หนูติดรับตรง ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในขณะเดียวกัน ก็ติดพยาบาลทหารอากาศ
บางคนอาจจะคิดว่า พยาบาลกะครู มันคนละแนวกัน
ใช่ค่ะ มันคนละแนวกัน แต่ที่หนูสมัครพยาบาลเพราะมันมียศให้ (ตามความต้องการของแม่)
ใจจริงของหนู จะเอาครูแน่ๆ แต่ไปสอบให้แม่ เป็นความภูมิใจเล็กๆ
ผลสัมภาษณ์ออกมา ปรากฏว่า ติด แต่ เป็นทุนส่วนตัว
แล้วก็มีดอกจัน ว่าเราไม่สามารถเลื่อนขึ้นเพื่อรับทุนกองทัพได้
เราสงสัยเหมือนกันนะ ว่าเพราะอะไร
มีใครรู้เหตุผลบ้างมั๊ยคะ?
ตอนเลือกทุน เราก็เลือกไปทั้งทุน ทอ และทุนส่วนตัว
ลองถามพี่ที่เค้าอยู่ตอนไปรายงานตัว เค้าบอกว่า เป็นเพราะ ผลคะแนนของหนูที่ยื่นเข้าไป
ซึ่งหนูก็คิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นแน่ ๆ เพราะ ว่าคะแนนหนูอ่ะ สูงกว่าเพื่อนที่ติดทุน ทอ นะ
แกท 257 แพท2 153 โอเน็ตเฉลี่ย8วิชา 60+
ถ้าลองยื่นคะแนนแอดพยาบาล ก็จะได้ 22,718.2
แล้วเมื่อวานนี้ หนูกับเพื่อน ไปรายงานตัว
รับเอกสารการทำสัญญามา
แล้วก็มานั่งคุยกันว่า จะเอากันดีมั๊ย
เพื่อนทุน ทอ เค้าเอาแน่ ๆ (เค้าไม่ได้ชอบพยาบาลหรอก แต่งานมั่นคง จบมาได้ยศ)
ส่วนหนู ใจไปครุศาสตร์ หมดแล้ว
(ยิ่งรู้ว่าไม่ได้ทุนกองทัพ เลยรู้สึกค่อยโล่งอกหน่อย)
ส่วนเพื่อนอีกคนนึง ที่เป็นทุนส่วนตัว ก็กำลังอยู่ในช่วงสองจิตสองใจ
เหตุทำให้หนูอยากระบายอารมณ์ มันก็เริ่มต่อจากนี้
ตอนขับรถกลับจากกรุงเทพถึงจังหวัดที่หนูอยู่
(หนูกลับกะเพื่อนทุนส่วนตัวแล้วก็พ่อแม่เพื่อนทุน ทอ)
พ่อแม่เพื่อนทุน ทอ เค้าก็เริ่มพูด ให้เราเห็นข้อดีของพยาบาลทหารอากาศ และข้อเสียของครู
"พยาบาลทหารอากาศ แม้จะเป็นทุนส่วนตัว แต่ตอนจบมาก็มีงานรองรับ
และถ้าทำงานที่ภูมิพล ไม่กี่ปีก็ได้ติดยศ
ทีนี้แหละ เราจะเลื่อนระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ
งานก็ไม่หนัก อีกหน่อยก็สบาย พอมียศทำงานไป ก็ได้เลื่อนยศไปเรื่อย ๆ
ถ้าหนูไม่ชอบดูแลคนไข้ ก็ทำเรื่องย้ายเข้ากรม ยศสูง ๆ เข้า ก็เซ็นต์เอกสารอย่างเดียว
งานมันไม่หนักเหมือนที่โรงบาลต่างจังหวัดอย่างนั้นหรอก คนละระดับกัน
เรามียศเทียบเท่าร้อยตรีเลยนะ
เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหา เข้าเวร เฝ้าคนไข้ แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้ รึไปทำด้านอื่น ๆ"
"หนูไม่ได้ทุน ทอ เหมือนเพื่อน แต่เดี๋ยวเค้าก็ติดยศให้ เอาไปเหอะ ดีกว่าไปเรียนตามมหาลัย ต้องหางานเอง ที่นี่เค้ามีงานมารออยู่แล้ว
