ลำปางร้อนมากจั๊ดๆ
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย หลังจากที่ป่วยช่วงสงกรานต์ แต่ยังซ่าลงสระน้ำบ้านเพื่อน
ไข้เลยตีกลับ กินอะไรก็ไม่อร่อย แต่ในเฟซโพสแต่ของกิน
เห็นเพื่อนๆ เค้าปั่นกันดูหนุกหนาน เราได้แต่นอนดูรูป
ไม่มีแรงจูงใจในการปั่นเลยค่ะ อยู่ๆ ก็เหมือนหมดไฟยังไงบอกไม่ถูก

อาจจะเพราะป่วยด้วยมั้ง เลยไม่อยากปั่นจักรยาน
แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 เมษา) โดนลุงยามที่นักปั่นเชียงใหม่หลายคนรู้จัก
(รู้จักกันป่าว แง้วก็เพิ่งรู้ว่าฉายาคุณธีระคือ ลุงยาม - -)
ชวนปั่นไปอุทยานแห่งชาติขุนตาล นับๆ สมาชิกได้ประมาณ 20 กว่าท่าน
ซึ่งล้วนแล้วแต่ยังไม่เห็นหน้า
ลุงยามบอกว่า ส่วนใหญ่เป็นพวกลุงๆ ทั้งนั้น (ไม่อยากจะบอกเลยว่า ลุงๆ ที่เชียงใหม่ ล้วนแล้วแต่ขาแรงทั้งนั้น)
เท่าที่เคยเจอก็มี "ค่อยๆ ปั่นไปกันนะ ลุงแก่แล้ว" แต่หนูเห็นลุงๆ ทั้งหลาย แซงหนูกันทุกคนเลยนะคะ แหม่..
นัดกันล้อหมุนปั๊ม ปตท หางดงหกโมงเช้า
เช้าเกิ๊น หกโมงตายังไม่แตกเลยงะ ก็ตามคาด ตื่นไม่ทัน

กว่าจะเตรียมตัว กว่าจะบิดขี้เกียจ พร้อมลุยก็เกือบแปดโมงเช้า
ได้ตาลีตาเหลือกรีบตามเขาไปทางซุปเปอร์ไฮเวย์
แง้วไม่ถูกโรคกับการตื่นมาปั่นตอนเช้าๆ เลย ให้ตายๆ
พวกพี่ๆ เขาล่วงหน้าไปทางสันป่าตอง ออกลำพูน แยกดอยติค่ะ
ส่วนเราไปตามทางไฮเวย์ได้ห้าหกกิโล
เจอร้านชา Ramino เปิดแต่เช้า ก็แวะเติมพลังกันหน่อย
เบอร์เกอร์เนื้อโปรลดจาก 60 เหลือ 45 หย่อยๆ

ครัวซองแฮมชีส และ แกรนด์ คาราเมล
กินสองคนนะ แหม่ บางคนคิดว่า แง้วกินหมดที่คนเดียว บร้าาา
เติมพลังเสร็จ ไม่ต้องรอให้ย่อย เพราะอากาศเริ่มร้อนแล้ว
แค่รถที่จอดตากแดด วัดอุณหภูมิได้ 38 องศาแน่ะ
ตอนที่นั่งกินที่ ramino ลุงยามโทรมาหา บอกว่าอยู่แยกดอยติแล้วนะ โห ไวเหมือนกันนะเนี่ย
เลยบอกว่าจะไล่ตามไปนะคะ ถ้าทัน -_- มันต้านลมอ่า
อ้อ.. ramino อยู่ตรงดอนจั่นนะคะ ถ้าใครอยากปั่นตามรอย ไม่ใกล้ไม่ไกล
แต่ทางไฮเวย์ รถเยอะขับไว ระวังกันนิดนึงค่ะ
ระยะทางก็ต้ามลมไปตลอดทาง ได้พี่มิ้วบังลมให้ สบายๆ
แต่ลมด้านข้างก็ตีมาเหมือนกัน เล่นเอาเซ เพราะมีล้อดิสนี่ล่ะค่ะ เอิ๊กกกก
