เรื่องเล่า...ประสบการณ์ตรงจากทัวร์ยุโรป 29 มี.ค.- เม.ย. 56
30เม.ย.เวลา 00.20น ออกจากสุวรรณภูมิ (ได้รับซองจากบริษัท ทัวร์ XXX จำกัด..มีเงินที่สั่งแลกจำนวน สี่หมื่นกว่าบาท+พาสปอร์ต+เอกสารประกอบการเที่ยว) ทุกอย่างใส่กระเป๋า+นอนบนเครื่องบิน
จนไปสว่างที่ซูริค สวิสเซอร์แลนด์ เวลา 06.50นของวันที่30มี.ค.(เวลาท้องถิ่น) ในเวลา 1 วันเที่ยวกันสนุกสนานรวมทั้งเจ้าของเรื่อง (ตลอดเวลาได้เก็บซองไว้ในกระเป๋า)
แต่หยิบซองออกมาครั้งที่ 1เพื่อ คิดเงินให้น้องที่เขาขอแลกเงิน 10,000บาทผ่านไป...แล้วหยิบออกมาซื้อขนมที่ร้านครั้งที่ 2 ช่วงบ่ายผ่านไป
และครั้งสุดท้ายหยิบเงินให้พี่ที่แลกเงินอีกคน 10,000บาทช่วงบ่ายเช่นกันทุกอย่างผ่านจนค่ำเข้าที่พักจะเก็บกล้องถ่ายรูปใส่กระเป๋า
จึงรู้ว่าซองพาสปอร์ตพร้อมเงินสองหมื่นกว่าบาทหายแล้วแจ้งไกด์ (เรียกกันว่า ไกด์ YYY)...
แต่สงสัยว่าตกบนเบาะนั่งที่รถ (2เบาะนั่งคนเดียวเพื่อสะดวกในการถ่ายรูป)..บอกไกด์ให้ถามคนขับรถ..
และตัวเองเดินตามไกด์ไปที่โรงแรมอีกที่ซึ่งไกด์+คนขับรถไปนอนด้วยกันแต่คนละโรงแรมที่ลูกทัวร์พัก...ทุกอย่าง..ติดต่อคนขับรถไม่ได้ (ไกด์บอก)
...เราต้องเดินกลับคนเดียว...ไกด์ไม่มีน้ำใจที่จะถามว่ากลับได้มั๊ยหรือจะให้ผมไปส่งมั๊ย..ดิฉันต้องเดินกลับคนเดียว...
ก่อนกลับดิฉันบอกไกด์ว่าถามคนขับรถให้ด้วยแล้วโทรไปบอกด้วย...ไม่มีอะไร...ผ่านไป 1 คืน
31มี.ค.ตอนเช้าไกด์บอกว่า...ผมดีใจด้วยที่เราต้องไปอยู่เยอรมันด้วยกันเพื่อทำพาสปอร์ตที่เยอรมัน (ทำพาสปอร์ตจากสถานทูตของเยอรมัน)
...ฉันทำใจแล้ว...แต่ขณะที่นั่งรถไฟไต่เขา...ทุกคนสนุกสนาน..ฉันก็ลั้ลล้า..เพราะถ้าสีหน้าทุกข์มากทำให้สมาชิกทุกข์ไปด้วย...
(มีพี่ๆบางคนพูดว่าไกด์บอกว่าคนขับรถเจอแล้ว..มีพี่ๆน้องๆมาถามฉัน..แต่ฉันบอกว่าไกด์ไม่เห็นบอกเจ้าของเลย)
จนนั่งทานอาหารมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารบนยอดเขา...มี่พี่ผู้ชายมาแซวว่าได้บนหลวงพ่อทวดบ้างมั๊ย...เดี๋ยวเจอแน่...
สัก 3-4 นาทีต่อมาพี่เขาเฉลยว่าไกด์บอกว่าเจอแล้ว....ฉันก็คลายทุกข์แล้วรอให้ไกด์เอามาคืน...