เห็นมั๊ยล่ะ เค้าสอบได้ใบประกอบวิชาชีพอันดับ1ของประเทศเลยนะ ดีกว่าศิริราชรึรามาอีก
เอาไปเหอะลูก มียศมีตำแหน่ง พ่อแม่จะได้สบาย ดูชุดที่พี่เค้าใส่สิ ดูดีใช่มั๊ยล่ะ
หนูไปเรียนมหาลัยเงี๊ย ที่ไหน ๆ ชุดก็คล้าย ๆ กัน ลองคิดดูสิ
เดินมาด้วยกันนะ ชุดเครื่องแบบกะชุดนักศึกษา เค้ามองชุดเครื่องแบบก่อนอยู่แล้ว
มียศ ตำแหน่งสูง ๆ นะ เดี๋ยวอีกหน่อยมีลูกมีหลาน เราจะได้ให้เข้าทำงานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย
แล้วยิ่งหนูเรียนทุนส่วนตัวนะ โอกาสไปเรียนต่อโน่นนี่ก็มีเยอะกว่าทุน ทอ ด้วย จะไปเรียนหมอก็ได้
เพราะพื้นฐานมันก็คล้าย ๆ กัน เราไม่ได้จะเป็นพยาบาลไปตลอดนี่ลูก
และถ้าหนูอยากมีงานที่เงินเยอะ ๆ นะ ก็ไปทำเอกชนก็ได้ เค้ามารอรับเราอยู่แล้ว"
"ส่วนครูนะลูก ปีนึง ๆ จบมาตั้งเท่าไหร่
ไหนจะสอบบรรจุแข่งขันกันอีก หนูคิดว่าหนูเก่งที่ได้ ฬ
แต่มันก็มีเก่ง ๆ ของปีที่ผ่านมารอสอบบรรจุกันอีกเยอะ "
"แต่อย่าง (เพื่อนที่ติดทุน) เนี่ย ไม่ฝากไง เรามีความสามารถ แล้วมันก็ทำให้เราภูมิใจ"
"ถึงหนูจะไม่ติดทุน แต่ก็ให้ภูมิใจนะลูก เราเก่งแล้ว เค้ามีคะแนนช่วยกันตั้งเท่าไหร่ แต่เรายังติดอ่ะ เป็นอันดับต้น ๆ ของทุนส่วนตัวด้วย แสดงว่าเค้าต้องเห็นคะแนนเรา เห็นว่าเรามีความสามารถ"
"เอาไปเหอะลูก อนาคตอ่ะ เรามีงานแน่ ๆ
จะบอกให้นะ หลานของ...นะ จบครู มาตั้งนานแล้ว ป่านนี้ยังไม่ได้บรรจุเลย
เด็กสมัยนี้ก็ไม่ใช่ดี ๆ เรียนเก่งอย่างพวกหนูไง พวกที่มันเรียนแย่ ๆ บางทีก็ทำให้เราเหนื่อยใจ"
"แล้วอีกหน่อยเปิดอาเซียน เป็นพยาบาลก็ไปทำงานที่อื่นได้
ตรงกันข้ามกับครู ทุกวันนี้จบมาเป็นครูตั้งเท่าไหร่
ราชฏัชอย่างเงี๊ย เต็มไปหมด"
"พยาบาลนะลูก ดีแล้ว ได้ติดยศด้วย
ทุกวันนี้เภสัชยังเกลื่อนเลย เปิดร้านขายยากันไม่รู้ตั้งกี่ร้านต่อกี่ร้าน
พยาบาลน่ะลูก ยังไงก็ไม่ต้องตกงาน และไม่ต้องกลัว เค้าไม่ให้หนูไปแบกหามคนไข้แบบต่างจังหวัดหรอก เดี๋ยวเราก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าอะไรแบบนั้น"
"อย่างหนูเนี่ย เรียนครู 5 ปี ส่วนพยาบาลเนี่ย เรียนแค่ 4 ปี
เพื่อนจบ ทำงานก่อนหนูได้ไปเป็นแสนเเล้ว เริ่มงานไว ก็ไปได้ไกลกว่า
หนูจบมา ยังต้องไปวิ่งหางานอีก จบมายังไม่มีงานก็ต้องขอเงินพ่อแม่
แต่พยาบาลเนี่ย จบมาได้งานเลย มีเงินคืนที่พ่อแม่ส่งเราแล้ว"
