พี่รัล วันนั้นพี่รัลบอกริมเองไม่ใช่หรอ ว่า ให้รับๆไปก่อน ริมเป็นคนเกลียดการรัฐประหาร ริมไม่ชอบทุกอย่างที่มาจากสิ่งนี้ แม้แต่รัฐธรรมนูญ ก็ยังมีคนมาขู่ว่า ถ้าไม่รับรัฐธรรมนูญ ปี 50 ก็อาจมีใครบางคนไปคว้าเอารัฐธรรมนูญปีไหนต่อไหน ก็ไม่รุ มาใช้ นั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ริมเจ็บปวด
ริมเคยรังเกียจที่พี่รัลดูถูกคนไทยส่วนมากของประเทศมาแล้ว พี่รัลเคยบอกว่า มีเงิน หนึ่งหมื่นหกพันล้าน ก็เป็นรัฐบาลได้ พี่รัลดูถูกคนไทยเกินไป นั่นคือสิ่งที่สร้างความน่ารังเกียจให้พี่รัล ยิ่งพอมีรัฐประหาร พี่รัลมีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกากเดนของคมช. พี่รัลไม่รู้สึกอายบ้างหรือที่รับส้มหล่นเน่าๆแบบนั้น
หลังจากมีการปลดลุงหมัก ด้วยข้อหาทำกับข้าวแล้วได้ค่าจ้าง แต่พอถึงทีพี่รัล พี่รัลก็ไปสอนหนังสือเด็ก แต่พี่รัลบอกว่านั่นไม่ใช่ ค่าจ้าง เป็นค่ายกครู พี่รัลคะ มันต่างกันยังไงวะคะพี่ ทำไมตอนที่ริมไปเรียนหนังสือ ครูของริม ก็ไม่เห็นบอกว่า บอกแม่เธอให้มาจ่ายค่ายกครูด้วยนะ มีแต่บอกว่า ให้มาจ่ายค่าเรียนพิเศษ ริมเลยงงว่า พี่รัลเป็นครู หรือ เป็นหมอดูกันแน่คะ ?...อิอิ
มาถึงวันนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญ ริมอยากมาทวงถามพี่รัลค่ะ ว่าที่เคยรับปากไว้ว่า ให้รับๆไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง เมื่อคนเขียนยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะแบบนั้น.. ตอนนี้ ริมอยากแก้แล้วค่ะ พี่รัลจะทำตามสัญญา กับริม และพี่น้องของริมได้หรือยังคะ เพราะวันนั้น บ่องตงนะคะ ริมต้องจำใจรับเพราะริมกลัวว่าจะต้องมากล้ำกลืนฝืนกับรัฐธรรมนูญปีอื่นๆ ที่พี่รัลจะมายัดเยียดให้
ริมอุตส่าห์เสียค่ารถ ค่าเรือ เสียงานเสียการไปรับ รัฐธรรมนูญ ซึ่งริมไม่รัก ไม่ชอบ แบบไม่เต็มใจ แต่หวังว่าสักวันจะแก้ไขได้ อีกอย่างก็เห็นแก่ความเป็นสุภาพบุรุษและความเป็นผู้ใหญ่ของพี่รัล ว่าต้องรักษาเกียรติและศักดิ์ศรี ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้...
แต่ถ้าวันนี้ พี่รัลไม่ทำตามสัญญา ริมจะไม่ให้เกียรติพี่รัลอีกแล้วนะคะ จะโยกโย้ไปไหน ถ้าไม่ทำตามคำพูด พี่รัลอาจเดือดร้อน แล้วพอโดนต่อว่า พี่รัลก็โอดโอยว่า กรรมการโดนไล่ต่อย ตำแหน่งของพี่รัลเป็นตำแหน่งกรรมการก็จริง แต่ดูจากสิ่งที่พี่รัลทำ ริมมองว่า...พี่รัลเหมือนพี่เลี้ยงมากกว่ากรรมการ เมื่อกรรมการมาทำตัวเป็นพี่เลี้ยงลงมารุมฝ่ายตรงข้าม พี่รัลก็อย่าได้โวยวายว่าตัวเป็นกรรมการอยู่เลยค่ะ คงเป็นได้แค่พี่เลี้ยงที่อาจต้องเจ็บตัวด้วยอวัยวะของกองเชียร์อีกฝ่ายนะคะ อิอิ
ก็เคยบอกให้รับๆไปก่อน แล้วค่อยแก้ไง จะเบี้ยวกันหรือไง..ฮึ ?
