เพียงครึ่งใจ (บทที่ 30) โดย มานัส

กระทู้สนทนา
เพียงครึ่งใจ (บทที่ 30)



งานในแต่ละวันที่ดีซี ไม่พ้นการแนะนำคณะของเมียนมาร์ให้รู้จักเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เครือข่ายของคอนโรเอื้อมถึงแม้กระทั่งรัฐมนตรี หรือแม้แต่รองประธานาธิบดี

ง่าย…ไม่มีปัญหาติดขัด

และเพราะการได้ติดตามบิดาตั้งแต่เด็ก ทำให้อนรรฆ…คล่องทั้งในการพบประชุมในตอนกลางวันและสังค์สรรค์ในงานเลี้ยงตอนกลางคืน

ผมถึงโกรธทั้งคุณและทั้งไมค์ที่คุณจะส่งลูกน้องมาแทน งานแบบนี้คุณควรต้องมาเอง” คริสกระซิบบอก ดุแต่ไม่โกรธ

เพื่องาน และเพื่อหน้าที่ที่อนรรฆมีต่อคอนโร โดยเฉพาะความไว้วางใจจากคริส ทำเขาต้องดูแลคนของเคเอ็มเอ็น…ทุกคนเต็มที่ ด้วยหน้าที่ ทั้งพาไปแนะนำ หรือแม้แต่นัดคุยนอกรอบกับฝั่งการเมืองของสหรัฐฯ

และอนรรฆต้องลดทิฐิคุยกับซินยอในฐานะ…เด็กกับผู้ใหญ่ ผู้ลงทุนและผู้มีเครือข่าย ให้ซินยอมีทีท่าห่างเหินต่างจากเดิม แต่อนรรฆจำต้องทำตัว...เหมือนเดิม

เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่คุยกับ นิหล่า มยิ่น ทเว ทั้งเพราะไม่มีความจำเป็น และล้วนซึ่งมีแต่ความจำใจ อนรรฆวุ่นอยู่กับงานจนไม่เข้าไปทักทายแม้เห็นว่าเธอจะยืนเพียงลำพังในงานเลี้ยงรับรองคืนนี้

เขากระดกดื่มแชมเปญในแก้วจนหมด แล้วจึงขอปลีกตัวจากกลุ่มสนทนา เดินไปหาบริกรเพื่อหยิบแชมเปญแก้วใหม่เท่านั้น แล้วกลับสมทบกับกลุ่มที่มีซีอีโอของคอนโรอยู่ด้วย

หน้าที่ของเขา บริการ…ให้ข้อมูล…พยักหน้าเห็นด้วย…คอยดูแลไม่ให้อะไรขาดตกบกพร่อง ไม่สนใจสายตาของ…ใครที่อาจมองมาทุกย่างก้าว

อนรรฆดูแลเอาใจใส่ทุกคน ยกเว้น นิหล่า มยิ่น ทเว

เพียงแต่ว่าในทุกขณะจิต มือของเขามักจะวางบนกระเป๋าสูทที่ข้างใน ซ่อนสร้อยพลอยไพลินน้ำเงินเม็ดงาม






กว่างานเลี้ยงจะเลิกและแขกสำคัญจะกลับก็เกือบห้าทุ่ม เมื่อนั้นอนรรฆจึงหลบมานั่งที่บาร์ของโรงแรม

หมดหน้าที่แล้วเรื่องงาน

หมดไปอีกวัน เพียงแต่ว่ายังไม่หมดเรื่องที่ต้องคิด

เขาสั่งวิสกี้ชั้นดี ทว่าในหัวมัวตริตรอง…หลายเรื่อง จะรู้ตัวก็เมื่อเห็นว่า ‘ใคร’ มานั่งบนเก้าอี้ข้างๆ

ความเงียบระหว่างชายหนุ่มทั้งสองเนิ่นนาน ราวหยั่งเชิง

“บุกมาถึงดีซี มันคุ้มกันเหรอ” คนถามจิบวิสกี้ในแก้ว

“คุ้ม”