"แล้วไปอยู่ ฬ หนูต้องทำใจเรื่องสังคม เลยนะลูก
สังคมที่นู่นเค้าสูงจริง ต้องมีแบรนด์ น่ะ ถึงจะอยู่ได้
เค้าต้องแข่งขันกัน
เราจะไปอยู่แบบนั้นได้เหรอ
ไหนจะเรื่องการเดินทางอีก อะไรอีก
ที่นี่เค้าก็มีหออยู่ข้างในเลยไม่ต้องขึ้นรถขึ้นราให้อันตราย
ไหนจะต้องระวังพวกเด็กตีกันอีก อันตรายจะตาย"
"ที่นี่ดีนะลูก อาหารอะไรเค้าก็เตรียมพร้อม ชุดเครื่องแบบเค้าก็มีคนทำให้
พอหนูใส่ชุดกลับบ้านน่ะนะ จะมีแต่คนเค้ามอง เค้าชื่นชมกัน"
"อยู่ที่นี่อ่ะ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้กลับบ้านเลย เสาร์อาทิตย์เค้าก็ให้กลับได้ เนี่ย ใกล้ ๆ บ้าน อยากกลับก็กลับได้
ไม่ต้องไปอยู่ข้างใน รถติดอีกต่างหาก "
"ที่พูดเนี่ย ก็หวังดี ให้หนูไว้คิดเองนะลูก อนาคตเราเลือกดีๆ
เดี๋ยวนี้ เลือกที่เราชอบอย่างเดียวไม่ได้แล้ว
ต้องดูงานด้วย ทางไปต่อด้วยว่ามันจะเป็นยังไง มั่นคงขนาดไหน"
"อยากให้หนูคิดดี ๆ นะ อนาคตเรา
ตอนนั้น จะได้ไม่เสียใจ ว่า เอ๊ะ ขนาดโอกาสมาถึงมือเราแล้วไม่คว้าไว้"
ตอนอยู่บนรถ หนูได้แต่ยิ้มรับ
แต่ในใจ
เป็นครูมันแย่ขนาดนั้นแลยเหรอ
มันก็จริง เรื่องงาน เรื่องบรรจุ
แต่เราก็มั่นใจในประสิทธิภาพของเรานะ ว่าเราจะสามารถหางานดี ๆ ทำได้
สังคม ฬ บางกลุ่ม มันก็ไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไป
ที่หนูเล่ามาอาจจะมีตกหล่นไปบ้าง เพราะอาจจะจำได้ไม่หมด
แต่พอหนูกลับถึงาบ้าน
รู้สึก เฟลกับ อาชีพ ครู สุด ๆ
แบบ คิดว่า เฮ้ย นี่เราเลือกถูกแล้วใช่มั๊ย จะตกงานมั๊ยเนี่ย เปิดอาเซียนเราจะไปทำงานที่ไหน ถ้าเพื่อนเค้ามีงานแล้ว แต่เรายังตกงานอยู่ล่ะ
(คือพ่อของเพื่อนทำอาชีพครูด้วยไง เลยยิ่งทำให้หนูยิ่งเฟลเข้าไปใหญ่)
หนูลองเปิดดูไอ้ที่ ๆ มีคนเคยตอบ เกี่ยวกับการเรียนพยาบาลโดยไม่ชอบ
เค้าก็บอกว่า ตอนแรกเรียนไปก็ไม่ชอบ แต่พอขึ้นปีสอง ปีสาม ก็ปรับตัวได้
ใช้เวลาทำใจอยู่นาน กว่าจะกลับมาสู่ความจริงที่ว่า "เฮ้ย เราชอบครูนะ แล้วก็ไม่ได้ชอบพยาบาลแน่ๆ"
ได้ทำตามความฝันของตนเอง
มันอาจจะลำบากก็จริง แต่ถ้าเรารักอ่ะ มันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ
เราก็เข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่นะ ว่าเค้าอยากให้เรามีงานที่ดี มีอนาคตที่มั่นคง
แต่มันเหมือนฝืนใจตนเองชอบกล
หนูยังเด็ก
หนูยังคิดอะไรตื้น ๆ รึเปล่าคะ
หนูคิดถูกไหมคะ ที่เลือกครู เลือกที่ชอบ (แล้วถ้าตกงานล่ะ?)
