อ้างถึง www.internetofreedom.com/threads/อ่านแล้วน้ำตาไหล-สมยศ-พฤกษาเกษมสุข-“ผมคิดผิดไปแล้ว”.34240/
ผมได้อ่านจดหมายเปิดผนึกที่แสดงถึงความในใจอันเจ็บปวดของคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวอักษรแต่ละตัวที่กลั่นออกมาเป็นเนื้อความในจดหมายที่เขียนออกมานั้น ได้สะท้อนถึงความรู้สึกอันปวดร้าวที่อยู่ภายในของชายหนุ่มผู้กร้าวแกร่งคนหนึ่งชื่อที่ชื่อสมยศ นี้
ผมเริ่มได้รู้จักชื่อคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข เมื่อหลังรัฐประหารปี 2549 ซึ่งเป็นประชาชนคนไทยรุ่นแรกๆ ที่กล้าออกมายืนหยัดประท้วงการรัฐประหารของคณะ คมช. ในเวลานั้น เป็นความหาญกล้าของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ยากนักจะหาผู้ใดจะกระทำได้ในห้วงเวลาที่อำนาจเผด็จการกำลังเหิมเกริมจนถึงขีดสุด หลายๆ ต่อหลายครั้งที่ผมได้ยินและได้ฟังการปราศัยบนเวทีของผู้ชายที่ชื่อ สมยศ ท่านนี้ ซึ่งมีลีลาและเนื้อหาที่เผ็ดร้อน ตรงประเด็นอย่างกล้าหาญ จนทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกฮึกเฮิม และมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับอำนาจของ คมช. ท่ามกลางกระแสเผด็จการเชี่ยวกราก ที่กำลังครอบประเทศอยู่ในเวลานั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นอิสระชนผู้หนึ่งที่จุดประกายของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็งแท้จริง
ผมเป็นผู้หนึ่งที่ให้ความเคารพ นับถือในความกล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยของคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข นี้อย่างยิ่ง เพราะผมเองแม้จะร่วมต่อสู้กับอำนาจเผด็จการมานาน แต่ก็ยังไม่อาจหาญยืนหยัดและเปิดเผยได้เท่ากับที่คุณสมยศ ได้กระทำ
เนื้อหาในจดหมายของคุณสมยศ ฉบับนี้กระเทาะเปลือกให้เห็นถึงความอยุติธรรม ที่มีอยู่ในประเทศนี้อย่างแท้จริง คุณสมยศ ได้ร้อยเรียงเรื่องราวประวัติศาสตร์การต่อสู้และอุดมการณ์อันแน่วแน่มั่นคงของท่านให้เห็นได้อย่างกระจ่างชัด แต่ในที่สุดท่านได้เขียนวลีที่เหมือนจะตัดพ้อ หรือประชดประชันในความไม่ยุติธรรมที่ท่านได้รับว่า “ผมคิดผิดไปแล้ว” คุณสมยศ ได้บรรยายถึงความทุกข์ยากเจ็บปวดที่ท่านได้รับทั้งทางกายและจิตใจ ทั้งสภาพภายในเรือนจำและจากการกระทำของผู้ใกล้ชิด ซึ่งเมื่อใครก็ตามได้อ่านมาถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะ “หลั่งน้ำตา” ให้กับความทุกข์ยาก และความปวดร้าว ที่บุรุษผู้หาญกล้าท่านนี้ได้รับ
ในฐานะที่ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมในอุดมการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเฉกเช่นเดียวกับที่คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ต่อสู้อยู่ แม้ว่าผมจะไม่หาญกล้าพอที่จะเปิดเผยตัวตนได้มากเท่ากับที่คุณสมยศ กระทำ ผมก็ขอสดุดี ยกย่อง และให้เกียรติ์ ต่อผู้กล้าท่านนี้ แม้จะเป็นเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง แต่ก็ขอให้กำลังใจต่อคุณสมยศ และบอกดังๆ ไปถึงคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข (ถ้าท่านมีโอกาสได้รับทราบ) ว่า “คุณสมยศ ครับ คุณคิดไม่ผิดหรอก” .. ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนี้
