เบิกประกัน พ.ร.บ.ทำยังไงครับ

รถมอเตอร์ไซค์เกิดอุบัติเหตุ จะใช้สิทธ์เบิกค่ารักษาต้องทำไงครับ
สำรองค่ารักษาไปแล้ว จะเบิกต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือไปที่บริษัทเองเลย
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ขอประชาสัมพันธ์การปรับเพิ่มวงเงินคุ้มครองการเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า " ประกัน พรบ.ฯ  หรือ เบิก พรบ.ฯ "   โดย คสช. ประกาศปรับเพิ่มโดยยึดวันที่เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557 เป็นต้นมา  โดยผู้ประสบภัยจากรถมีสิทธิ์เบิกใช้สิทธิ์  แบ่งเป็น 2 วงเงิน  ดังนี้
1. การเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.​  ในวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น  
            ค่าเสียหายเบื้องต้น  ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถคันที่ขับขี่หรือนั่งซ้อนท้ายมา กรณีรถจยย.หรือนั่งโดยสารมาในรถกรณีรถยนต์  รวมถึงคนเดินถนน ที่ไม่ได้ขับขี่หรือซ้อนท้ายหรือโดยสารในรถคันอื่นๆ   โดยไม่ต้องรอสรุปผลทางคดี   ( หมายความว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุ  ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ พรบ. จะคุ้มครองผู้ประสบภัยทุกคนทันที )  ตามลักษณะความเสียหายดังนี้
            1.1   กรณีบาดเจ็บ  เบิกจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล    ในวงเงินตามที่รักษาจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน (  ปรับเพิ่มจากเดิมคุ้มครองเพียง 15,000 บาท)    เช่น  บาดเจ็บเล็กน้อย ค่ารักษาตามใบเสร็จ 5,720 บาท   ผู้ประสบภัยจะเบิกเองหรือมอบอำนาจให้รพ. ตั้งเบิกกับบริษัทกลางฯ ผ่านระบบออนไลน์ ( e-claim online หรือระบบสินไหมอัตโนมัติ  โดยบริษัทฯ จะโอนเงินจ่ายคืนรพ.ภายใน 7 วันนับแต่วันที่รพ. ส่งเรื่องตั้งเบิก)   กรณี บาดเจ็บปานกลาง ถึงสาหัส  มีค่ารักษา 30,000 บาท  เบิกได้ 30,000  บาท  โดยบริษัทกลางฯ​  จัดทำระบบ สินไหมอัตโนมัติและประสานขอความร่วมมือรพ. ทุกแห่งเข้าใช้ระบบ  เพื่อลดภาระของประชาชนและผู้ประสบภัยจากรถ  โดยรพ.เป็นผู้รับมอบอำนาจเบิกจ่ายจากบริษัทกลางฯ​ แทนปชช. ซึ่งปัจจุบัน  ทุกรพ.​ จะรับมอบอำนาจเบิกแทนประชาชนอยู่แล้วค่ะ   และหากกรณีบาดเจ็บสาหัส  มีค่ารักษาเกินกว่า 30,000 บาท   จะเบิกใช้สิทธิ์ได้จากวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้นไปก่อน  30,000  บาท  ส่วนเกินที่เหลือ  ผู้ประสบภัยหรือทายาท    สามารถตัดสินใจเบิกส่วนเกินดังกล่าวจาก
                   -   สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท  ( ถ้ามี)
                   -   สิทธิ์ประกันสังคม     ( ถ้ามี)  
                   -   รอดูผลสรุปทางคดี  กรณีมีคู่กรณี โดยหากคู่กรณีหรือ  ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายประมาท เช่นผู้ประสบภัยเป็นผู้โดยสารในรถจยย.รับจ้าง    ขับขี่ประมาทไปล้มเอง ไม่มีคู่กรณีเฉี่ยวชน   ลักษณะเหตุแบบนี้  ผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองสูงสุดกรณีบาดเจ็บ ในวงเงินค่าสินไหมทดแทน ตามข้อ 2.  ค่ะ
              1.2  กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ  โดยนิยามของ พรบ.ฯ  กำหนดลักษณะของการสูญเสียอวัยวะตั้งแต่ 1 ข้อนิ้วขึ้นไป  เช่น นิ้วขาด ครึ่งข้อ ไม่ถือเป็นการสูญเสียอวัยวะ  กรณีนิ้วนิ้วใด ๆ ขาด 1 ข้อ  หรือ สูญเสียมือทั้งมือ แขนทั้งแขน  เบิกใช้สิทธิ์กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ  ได้จำนวน 35,000 บาทต่อคน (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)​  
              1.3  กรณีถึงแก่ชีวิต   เบิกจ่ายเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาทต่อคน (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  
               สรุปวงเงินคุ้มครองกรณีค่าเสียหายเบื้องต้น  คุ้มครองสูงสุด 65,000 บาทต่อคน (หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)   เนื่องจากผู้ประสบภัยจากรถ อาจได้รับบาดเจ็บสาหัส  หรือสูญเสียอวัยวะ และอาจถึงแก่ชีวิตได้  หรืออาจเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ   สามารถเบิกใช้สิทธิ์ในแต่ละลักษณะของการบาดเจ็บ  
2.    การเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.​  ในวงเงินค่าสินไหมทดแทน
                เป็นการเบิกใช้สิทธิ์หลังจากสรุปผลทางคดีแล้ว  ว่าผู้ขับขี่รถคันใดเป็นฝ่ายประมาท   ผู้ประสบภัยทุกคนจะเบิกใช้สิทธิ์จากวงเงินที่ใช้ไปแล้ว  จากวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อคน  ได้จากกรมธรรม์คันที่เป็นฝ่ายผิด  โดยเบิกจ่ายจากลักษณะความเสียหาย 3 ลักษณะเหมือนค่าเสียหายเบื้องต้นแต่วงเงินคุ้มครองสูงกว่า และเพิ่มการเบิกใช้สิทธิ์อีก 1  กรณี รวมเป็น 4 กรณี  ดังนี้