ถ้าถามว่าหนูจะปรับตัวเรียนพยาบาลได้มั๊ย
หนูก็คิดว่าคงทำได้น่ะค่ะ (แม้จะฝืนก็ตาม)
หนูลองปรึกษาพ่อแม่ เค้าก็บอกว่าให้เราเลือกที่ชอบ ซึ่งหนูก็เข้าใจว่าท่านอยากให้เราตัดสินใจเอง
แต่ก็อยากได้เหตุผลที่ดีกว่าคำว่าชอบ
(แบบคำพูดที่พ่อแม่เพื่อนเค้าพูดมา หนูเถียงเค้าไม่ออกเลย)
หนูอยากจะรู้จริง ๆ มาหนูทำถูกแล้วใช่มั๊ย ที่เลือกครู
[กระทู้ระบายอารมณ์] ครู vs พยาบาลทหาร (เป็นครูมันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ?)
ในขณะเดียวกัน ก็ติดพยาบาลทหารอากาศ
บางคนอาจจะคิดว่า พยาบาลกะครู มันคนละแนวกัน
ใช่ค่ะ มันคนละแนวกัน แต่ที่หนูสมัครพยาบาลเพราะมันมียศให้ (ตามความต้องการของแม่)
ใจจริงของหนู จะเอาครูแน่ๆ แต่ไปสอบให้แม่ เป็นความภูมิใจเล็กๆ
ผลสัมภาษณ์ออกมา ปรากฏว่า ติด แต่ เป็นทุนส่วนตัว
แล้วก็มีดอกจัน ว่าเราไม่สามารถเลื่อนขึ้นเพื่อรับทุนกองทัพได้
เราสงสัยเหมือนกันนะ ว่าเพราะอะไร
มีใครรู้เหตุผลบ้างมั๊ยคะ?
