีฬากัน สนามกีฬาอยู่ห่างจากหอพักครึ่งกิโล เค้าจะเดินกันไป คุณก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไป ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้ครับ




แม่โจ้เค้าพยายามจะให้คุณแข็งแกร่ง ตั้งแต่ปีหนึ่ง เค้ากลัวว่า ปีสอง,สาม,และสี่ คุณจะไปไม่รอดครับ

ภาพ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ainne&month=16-08-2009&group=6&gblog=48
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่