ผมเชื่อว่าขณะที่คุณสมยศ กำลังเขียนจดหมายฉบับนี้ คุณสมยศ กำลังอยู่ในสภาวะทางอารมณ์ ความรู้สึกที่ปวดร้าว สิ้นหวัง เจ็บปวดต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต่อชีวิตของท่าน เป็นความทุกข์ระทมอย่างหาทางออกไม่ได้ และเมื่อมองไปรอบตัว สิ่งที่ตนเองได้รับเทียบไม่ได้เลยกับนักต่อสู้เรียกร้องท่านอื่นๆ ที่อาจจะไม่ต้องลำบากติดคุกหรือถูกจำขัง และที่สำคัญบางคนมีตำแหน่งร่ำรวยเงินทองไปเสียอีกด้วย ในขณะที่ตัวของคุณสมยศ เองกลับต้องคำพิพากษาต้องโทษจำขังถึง 11 ปี แล้วยังเป็นหนี้ปรับถึง 100,000 บาท ทำให้ตัวท่าน และครอบครัวต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
คุณสมยศ ครับ คุณมีจิตวิญญาณแห่งการรักความเป็นธรรม (ประชาธิปไตย) อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งคุณได้แสดงให้เห็นตลอดมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน คุณค่าของสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย (ซึ่งเพื่อนบางคนของคุณสมยศ ใช้คำว่า “อุดมการณ์”) สำหรับคุณสมยศ แล้วคุณตีราคาความเป็นประชาธิปไตยไว้เท่าไรครับ... บางคนตีราคาประชาธิปไตยสำหรับเขา เท่ากับเงินจำนวนหนึ่ง (ก็ขายได้แล้ว) บางคนตีราคาประชาธิปไตยสำหรับเขาเอาไว้ เท่ากับตำแหน่งทางการเมืองบางตำแหน่ง (ก็ขายได้แล้ว) แต่สำหรับบางคนตีค่าราคาประชาธิปไตยสำหรับเขาเอาไว้มากเท่ากับ “ชีวิต” ของเขาเอง สำหรับคนกลุ่มสุดท้ายนี้ เขาจะไม่ยอมเอาสิ่งใดมาแลกกับประชาธิปไตยตามอุดมการณ์แห่งความคิดของเขา และผมเชื่อว่า “คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข น่าจะเป็นคนในกลุ่มนี้”
คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ แก่ๆ ท่านหนึ่ง หาญกล้าขับรถแท็กซี่เข้าชนกับรถถังทหาร เพื่อแสดงความไม่พอใจและต่อสู้กับเผด็จการตามวิธีที่ท่านทำได้ และเมื่อได้รับคำปรามาส จาก รองโฆษก คมช. ว่า “ไม่มีใครสามารถตายได้เพื่ออุดมการณ์” ท่านก็แสดงให้เห็นว่าคนเช่นนั้นมีจริง และท่านก็ได้ผูกคอตาย โดยได้เขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ว่า “ถ้าเกิดชาติหน้าขออย่าให้เกิดในประเทศที่มีรัฐประหารอีกเลย” แม้คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าชื่อเสียงของท่านจะไม่มีวันจางหายไปจากหัวใจของนักประชาธิปไตยในประเทศนี้
จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียนที่เรียกร้องความยุติธรรมและอุดมการณ์ประชาธิปไตย อาวุธของท่านมีเพียงสิ่งเดียวคือ ปากกา แต่ทว่าด้วยอุดมการณ์อันแน่วแน่ของท่าน ท่านไม่ยอมก้มหัวให้กับเผด็จการใดๆ แม้ว่าในยุคนั้นประเทศไทยจะถูกปกครองด้วยอำนาจของคณะปฏิวัติในยุคของ จอมพล สฤษฎิ์ ธนะรัตน์ แต่จิตร ภูมิศักดิ์ ก็มิได้หวั่นเกรงแม้จะต้องติดคุก ถูกทำร้าย ในที่สุดท่านก็ต่อสู้จนเสียชีวิต ที่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2509 ที่ จ. สกลนคร ซึ่งจนถึงวันนี้ชื่อเสียงของ จิตร ภูมิศักดิ์ ก็ยังคงถูกกล่าวขานตลอดมา