“ก็น่าจะรู้นะว่าสัมปทานนี้คอนโรกับเคเอ็มเอ็นมีโอกาสได้สูง คุณกับชาปรูย์คงเสียเงินเสียเวลาเปล่า” นี่ไม่ใช่เป็นการเกทับ แต่เป็นความจริง

บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศสจึงเลือกที่จะไม่ลงทุนพาคณะกรรมาธิการของพม่าไปล็อบบี้ที่ปารีส เช่นที่คอนโรกำลังทำ

คอนโรทำเช่นนี้เพื่อป้องกันช่องโหว่ กันพลาด อีกทั้งยังสร้างความสัมพันธ์สำหรับการประมูลในครั้งต่อๆ ไป ดังนั้นการลงทุนพาคณะกรรมาธิการ และคนของเคเอ็มเอ็นไปที่ฮูสตันและมาที่ดีซี คอนโรจึงมีแต่ได้กับได้

ทั้งอนรรฆและคู่แข่งย่อมรู้ดี

“ดีลนี้ ผมพึ่งชาปรูย์แค่ให้พอเป็นพิธี ต่อไปก็แล้วแต่ดวง”

“คิดว่าคุณจะพยายามรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวเสียอีก อ้อ…ผมลืมไป พวกคุณมองแต่ผลประโยชน์และผลตอบแทนเป็นหลัก” ประโยคหลังไม่ใช่เป็นการแดกดัน หากเป็นความจริง

ในแวดวงธุรกิจมันก็ควรเป็นอย่างนั้น บางทีก็ต้องใส่หน้ากาก

ก็คงเหมือนที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ อนรรฆยิ้ม...จิบเหล้าในแก้ว...แล้วก็ยิ้ม เพียงแต่ว่ารอยยิ้มของเขาคลายหายทันทีเมื่อได้ยินที่ริชาร์ดบอก

“ชาปรูย์ไม่สำคัญ ลงทุนกับเคเอ็มเอ็นมันคุ้มกว่ากับชาปรูย์หรือใครอื่นมากนัก คุณก็รู้ ผมจึงกล้าลงทุนพานิหล่า มยิ่น ทเว ไปปารีสตั้งสี่วัน” ริชาร์ดปล่อยหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าของคู่แข่ง “คุณไม่รู้เรื่องเหรอ แย่จัง…มะนิหล่าตีตั๋วเที่ยวเดียวมากับคอนโร เดินทางมากับคุณ แต่ไม่ได้กลับพร้อมคุณ ถีบหัวคุณส่งแล้วไปกับผมกันสองคน นี่ผมคิดว่าทางเคเอ็มเอ็นบอกคุณแล้วเสียอีก เอ…ลูกน้องของคุณก็ไม่ได้บอกเหรอ”

“บอก...เพียงแต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นแค่นิหล่าคนเดียว”

อนรรฆกัดฟันโกหก สีหน้านิ่งกลบ ความโกรธ ซ่อนความผิดหวังไว้มิดชิด เก็บความรู้สึกทุกอย่างด้วยการเสจิบเหล้าในแก้ว

ขมขื่น...แสบคอ จะกลืนก็แสนยากเย็น

เรื่องนี้เขาไม่รู้มาก่อนเลย

“คุณคิดว่าจะมีใครล่ะ อูซินยอ อีกทั้งคนอื่นๆ ของเคเอ็มเอ็นก็กลับพร้อมพวกคุณ” ริชาร์ดจิบเหล้าของเขาบ้าง “ผมกับมะนิหล่าสนิทกัน คบหากัน ไปปารีสก็ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ก็สนิทกันขนาดที่อูซินยอถึงกับยอมให้มะนิหล่าไปกับผม”

“ถ้าเรื่องส่วนตัว ซินยอคงขัดไม่ได้มั้ง” น้ำเสียงมีแววไม่แน่ใจ

ซินยอ…กับนิหล่า เจ้านายและลูกน้องที่มีความสัมพันธ์กัน

“ก็ไม่ขัดน่ะซิ ได้ว่าที่ลูกเขยอย่างผมใครจะขัดข้องจริงไหม”