แต่ผ่านไป 1 คืนไกด์เฉยแต่ฉันคิดว่าน่าจะคืนให้ตอนที่ไปเยอรมันในรุ่งขึ้น (ฉันขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ภาษาท่านหนึ่งให้ถามคนขับรถ....แต่ไร้ผล)
1 เม.ย.ขณะที่นั่งบนรถบัสไปเยอรมัน.ไกด์พูดว่าผมเสียใจด้วยเราไม่ต้องอยู่เยอรมันด้วยกันแล้ว (ทำให้ฉันมั่นใจว่าพาสปอร์ตฉันต้องอยู่ที่ไกด์ตามที่หลายๆๆคนเข้าใจ)
แต่ไกด์ก็เฉยอีก...ใครถามฉัน..ฉันก็บอกว่าไกด์ไม่เห็นพูดอะไร..หน้าที่ของเขาที่ต้องเอามาให้ลูกทัวร์หากเขาพบตามที่พูดกับคนอื่นๆ ( ไกด์ YYY นี้...มันจะเล่นเกมอะไร) ผลสุดท้ายเวลาผ่านไปอีก 1 วัน
2เม.ย.เข้าออสเตรีย.เมืองฮัลสตั้ทท์..ฉันก็ลั้ลล้าตามปกติ..จนเที่ยงวันน้องก้องถามอีก...ฉันเครียดมากในเวลานั้น...น้องก้องเขาเข้าใจจึงบอกว่าเดี๋ยวก้องจัดการเอง
..ในที่สุดตอนเย็นที่ทุกคนจะขึ้นไปเที่ยวชมปราสาท..ก้องมาบอกว่า ครูสาวได้แล้วใช่มั๊ย...ฉันบอกว่า "เปล่าเลย"...
ฉันจึงตัดสินใจเดินไปจับมือ ไกด์ YYY..แล้วบอกว่า..."ครูสาวไม่ได้รับเลย...อย่าคิดว่าครูสาวอำน๊ะ"
...สักครู่ต่อมา ไกด์พูดเสียงดังๆว่า "เดี๋ยวหลังจากนี้ พี่กับผมต้องเคลียร์กันหน่อย"...
หลังจากนั้นฉันตัดสินใจเอาบัตรเข้าชมปราสาทไปคืนไกด์ YYY พร้อมบอกว่าฉันไม่ไปเที่ยวแล้ว...
ฉันจึงกลับเข้าพักในโรงแรม...หลังนั้นมีการถามหาต้นเหตุของคำพุดที่ว่า."ไกด์บอกว่าคนรถเจอแล้ว"
....ฉันจึงเชิญอาจารย์ที่เดินไปถามไกด์ YYY ด้วยตนเองมาเล่าให้หัวหน้ากรุ๊ปทราบเพื่อยืนยันในคำพูด...ทุกอย่างผ่านด้วยความเครียด....ผ่านไป 1 คืน
3 เม.ย.ไปเยอรมันเมืองมิวนิคทุกคนก็เที่ยวแต่ฉันงดเที่ยวเพราะต้องไปแจ้งความว่าพาสปอร์ตหายที่มิวนิคตามที่ไกด์แนะนำ....(ไกด์นำไป)
...จนค่ำไกด์นำไปกินอาหารไทยที่ร้าน เจ้าคุณ..และขอความช่วยเหลือให้พาไปเมืองเฟร็งเฟริด
(ขอคุณคุณนิตยาเจ้าของร้านอาหารที่สุด...ที่กรุณาดำเนินการให้ทุกเรื่องตั้งแต่หาคนพา+จัดจองตั๋วเครื่องบิน+ให้ที่พัก 1 คืนด้วยเพื่อความสะดวก)
....ณ.จุดตรงนี้ฉันต้องกลับไปจัดกระเป๋าเดินเพื่อฝากพี่หยกพี่อี๊ด..แล้วกลับมาร้านอาหาร..
ไกด์บอกให้ฉันนั่งแท๊กซี่จากโรงแรมมาร้านอาหารคนเดียวขณะที่เวลา 3 ทุ่มไปแล้ว (บอกอีกว่า "นั่งไปเถอะคนเดียวผมเรียกรถให้ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก"....ที่คือไกด์ที่บริษัท XXX ชื่นชมมาก.)
4 เม.ย.ทุกอย่างไปตามแผนของน้อง ตาต้า ผู้นำทางไปกงสุลไทยในเฟร็งเฟริด์ เจ้าหน้าที่น่ารักมาก..ขอขอบคุณด้วยความเคารพ
...ฉันกลับมามิวนิคเจอสมาชิกแล้วบินกลับไทยด้วยความลั้ลล้าตอน 21.50น.
