^ขอระบายหน่อยค่ะ รู้สึกแย่กับผู้จัดการบริษัทเก่ามากๆ^

^ขอระบายหน่อยค่ะ รู้สึกแย่กับผู้จัดการบริษัทเก่ามากๆ^

เมื่อ มิ.ย. 55 (ปีที่แล้ว) เริ่มงานกับบริษัทญี่ปุ่น บ.หนึ่งย่านสีลม ด้วยตำแหน่งพนักงานบัญชี โดนหวังว่าออกจากบริษัทใหญ่ที่มั่นคงมาทำงานในบริษัทที่มีสาขาในไทย ขนาดพนักงานไม่เกิน 15 คน (ทั้งบริษัท) เพื่อหวังหาประสบการณ์การทำงาน และเผื่อได้ภาษาด้วย เพราะต้องร่วมงานกับญี่ปุ่น โดยได้รับการแนะนำมาจากพี่ท่านหนึ่งในบริษัทฯของแฟน

ตอนแรกพี่เค้าก็พูดๆ โปรยๆ กับแฟนว่าอยากได้คนทำบัญชี ก็ว่าจะลองถามๆ เพื่อนให้ แต่ด้วยความที่เห็นว่าอยู่สีลมใจการเมือง เดินทางสะดวกเลยลองสมัครเองก่อน และได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น บวกกับอาจจะได้ฝึกและเรียนภาษาภาคบังคับ เลยตัดสินใจง่ายงาน เพื่อมาหาประสบการณ์

ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน บอกตามตรงว่า... ไม่รู้จ้างพนักงานบัญชีคนนี้มาทำไม เพราะว่า...มีสำนักงานบัญชีที่คอยทำภาษี และปิดงบให้แต่ละเดือน ส่วนเอกสารเกี่ยวกับการเงินบัญชี "พนักงานการเงิน" อีกคนก็ทำหมดเลย กลายเป็นว่าหนูทำงานแบบไม่มีงานอะไรเลย ถ้านับเป็นงานที่ได้ทำจริงๆ ก็คง "ตรวจภาษี เพื่อรอยอดจากสนง.บัญชีส่งมาว่าตรงกันไหม" แค่นั้น

ก็พยายามคิดในแง่ดีกว่า ตะก่อนทำงานมาหนักมาก เลิกดึก เครียม มาทำที่นี้ดีจัง ไม่มีงานให้ทำ งานของการเงินเราไม่ค่อยถนัดด้วย แถมมีคนทำอยู่แล้ว เค้าก็พอใจที่อยากจะทำทุกอย่างหมด กลายเป็นว่างจัด โดยส่วนตัวติดทั้งเกม ทั้งเฟส ทั้งแชด ก็เลยจัดเต็ม วันๆ โพสแต่เฟสบุ๊ค แชร์หาบ้านหมาแมวกันเข้าไป (คือปกติจะอยู่ห้องแมวค่ะ) กิจกรรมนู้นนี้นั้นตามที่ใจชอบก็แชร์กันเข้าไป แล้วก็แชดกับแฟนว่าวันๆ เจอะไรบ้าง แฟนก็จะรับรู้ตลอด คิดในแง่ดีกันตลอดว่าโชคดีจัง มาทำงานสบายๆ

แต่...คนเคยทำงาน ไม่มีไรให้ทำ มันก็เบื่อเนอะ ก็เลยไปหางบที่เค้าทำดิ๊บๆ มากระทบยอด แล้วก็แก้ๆ ปรับๆ ให้มันสมควรกับสิ่งที่สมควรตามจรรยาบรรณที่เรียนมาซะหน่อย อะไรที่พอยอมได้ก็ต้องยอม ก็เค้าทำมาก่อนนิ ถึงในใจจะรับไม่ได้ก็ต้องยอม ก็เราเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วก็คิดในแง่ดีกว่า มันก็ต้องมีตุกติกกันบ้างล่ะ จะมาสวยงามแบบที่ทำสนง.บัญชี รักษาจรรยาบรรณ์แบบที่เคยทำก็คงไม่ได้ ^^" เคยแต่มองโลกในแง่ดี แต่สังคมก็ต้องมีการปรับตัว อะไรตาบอดได้ก็ต้องทำ T_T"

ตลอดระยะเวลาการทำงานมา 6 เดือน เจอผลประเมินการทำงานไป 57/200 (28.5/100) ทำเอาช็อกเลยค่ะ พูดไม่ออก