              2.1  กรณีบาดเจ็บ  เบิกเป็นค่ารักษาพยาบาล   วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน  50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)  โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นไปแล้ว 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน)  จะเหลือสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลอีก 20,000 บาท(สองหมื่นบาทถ้วน)  
             2.2  กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ   วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน  200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)  โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีสูญเสียอวัยวะไปแล้ว 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)   และเบิกค่ารักษาพยาบาลไปอีก  30,000  บาท(สามหมื่นบาทถ้วน)  จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000-30,000 จะเหลือสิทธิ์อีก  135,000 บาท(หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  
            2.3   กรณีเสียชีวิต    วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน  200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)  โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพไปแล้ว 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)   และเบิกค่ารักษาพยาบาลไปอีก  30,000  บาท(สามหมื่นบาทถ้วน)  จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000-30,000 จะเหลือสิทธิ์อีก  135,000 บาท(หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  
                   หรือ กรณีทายาทผู้ประสบภัย  เบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ อย่างเดียวเป็นจำนวน  35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)   โดยไม่ได้เบิกค่ารักษาพยาบาล  จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000  จะเหลือสิทธิ์อีก  165,000 บาทต่อคน(หนึ่งแสน หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  
            2.4  เบิกเป็นค่าชดเชยกรณีนอนพักรักษาตัวในรพ. วันละ 200 บาทต่อคน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน รวมวงเงินสูงสุด =200*20 =4,000 บาท(สี่พันบาทถ้วน)   เช่นนอนพักรักษาตัวในรพ. 5 วัน จะได้รับค่าชดเชย 200*5 วัน = 1,000 บาท
            รวมวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อผู้ประสบภัย  204,000 บาท (สองแสนสี่พันบาทถ้วน) ต่อผู้ประสบภัย    
            ซึ่งการทำความเข้าใจในการเบิกจ่ายจากสิทธิ์ พรบ. เป็นการเบิกตามเงื่อนไขตามกฏหมาย  การอธิบายให้ประชาชนเข้าใจโดยละเอียด เป็นเรื่องยากค่ะ   จึงขออนุญาติเรียนแนะนำให้ผู้สนใจและผู้พบปัญหา  โทรสอบถามได้ที่สายด่วน Call Center บริษัทกลาง ฯ  หมายเลข 1791  หรือเข้าไปติดต่อสอบถามที่จนท.บริษัทกลางฯ ซึ่งมีสาขาเปิดให้บริการอยู่ทุกจังหวัด  หรือหน่วยบริการประชาชนของบริษัทกลางฯ​ ที่รพ. จังหวัดทุกแห่ง โดยบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด  มีเวปไซต์เช็คข้อมูลเบอร์โทรสาขาทั่วประเทศ  ที่ www.rvp.co.th  
              จึงขอเรียนประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ทุกท่านได้ทราบ  และขอขอบคุณ Pantip.com ที่เปิดช่องทางการสื่อสารสารสาธารณะนี้ ขอบคุณค่ะ
                                      ขอแสดงความนับถือ
                     Surat rungareee   พนักงานบริษัทกลางฯ​ ผู้ให้ข้อมูลค่ะ
                 ติดต่อสอบถามข้อมูลผ่าน Facebook ได้ที่  surat rungaree  ค่ะ

ปล.  อย่าลืมประกัน พรบ. กันนะคะ  เบี้ยประกันภัยกรณีรถจยย. เพียง 323 บาท (​กรณี ซีซีรถไม่เกิน 125 ซีซี )  เท่ากับเสียเบี้ยวันละไม่ถึง 1 บาท แต่คัมครองสูงสุดต่อคนถึง 204,000 บาท ( วงเงินสินไหมทดแทน )  หรือ 65,000  บาทต่อคน ( วงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น)   โดยปัจจุบันคุ้มครองเกือบทุกกรณี ทั้งกรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่  ทะเบียนขาด เมาสุรา ฯลฯ  ก็สามารถเบิกใช้สิทธิ์ได้เนื่องจากเป็นการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยจากรถเพื่อลดผลกระทบทางอุบัติเหตุทางรถค่ะ  โดยรถจยย.ทุกคันสามารถทำประกันภัยได้  ทั้งรถเก๊าเก่า   รถใหม่ป้ายแดง  คุ้มครองเท่ากันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่