(ถ้าไม่อยากอ่านรายละเอืยดยาว ก็เลื่อนไปอ่านสรุปบรรทัดสุดท้ายได้เลยนะครับ)
คือเมื่อหลายเดือนก่อน ข้างบ้านเคยมาขอพ่วงใช้ไฟฟ้า โดยเค้าติดตั้งมิเตอร์ไฟที่บ้านเค้า แล้วจะจ่ายให้ผมเท่ากับจำนวนยูนิตที่เค้าใช้ในแต่ละเดือน
แต่ที่ผ่านมา เฉพาะเดือนแรกที่เค้าจ่ายตามมิเตอร์ โดยเค้าเป็นคนดูมิเตอร์ของเค้าเอง และมาบอกผมว่าใช้ไฟไปเท่านี้นะ (เกือบร้อยยูนิต) และจ่ายให้ผมยูนิตละ 5 บาท ก็จ่ายมาประมาณเกือบ 500 บ.
หลังจากนั้น ผมก็เรียกเก็บแบบง่ายๆ ประมาณเดือนละ 500 บ. แล้วพอเห็นบิลค่าไฟฟ้าบ้านผมมันแพงกว่าที่เคยจ่ายมากกว่านัั้นเยอะ ก็ขอเพิ่มเป็น 600/ด. แต่จริงๆ ค่าไฟมันแพงกว่านั้นมาตลอดทุกเดือน แต่ผมก็คิดว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ก็ช่วยเหลือกัน ก็ไม่ได้เก็บเพิ่มอะไร
แต่ตอนหลังค่าไฟมันชักเยอะขึ้นทุกทีๆ ประกอบกับตอนหลังมีปัญหากัน ผมก็เลยไม่เอาแล้ว ก็ให้เค้าดึงสายออกไปเมื่อต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ไปดูว่าเค้าดึงสายออกจริงหรือเปล่า เพราะเค้าดึงออกตอนช่วงที่ผมไปทำงาน และผมมาดูๆ เอง ก็ดูไม่รู้เรื่องว่าเค้าดึงออกไปจริงหรือเปล่า เพราะผมก็ยังเห็นสายไฟมันก็ยังโยงไปจากต้นเสาไฟฟ้าหน้าบ้านผมโยงไปที่บ้านเค้าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ไม่รู้ว่าเค้าไปขอใช้ไฟจากบ้านติดกับผมหรือเปล่า เพราะเรา 2 บ้านใช้ต้นเสาไฟฟ้าต้นเดียวกัน และสายไฟที่โยงไปบ้านเค้าก็โยงซะสูงมากๆ ผมปีนขึ้นไปไม่ไหว และข้างบนเสาไฟฟ้าก็มีสายไฟอื่นพันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ผมเองก็ดูไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้
แต่ปรากฎว่า พอบิลค่าไฟเดือนนี้มา ทำไมมันกลับพุ่งสูงขึ้นไปแบบทำลายสถิติของทุกเดือนทั้งที่ช่วงสงกรานต์ ผมไปต่างจังหวัด 5 วัน กลับมาเย็นวันที่ 17 แต่บิลไฟฟ้าบอกว่ามาจดในวันที่ 17 เม.ย.นั้นแหละ ทั้งที่ผมว่าเดือนนี้ค่าไฟน่าจะถูกลงบ้านถึงแม้จะเป็นเดือนร้อนที่สุดก็ตาม
สรุป คำถามคือผมจะทำไงถึงจะรู้ว่า ข้างบ้านเค้ายังลักลอบพ่วงใช้ไฟฟ้าบ้านผมอยู่หรือเปล่าครับ ต้องจ้างช่างไฟฟ้ามาดูให้ไหมครับ และค่าใช้จ่ายในการจ้างควรจะประมาณเท่าไหร่ครับ
ทำไงถึงจะรู้ได้ว่ามีคนลักลอบพ่วงใช้ไฟฟ้าของที่บ้านหรือเปล่า?
คือเมื่อหลายเดือนก่อน ข้างบ้านเคยมาขอพ่วงใช้ไฟฟ้า โดยเค้าติดตั้งมิเตอร์ไฟที่บ้านเค้า แล้วจะจ่ายให้ผมเท่ากับจำนวนยูนิตที่เค้าใช้ในแต่ละเดือน
แต่ที่ผ่านมา เฉพาะเดือนแรกที่เค้าจ่ายตามมิเตอร์ โดยเค้าเป็นคนดูมิเตอร์ของเค้าเอง และมาบอกผมว่าใช้ไฟไปเท่านี้นะ (เกือบร้อยยูนิต) และจ่ายให้ผมยูนิตละ 5 บาท ก็จ่ายมาประมาณเกือบ 500 บ.
หลังจากนั้น ผมก็เรียกเก็บแบบง่ายๆ ประมาณเดือนละ 500 บ. แล้วพอเห็นบิลค่าไฟฟ้าบ้านผมมันแพงกว่าที่เคยจ่ายมากกว่านัั้นเยอะ ก็ขอเพิ่มเป็น 600/ด. แต่จริงๆ ค่าไฟมันแพงกว่านั้นมาตลอดทุกเดือน แต่ผมก็คิดว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ก็ช่วยเหลือกัน ก็ไม่ได้เก็บเพิ่มอะไร
แต่ตอนหลังค่าไฟมันชักเยอะขึ้นทุกทีๆ ประกอบกับตอนหลังมีปัญหากัน ผมก็เลยไม่เอาแล้ว ก็ให้เค้าดึงสายออกไปเมื่อต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ไปดูว่าเค้าดึงสายออกจริงหรือเปล่า เพราะเค้าดึงออกตอนช่วงที่ผมไปทำงาน และผมมาดูๆ เอง ก็ดูไม่รู้เรื่องว่าเค้าดึงออกไปจริงหรือเปล่า เพราะผมก็ยังเห็นสายไฟมันก็ยังโยงไปจากต้นเสาไฟฟ้าหน้าบ้านผมโยงไปที่บ้านเค้าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ไม่รู้ว่าเค้าไปขอใช้ไฟจากบ้านติดกับผมหรือเปล่า เพราะเรา 2 บ้านใช้ต้นเสาไฟฟ้าต้นเดียวกัน และสายไฟที่โยงไปบ้านเค้าก็โยงซะสูงมากๆ ผมปีนขึ้นไปไม่ไหว และข้างบนเสาไฟฟ้าก็มีสายไฟอื่นพันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ผมเองก็ดูไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้
แต่ปรากฎว่า พอบิลค่าไฟเดือนนี้มา ทำไมมันกลับพุ่งสูงขึ้นไปแบบทำลายสถิติของทุกเดือนทั้งที่ช่วงสงกรานต์ ผมไปต่างจังหวัด 5 วัน กลับมาเย็นวันที่ 17 แต่บิลไฟฟ้าบอกว่ามาจดในวันที่ 17 เม.ย.นั้นแหละ ทั้งที่ผมว่าเดือนนี้ค่าไฟน่าจะถูกลงบ้านถึงแม้จะเป็นเดือนร้อนที่สุดก็ตาม
สรุป คำถามคือผมจะทำไงถึงจะรู้ว่า ข้างบ้านเค้ายังลักลอบพ่วงใช้ไฟฟ้าบ้านผมอยู่หรือเปล่าครับ ต้องจ้างช่างไฟฟ้ามาดูให้ไหมครับ และค่าใช้จ่ายในการจ้างควรจะประมาณเท่าไหร่ครับ