เบื่อแม่สามีจุงเบยยย มาระบายกัน มาฟังฉยๆก็ได้ อยากให้มีคนฟังค่ะ

กระทู้สนทนา
เราเบื่อแม่สามีมาก เราแค่อยากระบายค่ะ

มันเริ่มตั้งแต่ก่อนแต่งงานกัน ทีแรกเราก็คิดว่าแม่สามีเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก แต่พอใกล้แต่งงานก็เริ่มออกฤทธิ์ คอยสืบทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เรา คอยถามเราว่ามีอะไรบ้าง ให้ขอมาให้หมดเพราะเดี๋ยวพี่น้องจะแย่งไป คอยถามว่าตอนแต่งงานพ่อแม่เราจะให้เงินเท่าไร

แม่เราไม่เรียกสินสอด เพราะแม่เราเห็นว่าสามีเราเป็นคนดี รักเราจริง ขยันทำมาหากิน กตัญญู แต่แม่สามีกลับจะมาเรียกสินสอดแทนหรือไง เท่านั้นยังไม่พอ วันงาน แม่เราห้ามเอาเงินทองวางบนพานโชว์ เพราะแม่เราอาย เหมือนขายลูกสาว แต่แม่สามีเราดันทุรังเอาเงินไม่กี่แสนวางแบบนพาน คือมันน้อยมากถ้าเทียบกับฐานะเรา คือเราสงสารพ่อกับแม่มาก แถมพอเสร็จงานยังทวงคืนอีก (เราไม่กล้าบอกแม่เลย) แม่เราซะอีกแอบให้เงินเราไว้เป็นศิริมงคล ไม่ต้องมาวางแบบนพานเอาหน้าแบบจอมปลอม

พอเราแต่งงานกับลูกชายเขาแล้วก็คอยมาทำตัวสนิทสนมกับครอบครัวเราเกินเหตุ บางทีให้ลูกชายเขามายืมรถพ่อแม่เราพร้อมคนขับ
บางทีมาทำท่าให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นภรรยาพ่อเรา เป็นแม่เรา (สามีเขาป่วยเป็นอัมพาษ เขียนถูกป่าว) แต่พ่อเราไม่ชอบเขาเลย เขาชอบบอกว่าพ่อแม่เรายอมให้เราแต่งเพราะเห็นว่าพ่อแม่สามีดี ทั้งที่พ่อเราไม่ชอบพวกเขาเลย เขาพอรับได้ก็แต่สามีเราคนเดียว

มายัดเยียดว่าแม่เราให้รีบแต่งงาน เขากลัวเราเสียหายเลยให้แต่ง ทั้งที่ความจริงเรากับสามีรักกันมานาน เขาก็รู้ สามีเราขอเราแต่งงานเองแท้ๆ เราเองก็อายุยังน้อย ยังมีโอกาสอีกมาก เราเองยังลังเล พ่อเรานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แทบทำใจไม่ได้ เพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียว แม่เราชอบสามีเราเพราะเห็นเป็นคนดี เลยสนับสนุนสามีเราเท่านั้น แต่แม่สามีเรากลับพูดเหมือนเรานี่ไม่มีใครเอา ทั้งที่หน้าตาเราก็ไม่ได้ขี้เหร่ (เรามีรางวัลเกี่ยวกับความงามและบุคลิกภาพดีการันตีด้วย) หรือประพฤติตัวเหลวไหล เราอาจไม่ใช่กุลสตรีแบบแม่พลอยสี่แผ่นดิน แต่เราก็ไม่เคยแตะต้องอบายมุขใดให้ต้องเสื่อมเสีย เราเรียบร้อยมากในยุคสมัยปัจจุบัน

และยังยัดเยียดอีกว่าเราเกาะสามีกิน อืม... ตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปีนี่นะ เราไม่เคยได้เงินดงเงินเดือนจากสามีสักสลึง สามีจะมีของขวัญแพงๆให้เราบ้างก็เนื่องในโอกาสพิเศษ ซึ่งไม่บ่อย และมูลค่าก็ไม่ได้สูงมาก แต่ก็พอให้เราซึ้งใจได้ เพราะเป็นความตั้งใจของสามีเรา

