เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ปัจจุบันผมอาศัยอยู่กับที่บ้าน มาประมาณ 20 กว่าปีเป็นทาวนเฮาส 18 ตรว.หน้ากว้าง 4 เมตร แถบๆชานเมือง
เส้นรามคำแหง อยู่อาศัยกันทั้งหมด 4 คน พ่อแม่ พี่น้องสองคน มีแฟน แฟนก็เทียวไปเทียวมา(คบมา 1 ปี) อยู่มาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ตอนยังเด็กๆพ่อแม่บอกเสมอว่าวันนึงผมจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง จะมีบ้านหลังใหญ่กว่าที่พ่อแม่หามาได้(บ้านเดี่ยว)
แต่ผมกลับคิดไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีบ้านใหม่ หลังใหญ่ให้พ่อแม่อยู่ให้ได้
ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อย ทำงาน ใช้เงิน เก็บตัง จนกระทั่งอายุตอนนี้เกือบจะ 30 แล้ว
เลยคิดว่าได้เวลาแล้วเพราะพ่อกำลังจะเกษียณ เลยอยากให้แกมีบ้านสวยๆพื้นที่พอใช้สอย ห้องนอนเพียงพอสำหรับทุกคน(ปัจจุบันน้องสาวนอนห้องพ่อแม่) โดยหลังเก่าปล่อยเช่าให้เป็นเงินออมของพ่อแม่ยามเกษียณ แม่ไม่ขายเพราะรถไฟฟ้าจะมาลงในอนาคต
ผมจึงตระเวณหาบ้านแถบละแวกเดิม(มากกว่า 30ที่)ดูเป็นบ้านเดี่ยว ทาวนโฮม 3 ชั้น เลือกเอาที่หน้าบ้านกว้างกว่าเดิม พื้นที่มากกว่าเดิมแต่อยากได้ใกล้ถนนใหญ่ หรือเดินทางออกจากซอยสะดวก และไม่ใกลที่ทำงาน จนเกินไป
ซึ่งบ้านเดียวแถบบ้านผมราคาอยู่หลัก 4 ล้านอัพ เลยไปในแถบชานเมือง (ร่มเกล้า มีน นิมิตใหม่) จากหน้าโครงการ ไปถึงตัวบ้านก็ลึกมาก ส่วนทาวนโฮมสามชั้นก็ 4 ล้านทั้งนั้น แต่ละที่ห้องก็ไม่ค่อยลงตัว เพราะอยากให้พ่อแม่อยู่ชั้นสอง จะได้ไม่ลำบาก
จนมาเจอโครงการนึง เป็นทาวโฮม 2 ชั้น แต่พื้นที่ใช้สอยแยอะกว่าเดิม หน้ากว้าง 7.5 เมตร ทำเลใกล้ห้าง ใกล้ที่ทำงาน ใกล้วงแหวน
ราคาพอๆกับบ้านเดียว พ่อแม่ผมชอบมาก เดินทางสะดวก ใจจริงผมอยากหาบ้านเดียวให้ท่าน แต่ที่ในแวกเดิมนี่ต่ำๆก็ เกือบ 6 ล้าน
ผมเลยถามท่านว่า ไม่อยากได้บ้านเดี่ยวหรอ ผมพอจะซื้อได้นะไกลไปอีกหน่อย แกตอบผมว่า จะสามชั้นสองชั้นหรือบ้านเดียว ถ้าทุกคนอยู่แล้วมีความสุข ไม่ลำบาก สะดวกในการเดินทาง หาของกินง่าย ไม่ต้องรถติดนานๆ ก็โอเคแล้ว เลยมาจบที่ทาวโฮม 2 ชั้นหลังนี้
แต่ปัญหามันเกิดหลังจากนี้ เนื่องจากแฟนผมอยู่บ้านเดี่ยวมาก่อน และมีความเห็นตรงที่ว่าผมจะต้องเสียเงินหลายล้านเพียงเพื่อซื้อทาวเฮาสเหมือนเดิม ก็จะได้ชีวิตแบบเดิมๆ เค้าไม่ชอบทาวเฮาวเค้าชอบความเป็นส่วนตัว เค้าเลยไม่เห็นด้วยอย่างมากที่ผมจะซื้อที่นี่ ซึ่งผมก็บอกไปว่าพ่อแม่ผมชอบที่นี่ ห้องมันก็แยอะขึ้นพื้นที่มันก็มากขึ้น บ้านก็สวยขึ้น ทำเลก็ดี ทุกคนเดินทางสะดวก ใกล้บ้านแฟนกว่าเดิมด้วย แฟนก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด บอกว่าผมอยู่ในกะลาไม่ยอมออกจากที่เดิมๆ ผมเสียใจมาก ทั้งๆที่จองและทำสัญญาไปแล้ว