ทั้งหมดนี้ฉันอยากเล่าแล้วคิด...ว่า.
1.เราต้องเรียนรู้ภาษา อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
2. ช่วยคิดให้หน่อยว่า พาสปอร์ตเจอจริงมั๊ย ถ้าไม่เจอ ไกด์พูดกับหลายๆๆคนทำไม....ไม่ใช่เรื่องสนุก(ฉันโทรบอกเจ้าของทัวร์ เขาพูดว่า ไกด์ YYY น๊ะชอบพูดเล่นอย่างนั้นล่ะ...งงค๊ะ)
3.เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด.....(ฉันคิดว่าไม่มีใครต้องการให้มีความวุ่นวายแล้วต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกมากมาย ทริปนี้ค่าเสียหาย ประมาณ 60,000บาท [เงินที่หาย+จ้างคนนำ+จ่ายค่าเครื่องบินไป-กลับเพื่อทำ]
ไม่ตายหาใหม่ได้..สนุกดีจริงมั๊ย...คนที่ตายเขาก็ไม่เอาอะไรไป....ฮะฮะๆๆๆ..
4. ช่วยๆๆแชร์..ส่งข่าวกันหน่อย..เพื่อเป็นบทเรียนที่ไม่มีในตำรา.....ราคาหาไม่ได้...ขอบคุณที่ช่วยแชร์
[ผม HalfofW นำเรื่องนี้มาแชร์เพราะ
1) อยากแค่ให้เป็นอุทาหรณ์เวลาเลือกบริษัททัวร์ ไม่ได้อยากมีปัญหาด้านกฏหมาย ขอไม่เปิดเผยชื่อบริษัท XXX และชื่อไกด์ YYY
2) เนื้อหาทั้งหมด อาผมพิมพ์แชร์ไว้ใน FB ของเค้า .. (ผม Copy มาให้แต่ลบชื่อบริษัท และชื่อไกด์ออก) .. อาผมอาจจะเขียนไม่เก่ง ภาษาอาจจะงง ๆ บ้างครับ .. แกอายุ 50 กว่าและสายตายาว]
เรื่องเล่า...ประสบการณ์ตรงจากทัวร์ยุโรป 29 มี.ค.- เม.ย. 56
30เม.ย.เวลา 00.20น ออกจากสุวรรณภูมิ (ได้รับซองจากบริษัท ทัวร์ XXX จำกัด..มีเงินที่สั่งแลกจำนวน สี่หมื่นกว่าบาท+พาสปอร์ต+เอกสารประกอบการเที่ยว) ทุกอย่างใส่กระเป๋า+นอนบนเครื่องบิน
จนไปสว่างที่ซูริค สวิสเซอร์แลนด์ เวลา 06.50นของวันที่30มี.ค.(เวลาท้องถิ่น) ในเวลา 1 วันเที่ยวกันสนุกสนานรวมทั้งเจ้าของเรื่อง (ตลอดเวลาได้เก็บซองไว้ในกระเป๋า)
แต่หยิบซองออกมาครั้งที่ 1เพื่อ คิดเงินให้น้องที่เขาขอแลกเงิน 10,000บาทผ่านไป...แล้วหยิบออกมาซื้อขนมที่ร้านครั้งที่ 2 ช่วงบ่ายผ่านไป
และครั้งสุดท้ายหยิบเงินให้พี่ที่แลกเงินอีกคน 10,000บาทช่วงบ่ายเช่นกันทุกอย่างผ่านจนค่ำเข้าที่พักจะเก็บกล้องถ่ายรูปใส่กระเป๋า
จึงรู้ว่าซองพาสปอร์ตพร้อมเงินสองหมื่นกว่าบาทหายแล้วแจ้งไกด์ (เรียกกันว่า ไกด์ YYY)...
แต่สงสัยว่าตกบนเบาะนั่งที่รถ (2เบาะนั่งคนเดียวเพื่อสะดวกในการถ่ายรูป)..บอกไกด์ให้ถามคนขับรถ..