ริมเคยรังเกียจที่พี่รัลดูถูกคนไทยส่วนมากของประเทศมาแล้ว พี่รัลเคยบอกว่า มีเงิน หนึ่งหมื่นหกพันล้าน ก็เป็นรัฐบาลได้ พี่รัลดูถูกคนไทยเกินไป นั่นคือสิ่งที่สร้างความน่ารังเกียจให้พี่รัล ยิ่งพอมีรัฐประหาร พี่รัลมีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกากเดนของคมช. พี่รัลไม่รู้สึกอายบ้างหรือที่รับส้มหล่นเน่าๆแบบนั้น
หลังจากมีการปลดลุงหมัก ด้วยข้อหาทำกับข้าวแล้วได้ค่าจ้าง แต่พอถึงทีพี่รัล พี่รัลก็ไปสอนหนังสือเด็ก แต่พี่รัลบอกว่านั่นไม่ใช่ ค่าจ้าง เป็นค่ายกครู พี่รัลคะ มันต่างกันยังไงวะคะพี่ ทำไมตอนที่ริมไปเรียนหนังสือ ครูของริม ก็ไม่เห็นบอกว่า บอกแม่เธอให้มาจ่ายค่ายกครูด้วยนะ มีแต่บอกว่า ให้มาจ่ายค่าเรียนพิเศษ ริมเลยงงว่า พี่รัลเป็นครู หรือ เป็นหมอดูกันแน่คะ ?...อิอิ
มาถึงวันนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญ ริมอยากมาทวงถามพี่รัลค่ะ ว่าที่เคยรับปากไว้ว่า ให้รับๆไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง เมื่อคนเขียนยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะแบบนั้น.. ตอนนี้ ริมอยากแก้แล้วค่ะ พี่รัลจะทำตามสัญญา กับริม และพี่น้องของริมได้หรือยังคะ เพราะวันนั้น บ่องตงนะคะ ริมต้องจำใจรับเพราะริมกลัวว่าจะต้องมากล้ำกลืนฝืนกับรัฐธรรมนูญปีอื่นๆ ที่พี่รัลจะมายัดเยียดให้
ริมอุตส่าห์เสียค่ารถ ค่าเรือ เสียงานเสียการไปรับ รัฐธรรมนูญ ซึ่งริมไม่รัก ไม่ชอบ แบบไม่เต็มใจ แต่หวังว่าสักวันจะแก้ไขได้ อีกอย่างก็เห็นแก่ความเป็นสุภาพบุรุษและความเป็นผู้ใหญ่ของพี่รัล ว่าต้องรักษาเกียรติและศักดิ์ศรี ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้...
แต่ถ้าวันนี้ พี่รัลไม่ทำตามสัญญา ริมจะไม่ให้เกียรติพี่รัลอีกแล้วนะคะ จะโยกโย้ไปไหน ถ้าไม่ทำตามคำพูด พี่รัลอาจเดือดร้อน แล้วพอโดนต่อว่า พี่รัลก็โอดโอยว่า กรรมการโดนไล่ต่อย ตำแหน่งของพี่รัลเป็นตำแหน่งกรรมการก็จริง แต่ดูจากสิ่งที่พี่รัลทำ ริมมองว่า...พี่รัลเหมือนพี่เลี้ยงมากกว่ากรรมการ เมื่อกรรมการมาทำตัวเป็นพี่เลี้ยงลงมารุมฝ่ายตรงข้าม พี่รัลก็อย่าได้โวยวายว่าตัวเป็นกรรมการอยู่เลยค่ะ คงเป็นได้แค่พี่เลี้ยงที่อาจต้องเจ็บตัวด้วยอวัยวะของกองเชียร์อีกฝ่ายนะคะ อิอิ