ที่เสียใจก็คือ
ตอนพามาดูบ้าน 2-3 ครั้งบอกชอบ ยุให้ผมซื้อ (ตอนนี้ซื้อเพราะตัดสินใจดีแล้วและพ่อแม่ชอบ)
ตอนจองบอกดีแล้วทำเลดี บ้านก็ใช้ได้ (หลังมีบ้านวางแพลนแต่ง ผมจะเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านเค้าและบ้านผมโดยผมจะมาที่บ้านใหม่ผมอาทิตยละ 2 วันคือเสารอาทิตยโดยมาเยี่ยมพ่อแม่ผมเลยซื้อเพราะเดินทางสะดวก)
จองไปได้ สองสามวัน บอกผมไม่เปลี่ยนใจแน่นะ น่าจะได้บ้านเดี่ยวเสียดายเงิน (ตอนนี้เริ่มเสียใจละว่าเอายังไหงกันแน่เนี่ย)
วันทำสัญญา ทะเลาะกันตอนดึก บอกน่าจะไปเอา 3 ชั้นที่อื่น หรือบ้านเดี่ยวชานเมือง จะได้ไม่เหมือนอยู่แบบเดิม
เค้าบอกว่าถ้าฉลาดต้องรู้จักเลือก ครอบครัวผมต้องรู้จักปรับตัว ต้องใช้เงินให้เป็น
ตอนนี้ในหัวผมมีแต่คำถาม
ผมซื้อบ้านของตัวเองมันต้องเหนื่อยกับความคิดแฟนขนาดนี้เลยหรอ?
ซื้อเทาสเฮาสอีกครั้งนี่มันดูไม่ดีหรอครับ?
เค้าเสียดายเงินแทนผม บอกผมใช้เงินไม่เป็น มันเป็นอย่างนั้นหรอครับ?
สุดท้ายนี่ผมเลือกที่จะซื้อที่นี่ เพราะพ่อแม่น้องและผมโอเคกับมัน แต่ตอนนี้ผมก็แฟนทะเลาะกัน
ไม่รู้จะเป็นยังไหงแล้วครับ
อยู่เทาวเฮาส์ของพ่อแม่ พอซื้อใหม่เป็นเทาวเฮาส์ของตัวเองโดนแฟนว่า
เส้นรามคำแหง อยู่อาศัยกันทั้งหมด 4 คน พ่อแม่ พี่น้องสองคน มีแฟน แฟนก็เทียวไปเทียวมา(คบมา 1 ปี) อยู่มาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ตอนยังเด็กๆพ่อแม่บอกเสมอว่าวันนึงผมจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง จะมีบ้านหลังใหญ่กว่าที่พ่อแม่หามาได้(บ้านเดี่ยว)
แต่ผมกลับคิดไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีบ้านใหม่ หลังใหญ่ให้พ่อแม่อยู่ให้ได้
ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อย ทำงาน ใช้เงิน เก็บตัง จนกระทั่งอายุตอนนี้เกือบจะ 30 แล้ว
เลยคิดว่าได้เวลาแล้วเพราะพ่อกำลังจะเกษียณ เลยอยากให้แกมีบ้านสวยๆพื้นที่พอใช้สอย ห้องนอนเพียงพอสำหรับทุกคน(ปัจจุบันน้องสาวนอนห้องพ่อแม่) โดยหลังเก่าปล่อยเช่าให้เป็นเงินออมของพ่อแม่ยามเกษียณ แม่ไม่ขายเพราะรถไฟฟ้าจะมาลงในอนาคต
ผมจึงตระเวณหาบ้านแถบละแวกเดิม(มากกว่า 30ที่)ดูเป็นบ้านเดี่ยว ทาวนโฮม 3 ชั้น เลือกเอาที่หน้าบ้านกว้างกว่าเดิม พื้นที่มากกว่าเดิมแต่อยากได้ใกล้ถนนใหญ่ หรือเดินทางออกจากซอยสะดวก และไม่ใกลที่ทำงาน จนเกินไป
