.......................

สวัสดีครับ นี่คงเป็นกระทู้รีวิวแรกของผม เพราะผมไม่ค่อยได้รีวิวอะไรเท่าไหร่เมื่อดูจบแล้ว แต่ครั้งนี้นึกคันไม้คันมืออยากเขียนขึ้นมาซะอย่างนั้น เลยรีบมาพิมพ์ทันทีหลังจากออกจางโรงหนังแล้ว ผมไม่ใช่นักวิจารณ์หรือคอหนังอะไร เป็นคนที่ชอบดูหนังเท่านั้นเอง หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัย ด้วยนะครับ
ส่วนแรกรีวิวแบบไม่สปอย (ผู้ทียังไม่ได้ดูอ่านได้ครับ)
........................ หนังเล่าฉากเกริ่นได้น่าสนใจและลึกลับดีมาก เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าถึง 13 ปี และความไม่สนใจใส่ใจใครๆของตัวโทนี่เอง และหนังยิ่งดำมืดและดูลึกลับไปเรื่อยๆเมื่อโทนี่เริ่มตระหนักว่าสิ่งที่เขากำลังพบเจอไม่ใช่แค่ศัตรูที่กำเนิดจากวิศวกรรมแบบเดิมๆเหมือนในสองภาคก่อน หากเป็นอะไรบางอย่างที่ดูลึกลับราวกับเวทย์มนต์ แม้หนังจะมีบางฉากที่เอื่อยและเฉยๆในบางช่วง หรือจะมีฉากที่ดูแล้วนึกในใจว่า ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ก็ยังประคองหนังไว้ได้ดี
ในภาคนี้จะเริ่มรู้สึกว่าตัวพระเอกเริ่มดูเป็นฮีโร่มากกว่าภาคก่อนๆ (คือมีคนนับหน้าถือตา มองเขาเป็นฮีโร่แทนที่จะเป็น เซเล็บไฮโซแบบภาคก่อนๆ) และพระเอกก็ไม่ได้ไร้ค่าเสียทีเดียวเมื่อตนอยู่ห่างจากชุดเกราะ พูดตรงๆเลยว่าภาคนี้นั้นดูเหมือนเป็นเรื่องราวของ "โทนี่" มากกว่าจะเป็น "ไอออนแมน" มันคือการต่อสู้กับความรู้สึกในตัวเอง หากอยากจะดูฉากบู๊มันๆเต็มอิ่มก็คงต้องผิดหวังเพราะหนังไม่ได้มีฉากบู๊มากมายเหมือนภาคก่อนๆ
แต่ใช่ว่าหนังภาคนี้จะไม่สนุก เพราะผมยกย่องว่านี่คงเป็นไอออนแมนภาคที่ดีที่สุด เพราะโดยรวมแล้วทุกอย่างนั้นสอดประสานกันได้อย่างลงตัว ทั้งฉากบู๊ ปมปัญหา ความสนุก มุกตลก และดราม่า ไม่อยากจะกล่าวถึงตัวร้ายเพราะอาจจะเป็นการสปอยจนเกินไป แต่ตัวร้ายนั้นยังทำได้ไม่สุด ทั้งจุดประสงค์ ปมปัญหา
โดยรวมแล้วหนังทำได้ดีถึงดีมาก มีซาวแทร็คที่ฟังดูแล้วได้อารมณ์ฮีโร่ "แต่น แตน แต๊นนน" อะไรทำนองนี้ ที่ไม่เคยได้ยินในภาคก่อนๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบมาก หนังกระจายบทได้ลงตัว ตัวร้ายเท่ห์มาก เอฟเฟค คงไม่ต้องพูดถึง
สรุปแล้ว ให้ 8.7/10 (ให้สนุกมากกว่า Avengers และเทียบเท่า Spider-man2 เลยครับ)
ส่วนต่อไปขอกล่าวถึงเรื่องราวในเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสปอยผู้ที่ยังไม่ได้ดูหนัง ควรหยุดแค่นี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อที่ผมอยากจะชื่อชมและตำหนิในจุดๆเดียวกันก็คือ "ตัวร้าย" อย่างที่ทราบกันแล้วว่าตัวร้ายในภาคนี้คือ "แมนดาลิน"
ถ้าคู่ปรับตลอดกาลของ superman คือ เล็กซ์ ลูเธอร์ บุรุษผู้เพรียบพร้อม