ก็เลยมานั่งพิจารณาตัวเองว่า เราเหมาะกับที่นี้จริงๆ เหรอ???
มีประสบการณ์ทำงานมาเกือบ 5 ปี คะแนนที่แย่สุดก็ 73 ก็ถือว่าเลวร้ายสำหรับเราแล้ว แต่จะว่าไปมาทำงานที่นี้เค้าจ้างเรามาเยอะนะ 2 หมื่นกว่า กับการมานั่งเฉยๆ ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย ตลอดเวลาไม่เคยคิดอะไรนะ จน ณ วันที่ลาออก ผลต่างๆ หลังจากลาออก ทำให้เริ่มคิดว่า "จ้างเรามาเพื่ออะไรกันแน่?" T_T"

เหตุผลในการลาออกเหรอ ก็แน่นอน "ไม่เหมาะสมกับงาน ทำงานไม่มีอะไรดีขึ้นเลย" อันนี้พูดให้ดูดี "ไหนจะมาทำงานสาย ลาบ่อย ป่วยบ่อย" อันนี้ก็ความจริง ^^" อะไรที่เป็นข้อเสียเราก็เอามาบอกในการลาออกหมด แล้วก็บอกตรงๆ ว่ารับไม่ได้กับผลการประเมินด้วย เพราะเราไม่ดีเอง แต่ผจก.ดันบอกว่า ก็เห็นมันดีขึ้นนิส "เอ๊ะ!!! งงสิค่ะ ^^" งงมาด้วย เพราะไปบ่นกับใครต่อใครว่าเราแทบไม่ได้ทำงาน" ก็เราไม่ได้ทำงานอ่ะ นั่งกระทบยอดเดือนเก่าๆ มันต้องหาสิ่งที่ผิด ดูก็ดูรู้เรื่องคนเดียว เฮ้อ... มันน่าเบื่อนะ  

ก่อนหน้าจะลาออกมันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกตัวว่า ผู้จัดการไม่ชอบเรา ไม่ว่าจะทำจะพูดอะไร ก็ต้องมีการโต้เถียงกันตลอด แรกๆ ก็ไม่เท่าไร หลังๆ ก็ต้องเถียงบ้าง อธิบายบ้าง จากที่เคยคิดไว้ในหัวสมองจะมาหาประสบการณ์หวังให้เค้าสอน แต่กลับกลายเป็นว่า เค้าพยายามถามเราในสิ่งที่เราไม่รู้ เช่น ภาษาบ้าง นำเขา ขนส่งบ้าง ก็บอกตรงๆ แต่แรกว่าโง่ภาษามาก ที่มาเพราะอยากเป็น แต่กลายเป็นว่า เรามาโชว์โง่ฟรีๆ ให้โดนหลอดด่าฟรีๆ ดูถูกเราฟรีๆ แต่ไม่เป็นไร คิดว่าเค้าจะสอนเรา แต่เปล่าง่ะ T_T" ฟรีไป โง่เพิ่มขึ้นโดนดูถูกเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำอะไรก็ผิดไปหมดล่ะคราวนี้ ไม่อธิบายต่อ เอาเป็นว่าทำตาบอดทำงานไปงั้นๆ

เรื่องของเรื่อง...ได้ยินมาว่าที่นี้การลาออกไม่ค่อยดีกันเท่าไร เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีปัญหากัน เลยยื่นใบลาออกให้มีผลหลังจากวันหยุดยาว คือช่วงปีใหม่ และวันที่ยื่นเป็นวันสุดท้ายของปี เงินเดือนออก โบนัสออก พอยื่นไปปั๊บ ก็เจอผู้จัดการ "ทวงโบนัสคืน บอกว่าเป็นโบนัสอนาคต" ตกใจมากเลยแม่เจ้า แต่ด้วยไม่อยากมีปัญหา (รู้นะ โบนัสอนาคตไม่มีหรอก แต่เค้าจะทวงคืน ไอ้เราก็ไม่อยากเปิดมาทำงานต่อให้อีก 1 เดือน เพราะไม่รู้จะมาเจออะไรอีก ก็เลยตัดสินใจโอนคืนให้ทั้งหมดของโบนัส ถือว่าซื้ออิสสระให้ตัวเองแล้วก็รีบเก็บของออกจากที่ทำงานเลย เนื่องจากตอนยื่นเป็นช่วงก่อนเที่ยง พอพักเที่ยงผจก.ก็ออกไปข้างนอก ก็เลยรีบหนี้เลยค่ะ อารมณ์ตอนนั้นกลัวมาก เหมือนหนี้ฆาตกรใจร้าย ผู้ชายอะไร มีการศึกษาถือญี่ปุ่น เป็นคนไทยแท้ๆ แต่ทำแบบนี้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ T_T")