สามีเราก็แสนจะกตัญญู มีบ้านกี่หลัง ที่ดินกี่แปลง ก็ให้เป็นชื่อแม่เขาหมด ผลประโยชน์จากบ้านและที่ดินเหล่านั้นเขาก็ยกให้แม่เขาหมด ขนาดสามีเราซื้อบ้านไว้เป็นเรือนหอ แม่เขายกโขยงครอบครัวมาอยู่กันครบ แล้วขายบ้านเก่าทิ้ง เอาเงินมาใช้จ่าย แจกจ่ายลูกทุกคนยกเว้นสามีเรา (สามีเราไม่ใช่ลูกชายคนโต และลูกคนอื่นก็ไม่ได้ลำบากเดือดร้อนอะไร บางทีเขายังเอาลูกชายคนโตเขามาข่มสามีเราด้วยซ้ำ บ้านเก่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงอยู่ไม่ได้) เรากับสามีนี่ต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่เราเหมือนเดิม เราก็ไม่ได้ห้ามหรือว่าอะไร ก็มีแต่จะสนับสนุน แต่เขากลับไปบอกใครๆว่าบ้านหลังนี้ ลูกสาวเขาซื้อให้ เวรกรรม...

แล้วครั้งนึงแม่เราจะออกทุนให้สามีเราซ่อมแซมบ้านเก่าหลังนึงให้ทำประโยชน์ได้ เพราะสามีเราอยากเปิดร้าน แม่เราถือว่าทำให้ลูกสาวคือเรา แต่แม่สามีกลับมาจุ้นจ้าน และแสดงความเป็นเจ้าของออกนอกหน้า เรานี่เบื่อมาก สงสารแม่ตัวเอง ทะเลาะกับสามีแทบแย่ เพราะสามีแก้ตัวแทนแม่เขาตลอด ท้ายสุดเราเลยบอกแม่เราไม่ต้องทำให้แล้ว คือเราเบื่อมากๆเลย แม่สามีเรานี่มือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำจริงๆเลย

เราเองก็เห็นใจสามีเรา เขารักแม่เขามาก ขนาดว่าอะไรก็ให้เป็นชื่อแม่ตัวเองหมด จะเอาอะไร อยากได้อะไรก็ให้ เงินก็ให้ พาไปเที่ยว ไปหาหมอ ก็มีแต่เขาที่คอยเอาใจใส่พาไป ทำจริง ไม่ได้ดีแต่พูดว่าห่วงเหมือนลูกคนอื่น

เสียแต่สามีเราเป็นคนขี้โวยวาย (เฉพาะกับครอบครัวเขาและเรา) บางทีสามีเราทะเลาะกับแม่เขาเอง (แม่สามีเรา) แม่สามีเราต้องมาพาลเราหรือแม่เราทุกที มาคอยเกี่ยงว่าสามีไม่ว่าเราบ้าง แม่เราบ้าง อ้าว.. แล้วเราหรือแม่เราไปทำอะไรถึงต้องโดนว่า มาประชดประชันเรา แล้วเราผิดอะไร สามีเราโมโหที่แม่เขามาหาเรื่องเรา แม่เขาก็ยิ่งน้อยใจ และมาว่าเรา ท้ายสุดเรานี่ไม่พอใจยังไง ก็อดสงสารแม่เขาไม่ได้ ต้องไปง้อแม่เขาจนหาย

แล้วทำไมเขาต้องอยากให้เรากับสามีทะเลาะกันด้วย บางทีสามีดุเรา ถ้าเขาเห็น เขาก็จะหัวเราะ จะให้เราคิดยังไงดี

เรากับสามีก็ทะเลาะกันปกติเหมือนคู่อื่น แต่ทำไมต้องทะเลาะให้คนอื่นเห็นด้วยละ แต่ดูเหมือนเขาไม่พอใจมากเลยที่ไม่เห็นเราทะเลาะกัน บางทีอยู่บ้านเดียวกัน ก็คอยแอบฟังว่าเรากับสามีคุยอะไรกัน ซ่อนบ้าง ยืนฟังหน้าห้องบ้าง คือจะอยากรู้อะไรกันขนาดนั้น