Batman ก็เป็น Joker แห่งความโกลาหลที่คาดเดาไม่ได้
Spider-man ก็เป็น Green Goblin ผู้ที่เล่นกับหัวใจคน
และ Iron-man วีรบุรุษที่ถือกำเนิดจากวิศวกรรม ก็ต้องคู่กับ Mandalin ผู้ที่ถือกำเนิดจากสิ่งที่แทบจะตรงกันข้ามก็คือ "เวทย์มนต์"
แต่หนังกลับไม่ได้สื่อในตัวแมนดาลินออกมาเป็นเช่นนั้น ในฉากที่แมนดาลิน(ตัวปลอม)พูดผ่านสื่อนั้น ถ้าหากหนังทำให้ตัวร้ายของเรื่อง มีการใช้เวทย์มนตร์หรืออะไรที่ทำให้คนหมู่มากหวาดกลัวบ้าง ไม่ใช่การถือปืนขู่แบบนั้น (ในหนังสือแมนดาลินใช้เวทย์มนต์ได้ครับ) ซึ่งตอนหลังอาจจะอ้างว่า นั่นเป็นการจัดฉากก็ได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ตัวแมนดาลินดูน่าสนใจในตอนแรก และผมขอชมเหมือนกันที่หนังกล้าเอาคู่ปรับตลอดกาลของไอออนแมนอย่างแมนดาลิน พลิกบทบาทกลายเป็นอะไรที่คอหนังสือคงเงิบไปตามๆกัน 5555555 (ในแบทแมนบีกินส์ยังหักมุมแบบพอรับได้ แต่ในไอออนแมนสามคงต้องเงิบกันบ้างละแหม...)
แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบในจุดที่หนังพลิกแมนดาลินเป็นตัวตลก ผมกลับชอบในจุดนี้ เพียงแต่ว่าฉากหน้าของตัวโกงควรจะน่าสนใจกว่านี้ และหนังแทบไม่ได้กล่าวถึงแหวนสิบวงของแมนดาลินเลย (คิดว่าคอคอมมิคอาจจะผิดหวังเช่นกัน) และเมื่อถึงฉากที่กายเพียช (ผมจำชื่อในเรื่องไม่ได้) เริ่มออกลาย (ซึ่งหลายคนคงเดาได้แต่แรกแล้วว่า นี่แหละคนร้ายตัวจริง) พลังของเขากลับไม่ได้ดูแตกต่างอะไรกับบรรดาลูกน้องเลย จุดนี้น่าเสียดายมากเขากลับเป็นแค่คนติดไฟธรรมดาไม่ต่างจากลูกกระจ๊อกตัวเอง เข้าไปอัดลุ่นๆกับไอออนแมน (รู้ว่าเจาะเกราะได้ แต่ลูกน้องเฮียก็ทำได้ไม่ใช่หรือ) ถึงแม้เขาจะพ่นไฟได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะน่าสนใจแต่อย่างใด ทำให้รู้สึกว่า เขาก็ไม่ได้เหนือกว่าพระเอกตรงไหน (ตัวร้ายภาค 1 ที่ใส่ชุดเกราะต้นแบบของไอออนแมน หรือ ภาค2 ที่เลียนแบบพระเอก ก็ไม่ได้รู้สึกว่า มันเหนือกว่าไอออนแมนเลย ซึ่งซีรี่ย์นี้กลับทำให้ดูน่าผิดหวังตรงคนร้ายนี่แหละ) ถ้าเกิดกายเพียชดูเหนือกว่าไอออนแมนมากกว่านี้ ดูมีพลังมากกว่านี้ น่าสนใจกว่านี้ หนังคงจะกดดันและกลมกล่อมมากขึ้น
ยิ่งฉากไคล์แม็กซ์ที่กลายเป็นนางเอกที่กำราบคนร้ายได้ นี่บอกตรงๆผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นี่สรุปใครแมนกว่าใครฟะเนี่ย ตั้งแต่ฉากที่นางเอกมาบังหินให้โทนี่ละ บอกตรงๆว่าเงิบ 55555
และสุดท้ายที่อยากจะติคือความสมเหตุสมผล กายเพียชมีจุดประสงค์อะไรที่แท้จริง? เหตุผลที่เขาเป็นตัวร้ายมันน่าสนใจอะไรตรงไหน? มันเจ็บปวดยังไงกัน? แล้วโทนี่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรแทนลูกน้องตัวเองที่โดนระเบิด? หนังน่าจะทำให้บีบคั้น และสมเหตุสมผลทางอารมณ์กว่านี้หน่อยครับผม...