ตอนเลือกทุน เราก็เลือกไปทั้งทุน ทอ และทุนส่วนตัว
ลองถามพี่ที่เค้าอยู่ตอนไปรายงานตัว เค้าบอกว่า เป็นเพราะ ผลคะแนนของหนูที่ยื่นเข้าไป
ซึ่งหนูก็คิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นแน่ ๆ เพราะ ว่าคะแนนหนูอ่ะ สูงกว่าเพื่อนที่ติดทุน ทอ นะ
แกท 257 แพท2 153 โอเน็ตเฉลี่ย8วิชา 60+
ถ้าลองยื่นคะแนนแอดพยาบาล ก็จะได้ 22,718.2
แล้วเมื่อวานนี้ หนูกับเพื่อน ไปรายงานตัว
รับเอกสารการทำสัญญามา
แล้วก็มานั่งคุยกันว่า จะเอากันดีมั๊ย
เพื่อนทุน ทอ เค้าเอาแน่ ๆ (เค้าไม่ได้ชอบพยาบาลหรอก แต่งานมั่นคง จบมาได้ยศ)
ส่วนหนู ใจไปครุศาสตร์ หมดแล้ว
(ยิ่งรู้ว่าไม่ได้ทุนกองทัพ เลยรู้สึกค่อยโล่งอกหน่อย)
ส่วนเพื่อนอีกคนนึง ที่เป็นทุนส่วนตัว ก็กำลังอยู่ในช่วงสองจิตสองใจ
เหตุทำให้หนูอยากระบายอารมณ์ มันก็เริ่มต่อจากนี้
ตอนขับรถกลับจากกรุงเทพถึงจังหวัดที่หนูอยู่
(หนูกลับกะเพื่อนทุนส่วนตัวแล้วก็พ่อแม่เพื่อนทุน ทอ)
พ่อแม่เพื่อนทุน ทอ เค้าก็เริ่มพูด ให้เราเห็นข้อดีของพยาบาลทหารอากาศ และข้อเสียของครู
"พยาบาลทหารอากาศ แม้จะเป็นทุนส่วนตัว แต่ตอนจบมาก็มีงานรองรับ
และถ้าทำงานที่ภูมิพล ไม่กี่ปีก็ได้ติดยศ
ทีนี้แหละ เราจะเลื่อนระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ
งานก็ไม่หนัก อีกหน่อยก็สบาย พอมียศทำงานไป ก็ได้เลื่อนยศไปเรื่อย ๆ
ถ้าหนูไม่ชอบดูแลคนไข้ ก็ทำเรื่องย้ายเข้ากรม ยศสูง ๆ เข้า ก็เซ็นต์เอกสารอย่างเดียว
งานมันไม่หนักเหมือนที่โรงบาลต่างจังหวัดอย่างนั้นหรอก คนละระดับกัน
เรามียศเทียบเท่าร้อยตรีเลยนะ
เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหา เข้าเวร เฝ้าคนไข้ แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้ รึไปทำด้านอื่น ๆ"
"หนูไม่ได้ทุน ทอ เหมือนเพื่อน แต่เดี๋ยวเค้าก็ติดยศให้ เอาไปเหอะ ดีกว่าไปเรียนตามมหาลัย ต้องหางานเอง ที่นี่เค้ามีงานมารออยู่แล้ว
เห็นมั๊ยล่ะ เค้าสอบได้ใบประกอบวิชาชีพอันดับ1ของประเทศเลยนะ ดีกว่าศิริราชรึรามาอีก
เอาไปเหอะลูก มียศมีตำแหน่ง พ่อแม่จะได้สบาย ดูชุดที่พี่เค้าใส่สิ ดูดีใช่มั๊ยล่ะ
หนูไปเรียนมหาลัยเงี๊ย ที่ไหน ๆ ชุดก็คล้าย ๆ กัน ลองคิดดูสิ
เดินมาด้วยกันนะ ชุดเครื่องแบบกะชุดนักศึกษา เค้ามองชุดเครื่องแบบก่อนอยู่แล้ว