“ลูกเขย?” คนถามตกใจ ไม่คาดคิด

“อ้าว…อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้” ริชาร์ดหัวเราะเย้ยหยัน น้ำเสียงหยาม “โธ่! คอนโรทำงานประสาอะไร ไม่รู้เรื่ องสักอย่าง ผมหลงคิดว่าพวกคุณฉลาดพอที่จะรู้แล้วเสียอีก เอ…มะนิหล่าไม่ได้บอกคุณเหรอ คงไม่ไว้ใจมั้ง ครอบครัวนี้มหาเศรษฐีเชียวนะ และในสังคมพม่า คิดดูซิ คนระดับนี้จะมีกี่คนเชียว แต่ถ้าผมเป็นมะนิหล่า ผมก็ไม่บอกหรอก สังคมไทยน่ะมีผู้ดีหนี้เยอะมากจนล้น เรื่องอะไรจะไว้ใจง่ายๆ”

ดวงหน้าของหนุ่มสิงคโปร์ยังไม่คลายยิ้ม แววตาของเขาบ่งบอก…ชอบใจ

สงคราม…บางที ไม่ต้องห้ำหั่นให้เลือดตกยางออก แค่น้ำลาย…แค่คำพูดก็ฆ่าคนมานักต่อนักแล้ว

โดยเฉพาะคนอย่างอนรรฆ…ผู้ดี สุภาพ เล่นตามกฎกติกา คนที่มีพร้อม มั่นใจ ด้วยมาด และด้วยฐานะสังคม

คนแบบนี้ เมื่อถูกหยาม…จะทนได้แค่ไหนเชียว

“มะนิหล่าอยู่เมืองไทยมานาน รู้ธาตุแท้ของสังคมพวกคุณ หน้าตา ฐานะ เงิน…มาก่อนอื่นใดเสมอ ว่าไหมคุณอนรรฆ”

ริชาร์ดยิ้มมุมปาก มองดูอีกฝ่ายที่นิ่งเฉยเย็นเยือก

‘นนท์ใจเย็น เก็บความรู้สึกเก่ง ไม่ค่อยโกรธ คุณทำอะไรเขาไม่ได้หรอกริชาร์ด’ พรพิมลเคยเตือน แล้วต่อด้วย ‘อีกอย่างเขาดูน่าเชื่อถือมากกว่าคุณ’

‘ผมไม่ต้องการให้ใครอื่นเชื่อผม แค่ให้มันเชื่อผมคนเดียวก็พอ แล้ววิ่งกลับไปหาคุณ คุณเตรียมเงินไว้ให้ผมเถอะ ไปปารีสทีไม่ใช่ถูกๆ’

การพานิหล่าไปปารีส…เพราะอ้างเหตุผลของงาน เพียงแต่ว่าคนที่บริษัทน้ำมันฝรั่งเศสไม่รู้เรื่องและไม่สนับสนุน

เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องเป็นพรพิมลที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่

เพื่อให้แผนของ เรา สำเร็จลุล่วง เท่าไรพรพิมลก็ยอมจ่าย

แผนครั้งนี้มีแต่ได้กับได้เท่านั้น






การเคาะประตูห้องทำงานภายในบ้านหลังใหญ่สไตล์วิคตอเรียในเมืองย่างกุ้งนั้นเบาด้วยความเกรงใจ

มีไม่กี่คนในโลกที่อองเมียทตูจะให้ความเกรงใจเคารพเช่นนี้ คงเช่นว่า มีไม่กี่คนในโลกที่อองเมียทตูจะให้ความรักมากมายเช่นที่ให้ นิหล่า มยิ่น ทเว

เขารอสาวใช้คนสนิทของ…ท่านเปิดประตูออก แล้วจึงก้าวเข้าไปในห้องที่เย็นเฉียบ ฉ่ำด้วยไอจากเครื่องปรับอากาศ ชายหนุ่มโค้งลงให้ความเคารพต่อสุภาพสตรีที่นั่งอยู่บนโซฟาหนาแสนสบาย ร่างบางของหญิงชราวัยเกือบแปดสิบปี ดูเปราะบางยิ่งในชุดลองยีสีอ่อน

