...ผมอายุ60ปีณ.ตอนนี้...ผมปั่นเมื่อ20กว่าปีที่แล้ว ปั่นได้ระยะทางในตนนั้นรวมประมาณเกือบๆ7000km.แล้วผมหยุดไป10กว่าปี มาั่ปั่นใหม่รอบสอง รอบสองนี้ปั่นได้รวมประมาณ2500km.แล้วผมก็หยุดไปอีก10กว่าปีอีกที และในทุกๆปีผมก็เช็คร่างกายประจำปีก็ปกติมาทุกปี....แต่มาเมื่อต้นปีนี้ผมไปเช็คร่างกายมาก็ปรากฏว่าไขมันเกินไป20กว่าๆและLDLก็เกินไป30กว่าๆ...น้ำหนักผม.ณ.วันที่14กพ56 72kg สูง 169cm.(ในตอนนี้เหลือหนัก69kgครับ)ผมจึงมาปั่นใหม่อีกเป็นรอบสามเมื่อตอนกลางเดือนกุมภาพันธ์2556ที่ผ่านมานี้ ปกติก่อนหน้านี้ผมจะนอนดึกมากดึกจนตีสองตีสามก็บ่อย...แต่ตอนนี้ผมนอนสามทุ่มกว่าไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง...ผมตั้งปลุกเวลา04.40..ออกมาปั่นในเวลา 05.00..ทุกวันถ้าฝนไม่ตกหรือไม่มีธุระที่ต้องไปไหนในตอนเช้าๆ วันละ50km.กว่าๆทุกวันครับ ใช้เวลาสองชั่วโมงสิบถึงสิบห้านาที แต่ถ้าดูเวลาที่ไมล์จักรยานก็ใช้เวลาไปสองชั่วถึงสองชั่วโมงห้านาทีครับ....(รอบนี้ระยะทางรวมปั่นได้2700กว่าkm.แล้วครับ).......สำหรับนักปั่นมือใหม่ครับ.....เพราะถ้าปั่นแล้ว ไม่ปวดแขนปวดไหล่ก็แสดงว่าระยะห่างของแฮนด์ที่จับกับระยะของเบาะนั่งก็ถูกต้องแล้วครับ.....ความยาวของคอแฮนด์ต้องพอดี..
.....ถ้าปั่นแล้ว..ไม่ปวดขาปวดน่องก็แสดว่าระยะของขาสุดของที่เหยียบปั่นกับเบาะที่นั่งก็ถูกต้องแล้วครับ...ความสูงต้องไม่ต่ำเกินและสูงเกิน.
.....ที่สำคัญก็คือการปรับก็คือเบาะที่นั่งการ การปรับที่ไม่เหมาะสมทำให้ผู้ชายหลายคนไม่กล้าที่จะปั่นจักรยานการ"ปรับก้มและเงย"มีส่วนสำคัญที่ชาวจักรยานผู้ชายชอบพูดกันว่า"ขี่รถถีบแล้วไข่ตาย" ลองปรับหาตำแหน่งดูสิครับ (ไม่น่าจะเกี่ยวกับการไปหน้าหรือถอยหลังของเบาะครับ)...
.....แต่ที่นี้สำหรับนักปั่นทุกคนครับรถจักรยานของเรา..ถ้าเราปรับจนได้ที่ทุกส่วนแล้วละก็อย่าให้ใครยืมไปขี่แล้วเขาเอาไปปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเขา เวลาเอากลับมากว่าจะปรับให้ได้เหมือนเดิมนี้ยากมากๆ....เพราะการปรับแต่ละครั้งปรับเสร็จต้องปั่นทุกวันวันละไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงเป็นเวลา5-7วันถึงจะรู้ว่าที่เราปรับไปนั้นยังส่งผลที่ทำให้เกิดอาการต่างๆของตัวเราอีกหรือเปล่า.....
.....คนที่คิดจะปั่นหลายๆคนที่เคยลองปั่นส่วนมากจะเจอก็คือ...."ปั่นแล้วมีอาการชาบริเวณรังไข่ใต้อวัยวะเพศ"...หลายคนที่เลิกปั่นไปก็เพราะอาการนี้.....ตรงนี้นั้นอยู่ที่การปรับการก้มหรือเงยของเบาะมากกว่าครับ....ส่วนมากจะเจออาการนี้เกือบทุกคนครับ....เมื่อตอนเริ่มปั่นใหม่ๆผมก็เป็นนะ..
.........น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย..สำหรับนักปั่นจักรยานมือใหม่ครับ...........
.....ถ้าปั่นแล้ว..ไม่ปวดขาปวดน่องก็แสดว่าระยะของขาสุดของที่เหยียบปั่นกับเบาะที่นั่งก็ถูกต้องแล้วครับ...ความสูงต้องไม่ต่ำเกินและสูงเกิน.
.....ที่สำคัญก็คือการปรับก็คือเบาะที่นั่งการ การปรับที่ไม่เหมาะสมทำให้ผู้ชายหลายคนไม่กล้าที่จะปั่นจักรยานการ"ปรับก้มและเงย"มีส่วนสำคัญที่ชาวจักรยานผู้ชายชอบพูดกันว่า"ขี่รถถีบแล้วไข่ตาย" ลองปรับหาตำแหน่งดูสิครับ (ไม่น่าจะเกี่ยวกับการไปหน้าหรือถอยหลังของเบาะครับ)...
.....แต่ที่นี้สำหรับนักปั่นทุกคนครับรถจักรยานของเรา..ถ้าเราปรับจนได้ที่ทุกส่วนแล้วละก็อย่าให้ใครยืมไปขี่แล้วเขาเอาไปปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเขา เวลาเอากลับมากว่าจะปรับให้ได้เหมือนเดิมนี้ยากมากๆ....เพราะการปรับแต่ละครั้งปรับเสร็จต้องปั่นทุกวันวันละไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงเป็นเวลา5-7วันถึงจะรู้ว่าที่เราปรับไปนั้นยังส่งผลที่ทำให้เกิดอาการต่างๆของตัวเราอีกหรือเปล่า.....
.....คนที่คิดจะปั่นหลายๆคนที่เคยลองปั่นส่วนมากจะเจอก็คือ...."ปั่นแล้วมีอาการชาบริเวณรังไข่ใต้อวัยวะเพศ"...หลายคนที่เลิกปั่นไปก็เพราะอาการนี้.....ตรงนี้นั้นอยู่ที่การปรับการก้มหรือเงยของเบาะมากกว่าครับ....ส่วนมากจะเจออาการนี้เกือบทุกคนครับ....เมื่อตอนเริ่มปั่นใหม่ๆผมก็เป็นนะ..