คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เคยเป็นค่ะ
แต่ก่อนเคยบ้า mp3 หูฟัง พักหนึ่ง พอนานๆ ก็เบื่อ
แล้วก็เปลี่ยนมาบ้า ซื้อ เครื่องสำอาง หมดไปเยอะ หลังๆ ทาไป ก็งั้นๆ ถูกแพงไม่แตกต่าง
สักพักหันมาบ้า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า พอมันเริ่มเยอะ สุดท้ายก็ใส่จริงแค่ไม่กี่ตัว บางตัวซื้อมาใส่ครั้งเดียวก็เบื่อ
จนตอนนี้ หันมาบ้าลงทุนกับกองทุน เข้าห้องสินธรบ่อยๆ แล้วจะ รู้สึก งก ขึ้นเยอะ 555+ เลิกบ้าซื้อของไปโดยปริยาย
แต่ก่อนเคยบ้า mp3 หูฟัง พักหนึ่ง พอนานๆ ก็เบื่อ
แล้วก็เปลี่ยนมาบ้า ซื้อ เครื่องสำอาง หมดไปเยอะ หลังๆ ทาไป ก็งั้นๆ ถูกแพงไม่แตกต่าง
สักพักหันมาบ้า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า พอมันเริ่มเยอะ สุดท้ายก็ใส่จริงแค่ไม่กี่ตัว บางตัวซื้อมาใส่ครั้งเดียวก็เบื่อ
จนตอนนี้ หันมาบ้าลงทุนกับกองทุน เข้าห้องสินธรบ่อยๆ แล้วจะ รู้สึก งก ขึ้นเยอะ 555+ เลิกบ้าซื้อของไปโดยปริยาย
แสดงความคิดเห็น
ผมว่าผมกำลังเป็นโรค shopaholic บำบัดยังไงดีครับ?
หมดเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และของ IT gadget ไปมากมาย
รู้ตัวว่าไม่ไหวแล้วถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็หยุดตัวเองไม่ได้
เห็นของถูกใจก็อยากจะซื้อมาเสียให้ได้ ภายในสองเดือนที่ผ่านมา
ผมหมดเงินไปเกือบ 2 แสนบาท กับของไร้สาระ แถมเป็นการใช้เงินแบบไม่รู้ตัวด้วย
คือมารู้ตัวตอนมานั่งๆ ดู statement ตัวเอง ตกใจ! เงินหายไปเกือบสองแสน
เช็คๆ ดูทุกรายการมันก็เป็นที่เราจ่ายไปจริง ไม่ใช่ระบบผิดพลาด
เป็นการใช้ยอดเล็กๆ หลายๆ ยอด คือตอนเอาออกไปใช้มันก็แค่ 5,000 - 10,000
มันเลยไม่ทันระวังตัว พอมาเช็คดูอีกทีเงินในบัญชีหายไปอย่างน่าตกใจ
กับของล่าสุด....ชุดลำโพงมูลค่าหมื่นนิดๆ ไปถูกใจตอนเดินในห้าง IT
จุดประสงค์ตอนแรกที่ไปเดิน ไม่ได้ไปเพื่อลำโพงนั่นหรอก คือจะไปซื้อของอย่างอื่น
แต่ไปเห็นเจ้านี่เข้า ตอนแรกก็บอกกับตัวเองแล้วว่า "เราจะไม่ซื้อๆ"
พอได้ของที่วางจุดประสงค์ไว้ตอนแรกเสร็จ ก็บังคับใจเดินกลับมาที่รถแล้ว
แต่แฟนดันโทรมาบอกฝากซื้อของด้วยอีกอย่าง เลยต้องเดินกลับเข้าไปใหม่
..... สุดท้ายก็ไปส่อยมันมาจนได้
ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมช่วงหลังๆ มานี้ถึงได้เอานิสัยแบบนี้มาใช้
ยังดีที่เงินที่จ่ายไปมันไม่ใช่เงินที่ก่อหนี้ คือ เป็นเงินสดที่ออมไว้ + รายได้อื่นๆ
ผมว่าผมคงกำลังเป็นโรค shopaholic แน่ๆ พอมันได้ shop แล้วมันหยุดไม่ได้จริงๆ
กับพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ไม่เท่าไรยังพอยับยั้งใจได้บ้าง แต่กับ IT Gadget นี่
มันสุดจะอดใจไหว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ไหวแน่ๆ .... ผมควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีครับ?
ใครเคยตกอยู่ในอาการแบบนี้บ้างมีวิธีบำบัดตัวเองอย่างไรบ้างครับ?