ซึ่งบ้านเดียวแถบบ้านผมราคาอยู่หลัก 4 ล้านอัพ เลยไปในแถบชานเมือง (ร่มเกล้า มีน นิมิตใหม่) จากหน้าโครงการ ไปถึงตัวบ้านก็ลึกมาก ส่วนทาวนโฮมสามชั้นก็ 4 ล้านทั้งนั้น แต่ละที่ห้องก็ไม่ค่อยลงตัว เพราะอยากให้พ่อแม่อยู่ชั้นสอง จะได้ไม่ลำบาก
จนมาเจอโครงการนึง เป็นทาวโฮม 2 ชั้น แต่พื้นที่ใช้สอยแยอะกว่าเดิม หน้ากว้าง 7.5 เมตร ทำเลใกล้ห้าง ใกล้ที่ทำงาน ใกล้วงแหวน
ราคาพอๆกับบ้านเดียว พ่อแม่ผมชอบมาก เดินทางสะดวก ใจจริงผมอยากหาบ้านเดียวให้ท่าน แต่ที่ในแวกเดิมนี่ต่ำๆก็ เกือบ 6 ล้าน
ผมเลยถามท่านว่า ไม่อยากได้บ้านเดี่ยวหรอ ผมพอจะซื้อได้นะไกลไปอีกหน่อย แกตอบผมว่า จะสามชั้นสองชั้นหรือบ้านเดียว ถ้าทุกคนอยู่แล้วมีความสุข ไม่ลำบาก สะดวกในการเดินทาง หาของกินง่าย ไม่ต้องรถติดนานๆ ก็โอเคแล้ว เลยมาจบที่ทาวโฮม 2 ชั้นหลังนี้
แต่ปัญหามันเกิดหลังจากนี้ เนื่องจากแฟนผมอยู่บ้านเดี่ยวมาก่อน และมีความเห็นตรงที่ว่าผมจะต้องเสียเงินหลายล้านเพียงเพื่อซื้อทาวเฮาสเหมือนเดิม ก็จะได้ชีวิตแบบเดิมๆ เค้าไม่ชอบทาวเฮาวเค้าชอบความเป็นส่วนตัว เค้าเลยไม่เห็นด้วยอย่างมากที่ผมจะซื้อที่นี่ ซึ่งผมก็บอกไปว่าพ่อแม่ผมชอบที่นี่ ห้องมันก็แยอะขึ้นพื้นที่มันก็มากขึ้น บ้านก็สวยขึ้น ทำเลก็ดี ทุกคนเดินทางสะดวก ใกล้บ้านแฟนกว่าเดิมด้วย แฟนก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด บอกว่าผมอยู่ในกะลาไม่ยอมออกจากที่เดิมๆ ผมเสียใจมาก ทั้งๆที่จองและทำสัญญาไปแล้ว
ที่เสียใจก็คือ
ตอนพามาดูบ้าน 2-3 ครั้งบอกชอบ ยุให้ผมซื้อ (ตอนนี้ซื้อเพราะตัดสินใจดีแล้วและพ่อแม่ชอบ)
ตอนจองบอกดีแล้วทำเลดี บ้านก็ใช้ได้ (หลังมีบ้านวางแพลนแต่ง ผมจะเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านเค้าและบ้านผมโดยผมจะมาที่บ้านใหม่ผมอาทิตยละ 2 วันคือเสารอาทิตยโดยมาเยี่ยมพ่อแม่ผมเลยซื้อเพราะเดินทางสะดวก)
จองไปได้ สองสามวัน บอกผมไม่เปลี่ยนใจแน่นะ น่าจะได้บ้านเดี่ยวเสียดายเงิน (ตอนนี้เริ่มเสียใจละว่าเอายังไหงกันแน่เนี่ย)
วันทำสัญญา ทะเลาะกันตอนดึก บอกน่าจะไปเอา 3 ชั้นที่อื่น หรือบ้านเดี่ยวชานเมือง จะได้ไม่เหมือนอยู่แบบเดิม
เค้าบอกว่าถ้าฉลาดต้องรู้จักเลือก ครอบครัวผมต้องรู้จักปรับตัว ต้องใช้เงินให้เป็น
ตอนนี้ในหัวผมมีแต่คำถาม
ผมซื้อบ้านของตัวเองมันต้องเหนื่อยกับความคิดแฟนขนาดนี้เลยหรอ?
ซื้อเทาสเฮาสอีกครั้งนี่มันดูไม่ดีหรอครับ?
เค้าเสียดายเงินแทนผม บอกผมใช้เงินไม่เป็น มันเป็นอย่างนั้นหรอครับ?
สุดท้ายนี่ผมเลือกที่จะซื้อที่นี่ เพราะพ่อแม่น้องและผมโอเคกับมัน แต่ตอนนี้ผมก็แฟนทะเลาะกัน
ไม่รู้จะเป็นยังไหงแล้วครับ