คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ให้แยกออกเป็น 2 ประเด็น
1. เรื่องค่าภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 9 หมื่ี่นกว่าบาท
ประเด็นนี้ ให้ดูว่าคุณเป็นผู้ถือหุ้นด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่เป็น แต่เป็นแค่กรรมการบริษัทอย่างเดียว อย่างนี้คุณไม่ต้องรับผิดในค่าภาษีของบริษัท
แต่ถ้าเป็นผู้ถือหุ้น ก็ให้ดูว่าคุณได้ชำระค่าหุ้นครบถ้วนหรือยัง ถ้าชำระครบถ้วนแล้ว ก็ไม่ต้องรับผิดเหมือนกัน แต่ถ้ายังชำระค่าหุ้นไม่ครบ ก็รับผิดในส่วนที่ยังไม่ครบ
2. เรื่องค่าปรับตามหมายเรียก กรณีไม่ยื่นงบการเงิน
เรื่องนี้ ความผิดฐานไม่ยื่นงบการเงิน หรือไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบดุลภายใน 4 เดือน เป็นความผิดอาญาที่มีแต่โทษปรับอย่างเดียว ไม่มีโทษจำคุกด้วย ฉะนั้น อายุความจึงมีเพียง 1 ปีอย่างที่เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒน์ฯ บอกคุณนั่นแหละ
ฉะนั้น ความผิดที่ตำรวจจะปรับได้ จึงเป็นปีต่อปี หากเลยกำหนด ก็ปรับไม่ได้แล้ว
ทีนี้ ให้ดูว่าในเรื่องนี้ว่าตำรวจระบุความผิดในหมายเรียกไว้ในข้อหาอะไร ระหว่างข้อหาไม่ยื่นงบการเงิน กับไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบดุล
ถ้าข้อหาในหมายเรียก ระบุความผิดฐานไม่ยื่นงบการเงินตามมาตรา 11 แห่ง พรบ. การบัญชี 2543 อย่างนี้ตำรวจปรับคุณไม่ได้ เพราะความผิดนี้ยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าบริษัทจะต้องยื่นงบการเงินภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่งบดุลได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ฯ แต่ในเมื่อยังไม่มีการประชุมใหญ่ วันเริ่มของความผิดฐานนี้จึงยังไม่เกิดขึ้น เมื่อยังไม่เกิดขึ้น ความผิดก็ยังไม่ครบองค์ประกอบ
แต่ถ้าข้อหาในหมายเรียกเป็นเรื่องไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนนับแต่ปิดรอบ อย่างนี้ ถ้าบริษัทคุณปิดรอบบัญชีตามปีปฏิทิน อายุความในข้อหาไม่จัดประชุมใหญ่ของปีที่แล้ว สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อวานนี้ ดังนั้น ตำรวจจะปรับคุณในข้อหานี้อีกไม่ได้แล้ว
1. เรื่องค่าภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 9 หมื่ี่นกว่าบาท
ประเด็นนี้ ให้ดูว่าคุณเป็นผู้ถือหุ้นด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่เป็น แต่เป็นแค่กรรมการบริษัทอย่างเดียว อย่างนี้คุณไม่ต้องรับผิดในค่าภาษีของบริษัท
แต่ถ้าเป็นผู้ถือหุ้น ก็ให้ดูว่าคุณได้ชำระค่าหุ้นครบถ้วนหรือยัง ถ้าชำระครบถ้วนแล้ว ก็ไม่ต้องรับผิดเหมือนกัน แต่ถ้ายังชำระค่าหุ้นไม่ครบ ก็รับผิดในส่วนที่ยังไม่ครบ
2. เรื่องค่าปรับตามหมายเรียก กรณีไม่ยื่นงบการเงิน
เรื่องนี้ ความผิดฐานไม่ยื่นงบการเงิน หรือไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบดุลภายใน 4 เดือน เป็นความผิดอาญาที่มีแต่โทษปรับอย่างเดียว ไม่มีโทษจำคุกด้วย ฉะนั้น อายุความจึงมีเพียง 1 ปีอย่างที่เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒน์ฯ บอกคุณนั่นแหละ
ฉะนั้น ความผิดที่ตำรวจจะปรับได้ จึงเป็นปีต่อปี หากเลยกำหนด ก็ปรับไม่ได้แล้ว
ทีนี้ ให้ดูว่าในเรื่องนี้ว่าตำรวจระบุความผิดในหมายเรียกไว้ในข้อหาอะไร ระหว่างข้อหาไม่ยื่นงบการเงิน กับไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบดุล
