ผมเป็นเพื่อนเจ้าของ Id นี้ครับ
เมื่อวันที่ 1/5/2556 เวลา 13.45 น. เวลาในประเทศไทย
ขับมอไซ kawasaki มาด้วยความเร็ว 140 ตามหลังรถกระบะมาด้วยความเร็วพอๆกัน อยู่ๆก็มี Honda City ปีต่ำกว่า 2013 ทะเบียน ฎฐ6200 รถสีดำ ฟิล์มข้าง 60% เป็นผู้ชายขับอายุประมาณ 20-30ปี บุคคลิก นิ่งเฉยหรืออาจหูตึง ถ้าผมแจ้งทะเบียนผิดขออภัยด้วยครับ แต่ผมเหมือนคนจะตายอะครับจำภาพสุดท้ายได้แม่น
เหตุเกิดที่ถนนบรมราช ขาเข้ากรุงเทพ ฝั่งเดียวกับ สน คู่ขนานลอยฟ้า เจ้าตัวขับประมาณ 80-100 อยู่ๆก็หักพวงมาลัยมาเลนขวาสุดทั้งๆที่ข้างหน้ารถคันนั้นไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยที่ผมเปิดไฟสูงเตือนแล้วก่อนระยะประมาณ 10 เมตร และกดแตรระยะ 5 เมตรด้วยการกดที่สุภาพ แล้วก็ 1 เมตรด้วยการกดที่โมโห มันก็หักเลี้ยวเข้ามา ผมเบรคสุดตัว จากความเร็ว 140-150 กิโลเมตร เบรค abs ล้อหลังทำงาน ล้อหลังผมแซงขวาขึ้นมากำลังจะแซงล้อหน้า ผมเบรคล้อหน้าช่วยและใช้เครื่องฉุด ขณะๆนั้นก็ยังกดแตรต่อด้วยความโมโห เค้าผู้นั้นก็ยังไม่รู้สึก ผมเลยขับตีคู่ขึ้นไปคิดว่าเค้าอาจจะฉุกเฉินจริงๆ แต่พอแซงขึ้นไปมองหน้า มันทำหน้าเฉยชา เหมือนกับว่าไม่มีไรเกิดขึ้น ผมก็เลยแซงไปข้างหน้าแล้วมองหน้า เค้าไม่มองหน้าผมแตามองกระจกขวา ผมเลยคิดในใจว่าเค้ามีปัญหาชีวิตหรือเปล่า ตอนแรกก็ใจเย็นนะ แต่ผมเห็นเค้าเร่งความเร็วขึ้นมาจะชนผม ผมเลยให้นิ้วกลางไป แล้วคิดว่ากูเจอเกรียนละ จบกันไปเถอะแยกย้าย แล้วผมก็บิดออกไปด้วยความเร็ว 180 แยกกันตรงทางไปถนนราชพฤก เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่ายังมีคนประเภทนี้อีกเยอะ อยากให้ทุกคนระวังตัวด้วยถ้าเกิดการชนเราผิดแน่ด้วยข้อหาวิ่งรถในเลนหลักหรือทางด่วน ทั้งๆที่รถพวกเราเร็วขนาดนี้แต่วิ่งไม่ได้แต่ก็เข้าใจกฎและต้องขอโทษคุณตำรวจด้วยครับ ผมโดนปรับบ่อยแต่ผมไม่ปฏิเสธครับเพราะใจมันชอบครับ
มีเรื่องมาเล่าจากคนขี่มอไซต์บิ๊กไบค์
เมื่อวันที่ 1/5/2556 เวลา 13.45 น. เวลาในประเทศไทย
ขับมอไซ kawasaki มาด้วยความเร็ว 140 ตามหลังรถกระบะมาด้วยความเร็วพอๆกัน อยู่ๆก็มี Honda City ปีต่ำกว่า 2013 ทะเบียน ฎฐ6200 รถสีดำ ฟิล์มข้าง 60% เป็นผู้ชายขับอายุประมาณ 20-30ปี บุคคลิก นิ่งเฉยหรืออาจหูตึง ถ้าผมแจ้งทะเบียนผิดขออภัยด้วยครับ แต่ผมเหมือนคนจะตายอะครับจำภาพสุดท้ายได้แม่น
เหตุเกิดที่ถนนบรมราช ขาเข้ากรุงเทพ ฝั่งเดียวกับ สน คู่ขนานลอยฟ้า เจ้าตัวขับประมาณ 80-100 อยู่ๆก็หักพวงมาลัยมาเลนขวาสุดทั้งๆที่ข้างหน้ารถคันนั้นไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยที่ผมเปิดไฟสูงเตือนแล้วก่อนระยะประมาณ 10 เมตร และกดแตรระยะ 5 เมตรด้วยการกดที่สุภาพ แล้วก็ 1 เมตรด้วยการกดที่โมโห มันก็หักเลี้ยวเข้ามา ผมเบรคสุดตัว จากความเร็ว 140-150 กิโลเมตร เบรค abs ล้อหลังทำงาน ล้อหลังผมแซงขวาขึ้นมากำลังจะแซงล้อหน้า ผมเบรคล้อหน้าช่วยและใช้เครื่องฉุด ขณะๆนั้นก็ยังกดแตรต่อด้วยความโมโห เค้าผู้นั้นก็ยังไม่รู้สึก ผมเลยขับตีคู่ขึ้นไปคิดว่าเค้าอาจจะฉุกเฉินจริงๆ แต่พอแซงขึ้นไปมองหน้า มันทำหน้าเฉยชา เหมือนกับว่าไม่มีไรเกิดขึ้น ผมก็เลยแซงไปข้างหน้าแล้วมองหน้า เค้าไม่มองหน้าผมแตามองกระจกขวา ผมเลยคิดในใจว่าเค้ามีปัญหาชีวิตหรือเปล่า ตอนแรกก็ใจเย็นนะ แต่ผมเห็นเค้าเร่งความเร็วขึ้นมาจะชนผม ผมเลยให้นิ้วกลางไป แล้วคิดว่ากูเจอเกรียนละ จบกันไปเถอะแยกย้าย แล้วผมก็บิดออกไปด้วยความเร็ว 180 แยกกันตรงทางไปถนนราชพฤก เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่ายังมีคนประเภทนี้อีกเยอะ อยากให้ทุกคนระวังตัวด้วยถ้าเกิดการชนเราผิดแน่ด้วยข้อหาวิ่งรถในเลนหลักหรือทางด่วน ทั้งๆที่รถพวกเราเร็วขนาดนี้แต่วิ่งไม่ได้แต่ก็เข้าใจกฎและต้องขอโทษคุณตำรวจด้วยครับ ผมโดนปรับบ่อยแต่ผมไม่ปฏิเสธครับเพราะใจมันชอบครับ