พอออก ramino ก็ปั่นมาเรื่อยๆ แถวๆ บ้านจำขี้มด เริ่มมีเนินแล้วค่ะ
แต่ก็มีดอกเหลืองอินเดียให้ได้ดูตามข้างทาง ไม่มีคนปลูกหรอก นั่นอ่ะ ของขายเค้า 555
อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ รถแง้วไซส์เล็ก ใส่ขวดใบใหญ่ไม่ได้ค่ะ
ต้องใส่ขวดน้ำใบเล็ก เลยต้องจอดแวะซื้อน้ำกินข้างทาง แถวๆ จำตาเหิน
เป็นร้านชำเล็กๆ แถวๆ ที่เค้าขายรังต่อกันเยอะๆ นั่นล่ะค่ะ
ถ้าไม่สังเกตก็มองไม่เห็น เพราะอยู่ลึกเข้าไปจากข้างทางนิดหน่อย
แวะกินน้ำ เติมน้ำ เอาน้ำราดหัว ป้าร้านชำ ออกมาคุยด้วย
ป้าคงเหงา พอรู้ว่ามาจากเชียงใหม่ ป้าดูดีอกดีใจ เจอคนบ้านเดียวกัน
ป้าให้น้ำใส่น้ำแข็งมา 1 กระติก ให้จันเอามารดหลังคุณบุญเลื่อง ไม่ใช่แระ
เราเอามาราดตัวเองดับร้อนค่ะ โห เซะซี่มวาก

เรื่องของป้าร้านชำยังไม่จบค่ะ
ป้าดูใจดีและดีใจ เลยลุกไปหยิบมะขามหวานใส่ถุงมาให้
ป้าบอกว่าได้มาจากมีคนเอามาดำหัว แบ่งให้หนูไปกินนะ จะได้สดชื่น
นี่ถ้าไม่มีเป้สะพายหลังไป ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะแบกไปยังไง..
ป้าทิ้งท้ายว่า ร้อนนะ เดี๋ยวเปิดเทอมหน้าก็ดำหมด อร๊าย หนูได้ยินคำนี้แล้ว ดีใจกว่าได้มะขามหวานอีกค่ะ

((ป้าชมว่าหน้าเด็ก กรี๊สส))
อันนี้รูปที่ถ่ายที่ห้างฉัตรแล้ว อยู่ว่างๆ เลยเอามะขามมาถ่ายรูป กะน้ำหนักคร่าวๆ น่าจะสัก 1 กิโลได้
พี่มิ้วแบกมาให้ ขอบคุณค่ะ
สองข้างทางก็ไม่มีอะไรมาก มีเนินให้เหนื่อยนิดหน่อย
ปั่นไปจนเจอสามแยกทางเข้าอุทานแห่งชาติขุนตาลแล้ว ไม่เคยเข้าไปเลย เพิ่งรู้ว่า
ระยะทางจากสามแยกเข้าไปอุทยานอีกตั้ง 18 โลแน่ะ
เลยโทรหาลุงยามอีกรอบ คิดว่าคงไปถึงแล้ว ทางนั้นก็ยังไม่ถึงที่หมายค่ะ
ห่างกับแง้วแค่ 9 โลเอง ถ้าตามไป คงทันอยู่ล่ะมั้ง
แต่คิดว่า ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ปั่นไปลำปางกันดีกว่า
แง้วมีเพื่อนสนิทอยู่ที่นั่นคนนึง สิ้นเดือนเค้าจะย้ายไปทำงานที่ระยองแล้ว
ถ้าไม่ปั่นไปลำปางตอนนี้ ต่อไปก็ไม่รู้จะปั่นไปทำอะไรที่ลำปางอีก
ไม่มีแรงจูงใจ(อีกละ)
หลังจากโทรบอกลุงยามว่า หนูขอแยกไปลำปาง ซึ่งลุงยามก็ยอมแต่โดยดี อิอิ