บางทีสามีเราโวยวายแม่เขา เราเองก็ไม่ได้สนับสนุน บางทีก็ปรามต่อหน้า แต่แม่เราสอนเสมอว่าอย่าตำหนิสามีต่อหน้าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ถึงแม้คนอื่นนั้นจะเป็นพ่อแม่ก็ตาม ก็ห้าม เพราะนั่นคือการไม่ให้เกียรติสามีตนเอง อยู่กันสองคนจึงพูด เราเองพออยู่กับสามีสองคนจึงตำหนิเขาว่าทำเกินไป ให้ไปขอโทษ พูดหว่านล้อมจนเขาใจอ่อนทุกที แต่สิ่งที่เราได้ตอบแทนก็คือ เสี้ยม! เราเสี้ยมให้สามีมาว่า

สามีเราลาออกจากงานประจำ เพราะอยากทำกิจการของตัวเอง แม่สามีเราไม่เข้าใจว่าทำกิจการของตัวเองจะเจริญได้ยังไง ก็มาว่าเราไม่ห้าม หาว่าเรายุ คือเราจะห้ามทำไม เราไม่ชอบห้ามใคร หรือชี้นำใคร สามีเราปรึกษาเราเกือบทุกเรื่อง เราแจกแจงข้อดีข้อด้อยอย่างเท่าเทียม แล้วปล่อยเขาตัดสินใจเอง เรายอมรับและพร้อมสนับสนุน แม้มันไม่ตรงใจเรา ต่างจากแม่สามีที่คอยขัดขวางทุกเรื่อง พูดว่าไม่ไม่ไม่เสียเคยปาก

บางเรื่องเป็นเรื่องของสามีเราต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง เราไม่ก้าวก่าย แต่พอสามีเราคิดเห็นไม่ตรงกับที่แม่ของเขาต้องการบงการ เราก็โดนว่าอีกว่าไม่หัดคิด ไม่หัดบอก ไม่มีสมอง เออ เอาเข้าไป

บางทีสามีเราอยากไปเที่ยวกับเพื่อน อยากมีเวลาส่วนตัว อยากทำอะไรโดยไม่บอกบ้าง เราเชื่อใจสามีเราไม่นอกลู่นอกทาง เราเองไม่ชอบจุกจิกจู้จี้ บางทีไม่ถาม ถ้าเขาอยากบอกก็บอกเอง เราก็คิดแบบนั้น เขาก็หาว่าเราละเลย เราก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง เราก็กลุ้มใจ ไปปรึกษาพ่อกับสามี ทั้งคู่ก็ต่างบอกว่าที่เราเป็น เราทำก็ดีแล้ว ไม่มีใครชอบให้มาจุกจิกหรอก

สามีเราเบื่อกินข้าวบ้านแม่เขาเอง ชอบชวนเรากินนอกบ้าน ก็มาว่าเราชอบชวนลูกชายเขาออกไปกินข้าวนอกบ้าน ว่าเราเลว เรื่องนี้เราโกรธมากเลย คือสมมติว่าเราชวนลูกชายเขา ก็สามีเราเองกินข้าวนอกบ้าน ซึ่งความจริงเราก็แทบจะไม่เคยชวน แต่นี่มันต้องถึงกับว่าเลวเลยหรือ

นี่ขนาดไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนะ ยังขนาดนี้

ถ้าจะว่าเราเป็นสะใภ้ที่แย่หรือ แน่นอนเราอาจจะไม่ใช่สะใภ้ก้นครัว ที่ต้องมานั่งรับใช้ครอบครัวสามี เพราะถ้าต้องตกต่ำขนาดนั้นละก็พ่อแม่เราก็คงไม่ยอมเหมือนกัน เราเองก็คงไม่ยอมด้วย แต่เราก็ไม่เคยเมินเฉยต่อแม่สามี หรือสมาชิกคนใดในบ้านสามีเลย

ตรงข้ามเรานี่ช่างเอาอกเอาใจที่หนึ่งเลยละ กับแม่สามี เรานี่คอยพาไปเที่ยว ไปกินอาหารดีๆ เอาอกเอาใจสารพัด ลูกแท้ๆของเขาเอง แม้กระทั่งสามีเราเอง ยังเอาใจแม่ตัวเองได้ไม่ดีเท่าเราเลย ใครๆก็รู้ทั้งนั้น

อันที่จริงครอบครัวเราฐานะดี ชาติตระกูล ระดับทางสังคมดีกว่าครอบครัวสามีเราแบบเทียบกันไม่ได้เลย แต่ครอบครัวเราก็ให้เกียรติครอบครัวสามีเสมอมา โดยเฉพาะแม่เรานี่ไม่เคยว่าร้ายคนในครอบครัวสามีเราเลย ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง แถมยังยกย่องแม่สามีเราเป็นน้องสาวอีกแน่ะ