หลังจากหนี้มาจากบริษัทได้แล้วก็รีบไปหาแฟน ตลอดเวลาแฟนรับรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะว่าอยู่ด้วยกัน และมารับกลับบ้านเสมอ คุยกันตลอดเรื่องสิ่งที่เจอ แฟนเองรู้สึกผิดมากที่แนะนำงานนี้ให้ T_T" แต่ก็ถือเป็นบทเรียนที่ต้องมาเจอบริษัท ผจก. และผู้ร่วมงาน แบบนี้ แต่มันไม่จบแค่นั้นค่ะ ผจก.ส่งข้อความมาใน Line ประมาณว่า "จะฟ้อง เอาทรัพย์สินบริษัทไป" ไอ้เราก็งง เอาไรไปเหรอ??? "โบนัสก็คือแล้ว" เออ..มีเสื้อโปโล 3 ตัว กับกุนแจ ก็บอกว่าจะเอาไปคืนให้ ช่วงปิดปีใหม่ แทนที่จะได้พักผ่อน ผจก.ก็ส่งข้อความมาว่า จะให้ทนายโทรมา ไอ้เราก็หาทนายไว้รอ แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับ แต่เค้าก็ส่งมาประมาณขู่อีก ก็เลยตัดสินใจลบเบอร์ กีดกัน และลบออกจาก Line

แต่มันไม่จบแค่นั้น ปกติเราชอบแชร์หาบ้านหมาแมว และคำคมในเฟสอยู่แล้ว ระยะเวลาตกงานเราก็เลยเล่นทามไลน์ใน Line หน้ากลาง ก็ทำปกติแบบที่เล่นเฟส แต่ผจก.ไม่รู้เกิดร้อนตัวอะไรขึ้นมา ก็มาโพสทามไลน์ด่าเราแบบเจาะจง หาว่าสร้างภาพบ้าง เป็นพนักงานยอดแย่ต่างๆ ตามเหตุผลที่เราลาออก แล้วก็มีใส่ความเพิ่มไปอีก ^^" ทำให้รู้สึกแย่นะ แต่ก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ผู้ชายเค้าทำแบบนี้กันเหรอ มาว่าเรื่องเราเป็นเพศ "ดี้" บ้าง ชอบผู้หญิงเหมือนกัน (คือหนูเป็นดี้ค่ะ มีแฟนเป็นทอม) จากที่หนูด่าคนไม่เป็นก็เริ่มด่าเป็นและแรงขึ้น แต่ก็ด่าอยู่คนเดียว จนพี่ๆ ในเฟสหลายคนก็ตกใจ ^^" หนูเองยังตกใจเลย!!!

ก็โพสต่อสู้กันด่ากันไปมาอยู่ในทามไลน์กันเอง แต่ต่างคนก็ต่างเห็นกัน มีความรู้สึกว่าเหมือนเค้าจะคอยดูอยู่ตลอด ตั้งแต่ตอนทำงาน เพราะเค้าโพสด่าหนูก็มีถึงตอนเข้าห้องน้ำ จะขี้จะเยี่ยว อะไรแบบนี้ด้วย ไอ้เราก็งง สังเกตุเรามากกว่าที่แฟนจะสนใจเราอีก T_T" ถ้าหนูสวยจะคิดเข้าข้างตัวเองเลยนะว่า "คิดไรกับเราป่าว" แต่ความจริง หนูเป็นผู้หญิงขี้เหร่ เตี้ย อ้วน นมเล็ก สิวเยอะ รวๆม แล้ว "อุบาด" ก็เลยไม่ได้คิดแบบนั้น