เนลสัน แมนเดลล่า ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ต้องโทษจำคุกอยู่ถึง 27 ปี ในเกาะเล็กๆ ในห้องขังเล็กๆ แคบๆ ที่เกาะ ร๊อบบิน เพราะเขาต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม และเท่าเทียมกันของชนผิวดำ และชนผิวขาว และในที่สุดการต่อสู้ของท่านก็ได้รับการยกย่อง และเป็นแบบอย่างของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมไปทั่วโลก
เช กาเบรา นักต่อสู้เพื่อประชาชน และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนยากไร้ในอเมริกาใต้ แม้ว่าจะเป็นแพทย์ แต่ เช กาเบรา ก็เป็นนักต่อสู้อำนาจเผด็จการเพื่อความยุติธรรมของประชาชนในอเมริกาใต้ และด้วยการต่อสู้นี้เองทำให้เขาถูกกองกำลังโบลิเวียจับ และสังหาร อีกทั้งยังทำลายศพ จนไม่มีใครจำได้ แม้ปัจจุบันก็ไม่มีใครรู้ว่าร่างของ เช กาเบรา อยู่ที่ใด เรื่องราวของ เช กาเบรา ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวอเมริกาใต้ที่ปลดปล่อยตนเองให้พ้นจากการครอบงำของเผด็จการในทุกๆ รูปแบบ
คุณสมยศ ครับ ยังมีตัวอย่างของนักสู้เพื่อความยุติธรรมอีกมากที่ต้องเจ็บปวด ทุกข์ยาก และอาจจะถึงกับสูญเสียชีวิต เพียงเพราะอุดมการณ์การต่อสู้ที่เขายึดมั่น ไม่ว่าจะเป็น โฮจิมินท์, เหมาเจ๋อตง, มหาตะมะ คานธี หรือแม้กระทั่งนักรบนิรนาม ที่เสียชีวิตที่ราชประสงค์ คนเหล่านี้ถ้าได้ศึกษาชีวิตของเขาให้ดีแล้ว จะเห็นว่าพวกเขา “ยอมตาย” ดีกว่าที่จะยอมขาย อุดมการณ์ความยุติธรรมที่เขายึดมั่น
คุณสมยศ ครับ ผมขอให้กำลังใจท่านอีกครั้ง แม้ว่าผมอาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงความทุกข์ยาก และแรงกดดัน ที่คุณสมยศ ได้รับอยู่ในเรือนจำ ได้อย่างแท้จริงก็ตาม แต่ก็อยากจะขอเรียนว่า “อย่าเพียรแสวงหาความยุติธรรม ในสถานที่ที่ไม่มีความยุติธรรม... อย่าเรียกร้องความเห็นใจ ในสถานที่ที่ไม่มีความเห็นใจ... อย่าแสดงความอ่อนแอ ในสถาวะแห่งสนามต่อสู้”
ผมขอยืนยันว่า ผมเข้าใจ และเห็นใจในความทุกข์ยากที่คุณสมยศ ได้รับอย่างจริงใจ แต่ทว่าผมไม่ปรารถนาที่จะเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามที่จ้องทำลายคุณสมยศ จะเยาะเย้ยในความอ่อนแอที่ท่านแสดงออกมานี้ สิ่งที่คุณสมยศ ควรจะกระทำก็คือ แสดงถึงอุดมการณ์อันแน่วแน่ ยืนหยัดต่อสิ่งที่ท่านเชื่อ และความหวังที่ท่านมีอย่างไม่เสื่อมคลาย.. คุณสมยศ ควรจะเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังต่อสู้กับความอยุติธรรมที่อยู่ภายนอก และกำลังดำเนินตามรอยเท้าที่คุณสมยศ เดินย่ำไปก่อนหน้าแล้ว นี่ถึงจะถูกต้อง... ครอบครัวและลูกๆ ของคุณสมยศ แม้จะอยู่ในสภาพที่ลำบาก แต่ทว่าพวกเขาควรจะภูมิใจในการที่เขาได้เป็นครอบครัวของนักต่อสู้ผู้ไม่ยอมแพ้....