เราก็เลือกจุดที่พักสุดท้ายก่อนขึ้นขุนตาลว่า จะพักที่ป้อมตำรวจแม่ทาเป็นที่สุดท้าย
แวะเอาน้ำพรมหัว รดตัวอีกแล้วค่ะ
หมวกก็ไม่ใส่ ขึ้นดอยร้อนหัว เหงื่อไหลเข้าตา ดราม่าอย่างแรง
ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ เป็นคนบ่นว่าให้คนอื่นใส่หมวกแท้ๆ แต่ตัวเองไม่ใส่ซะงั้น มันน่าโบก
ปกติเราสองคนจะนิยมเอา segment ใน app strava แต่คราวนี้ร้อนมาก และมากันสองคน
เลยปั่นชิลๆ ไม่รีบ โดยมีพี่มิ้วประกบข้างหลัง เราเอา i got u ติดตัวมา
ตอนขึ้นขุนตาล แง้วปั่นนำค่ะ สักพักนึง มาไกลๆ ไม่เห็นพี่มิ้วตามหลัง
ประจวบกับมีมอไซคันนึงตะโกนบอกว่า รถเพื่อนเป็นอะไรไม่รู้ สงสัยยางรั่ว
เลยตะโกนขอบคุณกลับไป แล้วก็จอดรถ >///< ปกติไม่จอดบนดอยนะเนี่ย เสียเซ้ว 555
จอดไปรอที่ร่มๆ ซะหน่อย
แป๊บๆ เห็นว่าไม่มาแน่ เลยปั่นขึ้นไปดีกว่า ไปรอบนยอดขุนตาล
กว่าจะถึงยอด ได้จอดพักอีก 1 รอบ
คุณบร๊ะคุณเจ้า อะไรมันจะร้อนขนาดนี้ ปั่นไปก็ดู ไมล์วัดความเร็วไป อุณหภูมิมันสูงขึ้นเรื่อยๆ 36-37-38-39 โอยๆ
น้ำที่มีก็กลายเป็นน้ำร้อนอ่ะ กินก็ร้อน ราดหัวก็ร้อน ดราม่ามาเต็ม
เพื่อไม่ให้ร่างกายโอเวอร์ฮีท เลยต้องไม่ซ่า อดใจปั่นช้าๆ รอบขาต่ำๆ
หัวใจจะได้ไม่เต้นเร็ว เหมือนเจอหนุ่มหล่อ
ปั่นขึ้นขุนตาลทางลำพูน มันใกล้กว่าขึ้นทางลำปางหลายกิโลมากๆ
แป๊บๆ ถึงแล้ว อิ๊ๆ
ถ่ายรูปเช็คอินกันหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าโม้
จริงๆ ตอนนั้นอุณหภูมิทะลุองศาเดือดแล้วนะคะ ที่ 40 องศา
แมวสุก

อยากจะนอนแช่น้ำเหลือเกิน ณ จุดนี้
ยืนถ่ายรูปรอพี่มิ้วขึ้นมา ไม่นานเท่าไร แมวเหมียวก็ปั่นหมอบไล่ขึ้นมาได้ไวแท้ๆ
พักให้หายเหนื่อยนิดๆ น้ำเหลือน้อย จะข้ามฝั่งไปซื้อฝั่งโน้น ก็กลัวสิบล้อเอาไปกิน
เลยกลั้นใจดาวน์ลงมาจากยอด ปลายทางคือ ตลาดทุ่งเกวียน
หลายสิบโลอยู่นา แต่ทางมันลงดอยอ่ะเนาะ เอ้า ดาวน์ลงโล้ด
ถึงขั้นตอนนี้ใส่หมวกแล้วนะคะ จัดเต็ม ลงมาความเร้วที่ 60
แอบแซงขวารถบรรทุกอีก แต่เค้าดูแล้วนะ ว่าไม่มีรถหลังตามมา เลยแซงขวาไปน่ะ

จริงๆ มันน่าจะเร็วกว่านี้นะ ก็อ้วนนี่นา