จนทุกวันนี้ ผ่านมาแล้ว 4 เดือน ช่วงเดือนแรกๆ ก็โพสกันบ่อย หลังๆ ก็เบาลง เงียบไปก็หลายรอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าผจก.แกเกิดไปเจอไร อยู่ๆ วันดีคืนดีก็มาโพสว่ากันอีก เรื่องเก่าๆ เดิมๆ วนๆ อยู่อย่างนี่ล่ะ แรกๆ หนูก็โพสแบบว่าแดกสุภาพๆ หลังๆ ไม่ไหว เริ่มมีคำหยาบ ก็ขอหยาบบ้าง จนล่าสุดไม่ไหว ต้องใช้คำว่า "ยิ้ม" กับผู้ชายคนนี้เลย เพราะสิ่งที่เค้าทำ เหมือนสิ่งที่ผู้หญิง หรือ ชะนีอย่างหนูทำ ก็คือโพสด่าผู้หญิง ^^"

วันนี้เอาอีกล่ะ ไม่รู้ว่าพี่ท่านไปเจออะไรมา หนูก็เลยจัดอย่างหยาบคายให้อีก วันนี้พี่แกเลยโพสเยอะ บอกตรงๆ หนูเซงมากเลยค่ะ กับผจก.ผู้ชายคนนี้ จริงๆ มันควรจะจบไปนานแล้ว แต่ไม่รู้ไปกิน หรือไปโดน ไปเจออะไรมาอีก ทั้งๆ ที่รอบนี้ที่หายไปก็ทิ้งช่วงกันนาน หนูก็ไม่สบาย ไม่ได้โพสอะไรก็เกือบเดือนแล้วแท้ๆ ต้องมากลายเป็นผู้หญิงรองรับอารมณ์ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าทำบาปกรรมไรไว้ ถึงได้ซวยขนาดนี้ที่ต้องมาเจอคนแบบนี้

บริษัทนี้ก็แปลก หนูทำงานมา 7 เดือน คนก็ลาออก 3-4 คนล่ะ หนูก็ไม่อยากเสียเวลาไปนานเป็นปี เพราะเราอยู่แล้วไม่สบายใจ ยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกโง่ เวลาเค้าคุยกันเรื่องอะไรหนูก็คนละแนว เพราะหนูชอบแต่หมาแมว ออกกิจกรรมท่องเที่ยว อาสา งานฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่เค้าก็คุยกันเรื่องคนมีตัง ซึ่งบ้านหนูจนอ่ะ ไม่มีอะไรไปคุยได้ แล้วหนูเป็นดี้ จะให้คุยเรื่องผู้หญิงชาย เรื่องใต้สะดืด หนูก็ไม่ชอบ ^^" อาจจะเพราะเหตุนี้ด้วยรึป่าว ที่ทำให้เค้าไม่ชอบหนู T_T"

ที่ระบายมาทั้งหมด หนูก็ทั้งเบื่อ และเซง กับผู้ชายคนนี้ (ผจก.) จริงๆ มีอีกหลายเรื่องที่หนูเพิ่งรู้ตอนลาออก ว่าเค้าทำอะไรไว้กับคนอื่นด้วย ซึ่งหนูไม่ใช่คนแรกหรือคนเดียวที่ถูกละลานหลังจากการลาออก แต่หนูก็ลองไม่ตอบโต้อยู่เฉยๆ แล้วนะ จนสุดท้ายเราก็ไม่ใช่นางเอก กระแสมาแรงมาเราก็ต้องแรงตอบ เราก็อายุยังน้อย ไม่มีหน้าตาอะไรให้รักษา ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ บ้านก็จน มันก็ไม่มีหน้าตาในสังคมอยู่แล้ว ก็เลยฝึกด่าจากคนๆนี้จนทุกวันนี้ใครๆ ก็ว่าหนูแรง T_T" มันไม่ได้น่าดีใจนะค่ะ หนูเองก็รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเอง ห่ะห่ะ

ไม่รู้จะทำไงให้คนแบบนี้ออกไปจากชีวิต ขนาดเงียบไปเป็นเดือน ยังวนมาอีก เฮ้อ...

ปล. ขอบคุณค่ะที่อ่าน ถ้ามีอะไรอยากแนะนำ รบกวนด้วยนะค่ะ  

ปล. เหมือนฟ้าหลังฝน จากการตกงาน หนูก็ลองสมัครงานและสอบได้เป็นลูกจ้างอยู่ในหน่วยงานของรัฐ สังคมราชการกับสังคมบริษัทเอกชนมันชั่งต่างกันจริงๆ ค่ะ ตอนนี้หนูนับว่าโชคดี เพราะได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดี ผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ ถึงจะไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ แต่ผู้ใหญ่ทุกคนก็สนับสนุนให้สอบข้าราชการ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่เจอหลังสิ่งแย่ๆ ที่ผ่านมาค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่