วันหนึ่งข้างหน้า นามสกุล พฤกษาเกษมสุข อาจจะกลายเป็นนามสกุลที่ถูกกล่าวขานว่า ลูกหลานของตระกูลนี้ เป็นลูกหลานของนักสู้ที่แท้จริง และเป็นต้นธารของสายน้ำประชาธิปไตยยุคใหม่ของประเทศนี้ ก็เป็นได้ครับ
ผมขอสดุดี นักรบผู้กล้านาม สมยศ พฤกษาเกษมสุข และขอยืนยันว่า “คุณสมยศ คิดไม่ผิดหรอกครับ”
ปูนนก
สดุดีคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข คุณคิดไม่ผิดหรอกครับ
ผมได้อ่านจดหมายเปิดผนึกที่แสดงถึงความในใจอันเจ็บปวดของคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวอักษรแต่ละตัวที่กลั่นออกมาเป็นเนื้อความในจดหมายที่เขียนออกมานั้น ได้สะท้อนถึงความรู้สึกอันปวดร้าวที่อยู่ภายในของชายหนุ่มผู้กร้าวแกร่งคนหนึ่งชื่อที่ชื่อสมยศ นี้
ผมเริ่มได้รู้จักชื่อคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข เมื่อหลังรัฐประหารปี 2549 ซึ่งเป็นประชาชนคนไทยรุ่นแรกๆ ที่กล้าออกมายืนหยัดประท้วงการรัฐประหารของคณะ คมช. ในเวลานั้น เป็นความหาญกล้าของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ยากนักจะหาผู้ใดจะกระทำได้ในห้วงเวลาที่อำนาจเผด็จการกำลังเหิมเกริมจนถึงขีดสุด หลายๆ ต่อหลายครั้งที่ผมได้ยินและได้ฟังการปราศัยบนเวทีของผู้ชายที่ชื่อ สมยศ ท่านนี้ ซึ่งมีลีลาและเนื้อหาที่เผ็ดร้อน ตรงประเด็นอย่างกล้าหาญ จนทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกฮึกเฮิม และมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับอำนาจของ คมช. ท่ามกลางกระแสเผด็จการเชี่ยวกราก ที่กำลังครอบประเทศอยู่ในเวลานั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นอิสระชนผู้หนึ่งที่จุดประกายของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็งแท้จริง
ผมเป็นผู้หนึ่งที่ให้ความเคารพ นับถือในความกล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยของคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข นี้อย่างยิ่ง เพราะผมเองแม้จะร่วมต่อสู้กับอำนาจเผด็จการมานาน แต่ก็ยังไม่อาจหาญยืนหยัดและเปิดเผยได้เท่ากับที่คุณสมยศ ได้กระทำ
เนื้อหาในจดหมายของคุณสมยศ ฉบับนี้กระเทาะเปลือกให้เห็นถึงความอยุติธรรม ที่มีอยู่ในประเทศนี้อย่างแท้จริง คุณสมยศ ได้ร้อยเรียงเรื่องราวประวัติศาสตร์การต่อสู้และอุดมการณ์อันแน่วแน่มั่นคงของท่านให้เห็นได้อย่างกระจ่างชัด แต่ในที่สุดท่านได้เขียนวลีที่เหมือนจะตัดพ้อ หรือประชดประชันในความไม่ยุติธรรมที่ท่านได้รับว่า “ผมคิดผิดไปแล้ว” คุณสมยศ ได้บรรยายถึงความทุกข์ยากเจ็บปวดที่ท่านได้รับทั้งทางกายและจิตใจ ทั้งสภาพภายในเรือนจำและจากการกระทำของผู้ใกล้ชิด ซึ่งเมื่อใครก็ตามได้อ่านมาถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะ “หลั่งน้ำตา” ให้กับความทุกข์ยาก และความปวดร้าว ที่บุรุษผู้หาญกล้าท่านนี้ได้รับ
ในฐานะที่ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมในอุดมการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเฉกเช่นเดียวกับที่คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ต่อสู้อยู่ แม้ว่าผมจะไม่หาญกล้าพอที่จะเปิดเผยตัวตนได้มากเท่ากับที่คุณสมยศ กระทำ ผมก็ขอสดุดี ยกย่อง และให้เกียรติ์ ต่อผู้กล้าท่านนี้ แม้จะเป็นเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง แต่ก็ขอให้กำลังใจต่อคุณสมยศ และบอกดังๆ ไปถึงคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข (ถ้าท่านมีโอกาสได้รับทราบ) ว่า “คุณสมยศ ครับ คุณคิดไม่ผิดหรอก” .. ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนี้
