คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเอาตามกลุ่มสหพัฒน์ ก็แล้วแต่นโยบายการลงทุน เพราะเห็นบางแห่งลงเกิน 30% ยังไม่เอารายได้มารวมก็มี
เขาจะบอกว่า ลงทุนเพื่อรับเงินปันผล
1 เมื่อบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วม จะมีวิธีการบันทึกกำไรขาดทุนได้ 2 ทางคือ
หนึ่ง บันทึกแบบวิธีส่วนได้ส่วนเสีย โดยอ้างอิงราคาหุ้นในขณะนั้นๆ สอง บันทึกกำไรขาดทุนจากผลดำเนินงาน ในรายการบัญชีรวม
ถ้าขาดทุนก็มีการบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์การลงทุน
2 หากว่าไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ระดับต้นๆที่กำหนดการควบคุมบริหาร ก็ไม่สามารถบันทึกเป็นรายได้ ได้แต่ทำแบบข้อ 1
รายได้ของบริษัทก็เป็นของบริษัืท ยิ่งส่วนบุคคลด้วยแล้ว ต่อให้ถือล้านหุ้น ก็ไม่นับว่าเป็นรายได้ของเรา
3 เงินปันผลที่นิติบุคคลได้รับนั้น ไม่ต้องเสียภาษีค่ะ เพราะถือว่าได้จ่ายไปแล้วก่อนปันผล มันจะเป็นการเสียซ้ำซ้อน
4 ดิฉันถือหุ้นกลุ่มสหพัฒน์ ถือหุ้นไขว้กันไปมาทุกบริษัท ถือหุ้นร่วมกับบริษัทย่อยของบริษัทในตลาด สิบกว่าตัว
ถือหุ้นในบริษัทย่อยของกลุ่มตัวเองนอกบริษัทอีกราว 200 บริษัท ถือร่วมกับบริษัทต่างชาตินอกตลาดอีกหลายสิบบริษัท
แถมยังถือหุ้นบริษัทอื่นๆที่ listed ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น BBL SCC NMG แล้วยังถือพันธบัตร หุ้นกู้ อีกต่างหาก
ประโยชน์คือ การเอื้อธุรกิจซึ่งหนุนกันและกัน การขยายกิจการในขอบเตที่กว้างออกไปเพื่อกระจายความเสี่ยง
ธุรกิจบางอย่าง จะได้ประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดอัตราภาษี และ อื่นๆเพื่อรักษาฝ่ายบริหารไว้
เขาจะบอกว่า ลงทุนเพื่อรับเงินปันผล
1 เมื่อบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วม จะมีวิธีการบันทึกกำไรขาดทุนได้ 2 ทางคือ
หนึ่ง บันทึกแบบวิธีส่วนได้ส่วนเสีย โดยอ้างอิงราคาหุ้นในขณะนั้นๆ สอง บันทึกกำไรขาดทุนจากผลดำเนินงาน ในรายการบัญชีรวม
ถ้าขาดทุนก็มีการบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์การลงทุน
2 หากว่าไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ระดับต้นๆที่กำหนดการควบคุมบริหาร ก็ไม่สามารถบันทึกเป็นรายได้ ได้แต่ทำแบบข้อ 1
รายได้ของบริษัทก็เป็นของบริษัืท ยิ่งส่วนบุคคลด้วยแล้ว ต่อให้ถือล้านหุ้น ก็ไม่นับว่าเป็นรายได้ของเรา
3 เงินปันผลที่นิติบุคคลได้รับนั้น ไม่ต้องเสียภาษีค่ะ เพราะถือว่าได้จ่ายไปแล้วก่อนปันผล มันจะเป็นการเสียซ้ำซ้อน
4 ดิฉันถือหุ้นกลุ่มสหพัฒน์ ถือหุ้นไขว้กันไปมาทุกบริษัท ถือหุ้นร่วมกับบริษัทย่อยของบริษัทในตลาด สิบกว่าตัว
ถือหุ้นในบริษัทย่อยของกลุ่มตัวเองนอกบริษัทอีกราว 200 บริษัท ถือร่วมกับบริษัทต่างชาตินอกตลาดอีกหลายสิบบริษัท
แถมยังถือหุ้นบริษัทอื่นๆที่ listed ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น BBL SCC NMG แล้วยังถือพันธบัตร หุ้นกู้ อีกต่างหาก
ประโยชน์คือ การเอื้อธุรกิจซึ่งหนุนกันและกัน การขยายกิจการในขอบเตที่กว้างออกไปเพื่อกระจายความเสี่ยง
ธุรกิจบางอย่าง จะได้ประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดอัตราภาษี และ อื่นๆเพื่อรักษาฝ่ายบริหารไว้
แสดงความคิดเห็น
บริษัทที่เข้าไปถือหุ้น จะสามารถรับรู้รายได้ของบริษัทลูกได้เท่าไรครับ
"ภายหลังจากการซื้อหุ้นเพิ่มเติมบริษัทจะถือหุ้นใน TTW รวมทั้งสิ้น 807,650,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 20.24 ของทุนจดทะเบียน
ซึ่งถือว่า TTW เป็นบริษัทร่วม ทาให้บริษัทสามารถบันทึกรับรู้ส่วนแบ่งกาไรใน TTW เป็นรายได้ในงบกำไรขาดทุนรวมของบริษัท
นอกเหนือจากการได้รับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น"
เกิดข้อสงสัยมาครับ ว่า
1. การที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งในตลาดหุ้น เข้าไปถือหุ้น ในบริษัทอีกบริษัทหนึ่ง แล้วจะสามารถบันทึกส่วนแบ่งกำไรเป็นของตัวเองได้นั้น ต้องมีหุ้น
ขั้นต่ำในบริษัทนั้นเท่าไรครับ ตัวอย่างเช่นกรณีนี้ BECL ถือหุ้น TTW เป็นร้อยละ 20.24 จึงสามารถบันทึกกำไรของ TTW มาเป็นของตัวเองได้
2.การรับรู้รายได้ในบริษัทที่เข้าไปถือหุ้นแบบนี้ เค้ามีอัตราไหมครับ ว่า ถ้าถือหุ้นร้อยละเท่านี้จะสามารถบันทึกรับรู้รายได้เท่าไร เอกสารตรงนี้ ผมจะหาได้จากไหนครับ
ท่านผู้รู้ช่วยชี้ทางให้ด้วยครับ ตัวอย่างเช่น ถ้า BECL ถือหุ้นแค่ร้อยละ 15 จะสามารถบันทึกการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ ได้หรือไม่ ถ้าได้ จะรับรู้ร้อยละเท่าไร
3.อันนี้นอกประเด็นนิดนึงนะครับว่า เงินปันผลที่ นิติบุคคลได้รับนั้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ครับ เช่น กรณีนี้ ที่BECL รับเเงินปันผลจาก TTW อย่างถ้าเป็นพวกเรา ก็ต้องเสียภาษีเงินปันผล
ถ้าเป็นนิติบุคคล เค้าต้องเสียภาษีไหมครับ
4. ประโยชน์ของการเข้าไปถือหุ้นกัน ข้ามไปมาระหว่างกันมีอะไรครับ เช่น BECL ถือหุ้น TTW และ CKP ในขณะเดียวกัน TTW ก็ ถือหุ้น CKP ด้วย และถ้าพิจารณามากกว่านั้น CK ก็จะมีการถือหุ้นทั้งสามบริษัทนี้ด้วย ดูมันยุ่งเหยิงมากกครับ
ขอบพระคุณมากครับ