แต่ความเร็วมันก็ได้แค่นั้นแหละ
#edit# ต่อด้านล่าง คห.9
=^-^=ใครบอกลำปางหนาวมาก(บรรยายเยอะ ยาวต้องอ่าน)
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย หลังจากที่ป่วยช่วงสงกรานต์ แต่ยังซ่าลงสระน้ำบ้านเพื่อน
ไข้เลยตีกลับ กินอะไรก็ไม่อร่อย แต่ในเฟซโพสแต่ของกิน
เห็นเพื่อนๆ เค้าปั่นกันดูหนุกหนาน เราได้แต่นอนดูรูป
ไม่มีแรงจูงใจในการปั่นเลยค่ะ อยู่ๆ ก็เหมือนหมดไฟยังไงบอกไม่ถูก
แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 เมษา) โดนลุงยามที่นักปั่นเชียงใหม่หลายคนรู้จัก
(รู้จักกันป่าว แง้วก็เพิ่งรู้ว่าฉายาคุณธีระคือ ลุงยาม - -)
ชวนปั่นไปอุทยานแห่งชาติขุนตาล นับๆ สมาชิกได้ประมาณ 20 กว่าท่าน
ซึ่งล้วนแล้วแต่ยังไม่เห็นหน้า
ลุงยามบอกว่า ส่วนใหญ่เป็นพวกลุงๆ ทั้งนั้น (ไม่อยากจะบอกเลยว่า ลุงๆ ที่เชียงใหม่ ล้วนแล้วแต่ขาแรงทั้งนั้น)
เท่าที่เคยเจอก็มี "ค่อยๆ ปั่นไปกันนะ ลุงแก่แล้ว" แต่หนูเห็นลุงๆ ทั้งหลาย แซงหนูกันทุกคนเลยนะคะ แหม่..
นัดกันล้อหมุนปั๊ม ปตท หางดงหกโมงเช้า
เช้าเกิ๊น หกโมงตายังไม่แตกเลยงะ ก็ตามคาด ตื่นไม่ทัน
กว่าจะเตรียมตัว กว่าจะบิดขี้เกียจ พร้อมลุยก็เกือบแปดโมงเช้า
ได้ตาลีตาเหลือกรีบตามเขาไปทางซุปเปอร์ไฮเวย์
แง้วไม่ถูกโรคกับการตื่นมาปั่นตอนเช้าๆ เลย ให้ตายๆ
พวกพี่ๆ เขาล่วงหน้าไปทางสันป่าตอง ออกลำพูน แยกดอยติค่ะ
ส่วนเราไปตามทางไฮเวย์ได้ห้าหกกิโล
เจอร้านชา Ramino เปิดแต่เช้า ก็แวะเติมพลังกันหน่อย
เบอร์เกอร์เนื้อโปรลดจาก 60 เหลือ 45 หย่อยๆ
ครัวซองแฮมชีส และ แกรนด์ คาราเมล
กินสองคนนะ แหม่ บางคนคิดว่า แง้วกินหมดที่คนเดียว บร้าาา
เติมพลังเสร็จ ไม่ต้องรอให้ย่อย เพราะอากาศเริ่มร้อนแล้ว
แค่รถที่จอดตากแดด วัดอุณหภูมิได้ 38 องศาแน่ะ
ตอนที่นั่งกินที่ ramino ลุงยามโทรมาหา บอกว่าอยู่แยกดอยติแล้วนะ โห ไวเหมือนกันนะเนี่ย
เลยบอกว่าจะไล่ตามไปนะคะ ถ้าทัน -_- มันต้านลมอ่า
อ้อ.. ramino อยู่ตรงดอนจั่นนะคะ ถ้าใครอยากปั่นตามรอย ไม่ใกล้ไม่ไกล
แต่ทางไฮเวย์ รถเยอะขับไว ระวังกันนิดนึงค่ะ
ระยะทางก็ต้ามลมไปตลอดทาง ได้พี่มิ้วบังลมให้ สบายๆ