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังหาเวลา ลังเล หรือว่ากำลังตัดสินใจ ขอบอกให้รีบไปดูเลยครับ สนุกแน่ๆ ^ ^
ปล. ผมดูแบบ 3D ฉากมีมิติดีมาก เป็น 3D ที่ดีอีกหนึ่งเรื่องเลย แต่เสียดายผมไม่ได้ดู end credit เลยมาเล่าไม่ได้ T^T
รีวิว IronMan3 หนังที่ไม่ได้มีดีแค่เกราะเหล็ก [อ่านได้ทั้งผู้ที่ดูแล้วและยังไม่ได้ดู]
ส่วนแรกรีวิวแบบไม่สปอย (ผู้ทียังไม่ได้ดูอ่านได้ครับ)
........................ หนังเล่าฉากเกริ่นได้น่าสนใจและลึกลับดีมาก เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าถึง 13 ปี และความไม่สนใจใส่ใจใครๆของตัวโทนี่เอง และหนังยิ่งดำมืดและดูลึกลับไปเรื่อยๆเมื่อโทนี่เริ่มตระหนักว่าสิ่งที่เขากำลังพบเจอไม่ใช่แค่ศัตรูที่กำเนิดจากวิศวกรรมแบบเดิมๆเหมือนในสองภาคก่อน หากเป็นอะไรบางอย่างที่ดูลึกลับราวกับเวทย์มนต์ แม้หนังจะมีบางฉากที่เอื่อยและเฉยๆในบางช่วง หรือจะมีฉากที่ดูแล้วนึกในใจว่า ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ก็ยังประคองหนังไว้ได้ดี
ในภาคนี้จะเริ่มรู้สึกว่าตัวพระเอกเริ่มดูเป็นฮีโร่มากกว่าภาคก่อนๆ (คือมีคนนับหน้าถือตา มองเขาเป็นฮีโร่แทนที่จะเป็น เซเล็บไฮโซแบบภาคก่อนๆ) และพระเอกก็ไม่ได้ไร้ค่าเสียทีเดียวเมื่อตนอยู่ห่างจากชุดเกราะ พูดตรงๆเลยว่าภาคนี้นั้นดูเหมือนเป็นเรื่องราวของ "โทนี่" มากกว่าจะเป็น "ไอออนแมน" มันคือการต่อสู้กับความรู้สึกในตัวเอง หากอยากจะดูฉากบู๊มันๆเต็มอิ่มก็คงต้องผิดหวังเพราะหนังไม่ได้มีฉากบู๊มากมายเหมือนภาคก่อนๆ
แต่ใช่ว่าหนังภาคนี้จะไม่สนุก เพราะผมยกย่องว่านี่คงเป็นไอออนแมนภาคที่ดีที่สุด เพราะโดยรวมแล้วทุกอย่างนั้นสอดประสานกันได้อย่างลงตัว ทั้งฉากบู๊ ปมปัญหา ความสนุก มุกตลก และดราม่า ไม่อยากจะกล่าวถึงตัวร้ายเพราะอาจจะเป็นการสปอยจนเกินไป แต่ตัวร้ายนั้นยังทำได้ไม่สุด ทั้งจุดประสงค์ ปมปัญหา
โดยรวมแล้วหนังทำได้ดีถึงดีมาก มีซาวแทร็คที่ฟังดูแล้วได้อารมณ์ฮีโร่ "แต่น แตน แต๊นนน" อะไรทำนองนี้ ที่ไม่เคยได้ยินในภาคก่อนๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบมาก หนังกระจายบทได้ลงตัว ตัวร้ายเท่ห์มาก เอฟเฟค คงไม่ต้องพูดถึง
สรุปแล้ว ให้ 8.7/10 (ให้สนุกมากกว่า Avengers และเทียบเท่า Spider-man2 เลยครับ)
ส่วนต่อไปขอกล่าวถึงเรื่องราวในเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสปอยผู้ที่ยังไม่ได้ดูหนัง ควรหยุดแค่นี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังหาเวลา ลังเล หรือว่ากำลังตัดสินใจ ขอบอกให้รีบไปดูเลยครับ สนุกแน่ๆ ^ ^
ปล. ผมดูแบบ 3D ฉากมีมิติดีมาก เป็น 3D ที่ดีอีกหนึ่งเรื่องเลย แต่เสียดายผมไม่ได้ดู end credit เลยมาเล่าไม่ได้ T^T