เมื่อคน กทม. มาอยู่บ้านนอกได้4เดือน เจออะไรมาบ้าง อยากจะแชร์ครับ

ท้าวความก่อนว่า ผมเป็นคน กทม.โดยกำเนิด  แล้วได้มาแต่งงานกับคน จ.เลย  แต่งไปเมื่อ 30/12/12

ก่อนหน้านี้ ตอนผมอยู่ที่กทม. ช่วยพ่อแม่เปิดทำอาชีพขายแก๊สถังๆตามบ้าน และขายอุปกรณแต่งรถยนต์ซิ่งทั้งหลาย และก็เปิด Proxy Server ให้เด็กๆเข้ามาใช้กัน รวมๆแล้วเดือนนึงรายได้ประมาณ 30000+- แต่แฟนผมยืนยันว่า จะกลับมาอยู่ที่บ้าน ไม่ยอมทำงานที่ กทม อีกแล้ว ผมจึงตามมาอยู่ด้วย และประเพณีที่นี่ เมื่อแต่งงานกันแล้ว ผู้ชายก็จะย้ายมาอยู่บ้านผู้หญิงกัน

แฟนผมก็ได้มาขายของที่สหกรณ์ ซึ่งจะมีรายได้ 39%ของยอดขายทั้งหมด ที่เหลือจากนั้นก็จะหักค่าใช้จ่ายและแบ่งปันผลให้กับคนในหมู่บ้าน ผมคิดๆแล้วก็ตกเดือนละ 1xxxx

เดือนแรกที่ผมมาที่นี่ เดือนมกราคม ประมาณปลายเดือน ตอนเช้าตื่นมา อากาศหนาวมาก หายใจออกมาเป็นควันเลย ผมก็ได้เข้าห้องน้ำไปแปรงฟันตามปกติ ก็สงสัยว่า ทำไมต้องเปิดน้ำแบบหรี่ๆแบบแมวเยี่ยวเอาไว้ด้วย ด้วยความสงสัยเลยถาม ได้ความมาว่า เปิดช้าๆ มิเตอร์จะได้ไม่หมุน ซึ่งผมเดินไปบ้านไหน ก็เจอทำแบบเดียวกันหมด ซึ่งที่ กทม บ้านผมทำไม่ได้แน่ๆ เพราะมีปั๊มน้ำ ซึ่งถ้าแรงดันตกลงมา ปั๊มน้ำก็จะทำงานเปลืองทั้งน้ำทั้งไฟ  ผมก็เออแหะ เข้าท่าดี

แล้วก็มากินข้าวเช้าักันตอนประมาณ 7-8 โมงแล้วแต่วัน อาหารก็จะมีแปลกๆทั้งหลาย เช่นที่เค้าเรียกว่าแจ่ว จะเอามะเขือลูกเล็กๆ ประมาณลูกแก้วที่เด็กๆเอามาดีดกัน เอามาตำๆกับน้ำปลา อะไรแนวนั้น ซึ่งผมมาแรกๆก็คิดว่า มันจะกินได้เหรอวะ เอ้าไหนๆก็มาแล้วลองดู รสชาดมันก็แปล่งๆ แต่ก็คิดว่ากินกันตาย อาหารที่นี่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผงชูรสครับ ใส่กันแบบยังกับแจกฟรี โรยยังกับน้ำตาลเลยทีเดียว

พอกินข้าวกันเสร็จ พ่อตาแม่ยายผมก็จะไปตัดอ้อย ปลูกอ้อยกัน ผมก็ได้มาช่วยแฟนขายของที่สหกรณ์หมู่บ้าน มีขายของเล็กๆน้อยๆ ขายน้ำมันมือหมุน ซึ่งตอนหลัง ผมก็ได้ยกตู้น้ำมันหยอดเหรียญที่ผมมีที่ กทม ให้พ่อตาผมตั้งหน้าบ้านเอาไว้ไหนก็ย้ายมาที่นี่ละ จะได้มีรายได้เล็กๆน้อยๆอีก

มีอยู่วันนึง ผมก็ตามไปตัดอ้อยด้วย คิดในใจว่า มันจะแค่ไหนกันวะ พอไปถึง เค้าก็ให้มีดโค้งๆมาอันนึง ผมก็ลองตัด  ตัดไปได้ซักครึ่งชั่วโมง โอ้วพระเจ้า เหนื่อยมากๆ  แถมทำกลางแดดไม่มีที่ร่มอีก หน้าเหลืองเลยทีเดียว ก็นั่งพักซักครู่ แล้วออกไปตัดใหม่ มาถึงตอนกลางวัน ก็กินข้าวกัน


ส่วนตัวผมเป็นคนชอบกินอะไรแปลกๆอยู่แล้ว พ่อแม่ก็ได้ทำอาหารชนิดนึง ซึ่งผมอยากลองกินมานานแล้ว แต่ไม่กล้ากิน ซึ่งมันก็คือ