และตัวเองเดินตามไกด์ไปที่โรงแรมอีกที่ซึ่งไกด์+คนขับรถไปนอนด้วยกันแต่คนละโรงแรมที่ลูกทัวร์พัก...ทุกอย่าง..ติดต่อคนขับรถไม่ได้ (ไกด์บอก)
...เราต้องเดินกลับคนเดียว...ไกด์ไม่มีน้ำใจที่จะถามว่ากลับได้มั๊ยหรือจะให้ผมไปส่งมั๊ย..ดิฉันต้องเดินกลับคนเดียว...
ก่อนกลับดิฉันบอกไกด์ว่าถามคนขับรถให้ด้วยแล้วโทรไปบอกด้วย...ไม่มีอะไร...ผ่านไป 1 คืน
31มี.ค.ตอนเช้าไกด์บอกว่า...ผมดีใจด้วยที่เราต้องไปอยู่เยอรมันด้วยกันเพื่อทำพาสปอร์ตที่เยอรมัน (ทำพาสปอร์ตจากสถานทูตของเยอรมัน)
...ฉันทำใจแล้ว...แต่ขณะที่นั่งรถไฟไต่เขา...ทุกคนสนุกสนาน..ฉันก็ลั้ลล้า..เพราะถ้าสีหน้าทุกข์มากทำให้สมาชิกทุกข์ไปด้วย...
(มีพี่ๆบางคนพูดว่าไกด์บอกว่าคนขับรถเจอแล้ว..มีพี่ๆน้องๆมาถามฉัน..แต่ฉันบอกว่าไกด์ไม่เห็นบอกเจ้าของเลย)
จนนั่งทานอาหารมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารบนยอดเขา...มี่พี่ผู้ชายมาแซวว่าได้บนหลวงพ่อทวดบ้างมั๊ย...เดี๋ยวเจอแน่...
สัก 3-4 นาทีต่อมาพี่เขาเฉลยว่าไกด์บอกว่าเจอแล้ว....ฉันก็คลายทุกข์แล้วรอให้ไกด์เอามาคืน...
แต่ผ่านไป 1 คืนไกด์เฉยแต่ฉันคิดว่าน่าจะคืนให้ตอนที่ไปเยอรมันในรุ่งขึ้น (ฉันขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ภาษาท่านหนึ่งให้ถามคนขับรถ....แต่ไร้ผล)
1 เม.ย.ขณะที่นั่งบนรถบัสไปเยอรมัน.ไกด์พูดว่าผมเสียใจด้วยเราไม่ต้องอยู่เยอรมันด้วยกันแล้ว (ทำให้ฉันมั่นใจว่าพาสปอร์ตฉันต้องอยู่ที่ไกด์ตามที่หลายๆๆคนเข้าใจ)
แต่ไกด์ก็เฉยอีก...ใครถามฉัน..ฉันก็บอกว่าไกด์ไม่เห็นพูดอะไร..หน้าที่ของเขาที่ต้องเอามาให้ลูกทัวร์หากเขาพบตามที่พูดกับคนอื่นๆ ( ไกด์ YYY นี้...มันจะเล่นเกมอะไร) ผลสุดท้ายเวลาผ่านไปอีก 1 วัน
2เม.ย.เข้าออสเตรีย.เมืองฮัลสตั้ทท์..ฉันก็ลั้ลล้าตามปกติ..จนเที่ยงวันน้องก้องถามอีก...ฉันเครียดมากในเวลานั้น...น้องก้องเขาเข้าใจจึงบอกว่าเดี๋ยวก้องจัดการเอง
..ในที่สุดตอนเย็นที่ทุกคนจะขึ้นไปเที่ยวชมปราสาท..ก้องมาบอกว่า ครูสาวได้แล้วใช่มั๊ย...ฉันบอกว่า "เปล่าเลย"...
ฉันจึงตัดสินใจเดินไปจับมือ ไกด์ YYY..แล้วบอกว่า..."ครูสาวไม่ได้รับเลย...อย่าคิดว่าครูสาวอำน๊ะ"
...สักครู่ต่อมา ไกด์พูดเสียงดังๆว่า "เดี๋ยวหลังจากนี้ พี่กับผมต้องเคลียร์กันหน่อย"...
หลังจากนั้นฉันตัดสินใจเอาบัตรเข้าชมปราสาทไปคืนไกด์ YYY พร้อมบอกว่าฉันไม่ไปเที่ยวแล้ว...