เพียงแต่ว่าอองเมียทตูรู้เช่น ว่า ‘ท่าน’ ไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างที่ ‘ภาพ’ ภายนอกแสดงให้เห็น

ท่าน…แกร่งราวหินกล้า ไม่เช่นนั้นคงไม่ผ่านร้อนหนาว ผ่านระบบปิดกั้นในสังคมพม่า และยืนหยัดด้วยอิทธิพลได้ถึงทุกวันนี้

ท่าน…เล่นเกมส์เป็น คบค้าสมาคม สร้างเครือข่าย พอที่จะทำให้ทหารเกรง รัฐบาลเคารพ ฝ่ายค้านยอมรับ

ท่าน…รู้จักใช้คน และเลือกใช้คน

และ...คนของท่านก็ช่วยสร้างสมบารมี จนน้อยคนนักในเมียนมาร์จะทาบติด

อองเมียทตูทั้งเคารพ อีกทั้งเกรงและกลัว...ท่าน เหมือนเช่นคนอื่นๆ

“ซินยอเพิ่งโทรฯ มารายงาน” เสียงของหญิงชรากล่าวเรียบๆ “ทางโน้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คนไทยนั่นไม่มีท่าทีอะไรพิเศษ เขาก็ทำงานกันไปตามหน้าที่ บาเต็งอาจจะจำคนผิดก็ได้”

“แต่บาเต่งไม่เคยจำอะไรผิด” นานๆ ทีที่อองเมียทตูจะกล้าเห็นต่าง

“คนเราแก่แล้ว จะให้จำแม่นเหมือนหนุ่มๆ ก็คงไม่ได้ เธอเลิกคิดที่จะบินตามไปได้แล้ว อยู่ทางนี้ จัดการเร่งเรื่องประมูล ฉันอยากให้จบเร็วๆ ปิดไปซะ จะได้ไม่ต้องห่วง”

ใครที่ได้สัมปทานใหญ่นี่มาอยู่ในมือ ก็หมดเรื่องต้องห่วงไปนาน เงินมหาศาล รายได้ที่มั่นคง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ได้มาง่ายๆ

“การประมูลคราวนี้เราคงไม่พลาด เพราะทางคณะกรรมาธิการก็เอียงมาทางเรามาก ยิ่งตอนนี้ได้ไปเจอทางคอนโร และทางรัฐบาลอเมริกา ถ้าเงินประมูลสูสี เราได้แน่นอน”

“เงินไม่ใช่ปัญหา คอนโรเขาทุ่มอยู่แล้ว”

สำหรับ...ท่าน

คอนโรเป็นผู้ทุ่มเงิน ไม่ใช่เคเอ็มเอ็น การ ‘ลงทุน’ ครั้งนี้เคเอ็มเอ็นไม่ต้องเสียอะไรเลย มีแต่ได้กับได้

ฮันมิน ขิ่นจีย์ ไม่ได้สานต่อและขยายธุรกิจของสามีด้วยโชคหรือเครือข่ายเท่านั้น หากยังอาศัยกลความคิด พินิจพิจารณาทุกเรื่องอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือเรื่องครอบครัว

“เห็นว่านิหล่าสนิทกับคนสิงคโปร์นั่น เธอคิดอย่างไงเรื่องนี้ ไม่ใช่คนไทย ก็เป็นคนสิงคโปร์” เพียงแต่ว่า…ท่าน ไม่ได้ย้ำหรอกว่า…ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เธอ

เคเอ็มเอ็นยังต้องอาศัยอองเมียทตู

ท่านลงทุนในอองเมียทตูมามาก…มานาน ถึงขนาดส่งไปเรียนที่สิงคโปร์

“นิหล่าดื้อ ไม่มีใครบังคับได้” นี่คือความจริงที่ทุกคนยอมรับ เพราะหลายที ท่าน…ยังบังคับไม่ได้ “แต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็ยอมรับได้เสมอ”

“ซินยอบอกว่าลูกสาวเขาจะบินไปปารีสกับคนสิงคโปร์นั่น”

“ทำไม!” การร้องเสียงหลงเป็นของคนที่ตกใจโดยแท้ “มีอะไรต้องไป”