ไหนก็ไหนๆละ ลองกินดูหน่อยก็ไม่เสียหาย พอได้กินเท่านั้นแหละ อร่อยครับอร่อย

ตกมาตอนกลางวัน ร้อนมากครับ บางวันทะลุไปถึง 42 องศาเลยทีเดียว


และเมื่อวานนี้ ปกติแม่ยายผมจะขยันมาก ไม่ปล่อยให้ว่างเลย ผมก็ได้ไปเห็นเค้าหาบน้ำจากบ่อ ไปรดต้นแตงกลางไร่ ผมก็เลยคิดว่าจะต่อท่อจากบ้าน มาที่ไร่ ผมเลยแอบเอาตลับวัดระยะไร่อ้อยของพ่อตามาวัด ระยะที่วัดได้ก็ 120 เมตรเลยทีเดียว ผมก็ต้องแอบๆแม่ยายทำ เพราะว่า กลัวเค้ารู้แล้วจะไม่ให้ทำ เพราะเค้าคิดว่าเปลืองเงิน แต่ผมอยากให้เค้าสบายเลยต้องแอบๆทำ  ผมก็ไปซื้อท่อ PVC และอุปกรณ์ทั้งหลายมา และคิดว่าจะฝั่งท่อลงใต้ดิน ผมก็คิดว่าไม่น่าจะยาก ตอนที่ผมอยู่กทม ผมก็คิดว่า โอ๊ย แค่ขุดดิน มันจะเหนื่อยอะไรนักหนา ผมใช้เวลาขุดทั้งสิ้น 5 วัน แต่ละวันนี่ หอบแ-กครับ ทั้งเมื่อย ล้า ร้อน ยากกว่าที่คิดไว้เยอะครับ ผมอ่านกระทู้ไหนจำไม่ได้ บอกว่าจะมาทำนาที่ต่างจังหวัด อยากจะบอกว่า มันไม่ง่ายเลย ที่คนพื้นฐานเป็นคนเมืองกรุง จะมาทำอะไรที่ลำบากแบบนี้

สุดท้าย แม่มาเห็น เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร และไปหยิบจอบมาช่วยผมขุดอีกด้วย รูปที่ทำท่อ





และมีวันนึง ผมก็คิดว่า ขายของแบบนี้อย่างเดียวมันได้น้อยไปนะ ผมก็คิดว่าจะทำ WIFI Hotspot ให้คนในหมู่บ้านเช่าใช้ด้วย ซึ่งเป็นแนวที่ผมถนัดอยู่แล้ว เพราะแถวนี้ไม่มีสายเน็ตเจ้าไหนมาถึงเลย ผมก็ได้เริ่มสำรวจพื้นที่ ว่ามีคนใช้คอมเยอะไหม ใช้เน็ตที่ไหนกัน ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ใช้เน็ตที่มีคนตั้งเสา แต่เสาอยู่ไกล สัญญาณเลยหลุดๆ เดือนละ350 บาท แต่ช้ามาก ผมก็เลยเอาจุดนี้แหละ ทำเป็นจุดแข็งของเราเลย ขายเดือนละ 300 เสาใกล้ สัญญาณแรง เน็ตเร็ว ก็ได้เริ่มซื้ออุปกรณ์มาทีละชิ้น เอามา ทำ Server Ubuntu ลง Software จัดการรายชื่อลูกค้า และออกคูปองขายเอา รายวัน รายเดือน รายชั่วโมงก็ว่ากันไป  หมดไปเกือบครึ่งแสนได้โปรเจคนี้






ส่วนใหญ่คนที่นี่ เมื่อเดินไปบ้านไป ถ้าเค้ากินข้าวกันอยู่ ถ้าเค้าเห็นเ้รา เค้าก็จะเรียกให้มากินด้วย ถ้าเราไปกินจริงๆ ที่นี่ไม่ได้ถือว่าน่าเกลียดนะครับ เค้าออกจะดีใจด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังไม่กล้าซักที

สรุปแล้ว คนต่างจังหวัดนี่ มีน้ำใจกว่าคนกทมมากครับ ใครมีงานแต่ง งานศพ งานบวช ก็จะมาช่วยกันด้วยใจเลย ไม่คิดเงิน ไม่เหมือนกทม ที่ต้องจ้างกันมา เิดินไปไหนก็จะมีแต่คนทักกัน แต่ที่กทมกลับไม่สนใจ บางครั้ง ห้องข้างๆกัน บ้านข้างๆกันยังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ

และที่ ตจว จะนิยมใส่ทองกันมากครับ เหมือนเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะครับ บางคนใส่แบบจะไปงาน กาล่าดินเนอร์กันเลยทีเดียว ถ้าเป็นที่กทมนะ คอขาดตั้งแต่อยู่ในซอยละใส่แบบนี้