ฉันจึงกลับเข้าพักในโรงแรม...หลังนั้นมีการถามหาต้นเหตุของคำพุดที่ว่า."ไกด์บอกว่าคนรถเจอแล้ว"
....ฉันจึงเชิญอาจารย์ที่เดินไปถามไกด์ YYY ด้วยตนเองมาเล่าให้หัวหน้ากรุ๊ปทราบเพื่อยืนยันในคำพูด...ทุกอย่างผ่านด้วยความเครียด....ผ่านไป 1 คืน
3 เม.ย.ไปเยอรมันเมืองมิวนิคทุกคนก็เที่ยวแต่ฉันงดเที่ยวเพราะต้องไปแจ้งความว่าพาสปอร์ตหายที่มิวนิคตามที่ไกด์แนะนำ....(ไกด์นำไป)
...จนค่ำไกด์นำไปกินอาหารไทยที่ร้าน เจ้าคุณ..และขอความช่วยเหลือให้พาไปเมืองเฟร็งเฟริด
(ขอคุณคุณนิตยาเจ้าของร้านอาหารที่สุด...ที่กรุณาดำเนินการให้ทุกเรื่องตั้งแต่หาคนพา+จัดจองตั๋วเครื่องบิน+ให้ที่พัก 1 คืนด้วยเพื่อความสะดวก)
....ณ.จุดตรงนี้ฉันต้องกลับไปจัดกระเป๋าเดินเพื่อฝากพี่หยกพี่อี๊ด..แล้วกลับมาร้านอาหาร..
ไกด์บอกให้ฉันนั่งแท๊กซี่จากโรงแรมมาร้านอาหารคนเดียวขณะที่เวลา 3 ทุ่มไปแล้ว (บอกอีกว่า "นั่งไปเถอะคนเดียวผมเรียกรถให้ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก"....ที่คือไกด์ที่บริษัท XXX ชื่นชมมาก.)
4 เม.ย.ทุกอย่างไปตามแผนของน้อง ตาต้า ผู้นำทางไปกงสุลไทยในเฟร็งเฟริด์ เจ้าหน้าที่น่ารักมาก..ขอขอบคุณด้วยความเคารพ
...ฉันกลับมามิวนิคเจอสมาชิกแล้วบินกลับไทยด้วยความลั้ลล้าตอน 21.50น.
ทั้งหมดนี้ฉันอยากเล่าแล้วคิด...ว่า.
1.เราต้องเรียนรู้ภาษา อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
2. ช่วยคิดให้หน่อยว่า พาสปอร์ตเจอจริงมั๊ย ถ้าไม่เจอ ไกด์พูดกับหลายๆๆคนทำไม....ไม่ใช่เรื่องสนุก(ฉันโทรบอกเจ้าของทัวร์ เขาพูดว่า ไกด์ YYY น๊ะชอบพูดเล่นอย่างนั้นล่ะ...งงค๊ะ)
3.เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด.....(ฉันคิดว่าไม่มีใครต้องการให้มีความวุ่นวายแล้วต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกมากมาย ทริปนี้ค่าเสียหาย ประมาณ 60,000บาท [เงินที่หาย+จ้างคนนำ+จ่ายค่าเครื่องบินไป-กลับเพื่อทำ]
ไม่ตายหาใหม่ได้..สนุกดีจริงมั๊ย...คนที่ตายเขาก็ไม่เอาอะไรไป....ฮะฮะๆๆๆ..
4. ช่วยๆๆแชร์..ส่งข่าวกันหน่อย..เพื่อเป็นบทเรียนที่ไม่มีในตำรา.....ราคาหาไม่ได้...ขอบคุณที่ช่วยแชร์
[ผม HalfofW นำเรื่องนี้มาแชร์เพราะ
1) อยากแค่ให้เป็นอุทาหรณ์เวลาเลือกบริษัททัวร์ ไม่ได้อยากมีปัญหาด้านกฏหมาย ขอไม่เปิดเผยชื่อบริษัท XXX และชื่อไกด์ YYY
2) เนื้อหาทั้งหมด อาผมพิมพ์แชร์ไว้ใน FB ของเค้า .. (ผม Copy มาให้แต่ลบชื่อบริษัท และชื่อไกด์ออก) .. อาผมอาจจะเขียนไม่เก่ง ภาษาอาจจะงง ๆ บ้างครับ .. แกอายุ 50 กว่าและสายตายาว]