แต่ลมด้านข้างก็ตีมาเหมือนกัน เล่นเอาเซ เพราะมีล้อดิสนี่ล่ะค่ะ เอิ๊กกกก
พอออก ramino ก็ปั่นมาเรื่อยๆ แถวๆ บ้านจำขี้มด เริ่มมีเนินแล้วค่ะ
แต่ก็มีดอกเหลืองอินเดียให้ได้ดูตามข้างทาง ไม่มีคนปลูกหรอก นั่นอ่ะ ของขายเค้า 555
อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ รถแง้วไซส์เล็ก ใส่ขวดใบใหญ่ไม่ได้ค่ะ
ต้องใส่ขวดน้ำใบเล็ก เลยต้องจอดแวะซื้อน้ำกินข้างทาง แถวๆ จำตาเหิน
เป็นร้านชำเล็กๆ แถวๆ ที่เค้าขายรังต่อกันเยอะๆ นั่นล่ะค่ะ
ถ้าไม่สังเกตก็มองไม่เห็น เพราะอยู่ลึกเข้าไปจากข้างทางนิดหน่อย
แวะกินน้ำ เติมน้ำ เอาน้ำราดหัว ป้าร้านชำ ออกมาคุยด้วย
ป้าคงเหงา พอรู้ว่ามาจากเชียงใหม่ ป้าดูดีอกดีใจ เจอคนบ้านเดียวกัน
ป้าให้น้ำใส่น้ำแข็งมา 1 กระติก ให้จันเอามารดหลังคุณบุญเลื่อง ไม่ใช่แระ
เราเอามาราดตัวเองดับร้อนค่ะ โห เซะซี่มวาก
เรื่องของป้าร้านชำยังไม่จบค่ะ
ป้าดูใจดีและดีใจ เลยลุกไปหยิบมะขามหวานใส่ถุงมาให้
ป้าบอกว่าได้มาจากมีคนเอามาดำหัว แบ่งให้หนูไปกินนะ จะได้สดชื่น
นี่ถ้าไม่มีเป้สะพายหลังไป ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะแบกไปยังไง..
ป้าทิ้งท้ายว่า ร้อนนะ เดี๋ยวเปิดเทอมหน้าก็ดำหมด อร๊าย หนูได้ยินคำนี้แล้ว ดีใจกว่าได้มะขามหวานอีกค่ะ
((ป้าชมว่าหน้าเด็ก กรี๊สส))
อันนี้รูปที่ถ่ายที่ห้างฉัตรแล้ว อยู่ว่างๆ เลยเอามะขามมาถ่ายรูป กะน้ำหนักคร่าวๆ น่าจะสัก 1 กิโลได้
พี่มิ้วแบกมาให้ ขอบคุณค่ะ
สองข้างทางก็ไม่มีอะไรมาก มีเนินให้เหนื่อยนิดหน่อย
ปั่นไปจนเจอสามแยกทางเข้าอุทานแห่งชาติขุนตาลแล้ว ไม่เคยเข้าไปเลย เพิ่งรู้ว่า
ระยะทางจากสามแยกเข้าไปอุทยานอีกตั้ง 18 โลแน่ะ
เลยโทรหาลุงยามอีกรอบ คิดว่าคงไปถึงแล้ว ทางนั้นก็ยังไม่ถึงที่หมายค่ะ
ห่างกับแง้วแค่ 9 โลเอง ถ้าตามไป คงทันอยู่ล่ะมั้ง
แต่คิดว่า ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ปั่นไปลำปางกันดีกว่า
แง้วมีเพื่อนสนิทอยู่ที่นั่นคนนึง สิ้นเดือนเค้าจะย้ายไปทำงานที่ระยองแล้ว
ถ้าไม่ปั่นไปลำปางตอนนี้ ต่อไปก็ไม่รู้จะปั่นไปทำอะไรที่ลำปางอีก
ไม่มีแรงจูงใจ(อีกละ)