ผมเชื่อว่าขณะที่คุณสมยศ กำลังเขียนจดหมายฉบับนี้ คุณสมยศ กำลังอยู่ในสภาวะทางอารมณ์ ความรู้สึกที่ปวดร้าว สิ้นหวัง เจ็บปวดต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต่อชีวิตของท่าน เป็นความทุกข์ระทมอย่างหาทางออกไม่ได้ และเมื่อมองไปรอบตัว สิ่งที่ตนเองได้รับเทียบไม่ได้เลยกับนักต่อสู้เรียกร้องท่านอื่นๆ ที่อาจจะไม่ต้องลำบากติดคุกหรือถูกจำขัง และที่สำคัญบางคนมีตำแหน่งร่ำรวยเงินทองไปเสียอีกด้วย ในขณะที่ตัวของคุณสมยศ เองกลับต้องคำพิพากษาต้องโทษจำขังถึง 11 ปี แล้วยังเป็นหนี้ปรับถึง 100,000 บาท ทำให้ตัวท่าน และครอบครัวต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
คุณสมยศ ครับ คุณมีจิตวิญญาณแห่งการรักความเป็นธรรม (ประชาธิปไตย) อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งคุณได้แสดงให้เห็นตลอดมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน คุณค่าของสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย (ซึ่งเพื่อนบางคนของคุณสมยศ ใช้คำว่า “อุดมการณ์”) สำหรับคุณสมยศ แล้วคุณตีราคาความเป็นประชาธิปไตยไว้เท่าไรครับ... บางคนตีราคาประชาธิปไตยสำหรับเขา เท่ากับเงินจำนวนหนึ่ง (ก็ขายได้แล้ว) บางคนตีราคาประชาธิปไตยสำหรับเขาเอาไว้ เท่ากับตำแหน่งทางการเมืองบางตำแหน่ง (ก็ขายได้แล้ว) แต่สำหรับบางคนตีค่าราคาประชาธิปไตยสำหรับเขาเอาไว้มากเท่ากับ “ชีวิต” ของเขาเอง สำหรับคนกลุ่มสุดท้ายนี้ เขาจะไม่ยอมเอาสิ่งใดมาแลกกับประชาธิปไตยตามอุดมการณ์แห่งความคิดของเขา และผมเชื่อว่า “คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข น่าจะเป็นคนในกลุ่มนี้”
คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ แก่ๆ ท่านหนึ่ง หาญกล้าขับรถแท็กซี่เข้าชนกับรถถังทหาร เพื่อแสดงความไม่พอใจและต่อสู้กับเผด็จการตามวิธีที่ท่านทำได้ และเมื่อได้รับคำปรามาส จาก รองโฆษก คมช. ว่า “ไม่มีใครสามารถตายได้เพื่ออุดมการณ์” ท่านก็แสดงให้เห็นว่าคนเช่นนั้นมีจริง และท่านก็ได้ผูกคอตาย โดยได้เขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ว่า “ถ้าเกิดชาติหน้าขออย่าให้เกิดในประเทศที่มีรัฐประหารอีกเลย” แม้คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าชื่อเสียงของท่านจะไม่มีวันจางหายไปจากหัวใจของนักประชาธิปไตยในประเทศนี้
จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียนที่เรียกร้องความยุติธรรมและอุดมการณ์ประชาธิปไตย อาวุธของท่านมีเพียงสิ่งเดียวคือ ปากกา แต่ทว่าด้วยอุดมการณ์อันแน่วแน่ของท่าน ท่านไม่ยอมก้มหัวให้กับเผด็จการใดๆ แม้ว่าในยุคนั้นประเทศไทยจะถูกปกครองด้วยอำนาจของคณะปฏิวัติในยุคของ จอมพล สฤษฎิ์ ธนะรัตน์ แต่จิตร ภูมิศักดิ์ ก็มิได้หวั่นเกรงแม้จะต้องติดคุก ถูกทำร้าย ในที่สุดท่านก็ต่อสู้จนเสียชีวิต ที่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2509 ที่ จ. สกลนคร ซึ่งจนถึงวันนี้ชื่อเสียงของ จิตร ภูมิศักดิ์ ก็ยังคงถูกกล่าวขานตลอดมา