ถ้าข้อหาในหมายเรียก ระบุความผิดฐานไม่ยื่นงบการเงินตามมาตรา 11 แห่ง พรบ. การบัญชี 2543 อย่างนี้ตำรวจปรับคุณไม่ได้ เพราะความผิดนี้ยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าบริษัทจะต้องยื่นงบการเงินภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่งบดุลได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ฯ แต่ในเมื่อยังไม่มีการประชุมใหญ่ วันเริ่มของความผิดฐานนี้จึงยังไม่เกิดขึ้น เมื่อยังไม่เกิดขึ้น ความผิดก็ยังไม่ครบองค์ประกอบ
แต่ถ้าข้อหาในหมายเรียกเป็นเรื่องไม่จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนนับแต่ปิดรอบ อย่างนี้ ถ้าบริษัทคุณปิดรอบบัญชีตามปีปฏิทิน อายุความในข้อหาไม่จัดประชุมใหญ่ของปีที่แล้ว สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อวานนี้ ดังนั้น ตำรวจจะปรับคุณในข้อหานี้อีกไม่ได้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
เรื่องการจัดการบริษัท (ได้รับหมาย เนื่องจากไม่ได้ยื่นงบการเงิน)
ได้รับหมายตำรวจ เรียกให้พบ เรื่องไม่ยื่นงบการเงิน ปี 2554
ปัญหาคือ
1. เราไม่ได้ทำบริษัทนี้ ตั้งแต่ปี 2553 ค่ะ
2. ตอนที่ตกลงกับเพื่อน ว่าจะปิดบริษัท เพื่อนจัดการให้ (คือเขาจะมี outsource ที่วิ่งเรื่องบัญชี ภาษี ฯลฯ ค่ะ)
3. หลังจากที่ตกลงกันแล้ว เพื่อนกลับต่างประเทศ (จีน) เราก็ดูว่า น่าจะลงตัวเรียบร้อย (เพราะก็ทำทุกเรื่อง พนักงานก็เข้าใจดีค่ะ ว่าเศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ ก็ออกกันไป จากนั้น เราก็แจ้งเรื่องประกันสังคม)
4. ยกเลิกการเช่าสำนักงาน / เพื่อนกลับจีน
พอมาเดือนที่แล้ว มีหมายเรียก ให้ไปพบตำรวจที่ สตช. สีลม ค่ะ (อาญา เศรษฐกิจ)
ทีนี้ เราก็งง อันดับแรกที่ตรวจสอบคือ ตรวจกับกรมธุรกิจการค้า > สถานะ คือ ยังคงดำเนินกิจการ แต่ไม่ยื่นงบ
ถามทางบริษัทบัญชี เขาก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย -*-
ติดต่อเพื่อนยังไม่ได้ เขาไป site งานเป็นเดือนเลยค่ะ (บริษัททางโน้น เขาแจ้งมาอย่างนี้นะ)
กลุ้ม เครียด มากมาย... คือจะยังไงดี...
ปิด ก็ยังไม่ได้ เพราะเพื่อนเป็นกรรมการใหญ่ ลงนามร่วมกัน
ลาออกจากกรรมการ ก็ไม่ได้ เพราะก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่
โทร.ไปคุยกับ สำนักฯ บัญชีอีกที เขาก็บอกว่า มีงบล่าสุดของปี 53 ค่ะ ซึ่งอลังการ... แต่สรุปนะ ว่าถ้าเราปิด เราต้องจ่ายค่าภาษี ฯลฯ อีกร่วม 90,000 กว่าบาท T_T ไม่มีตังค์ขนาดนั้นค่ะ
แล้วก็ยังไมได้พบตำรวจ คือไม่รู้อีกว่าไปพบแล้วยังไงต่อ
ลองโทร.ไปที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เขาก็แนะนำว่าให้จดทะเบียนเลิก และชำระบัญชี (แต่ทางกรมฯ เขาบอกเรามาว่า ปกติเรื่องนี้อายุความ 1 ปี และนี่เป็นการไม่ยื่นงบปี 54 มันก็น่าจะหมดอายุความแล้ว แต่เรารู้สึกว่า มันไม่ใช่.. หรือจะเป็นอย่างที่พี่เขาบอก...)
..... มีใครพอมี idea เรื่องนี้บ้างคะ ขอคำปรึกษา แนะนำหน่อยนะคะ......
คือทำอะไรไม่ถูก สภาพเหมือนทำอะไรไม่ได้เลย จะปิด จะอะไร อะไร ก็ไม่ได้ติดเรื่องนี้
ทำยังไงดี T^T
เป็นความสับเพร่าของเราจริงๆ คือไว้ใจเขามาก แล้วช่วงนั้นเราก็ยุ่งเรื่องเรียนด้วยค่ะ (เรียนต่อ) แบบ มหาศาล ก็ไม่ได้ตามเลย
เป็นบทเรียนจริงๆ