มียศ ตำแหน่งสูง ๆ นะ เดี๋ยวอีกหน่อยมีลูกมีหลาน เราจะได้ให้เข้าทำงานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย
แล้วยิ่งหนูเรียนทุนส่วนตัวนะ โอกาสไปเรียนต่อโน่นนี่ก็มีเยอะกว่าทุน ทอ ด้วย จะไปเรียนหมอก็ได้
เพราะพื้นฐานมันก็คล้าย ๆ กัน เราไม่ได้จะเป็นพยาบาลไปตลอดนี่ลูก
และถ้าหนูอยากมีงานที่เงินเยอะ ๆ นะ ก็ไปทำเอกชนก็ได้ เค้ามารอรับเราอยู่แล้ว"
"ส่วนครูนะลูก ปีนึง ๆ จบมาตั้งเท่าไหร่
ไหนจะสอบบรรจุแข่งขันกันอีก หนูคิดว่าหนูเก่งที่ได้ ฬ
แต่มันก็มีเก่ง ๆ ของปีที่ผ่านมารอสอบบรรจุกันอีกเยอะ "
"แต่อย่าง (เพื่อนที่ติดทุน) เนี่ย ไม่ฝากไง เรามีความสามารถ แล้วมันก็ทำให้เราภูมิใจ"
"ถึงหนูจะไม่ติดทุน แต่ก็ให้ภูมิใจนะลูก เราเก่งแล้ว เค้ามีคะแนนช่วยกันตั้งเท่าไหร่ แต่เรายังติดอ่ะ เป็นอันดับต้น ๆ ของทุนส่วนตัวด้วย แสดงว่าเค้าต้องเห็นคะแนนเรา เห็นว่าเรามีความสามารถ"
"เอาไปเหอะลูก อนาคตอ่ะ เรามีงานแน่ ๆ
จะบอกให้นะ หลานของ...นะ จบครู มาตั้งนานแล้ว ป่านนี้ยังไม่ได้บรรจุเลย
เด็กสมัยนี้ก็ไม่ใช่ดี ๆ เรียนเก่งอย่างพวกหนูไง พวกที่มันเรียนแย่ ๆ บางทีก็ทำให้เราเหนื่อยใจ"
"แล้วอีกหน่อยเปิดอาเซียน เป็นพยาบาลก็ไปทำงานที่อื่นได้
ตรงกันข้ามกับครู ทุกวันนี้จบมาเป็นครูตั้งเท่าไหร่
ราชฏัชอย่างเงี๊ย เต็มไปหมด"
"พยาบาลนะลูก ดีแล้ว ได้ติดยศด้วย
ทุกวันนี้เภสัชยังเกลื่อนเลย เปิดร้านขายยากันไม่รู้ตั้งกี่ร้านต่อกี่ร้าน
พยาบาลน่ะลูก ยังไงก็ไม่ต้องตกงาน และไม่ต้องกลัว เค้าไม่ให้หนูไปแบกหามคนไข้แบบต่างจังหวัดหรอก เดี๋ยวเราก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าอะไรแบบนั้น"
"อย่างหนูเนี่ย เรียนครู 5 ปี ส่วนพยาบาลเนี่ย เรียนแค่ 4 ปี
เพื่อนจบ ทำงานก่อนหนูได้ไปเป็นแสนเเล้ว เริ่มงานไว ก็ไปได้ไกลกว่า
หนูจบมา ยังต้องไปวิ่งหางานอีก จบมายังไม่มีงานก็ต้องขอเงินพ่อแม่
แต่พยาบาลเนี่ย จบมาได้งานเลย มีเงินคืนที่พ่อแม่ส่งเราแล้ว"
"แล้วไปอยู่ ฬ หนูต้องทำใจเรื่องสังคม เลยนะลูก
สังคมที่นู่นเค้าสูงจริง ต้องมีแบรนด์ น่ะ ถึงจะอยู่ได้
เค้าต้องแข่งขันกัน
เราจะไปอยู่แบบนั้นได้เหรอ
ไหนจะเรื่องการเดินทางอีก อะไรอีก
ที่นี่เค้าก็มีหออยู่ข้างในเลยไม่ต้องขึ้นรถขึ้นราให้อันตราย
ไหนจะต้องระวังพวกเด็กตีกันอีก อันตรายจะตาย"
"ที่นี่ดีนะลูก อาหารอะไรเค้าก็เตรียมพร้อม ชุดเครื่องแบบเค้าก็มีคนทำให้