“เขาว่าเรื่องงาน ทางฝรั่งเศสคงเห็นว่าคอนโรพาทางเราไปอเมริกาได้ เขาก็คงอยากล็อบบี้”

“ไปเมื่อไหร่ครับ”

“อีกสองวัน บินตรงจากดีซี”

“แต่ซินยอต้องกลับมาย่างกุ้ง เพราะเรื่องเหมือง” อองเมียทตูรู้ดี การเดินทางของว่าที่พ่อตาไม่เป็นความรับ พอๆ กับที่รู้ว่า ธุรกิจพลังงานไม่ใช่เป็นธุรกิจเดียวที่ครอบครัวนี้มีผลประโยชน์

ธุรกิจมากมายที่สร้างจากเหมืองพลอย ต่อยอดมาเรื่อยๆ ในประเทศที่เพิ่งเปิดช่างหอมหวนยวนใจสำหรับหลายคนที่อยากเกี่ยวดองด้วย เพียงแต่ว่าอองเมียทตูไม่เคยคิดเช่นนั้น

ใจ…สำคัญกว่า

“แม่คนใจกล้าจะไปเพียงลำพัง” ท่านเปรยด้วยแววเสียงไม่เห็นด้วยนัก

“ไม่ได้นะครับ อูซินยอปล่อยให้ไปได้อย่างไรกัน นิหล่าไม่เคยไปยุโรป…”

“จะไปทำอะไรได้ ก็เหมือนที่ไม่เคยไปสิงคโปร์นั่นแหละ” คำพูดเรียบๆ ขัดขึ้นพอเป็นพิธี “นิหล่าคงคิดว่าง่าย ปลอดภัย”

“แต่ริชาร์ดเป็นคนอย่างไร ท่านและอูซินยอน่าจะทราบ”

คำท้วงของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้สีหน้าของหญิงชราเปลี่ยนไป อองเมียทตูรู้ว่า…ท่านทราบ ไม่เช่นนั้นบริษัทฝรั่งเศสนั่นคงได้รับเกียรติเข้าร่วมทุนกับเคเอ็มเอ็นแล้ว

‘คนคด ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนก็คด ไว้ใจไม่ได้ คนคดสอนลำบาก คนอวดฉลาดสอนไม่ได้ ยิ่งทั้งคดทั้งอวดฉลาดด้วยแล้ว รังแต่จะทำให้เสียกับเสีย ไม่ควรเก็บเอาไว้’

ท่าน…มักสอนลูกหลานในหลายสิ่ง และสอนเขาเองด้วยเช่นกัน

“หลานฉันคนนี้เป็นอย่างไร เธอก็น่าจะรู้”

“นิหล่าชอบคนสิงคโปร์นั่นจริงๆ หรือ” เป็นคำถามที่เขาไม่ควรถาม…ท่าน แต่ในเมื่อตอนนี้ชายหนุ่มไม่มั่นใจเอาเสียเลย

มีแต่…ท่านเท่านั้นที่ยังคงพอ…บังคับนิหล่าได้

ให้ท่านเสียงแข็งเอาจริง หลายทีนิหล่า มยิ่น ทเว ก็ไม่กล้า ‘หือ’

“ซินยอเป็นห่วงลูกสาวของเขา นี่ให้บาเต่งตามไปคอยดูแลตั้งแต่ที่ดีซี แต่ถ้าสองคนนั่นเขารัก เขาชอบกันจริงๆ เธอล่ะ จะทำเช่นไร สามปีก่อน ถ้าเธอไม่ทะเละกับหลานของฉัน ไม่ต้องให้นิหล่าดั้นด้นตามไปหา ไม่แน่ ตอนนี้นิหล่าอาจรู้จักที่จะรักเธอก็ได้”

นิหล่า…ไม่เคยรู้รักอองเมียทตู เกินกว่า…เพื่อน โดยเฉพาะเมื่อเธอรู้แล้วที่จะรักผู้ชายคนอื่น

และลองท่านเอ่ยมาแบบนี้อองเมียทตูพอเดาได้

ท่าน…ไม่วายให้ท้ายหลานย่าผู้เป็นสุดที่รักตามเคย





(ต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่