บางทีจะต้องไปงานสังคม แม่สามีเราอยากใกล้ชิดเชื้อพระวงศ์มากจนทำตัวน่าเกลียด พวกเราก็ไม่เคยว่า

บางทีแม่เราถึงกับตัดชุดให้แม่สามีเรา ลูกสาวเขา แค่ค่าผ้าก็หลักหมื่นแล้ว

เรานี่บางทีปล่อยให้คนเข้าใจผิดว่าแม่สามีเราเป็นคนจีนที่ร่ำรวย เพราะไม่อยากให้เขาขายหน้า โดนคนในสังคมเรารังเกียจ ดูแคลน เขาเองก็เบิกบานยิ้มรับ คุยโอ่จนน่าเกลียด ไม่รู้เลยว่าสังคมของเราบางทีก็นับถือคนที่สติปัญญาล้ำเลิศมากกกว่าคนที่ร่ำรวยล้นฟ้า

แม่สามีเราตอบแทนเรายังไงรู้ไหม เขาว่าเราเสียหาย ไม่เสียหายธรรมดา แต่เสียหายอย่างเลวร้าย พูดบิดเบือนทุกๆอย่าง ว่าเราไม่ดีสักอย่าง รวมถึงพี่น้องเรา ขณะเดียวกันก็ยกย่องลูกเขาเองและตัวเขาเองเสียเลิศลอยเกินความจริง ที่สำคัญที่สุดคือเขาไปโพทนากับเพื่อนๆของแม่เรา แม่เราก็ต้องรู้สิ แต่แม่เราก็ไม่ว่าแม่สามีเราสักคำ ไม่เล่าเราด้วย แต่ความลับมันไม่มีในโลกหรอก ในที่สุดเราก็รู้

แล้วไม่รู้ว่าแม่สามีเราคิดจะบ่อนทำลายอะไร มาบอกเราว่าเพื่อนๆของแม่เราว่าเราอย่างนู้นอย่างนี้ พยายามทำให้เราผิดใจกับเพื่อนๆของแม่เรา ให้เรารู้สึกแย่ที่สุด ให้เราสูญเสียความมั่นใจ บอกว่าที่ใครๆชมเรา ยกย่องเรา เพราะเกรงใจพ่อเรา เลยชมไปตามมารยาท เราไม่ทันคน ไม่รู้หรอก สังคมเรามันหลอกลวง ว่าไปต่างๆนาๆ แต่แล้วตัวเขาเอง(แม่สามี) ก็ไปเล่ายกย่องตัวเองให้คนในสังคมที่เคยบอกว่าหลอกลวงฟัง ว่าตัวเองนี่ดูแลสามีอย่างดี เก่งอย่างนั้น อย่างนี้ คนที่ฟังก็ชม(ตามมารยาท) แม่สามีนี่ปลื้มมาก พูดอยู่หลายวัน

ทั้งๆที่คนที่ชมแม่สามี ก็คนเดียวกับที่ชมเรา แล้วแม่สามีเคยบอกว่าคนนั้นไม่จริงใจ แต่พอเขาชมตัวเองขึ้นมา เขากลายเป็นคนพูดตรง จริงใจสุดๆไปเลย เออ... ตลกดีนะ แต่มันฝืดไปหน่อยนะ

ครั้งนึงญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพมากเสียชีวิต ทุกคนกำลังอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า ในพิธีสำคัญช่วงนึงของทางสำนักพระราชวัง ทุกคนอยู่ในอาการสงบ เขามาถึงงานสาย แทนที่จะสงบเสงี่ยมเข้ามา สิ่งที่เขาทำก็คือ... ตะโกนเรียกชื่อเราเสียงดังกลางงานแบบห้วนๆ จะให้เราพาไปนั่งที่นั่งด้านหน้า เรานี่ขายหน้ามาก เลยทำเป็นมองไม่เห็นไปเลย ดีที่สามีเราอยู่ เลยปล่อยจัดการดูแลกันเอง

ตลอดงานสวดศพ เขาก็มาทุกวัน และก็ต้องการจะเป็นคนสำคัญอยู่ตลอด พอไม่ได้ดังใจก็ตัดพ้อต่อว่าเรา ทั้งที่ควรมาให้กำลังใจ และทำตัวไม่เป็นภาระ แต่นี่ยิ่งกว่าปลวกเสียอีก