พอหนูใส่ชุดกลับบ้านน่ะนะ จะมีแต่คนเค้ามอง เค้าชื่นชมกัน"
"อยู่ที่นี่อ่ะ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้กลับบ้านเลย เสาร์อาทิตย์เค้าก็ให้กลับได้ เนี่ย ใกล้ ๆ บ้าน อยากกลับก็กลับได้
ไม่ต้องไปอยู่ข้างใน รถติดอีกต่างหาก "
"ที่พูดเนี่ย ก็หวังดี ให้หนูไว้คิดเองนะลูก อนาคตเราเลือกดีๆ
เดี๋ยวนี้ เลือกที่เราชอบอย่างเดียวไม่ได้แล้ว
ต้องดูงานด้วย ทางไปต่อด้วยว่ามันจะเป็นยังไง มั่นคงขนาดไหน"
"อยากให้หนูคิดดี ๆ นะ อนาคตเรา
ตอนนั้น จะได้ไม่เสียใจ ว่า เอ๊ะ ขนาดโอกาสมาถึงมือเราแล้วไม่คว้าไว้"
ตอนอยู่บนรถ หนูได้แต่ยิ้มรับ
แต่ในใจ
เป็นครูมันแย่ขนาดนั้นแลยเหรอ
มันก็จริง เรื่องงาน เรื่องบรรจุ
แต่เราก็มั่นใจในประสิทธิภาพของเรานะ ว่าเราจะสามารถหางานดี ๆ ทำได้
สังคม ฬ บางกลุ่ม มันก็ไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไป
ที่หนูเล่ามาอาจจะมีตกหล่นไปบ้าง เพราะอาจจะจำได้ไม่หมด
แต่พอหนูกลับถึงาบ้าน
รู้สึก เฟลกับ อาชีพ ครู สุด ๆ
แบบ คิดว่า เฮ้ย นี่เราเลือกถูกแล้วใช่มั๊ย จะตกงานมั๊ยเนี่ย เปิดอาเซียนเราจะไปทำงานที่ไหน ถ้าเพื่อนเค้ามีงานแล้ว แต่เรายังตกงานอยู่ล่ะ
(คือพ่อของเพื่อนทำอาชีพครูด้วยไง เลยยิ่งทำให้หนูยิ่งเฟลเข้าไปใหญ่)
หนูลองเปิดดูไอ้ที่ ๆ มีคนเคยตอบ เกี่ยวกับการเรียนพยาบาลโดยไม่ชอบ
เค้าก็บอกว่า ตอนแรกเรียนไปก็ไม่ชอบ แต่พอขึ้นปีสอง ปีสาม ก็ปรับตัวได้
ใช้เวลาทำใจอยู่นาน กว่าจะกลับมาสู่ความจริงที่ว่า "เฮ้ย เราชอบครูนะ แล้วก็ไม่ได้ชอบพยาบาลแน่ๆ"
ได้ทำตามความฝันของตนเอง
มันอาจจะลำบากก็จริง แต่ถ้าเรารักอ่ะ มันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ
เราก็เข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่นะ ว่าเค้าอยากให้เรามีงานที่ดี มีอนาคตที่มั่นคง
แต่มันเหมือนฝืนใจตนเองชอบกล
หนูยังเด็ก
หนูยังคิดอะไรตื้น ๆ รึเปล่าคะ
หนูคิดถูกไหมคะ ที่เลือกครู เลือกที่ชอบ (แล้วถ้าตกงานล่ะ?)
ถ้าถามว่าหนูจะปรับตัวเรียนพยาบาลได้มั๊ย
หนูก็คิดว่าคงทำได้น่ะค่ะ (แม้จะฝืนก็ตาม)
หนูลองปรึกษาพ่อแม่ เค้าก็บอกว่าให้เราเลือกที่ชอบ ซึ่งหนูก็เข้าใจว่าท่านอยากให้เราตัดสินใจเอง
แต่ก็อยากได้เหตุผลที่ดีกว่าคำว่าชอบ
(แบบคำพูดที่พ่อแม่เพื่อนเค้าพูดมา หนูเถียงเค้าไม่ออกเลย)
หนูอยากจะรู้จริง ๆ มาหนูทำถูกแล้วใช่มั๊ย ที่เลือกครู