หลังจากโทรบอกลุงยามว่า หนูขอแยกไปลำปาง ซึ่งลุงยามก็ยอมแต่โดยดี อิอิ
เราก็เลือกจุดที่พักสุดท้ายก่อนขึ้นขุนตาลว่า จะพักที่ป้อมตำรวจแม่ทาเป็นที่สุดท้าย
แวะเอาน้ำพรมหัว รดตัวอีกแล้วค่ะ
หมวกก็ไม่ใส่ ขึ้นดอยร้อนหัว เหงื่อไหลเข้าตา ดราม่าอย่างแรง
ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ เป็นคนบ่นว่าให้คนอื่นใส่หมวกแท้ๆ แต่ตัวเองไม่ใส่ซะงั้น มันน่าโบก
ปกติเราสองคนจะนิยมเอา segment ใน app strava แต่คราวนี้ร้อนมาก และมากันสองคน
เลยปั่นชิลๆ ไม่รีบ โดยมีพี่มิ้วประกบข้างหลัง เราเอา i got u ติดตัวมา
ตอนขึ้นขุนตาล แง้วปั่นนำค่ะ สักพักนึง มาไกลๆ ไม่เห็นพี่มิ้วตามหลัง
ประจวบกับมีมอไซคันนึงตะโกนบอกว่า รถเพื่อนเป็นอะไรไม่รู้ สงสัยยางรั่ว
เลยตะโกนขอบคุณกลับไป แล้วก็จอดรถ >///< ปกติไม่จอดบนดอยนะเนี่ย เสียเซ้ว 555
จอดไปรอที่ร่มๆ ซะหน่อย
แป๊บๆ เห็นว่าไม่มาแน่ เลยปั่นขึ้นไปดีกว่า ไปรอบนยอดขุนตาล
กว่าจะถึงยอด ได้จอดพักอีก 1 รอบ
คุณบร๊ะคุณเจ้า อะไรมันจะร้อนขนาดนี้ ปั่นไปก็ดู ไมล์วัดความเร็วไป อุณหภูมิมันสูงขึ้นเรื่อยๆ 36-37-38-39 โอยๆ
น้ำที่มีก็กลายเป็นน้ำร้อนอ่ะ กินก็ร้อน ราดหัวก็ร้อน ดราม่ามาเต็ม
เพื่อไม่ให้ร่างกายโอเวอร์ฮีท เลยต้องไม่ซ่า อดใจปั่นช้าๆ รอบขาต่ำๆ
หัวใจจะได้ไม่เต้นเร็ว เหมือนเจอหนุ่มหล่อ
ปั่นขึ้นขุนตาลทางลำพูน มันใกล้กว่าขึ้นทางลำปางหลายกิโลมากๆ
แป๊บๆ ถึงแล้ว อิ๊ๆ
ถ่ายรูปเช็คอินกันหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าโม้
จริงๆ ตอนนั้นอุณหภูมิทะลุองศาเดือดแล้วนะคะ ที่ 40 องศา
แมวสุก
ยืนถ่ายรูปรอพี่มิ้วขึ้นมา ไม่นานเท่าไร แมวเหมียวก็ปั่นหมอบไล่ขึ้นมาได้ไวแท้ๆ
พักให้หายเหนื่อยนิดๆ น้ำเหลือน้อย จะข้ามฝั่งไปซื้อฝั่งโน้น ก็กลัวสิบล้อเอาไปกิน
เลยกลั้นใจดาวน์ลงมาจากยอด ปลายทางคือ ตลาดทุ่งเกวียน
หลายสิบโลอยู่นา แต่ทางมันลงดอยอ่ะเนาะ เอ้า ดาวน์ลงโล้ด
ถึงขั้นตอนนี้ใส่หมวกแล้วนะคะ จัดเต็ม ลงมาความเร้วที่ 60
แอบแซงขวารถบรรทุกอีก แต่เค้าดูแล้วนะ ว่าไม่มีรถหลังตามมา เลยแซงขวาไปน่ะ
จริงๆ มันน่าจะเร็วกว่านี้นะ ก็อ้วนนี่นา
#edit# ต่อด้านล่าง คห.9