หลายเรื่องเราไม่กล้าเล่าพ่อกับแม่ กลัวพวกเขาเครียด แต่เราว่าถึงเราไม่เล่า พ่อแม่เราก็รู้ดีอยู่แล้ว

สามีเราก็ไม่อยากเล่ามาก เพราะเขาก็เป็นคนกลาง แถมบางเรื่องเล่าไปแล้วก็ไม่เชื่ออีกต่างหาก จนแม่เขาสารภาพออกมาเอง หรือเรื่องแดงออกมาเอง สมน้ำหน้า ความลับไม่มีในโลก

ยังดีที่เราพอช่วยเหลือตัวเองได้ เราเองจากคนไม่กล้าพูด ก็ต้องพูด ไม่ชอบเราพูดเลย ถามเลย ไม่รอเจ้าชายที่ไหนมาช่วยทั้งนั้น แต่พูดตรงขนาดไหน เราเองก็ยังต้องออมไว้ให้อยู่ในความสุภาพนอบน้อม ทั้งที่ใจเราไม่ใช่แล้ว เพราะยังไงเขาก็ยังอาวุโสกว่าเรา แถมยังเป็นแม่สามี

ตอนนี้เราเบื่อมากเลย เบื่อแม่สามีสุดๆ เบื่อขนาดที่แค่ได้ยินเสียงก็ประสาทเสียแล้ว นีขนาดไม่ได้ยินบ่อยๆ เพราะบางทีก็กลับไปเยี่ยมบ้านที่เคยเกือบจะเป็นเรือนหอบ้าง เสียงเขานี่แหลมๆ และเขาก็พูดเสียงดัง เหมือนคนโวยวายอยู่ตลอดเวลา พูดก็ไม่เพราะกูห่าเหวตลอด ถึงไม่ได้พูดกับเรา เพราะยังเกรงใจเราอยู่บ้าง แต่ก็พูดเป็นปกติในชีวิตประจำวัน พูดกับลูก

แล้วยังการใช้ชีวิตของพวกเขาที่ไม่ถูกสุขลักษณะอีก บ้านที่เคยจะเป็นเรือนหอของเราเละเทะ สกปรกไปหมดเลย นี่ถ้าพ่อแม่เรารู้ว่าเขาอยู่กินกันยังไง โดยเฉพาะพูดจากันแบบไหน ต้องกลุ้มใจมากแน่ๆ เราจะไม่เล่าเด็ดขาด อย่าว่าเราดัดจริตเลย ก็พ่อแม่เลี้ยงเรามาอย่างดี ก็คงไม่อยากให้เราต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอก

แล้วเราละ ต้องอดทนใช่ไหม เพราะเรารักสามีเรามาก และสามีเราไม่มีความผิดอะไร ส่วนตัวเป็นคนดี พยายามปรับตัว และพยายามอยู่ตรงกลาง และยุติธรรมให้ได้มากที่สุด

เรารู็ตัวนะว่าเราอคติไปแล้ว เพราะตอนนี้แค่ได้ยินเสียงเขาก็หงุดหงิดแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามในตอนนี้ ดีหรือไม่ดีก็ขวางหูขวางตาเราไปหมด การทำให้ไม่ชอบมากเข้า หลายครั้งสะสมกันมันก็กลายเป็นความเกลียดชังได้

อันที่จริงเราเองก็ยังไม่ถึงกับเกลียดชังแม่สามี เพราะเรายังมีความเห็นใจ ความสงสารให้เขาอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหมดไปวันใด

เราเองไม่ชอบจิตใจตัวเองในขณะนี้เลย มันหมองหม่นไปหมด เราเองก็อยากใจดี แต่บางทีก็ทำใจยาก

ตั้งแต่เล็กจนโต เราไม่เคยต้องเป็นทุกข์ขนาดนี้ รู้สึกว่าจิตใจตัวเองไม่ดี คิดร้ายกับคนอื่น มันโกรธไปหมด อยากปล่อยวาง ทำยากจัง

เราเองมาระบาย อย่าว่าเราบ้านะ ใครมีอะไรก็มาแชร์กัน มาช่วยแสดงความเห็นก็ได้นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่