เรื่องขโมย โจร ปล้น ไม่มีครับ เท่าที่ถามๆคนแก่ๆที่นี่มา ก็ไม่มีเลย ไม่มีโจร ไม่มีขโมย เปิดบ้านทิ้งไว้ทั้งคืนก็ไม่มีขโมย จอดมอเตอร์ไซค์เอากุญแจคาไว้ทั้งคืน ก็ไม่หาย

สรุปแล้ว มันก็ดีคนละอย่างกับเมื่องหลวงฟ้าอมรครับ อะไรก็สะดวกสบาย แต่แล้งน้ำใจ ที่นี่น้ำใจเต็มเปี่ยม แต่ก็ต้องแลกกับ เทคโนโลยีที่ด้อยกว่า ชีวิตที่เหนื่อยกว่าลำบากกว่า

ถ้าจะให้เทียบรายได้ แม้ที่กทม จะมีรายได้สูงกว่า แต่ก็มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ที่นี่แม้รายได้จะน้อย แต่ก็มีเหลือเก็บมากกว่า

แม่ผมก็มองว่า โอ๊ย มาอยู่ตจว แบบนี้มันจะรวยได้ยังไง หาได้ที่ละนิดๆ เมื่อไหร่จะมีเป็น10ๆล้าน ซึ่งครอบครัวผมเป็นคนจีน จะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก แต่ตัวผมมองว่า อยู่แบบพอมีพอกินไม่เป็นหนี้ เหลือเก็บบ้างก็พอแล้ว ไม่ต้องรวยล้นฟ้าอะไร

สุดท้าย ที่ผมเลือกมาอยู่ที่นี่ เพราะไม่อยากห่างแฟนครับ ถ้ามีลูกแล้วอยู่กันคนละที่ ก็จะลำบากอีก เลยตัดสินใจยอมทิ้งทุกอย่าที่กทม มาที่นี่ดีกว่า


ปล.ช่วงนี้ผมกลายเป็นช่างประจำบ้านไปแล้วครับ ท่อมิเตอร์น้ำตัน จักรยานพัง สายไฟช๊อต ตอนแรกพ่อก็ไม่ยอมบอก พ่อเค้าก็นั่งคลำๆ หาเป็นชั่วโมง ไม่เจอว่ามันช๊อตที่จุดไหน สุดท้ายพ่อก็เรียกผมให้มาทำ ผมก็วิ่งไปซื้อไขควงวัดไฟ มาวัดๆ เจอละช๊อตจุดนี้ ผมก็เลยเอา Clamp Meter ที่เอามาด้วยจากกทม มาวัดกระแสที่ไหลผ่าน ผมก็บอกพ่อว่า สายไฟมันเล็กไปนะพ่อ ต้องเบอร์2*2.5 ถึงจะเอาอยู่ ก็เลยจัดการเปลี่ยนให้ซะยกเส้น  แต่ผมก็ยังคิดว่า ผมยังสู้พ่อตาผมไม่ได้เลยซักนิด

ลืมบอกไปอีดนิด ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่า มีคอม มีเน็ต จเอามาต่อยอดยังไงดี ผมก็คิดออกว่า "รับเติมเงินออนไลน์"โดย เอาเวปๆนึงที่รับเติมเงิน ผมก็ไปสมัครสมาชิก พอมีคนมาที่ร้าน ก็จะบอกว่า เติมเบอร์นี้ๆ กี่บาท เราก็จัดการเติมให้เค้าไป ก็คิดว่ายังดีกว่าอยู่เฉยๆ โดยได้เราได้ % จากจำนวนที่เติมเข้าไป วันๆนึงคนเติมเยอะมากครับ 1500-2000 บาทต่อวัน ส่วนใหญ่ที่นี่จะใช้โนเกียจอไว้ทุกข์(ขาวดำ) กันซะ95% และใช้ AIS กัน 85% เลยทีเดียว

เพิ่มเติมครับ คิดได้นานแล้วแต่ลืมพิมพ์จุ๊บๆ
เรื่องสภาพอากาศ ที่นี่ ถ้าหนาว ก็จะหนาวไปเลย ร้อนก็จะร้อนมาก คิดว่าอากาศที่ กทม จะสเถียรกว่านะครับ

ตกกลางคืน หัวค่ำ ไม่รู้เป็นอะไรกัน ชอบเผานู่น เผานี่ เหม็นไปหมด เผาหญ้า เผาขยะ เผาอ้อย บางทีพวกที่เผาอ้อยที่ เศษๆมันลอยเข้ามาเต็มห้องนอนเลย ปลิวมาได้ไกลมาก 5กิโลได้

ที่นี่มีฝุ่นเยอะครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพื้นดิน ลมมาทีนึงก็พัดฝุ่นมาด้วย ต้องกวาดทุกวันเลยทีเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่