เนลสัน แมนเดลล่า ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ต้องโทษจำคุกอยู่ถึง 27 ปี ในเกาะเล็กๆ ในห้องขังเล็กๆ แคบๆ ที่เกาะ ร๊อบบิน เพราะเขาต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม และเท่าเทียมกันของชนผิวดำ และชนผิวขาว และในที่สุดการต่อสู้ของท่านก็ได้รับการยกย่อง และเป็นแบบอย่างของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมไปทั่วโลก
เช กาเบรา นักต่อสู้เพื่อประชาชน และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนยากไร้ในอเมริกาใต้ แม้ว่าจะเป็นแพทย์ แต่ เช กาเบรา ก็เป็นนักต่อสู้อำนาจเผด็จการเพื่อความยุติธรรมของประชาชนในอเมริกาใต้ และด้วยการต่อสู้นี้เองทำให้เขาถูกกองกำลังโบลิเวียจับ และสังหาร อีกทั้งยังทำลายศพ จนไม่มีใครจำได้ แม้ปัจจุบันก็ไม่มีใครรู้ว่าร่างของ เช กาเบรา อยู่ที่ใด เรื่องราวของ เช กาเบรา ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวอเมริกาใต้ที่ปลดปล่อยตนเองให้พ้นจากการครอบงำของเผด็จการในทุกๆ รูปแบบ
คุณสมยศ ครับ ยังมีตัวอย่างของนักสู้เพื่อความยุติธรรมอีกมากที่ต้องเจ็บปวด ทุกข์ยาก และอาจจะถึงกับสูญเสียชีวิต เพียงเพราะอุดมการณ์การต่อสู้ที่เขายึดมั่น ไม่ว่าจะเป็น โฮจิมินท์, เหมาเจ๋อตง, มหาตะมะ คานธี หรือแม้กระทั่งนักรบนิรนาม ที่เสียชีวิตที่ราชประสงค์ คนเหล่านี้ถ้าได้ศึกษาชีวิตของเขาให้ดีแล้ว จะเห็นว่าพวกเขา “ยอมตาย” ดีกว่าที่จะยอมขาย อุดมการณ์ความยุติธรรมที่เขายึดมั่น
คุณสมยศ ครับ ผมขอให้กำลังใจท่านอีกครั้ง แม้ว่าผมอาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงความทุกข์ยาก และแรงกดดัน ที่คุณสมยศ ได้รับอยู่ในเรือนจำ ได้อย่างแท้จริงก็ตาม แต่ก็อยากจะขอเรียนว่า “อย่าเพียรแสวงหาความยุติธรรม ในสถานที่ที่ไม่มีความยุติธรรม... อย่าเรียกร้องความเห็นใจ ในสถานที่ที่ไม่มีความเห็นใจ... อย่าแสดงความอ่อนแอ ในสถาวะแห่งสนามต่อสู้”
ผมขอยืนยันว่า ผมเข้าใจ และเห็นใจในความทุกข์ยากที่คุณสมยศ ได้รับอย่างจริงใจ แต่ทว่าผมไม่ปรารถนาที่จะเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามที่จ้องทำลายคุณสมยศ จะเยาะเย้ยในความอ่อนแอที่ท่านแสดงออกมานี้ สิ่งที่คุณสมยศ ควรจะกระทำก็คือ แสดงถึงอุดมการณ์อันแน่วแน่ ยืนหยัดต่อสิ่งที่ท่านเชื่อ และความหวังที่ท่านมีอย่างไม่เสื่อมคลาย.. คุณสมยศ ควรจะเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังต่อสู้กับความอยุติธรรมที่อยู่ภายนอก และกำลังดำเนินตามรอยเท้าที่คุณสมยศ เดินย่ำไปก่อนหน้าแล้ว นี่ถึงจะถูกต้อง... ครอบครัวและลูกๆ ของคุณสมยศ แม้จะอยู่ในสภาพที่ลำบาก แต่ทว่าพวกเขาควรจะภูมิใจในการที่เขาได้เป็นครอบครัวของนักต่อสู้ผู้ไม่ยอมแพ้....
วันหนึ่งข้างหน้า นามสกุล พฤกษาเกษมสุข อาจจะกลายเป็นนามสกุลที่ถูกกล่าวขานว่า ลูกหลานของตระกูลนี้ เป็นลูกหลานของนักสู้ที่แท้จริง และเป็นต้นธารของสายน้ำประชาธิปไตยยุคใหม่ของประเทศนี้ ก็เป็นได้ครับ
ผมขอสดุดี นักรบผู้กล้านาม สมยศ พฤกษาเกษมสุข และขอยืนยันว่า “คุณสมยศ คิดไม่ผิดหรอกครับ”
ปูนนก